ใครเคยเป็นมั่งครับ ที่รู้สึกว่าโลกกลม
ไม่ใช่วิทยาศาสตร์นะครับ
จะหาว่าเป็นบุพเพอาละวาด ก็อาจจะใช่
ลองมาฟังเรื่องของผมกันดีกว่า
ไม่รู้จะไปโพสที่ไหนดี เห็นว่าพี่ๆ น้องๆ ที่นี่เป็นคนใจดี
คิดว่าคงจะไม่ว่ากัน ที่โพสนอกเรื่องไปหน่อย
แค่บอกกล่าวเล่าถึงเหตุการณ์ที่ประสบพบมา
จริงๆ แล้วเหตุเกิดเมื่อวันลอยกระทงที่ผ่านมานี่เอง
กะว่าจะสวนกระแสไปซื้อของที่มาบุญครอง
(หาเรื่องเสียตังค์)
ไม่ไปเที่ยวลอยกระทง เพราะกลัวมิจฉาชีพ
กับไม่อยากไปผจญรถติด
รอเจ้าของร้านนานเลยทีเดียว ก็ไม่มาซักที
รอแล้วรออีก
แต่ก็รอไม่ไหว ไม่รู้เจ้าของร้านหายไปไหน
เลยเอาว่ะ ไปเิดินเอาบรรยากาศงานลอยกระทงที่จุฬาซักหน่อยก็ได้
เกิดมาก็ไม่เคยไปลอยกระทงที่จุฬากะเค้าซะที เห็นว่า สวยนักสวยหนา
แต่พอเห็นสภาพคนแล้ว ก็แน่นสุดๆ
ยังอุตส่าห์จะลองดู คิดว่าไหนๆ ก็มาแล้ว เข้าไปซักหน่อยก็ได้ เอาไว้คุยวันหลังก็ยังดีว่ะ
แต่พอก้าวเข้าไปซักพัก ยังไม่ทันได้สัมผัสกลิ่นอายของกระทง
ก็ไม่ไหวแล้วครับ หายใจไม่ออก คนแน่นเกินไป
ผนวกกับอารมณ์เหงาๆ ก็เลยเดินกลับออกมา
เดินคนเดียว แฟนก็ไม่มี อารมณ์กะลังเปลี่ยวได้ที่เลย
รถเมล์ก็ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
ก็เลยตัดสินใจเดินย้อนกลับมาทางมาบุญครอง
เดินเหงาๆ ไปเรื่อยๆ
อุแม่! ใครหว่า หน้าตาคุ้นๆ
แฟนเก่าครับ เดินเด่นมาเชียว กะลังจะเดินสวนกันอยู่แล้ว
อารมณ์นักแสดงเข้าสิงทันที
หันขวับ ทำทีเหมือนไปมองรถเมล์ที่กะลังวิ่งมา(ทั้งๆ ที่ทั้งถนน ไม่มีรถเมล์ซักคัน)
แต่ก่อนจะหันนั้น ก็ชำเลืองมองกันพักนึงอ่ะนะครับ
ไม่รู้ว่าเค้าจะจำผมได้รึเปล่า เพราะเลิกกันมาประมาณสองปีแล้ว
หน้าตาเราก็เปลี่ยนไปหน่อย เพราะกลมขึ้น (เหมือนพระจันทร์วันนี้เลย)
เมือ่ก่อนจะซูบๆ ใส่แว่น
เดี๋ยวนี้อวบๆ แล้วก็ไม่ได้ใส่แว่นแล้ว
แต่ในใจก็คิดเข้าข้างตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องจำได้อ่ะนะ
แต่ก็ไม่อยากทักอยู่ดี กล้าๆ กลัวๆ
หันอยู่นานมาก จนคอแทบเคล็ด
ใครไม่รู้คงคิดว่า ไอ้นี่ เป็นพวกพิการทางคอรึเปล่า เพราะหันสุดตัวเลยอ่ะ
จนแน่ใจว่าผ่านไปแล้ว ก็เลยหันกลับ
อารามเดินๆ ไปต่อ ไม่หยุด
เดินไปซักพัก ก็เริ่มคิดได้ ว่าตัวเองหลอนรึเปล่า
ตั้งสติอีกซักทีซิ อย่ากลัว อย่ากลัว ท่องไว้
เค้าบ้านอยู่ตั้งไกล อยู่แถบชานเมืองเลยนะ
แล้วปกติไม่ใช่คนชอบเที่ยว ไม่เกิน 4 ทุ่มต้องนอนแล้วอ่ะ
แล้ววันนี้มาทำอะไรที่นี่อ่ะ มาคนเดียวอีกตะหาก
พอคิดได้ดังนี้
เลยตัดสินใจหันหลังกลับ
กะว่าจะไปเช็ค เพื่อยืนยันความปกติของสมอง
(กลัวว่าจะประสาทหลอน คิดไปเอง ดูดิครับ คิดไปโน่น)
ลงทุนเดินย้อนกลับไปอีกรอบ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็เกือบถึงมาบุญครองแล้ว
เดินไป ก็สังเกตไป ว่าจะยังคงอยู่ที่ป้ายรถเมล์ที่ใกล้ๆ นั้น
พอเข้าไปใกล้ได้ที่
ก็มองๆ ข้างถนน ตรงที่ยืนรอ .... อ่ะ ไม่มี
พอไล่เรียงตรงที่นั่ง
อ่ะ ยังนั่งอยู่ตรงนั้น
แม่นแน่แล้ว ไม่มั่วแน่นอน ตาไม่ฝาด
เราไม่ได้ประสาทหลอน
ทีนี้ก็เริ่มคิดแล้วอ่ะ
แต่เค้ามาทำอะไรอ่ะ
อยากถามก็อยากถาม แต่ไม่กล้า
อารมณ์นี้คือไม่รู้จะดีใจรึเสียใจดี
(เพราะไอ้ตอนจากกัน ไม่ได้จากกันแบบแตกหักเท่าไหร่ แต่เราสติแตกไปพักนึง เหอ เหอ)
ในใจก็คิดแผนไปว่า
เราจะทำทีเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วหันหลัง
แล้ัวทำเป็นไม่สนใจเค้าดีมั้ย แล้วเค้าจะรู้ตัวมั้ย ......ฯลฯ
ในระหว่างที่ฟุ้งซ่านอยู่นั้น รถเมล์คันนึงก็มา
เค้าก็รีบขึ้นรถเมล์ไปเลย
ไอ้เราก็สองจิตสองใจ จะตามไปดีมั้ย
ดูซิว่าใครจะกล้าทักใครก่อนมั้ย
มัวแต่คิด รถเมล์ก็ผ่านหน้าไป.........
เราก็กลับมาเหงาเหมือนเดิม
จบ ครับ
ที่เล่ามายืดยาว ก็แค่อยากถามเพื่อนๆ ว่า
ใครเคยเป็นมั้ยอ่ะคับ
แบบว่า มาแบบไม่ทันตั้งตัว
เพราะผมเกิดเหตุการณ์อย่างงี้สองครั้งแล้วอ่ะ
ประมาณว่า ที่ๆ ไม่ควรจะเจอ ดันเจอ
จะดีใจก็ไม่เชิง แต่ก็ไม่ได้เสียใจที่เจอนะ
มันเหมือนกับ ตกใจปนดีใจนิดๆ อ่ะคับ
เพิ่งซึ้งว่าโลกมันกลมจริงๆ
เมื่อก่อนคิดว่าเป็นเรือ่งบังเอิญ
แต่พอเกิดแบบนี้ ก็เริ่มคิดแล้ว
ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้เนี่ย ถึงต้องตามมาเจอกันทุกที
ก็เป็นความสุขน้อยๆ(รึเปล่าไม่รู้) ในวันลอยกระทงเหงาๆ นะครับ
ปล. พระจันทร์วันนั้นสวยจริงๆ นะ
จากคุณ :
ตะวันยิ้ม :-)
- [
28 พ.ย. 47 01:42:21
]