ความคิดเห็นที่ 1
ทีนี้เรามาคุยกันเรื่องมอสเจอร์ไรเซอร์ดีกว่านะคะ
คำว่า มอสเจอร์ไรเซอร์ moisturizer) ที่เราใช้กันจนติดปากนั้นจริงๆแล้วมันมีทั้ง moisturizer ซึ่งแปลว่า to add moisture และ emollient แปลว่า to soften แต่ว่าเรามักจะเรียกรวมๆไปว่า moisturizer ทั้งหมด เจ้ามอสเจอร์ไรเซอร์นี่น่ะ ก็ทำหน้าที่สองอย่าง
occlusive หรือทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้น้ำในผิวระเหยไปได้ง่ายๆ โดยการเคลือบปกคลุมผิวไว้นะคะ พอน้ำไม่ระเหยไปไหนง่ายๆ มันก็ทำให้ผิวหนังดูชุ่มชื้นค่ะ
เช่น bath oil ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นมิเนอรอลออย์ใส่น้ำหอมให้หอมๆ, lotion, cream, ointments ก็อย่างพวกวาสลินไงคะ
humectants เป็นสารชนิดที่ทำให้ผิวหนังชั้นบนน่ะ อุ้มน้ำได้ดียิ่งขึ้น
สารที่เพิ่มน้ำในชั้นผิวหนังได้น่ะ ก็มี glycerine, urea, alpha hydroxyl acid สารตัวหลังนี้คงคุ้นชื่อกันนะคะ ถ้าใช้ AHA ในปริมาณความเข้มข้นสูงน่ะ จะทำให้ผิวหนังชั้นบนบางลงได้ค่ะ แต่ถ้าใช้ในปริมาณความเข้มข้นค่ำๆละก็มันทำหน้าที่เป็นสารบำรุงผิวได้ดีทีเดียวค่ะ
มอสเจอร์ไรเซอร์บางชนิดจะมีสารทั้งสองแบบนี้ปนอยู่ บางอย่างก็มีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่พบมากคือสารแบบที่ทำหน้าที่เคลือบผิวไว้ทำให้น้ำไม่ระเหยออกไปได้โดยง่ายค่ะ ดังนั้นการที่เราคิดว่ามอสเจอร์ไรเซอร์นั้นเพิ่มน้ำให้ผิวเราน่ะ ไม่จำเป็นนะคะ ต้องดูด้วยว่าสารที่ใช้น่ะ มันเป็นสารที่เพิ่มน้ำ หรือว่าสารที่แค่เคลือบผิวไว้ไม่ให้น้ำระเหยไป เราควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของผิวด้วยค่ะ มอสเจอร์ไรเซอร์ทั่วไปที่เราเห็นในท้องตลาดส่วนมากจะเป็นแบบ occlusive ดังนั้นเวลาใช้ก็ควรใช้หลังการอาบน้ำ เพราะว่าจะทำให้น้ำไม่ระเหยออกไปจากผิวค่ะ
http://www.dermnetnz.org/treatments/emollients.html
จากคุณ :
รำเพย 
- [
6 ม.ค. 48 12:32:43
]
|
|
|
