วันนี้นั่งทำงานก็คิดถึงแต่เด็กที่ขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่ ไม่ว่าจะจากบ้านราชวิถี หรือ นึกถึงเด็กข้างบ้านคนหนึ่งที่ พ่อแม่แยกทางกัน แม่ท้องแล้วก็คลอดลูกชายออกมา ตอนนี้เด็กคนนั้นหนึ่งขวบกว่าๆ กำลังน่ารักน่าชัง วิ่งมาเล่นกับลูกสาวผมบ่อย ๆ เขาคงนึกอิจฉาลูกสาวที่มานั่งตักเล่นกับผมบ่อย ๆ เขาไม่มีพ่อ แม่ก็ประชดพ่อของเด็กด้วยการ ไปทำงาน หาเงินแบบ ไม่เหมาะสม แล้วสุดท้าย ยายที่อายุมากก็ต้องเลี้ยงทุกวันยายเขาจะมานั่งคุยกับแฟน ผมในตอนเช้า ผมเองก็มักจะทำอาหารเช้ากิน และต้องทำเผื่อเจ้าหนูคนนี้ด้วย ไม่ว่าจะต้มซุป ร้อน ๆ ที่ทำให้ข้นมากๆ เพื่อเด็กจะได้กินด้วยและอิ่มในตอนเช้า
หากผมมีเงินนับสิบล้าน ผมคงต้องเอาเงินส่วนหนึ่งมาช่วยเหลือกำพร้า หลาย คน เหลือเกิน เหมือน ในหนังการ์ตูนเรื่องหน้ากากเสือที่ฉายเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนที่ พระเอกเป็นนักมวย มีชื่อว่า หน้ากากเสือ ชกมวยเพื่อหาเงินมาเลี้ยงเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มันเหมือนเป็นเรื่องเจตนาดี แต่จริงแล้วผมว่ามันแก้กันที่ปลายเหตุมากเลย พวกเราไปบ้านราชวิถี ไปสถานสงเคราะห์เด็กที่บางละมุง เหมือนเราไปสวนสัตว์ ไปดูเขา บางคนไปสังเวชเขา ซึ่งผมว่ามันไม่ถูกทางเลย
ในอีกมุมมองหนึ่ง เราไปแสดงความรักกับเขา แล้วเราก็จากไป มันก็เหมือนทอดทิ้งเขา ให้เขามาสู่อ้อมแขนของเรา พักใหญ่ๆ แล้วเราจากไป เรียกว่าเหมือนให้เขาได้ เยี่ยมวิมาน พานพบกับสวรรค์ชั่วคราว แล้วเขาก็โหยหามันอีก เป็นที่เวทนายิ่งนักสู้ไม่รู้จักกับความอบอุ่นเสียดีกว่า
คนที่น่าจะพาไปผมอยากให้เป็นหนุ่มสาวที่กำลังมีความรักหรือคิดจะมีแฟนหรือมี เพศสัมพันธ์ กัน จะได้ดูไว้ว่า อารมณ์ชั่ววูบของคนสร้างความสุขให้ตัวเราแต่มันสร้างความทุกข์ตลอดชีวิตให้กับเด็กตาดำๆ คนหนึ่งและหลายคนเลย พ่อแม่ที่มีลูกแบบไม่พร้อมแล้วทิ้งลูกไปมันโหดร้ายยิ่งกว่าการไปทำแท้งเสียอีก ทั้งที่ว่าการทำแท้งมันเลวสุดเปรียบแล้วนะครับ ผมเกลียด พ่อแม่หัวใจสกปรกแบบนี้ที่สุดเลย ไม่น่าจะเกิดมาเป็นมนุษย์ในโลกนี้ หรือเกิดผมก็อยากรู้นักว่าหัวใจมันทำด้วยอะไรกัน จึงทิ้งลูกได้ลงคอ
ครับวันนี้ผมไม่มีเงินที่จะช่วยเหลือพวกเขา ไม่กล้าหาญแม้แต่จะไปเยี่ยมสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าอีกเพราะผมเคยเจอแล้วทำให้ผมจำภาพที่เด็กคนหนึ่งมาดึงกระเป๋าเสื้อผมจนขาดเพราะไม่ต้องการให้ผมวางเขาลง วันนั้นยันวันนี้ผมยอมรับว่าเข็ดๆไม่ได้เข็ดที่เสื้อขาดแต่เข็ดที่หัวใจผมอ่อนแอเกินไปกับสิ่งนี้ วันนี้ผมเป็นพ่อคนผม ขอชวนพ่อทั้งหลายและแม่ทุกคนชดเชยสิ่งที่เราทำไม่ได้กับลูกตัวน้อยๆ ของเรา เลี้ยงให้เขาดีที่สุด ทิ้งงานในมือลงซักนิด ให้ลูกหัวใจของเรา
แต่ก่อนผมทำงานหนักทุกวัน ลูกจะนั่งมองผมทำงานทุกวันว่าเมื่อไร พ่อจะหยุดทำงาน แล้วมาเล่นกับเขา นี่คือสภาพลูกผมตอนสามขวบ แล้วผมก็สงสารเขา ต้องทิ้งงานยอมได้เงินน้อยลงนิดหนึ่งเพื่อให้ลูกได้อยู่ใกล้ เพราะเงินที่ได้มา มันคงให้ความสุข ผมไม่ได้เท่าลูกสาว บ่อยครั้งที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดไปทำงานที่ต่างๆ แม้ในกรุงเทพฯ โทรศัพท์ที่บ้านผมจะ Memory ปุ่มไว้ว่า ลูกกดปุ่มนี้ จะได้คุยกับพ่อ มันจะต่อสัญญาณเข้ามือถือพ่อ ให้ลูกรู้ว่าพ่อห่วงเสมอ
ครั้งหนึ่ง ผมลงไปยะลา กำหนด 10 วันจึงกลับ แม้จะโทรคุยกับลูกทุกวัน แต่ที่บ้านลูกจะกากบาทปฏิทินไว้ว่า หมดไปกี่วันแล้วเหลืออีกกี่วันพ่อจะกลับ วันสุดท้ายผมเสร็จงานที่ยะลาตอนบ่ายกะว่าจะแวะนอนหาดใหญ่ก่อนคืนหนึ่งแล้ว รุ่งเช้าค่อยขับรถ แต่แล้วความคิดถึงลูก ผมได้แค่แวะซื้อของหาดใหญ่แล้ว ขับรถตลอดทั้งคืนยันสว่างเพื่อให้ถึงบ้านที่กรุงเทพฯ เจอหน้าลูกตอน 0800 หวังว่าจะได้เล่นกับลูกแต่สุดท้าย ต้องมานอนหลับให้ลูกดู เพราะความอ่อนเพลีย
คุณพ่อชาวสวนลุมครับวันนี้พวกเราแม้ไม่มีเงินที่จะเลี้ยงและให้ความรักกับเด็กทั้งประเทศที่ขาดความรักแต่เรามาชดเชยกับลูกในบ้านเรา อย่าให้เขาต้องรู้สึกว่า เราทิ้งเขา เวลาที่เราเลี้ยงฉลองกันนอกบ้าน เที่ยวเตร่กลางคืนแต่ลูกนั่งคอยเรารอเวลาที่เรากลับบ้าน
อย่าให้หัวใจดวงน้อยนี้ต้องคอยพ่อนานกว่านี้เลยครับ
แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 48 19:24:39
ไฟล์เสียง
จากคุณ :
จมื่นไวกว่า
- [
17 ม.ค. 48 18:58:39
]