ความคิดเห็นที่ 18
อธิบายเพิ่มเติมนะคะ คือดีท็อกเนี่ยถ้าใครกลัวจิงๆๆในการทำเองที่บ้าน ก้อแนะนำให้ลองไปทำที่ศูนย์ตามโรงพยาบาลดังๆต่างๆนะคะ เค้าจะมีบริการให้อ่ะคะ เช่น รพ.ยันฮีเนี่ย(เอ่ยชื่อยกตัวอย่างได้อ่ะป่าวอ่ะคะ) เค้าสวนล้างพิษแบบกาแฟเนี่ย 400 บาทต่อครั้ง(จำราคาไม่ได้นะคะ) ส่วนการสวนล้างพิษด้วยด้วยน้ำเกลือของรพ.นี้ก้อ 800 บาทอ่ะคะ
คือการดีท็อกเนี่ยสามารถทำเองได้ที่บ้านอ่ะคะ ค่าใช้จ่ายในการทำอย่างต่อเนี่องทำเองจะค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามากๆคะ แต่ก้อต้องรักษาความสะอาดนะคะ
การดีท็อกเนี่ยมีวิธีหลายทางอ่ะคะ ซึ่งจากคุณ you do not know me ถามมาว่า ไม่ทำdetoxได้เปล่า น่ากลัวจัง ทานอาหารตามอย่างเดียวได้ไหม
ตอบนะคะ ไม่ทำดีท็อกซ์ได้คะ แต่ทานตามนี้ไม่ได้อ่ะคะ เพราะการสวนกาแฟจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ เนื่องจากช่วยกระตุ้นตับในการใช้เอนไซม์ขจัดอนุมูลอิสระ แต่คุณยังสามารถดีท็อกด้วยวิธีการอดนะคะ อธิบาย..ถ้าไม่ทำสวนล้างพิษด้วยกาแฟแล้วก้อสมารถดีท็อกซ์ด้วยการอดอาหารตามหลักที่ถูกต้องได้คะซึ่งการอดอาหารนี้เป็นการอดเพื่อสุขภาพเป็นวิธีหนึ่งในการขจัดของเสีย หรือล้างพิษ สามารถปฏิบัติได้ง่ายและสะดวกสบาย สามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองที่บ้าน ในปัจจุบันทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพได้ค้นพบอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุหลักของความเจ็บป่วยมากมาย การอดเพื่อสุขภาพนับเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการขจัดอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะขอกล่าวถึง...การอดเพื่อสุขภาพ นะคะ
ในการอดอาหารเพื่อล้างพิษนั้น จะต้องอดอาหารจำพวกโปรตีน , ไขมัน , และ คาร์โบไฮเดรต ทั้งข้าวและขนมปัง กินได้แต่เพียงผักและผลไม้ตามแต่ละจำนวนที่กำหนดให้ในแต่ละหลักสูตรการอดเพื่อสุขภาพมีหลายหลักสูตร ที่นิยมปฏิบัติกันได้แก่
1.การล้างพิษ 10 วัน เป็นการอดด้วยผลไม้และผักสด เกิดผลในการรักษาโรคบางอย่างให้เห็นผลภายใน 10 วัน
2.การล้างพิษ 5 วัน เป็นการอดด้วยผลไม้และน้ำผลไม้ เป็นการย่นย่อหลักสูตร 10 วัน ใช้ได้กับผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพมากนัก เช่น ต้องการลดความเครียด หลบจากความเร่งรัดในการงานมาพักผ่อนและเพิ่มพูนความรู้เรื่องสุขภาพไปด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักที่ไม่มากนัก
3.การล้างพิษ 1 วัน เป็นการทยอยล้างพิษทีละน้อย ค่อย ๆ ปฏิบัติ การเลือกระดับของการอดเพื่อสุขภาพนั้น ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละบุคคล สามารถหัดปฏิบัติด้วยตัวเอง ได้ดังนี้ ขออธิบายนะคะ
การล้างพิษ 1 วัน
ระดับ 1 การกินผลไม้ชนิดเดียวตลอดวัน ระดับ 2 การอดด้วยน้ำผลไม้ ระดับ 3 การอดด้วยน้ำเปล่า ระดับ 4 การอดแห้ง
ขั้นแรกของการอดเพื่อสุขภาพ : เตรียมอด
เลือกวันที่จะทำการอดอาหาร ควรจะเป็นวันขึ้นหรือแรม 11 ค่ำ แต่ถ้าไม่สะดวกจะเลือกตามสะดวก เช่น วันหยุดก็ได้
ในตอนเช้าของวัน ให้เตรียมอดโดย ดื่มน้ำส้มและกินผลไม้เป็นอาหารเช้า
ขั้นที่สองในการอดอาหาร : วันอด
หลังจากอาหารเช้าที่เตรียมอดแล้ว ก็จำกัดอาหารตามแต่ละระดับของการอดอาหารที่กำหนดไว้ ในช่วงระหว่างวันควรจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ และการสวนกาแฟเสริมด้วย กิจกรรมอย่าง เช่น เลือกกิจกรรมที่ช่วยในการพักผ่อนร่างกายและจิตใจ เช่น อ่านหนังสือที่ชอบ, การวาดรูป, การฝีมือ, การฟังเพลง, การทำสมาธิ, กิจกรรมออกกำลังกายบางอย่าง เช่น โยคะ , ชี่กง , ไท้เก็ก ก็สามารถทำเพื่อเสริมการล้างพิษด้วย การออกกำลังกายเหล่านี้จะเน้นการทำสมาธิกับลมหายใจ ช่วยขจัดสารพิษออกทางลมหายใจ และทำให้จิตใจสงบ ลดอาการอ่อนเพลียอีกด้วย ส่วนซาวน่าและ การอบสมุนไพรอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยขจัดสารพิษออกทางเหงื่อ
การสวนกาแฟนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษ เนื่องจากช่วยกระตุ้นตับในการใช้เอนไซม์ขจัดอนุมูลอิสระ
ขั้นตอนที่ 3 : วันเลิกอด ในวันต่อมา ดื่มน้ำผสมน้ำมะนาว ในตอนเช้า
วิธีผสมน้ำมะนาวมีสูตรดังนี้ คือ ใช้น้ำ 2 ขวด ขวดละ 800 cc. บีบมะนาวขวดละ 2 ลูก ใส่เกลือทะเล ขวดละ 1 ช้อนชาครึ่ง ผสมแล้วดื่มให้หมดในตอนเช้า วันนั้น จะทำให้เกิดการถ่ายอุจจาระ
ควรอดบ่อยเพียงใด???
สำหรับคนที่มีสุขภาพดีควรทำทุก 2 สัปดาห์ อาจเป็นทุกขึ้น 11 ค่ำและ แรม 11 ค่ำ หรือทุกวันเสาร์ เว้นเสาร์ และผู้มีปัญหาสุขภาพ เช่น อ้วน ไขมันสูง ภูมิแพ้ ตลอดทุก 1 สัปดาห์
วิธีการปฏิบัติ
เมื่อเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติทั้งหมดแล้ว ก็สามารถลงมือกระทำได้ด้วยตนเองเลย โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในหนังสือแนะนำหรือหาอ่านรายละเอียดได้ตามเวบต่างๆ หรือหากยังคงไม่มั่นใจที่จะปฏิบัติด้วยตนเองก็สามารถเข้าร่วมคอร์สที่ศูนย์ธรรมชาติบำบัดต่างๆได้จัดขึ้นนะคะ แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงหน่อย เหอๆ
โรคที่สามารถใช้การอดเพื่อสุขภาพในการรักษา
การอดอาหารเป็นขั้นตอนในการพักฟื้นและฟื้นฟูสุขภาพ มีประสิทธิภาพในการดูแลและบำบัดโรคต่อไปนี้ โรคอ้วน, ไขมันในเลือดสูง, รูมาตอยด์, SLE, ไมเกรน, เครียด, โรคนอนไม่หลับ, ภูมิแพ้, หอบหืด, ท้องผูก, โรคอาหารไม่ย่อย, โรคลำไส้ระคายเคือง ฯลฯ
อาการบางอย่างที่ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นโรคได้ ก็สามารถใช้การอดอาหารในการบรรเทาอาการของโรค คือ ปากเหม็น, อาการปวดกล้ามเนื้อ, อาการปวดข้อ, ปากเหม็น, กลิ่นตัวแรง, ท้องอืดเฟ้อ, ผิวพรรณหม่นหมอง ฯลฯ
***ข้อห้าม***
ข้อห้ามสำหรับการอดเพื่อสุขภาพ คือ งดปฏิบัติใน เด็กเล็ก, หญิงมีครรภ์, ผู้ป่วยโรคมะเร็ง, ผู้สูงอายุ, หรือผู้ที่ร่างกายอ่อนเพลียมาก
- สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน สามารถที่จะอดอาหารได้ แต่ว่าควรที่จะอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญนะคะ
รูปข้างล่างนี้เป็นอุปกรณ์ที่ตามศูนย์ต่างๆหรือตามรพ.ต่างๆทำเพื่อสวนล้างพิษระดับบนนะคะ เอามาให้ดูเป็นตัวอย่างคะ
จากคุณ :
ตุ๊กแกอ้วนน
- [
18 พ.ย. 47 02:13:08
]
|
|
|