PANTIP.COM : L3225629 ขอกําลังใจหน่อยค่ะ จริงไหมที่ ตอนเลิกกับแฟนใหม่เศร้ามากๆแต่นานๆไป...... [ปัญหาชีวิต]

ความคิดเห็นที่ 19

พี่มีคำแนะนำยาวมากให้อ่านกันเต็มอิ่มเลยล่ะ
.................................................................................................

วิธีจัดการกับการอกหัก

อาการอกหักนั้นดูๆไปแล้วพี่คิดว่าคงไม่มีใครชอบกันสักเท่าไร เพราะความผิดหวังเช่นนี้มันสุดแสนจะทรมานยิ่งนัก ชนิดที่ว่าใครที่ไม่เคยอกหักมาก่อนจะคาดเดาไม่ได้เลยล่ะว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน มันคล้ายๆกับความรักเหมือนกันนะ คือมันเป็นรสชาติที่ต้องลิ้มลองด้วยตัวเองจึงจะเข้าใจซาบซึ้ง หลังจากลิ้มลองไปแล้วก็คงจะไม่อยากลองอีกแล้วล่ะ ผิดกับความรักที่รักแล้วอยากรักอีก อยากเก็บความรักไว้นานๆ ก็แน่ละซิเพราะรักทำให้เรามีความสุขนี่ ส่วนอกหักทำให้เรามีความทุกข์ ใครจะไปอยากได้

ปัญหาก็คือ แม้ไม่อยากได้แต่มันก็เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราจะทำอย่างไรกับมันดี ให้มันหายไปโดยเร็ว หรือไม่ก็ช่วยลดพิษสงของมันลงบ้าง ให้เราพอจะทนรับมันไหว ดังนั้นตอนนี้พี่จะเสนอวิธีจัดการกับอาการอกหักตามแบบของพี่ให้พวกเราฟังกันเล่นๆ ใครเห็นดีด้วยก็เก็บเอาไปใช้ได้เลย ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ให้รู้ตัวว่าอาการอกหักนี้เป็นอารมณ์ที่ไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ สร้างความทุกข์ และทำลายสุขภาพ ให้เรามองเห็นข้อเสียของอารมณ์นี้ให้ได้ เมื่อรู้จริงๆว่าอารมณ์นี้ไม่ดี เราต้องตั้งใจว่าจะกำจัดมันออกไปให้เร็วที่สุด เราจะไม่เอาอารมณ์นี้เก็บไว้ในใจเรา ตั้งใจให้หนักแน่นเลยนะว่าจะกำจัดมันออกไป

ที่พี่ให้เรื่องนี้เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำก็เพราะว่า เวลาอกหักคนส่วนมากจะขาดสติ และจมอยู่กับอารมณ์นี้ ความรู้ที่เคยมีมาด้วยเหตุด้วยผลจะลืมหมด รู้แต่ว่าไม่อยากทุกข์แต่ไม่รู้จะทำยังไง ทำใจไม่ได้สักที ว่าแล้วก็ปล่อยให้อารมณ์อกหักอยู่กับเราต่อไปเรื่อยๆ บางคนก็หวังจะให้เวลาช่วยรักษาแผลใจ เวลามันไม่รู้เรื่องอะไรกับเราด้วยหรอก มันเดินของมันไปเป็นปกติ เราต่างหากที่ต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ฉะนั้นเราต้องตั้งเป้าว่าเราจะจัดการมันออกไปให้เร็วที่สุด เราจะได้หาวิธีการจัดการไม่ใช่ปล่อยให้มันหายไปเอง

วิธีจัดการขั้นต่อไปเมื่ออกหักใหม่ๆนั้น เราต้องระบายอารมณ์ผิดหวังนั้นออกไปโดยเร็ว เพราะมันเหมือนคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว มันใหญ่มากจนจะทำลายชีวิตเราได้ ฉะนั้นการระบายมันออกไปจึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องรีบทำ ซึ่งวิธีการระบายจะมีได้หลายวิธีตามความถนัดของแต่ละคน ไม่มีวิธีใดที่ใช้ได้ผลกับทุกคน เราจึงต้องหาวิธีที่เหมาะสมในการระบายอารมณ์สำหรับตัวเอง

คนบางคนใช้วิธีเล่าความทุกข์ให้เพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้ฟัง แต่บางคนไม่ชอบเล่าไม่อยากให้ใครรู้ก็อาจใช้วิธีเขียนแทน เขาจะเขียนความรู้สึกเจ็บปวด ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความผิดหวังทั้งหลายลงไป เขียนแบบไม่ต้องใช้สมองคิดเลย เขียนไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนั้น เขียนไปจนกว่าจะไม่มีอะไรให้เขียน นี่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ได้ดีเหมือนกัน

เรื่องระบายความกดดันนี้จำเป็นต้องทำ ห้ามเก็บกดไว้คนเดียวเด็ดขาด เพราะมันจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง สร้างความกดดันเพิ่มเติมให้กับเราทับลงไปอีก

ขั้นตอนต่อไปที่จะช่วยบรรเทาความอกหักคือ การเบี่ยงเบนปัญหา

ขั้นนี้เราจะมีการเสริมสร้างความสุขใส่ตัวเพื่อถ่วงดุลความทุกข์ เราใช้กิจกรรมต่างๆช่วยเบี่ยงเบนปัญหา เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยว ทำงานหนัก กินของอร่อยๆ หรือทำอะไรที่เราเคยมีความสุขกับการทำสิ่งนั้น เราใช้มันเพื่อพักอาการอกหักไว้ชั่วคราว เรียกว่าพยายามจะลืมมันสักช่วงเวลาหนึ่ง ขั้นตอนนี้ก็ใช้ได้ดี เพราะอกหักมันมาแรงเราต้องต้านมันไว้บ้าง หาช่องทางเบี่ยงเบนให้มันไหลไปทางอื่นบ้าง ก็พอจะช่วยให้เรามีเวลามาตั้งตัวกันสักหน่อย

ขั้นต่อไปที่จะจัดการกับการอกหักคือ ตั้งสติดึงเอาเหตุผลมาใช้ สิ่งที่เราเตรียมตัวสำหรับการอกหักไว้ก่อนที่จะอกหักนั้นก็นำมันออกมาใช้ได้เลยตอนนี้ ใช้เหตุผลวิเคราะห์ปัญหาความไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับเขาอย่างเป็นจริง

ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของการใช้ปัญญาแล้วนะ

ขั้นตอนนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะแก้ปัญหาได้ตรงจุด และจะแก้ปัญหาได้อย่างถาวร หรือไม่ก็แก้ได้อย่างมากเลยทีเดียวล่ะ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำยากกว่าเพื่อนด้วย ถึงจะยากยังไงเราก็ต้องทำให้ถึงขั้นตอนนี้ให้ได้ เพราะขั้นตอนที่ผ่านมานั้นเพียงแต่ช่วยบรรเทาความทุกข์ชั่วคราวเท่านั้น พอนึกได้เดี๋ยวมันก็เจ็บอีก เป็นอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะมีปัญญามาช่วยแก้ไขให้ หรือพูดแบบภาษาชาวบ้านว่า “คิดตก” นั่นเอง

ปัญญาที่ว่านี้ก็คือ การมองความรักของเรานั่นเอง เรามองความรักแบบหนึ่งเราจะทุกข์มาก ถ้าเรามองมันอีกมุมหนึ่งมันอาจทุกข์น้อยลง ทุกคนมีมุมมองความรักที่ต่างกัน และนั้นเป็นเหตุให้เขาได้รับทั้งความสุขและทุกข์แบบหนึ่ง ทุกข์จากการอกหักของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน ความรุนแรงต่างกัน การหายอกหักช้าเร็วต่างกัน ทั้งหมดนี้มันมีเบื้องลึกมาจากมุมมองความรักของเรานี่เอง

ฉะนั้นสิ่งที่จะใช้แก้อกหักได้ดีก็คือ การมีมุมมองความรักที่ไม่ทำให้ทุกข์มากนั่นเอง

ซึ่งสิ่งนี้เราสามารถหาได้ตั้งแต่เรายังไม่อกหัก และควรจะหาเสียตั้งแต่บัดนี้ เก็บสะสมข้อมูลไปเรื่อยๆ จนเป็นความรักในแบบของตัวเอง มันจะเป็นพื้นฐานที่หนักแน่นให้กับเรา เมื่อเราต้องเจอกับภาวะอกหักขึ้นมาจริงๆ เราจะนำมันออกมาใช้ได้อย่างทันท่วงที เราจะทำใจได้เร็วขึ้น และหายจากอกหักได้เร็วขึ้น

ด้วยความเข้าใจในความรักที่เป็นอิสระ เราจะถอนตัวจากการอกหัก ซึ่งเป็นเพียงความหลงอันหนึ่งเท่านั้นออกไปจากใจได้ จริงๆแล้วการอกหักเป็นแค่อารมณ์ๆหนึ่งเท่านั้น มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และต้องดับไป เป็นปกติธรรมดาของโลก เป็นกฎธรรมชาติที่เป็นอย่างนั้นเอง ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้

การใช้ปัญญาเข้าใจความรักที่แยกออกจากความหลง จะทำให้เราไม่จำเป็นต้องอกหักอีกต่อไป แต่ถ้าเราไม่เข้าใจหรือไม่พยายามที่จะเข้าใจ เราก็ได้แต่เพียงเบี่ยงเบนมันไปชั่วคราว แล้วมันก็จะวนเวียนมาเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่านานนับสิบๆปีกันเลยทีเดียว เหมือนกับความรักฝังใจที่ทำให้หลายคนต้องทนทุกข์ตั้งแต่สาวจนแก่ ไม่อาจสลัดหลุดจากวงจรนี้ไปได้ วิธีเหล่านั้นจึงไม่ใช่วิธีที่ดีนัก แต่จะมีประโยชน์มากในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

ทุกขั้นตอนที่กล่าวมานั้น เราจะใส่ความคิดในแง่บวกเข้าไว้ด้วยเสมอ มองสิ่งที่เกิดขึ้นให้เป็นบวกมากๆเข้าไว้

จริงๆแล้ว การอกหักก็ใช่ว่าจะมีแต่ผลเสียเท่านั้น ข้อดีของการอกหักก็มีอยู่ มันเป็นประสบการณ์พิเศษอันหนึ่งที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับ การมีประสบการณ์เช่นนี้จะทำให้เรารู้จักมองอะไรให้กว้างขึ้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราแยกความรักออกจากความหลงได้ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เราเห็นค่าของความรักมากขึ้น และจัดการกับความรักได้ดีขึ้น ความเศร้าอาจทำให้จิตใจของเราแข็งแกร่งขึ้น เหมือนรักที่แท้จริงจะต้องผ่านอุปสรรคมาบ้าง

พี่เองเคยอยากมีประสบการณ์นี้ เพื่อเรียนรู้ความรู้สึกของตัวเอง สถานการณ์บางอย่างนั้นจะทำให้เรารู้จักตัวตนของเรามากยิ่งขึ้น ใจที่เคยคิดว่าเราควบคุมมันได้ เราได้รู้ความจริงว่าควบคุมได้น้อยมาก อย่างนี้เป็นต้น เรายังต้องฝึกฝนตนเองอีกมาก

เราสามารถใช้ประโยชน์จากการอกหักนี้มาเป็นบทเรียนทำให้เราพัฒนาขึ้นได้ แต่ถ้าเรามองการอกหักเหมือนผู้ร้ายที่คอยทำลายเรา และเราเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เราจะไม่สามารถมีความสุขได้ และรักของเราครั้งใหม่อาจจะซ้ำรอยเดิมอีกก็ได้ ในทางกลับกันถ้าเราสรุปบทเรียนและปรับปรุงตัวเอง รักครั้งใหม่ของเราจะต้องดีกว่าเดิมแน่นอนเช่นกัน ทุกอย่างมันอยู่ที่เรามองว่าเป็นอย่างไร ฉะนั้นคิดบวกไว้ดีกว่า หาประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและเราเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ คิดเสียว่า “ การอกหักครั้งนี้มีขึ้นเพื่อฝึกหัดเราไม่ให้มีการอกหักครั้งต่อไป ” นั่นคือสิ่งที่จะช่วยลดอาการอกหักลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

00000000000

จากคุณ : พี่นพ - [ 11 ม.ค. 48 12:30:48 ]