เมื่อวันนึงที่ชีวิตเหมือนถึงทางตัน
. มันหมดทางไป
เหมือนยืนอยู่อย่างเดียวดาย ในทะเลทรายแห่งความอ้างว้าง และมืดมิด
ที่ที่ความเศร้า และความเหงา กัดจนหัวใจกร่อน
ร้าวระบมไปหมด
น้ำตากำลังทะลักไหลให้กับความล้มเหลวของตัวเอง ที่มีมาตลอดทั้งชีวิต
เรี่ยวแรงที่เคยมี มันเหมือนหายระเหิด ระเหยหาย
ไม่มีแม้แต่กำลังที่จะสูดลมหายใจเข้าไปอีก
เครียดจนนอนไม่หลับ
กับคืนที่สุดแสนยาวนาน
รุ่งเช้ากับกลางวัน ที่ผ่านไปอย่างไร้จุดหมาย
เหมือนมันเหนื่อย
มันหมดหวัง
เหมือนไม่เข้าใจความหมายของการมีชีวิต
. ว่าอยู่ไป เพื่ออะไร
มันเบื่อ
มันเหนื่อย
ท้อแท้
และสิ้นหวัง
มันมืดไปหมด
เหมือนหันไปทางไหนก็ไม่เห็นทางออก
ไม่มีคำตอบ
ว่าจะนำพาชีวิตต่อไปอย่างไร
ท่ามกลางปัญหาที่รุมเร้า
ล้น
จนท่วมหัวใจ
มันเป็นความร้าวระบมสุดทุกข์ทรมาน ที่กัดกร่อนทุกอย่าง
ชีวิตเหมือนถึงวิกฤตเจ็บหนัก
จนเบื่อที่จะต้องอยู่ และเจ็บปวดกับมันอีก
อยากตาย
จุดสุดท้าย
ที่ที่ถูกโชคชะตาต้อนจนมาจนมุม
ดินแดนสุดท้ายที่เหลือ
กว้างเพียงแค่สองเท้ายืน
อยู่ริมหน้าผา
มันเหมือนไม่มีที่ยืนอีกแล้ว
ความลังเลที่สลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาในใจตลอด
ว่า จะตายวันนี้
หรือจะทนอยู่ไปอีกวัน
ความคิดที่จะฆ่าตัวตาย วนเวียนอยู่ในสมอง ครั้งแล้วครั้งเล่า
เหมือนมันมีสเน่ห์เย้ายวน ชวนให้หลับตา
ทนเจ็บเพียงแป๊บเดียว
แลกกับชีวิตใหม่ที่สงบ
ทิ้งชีวิตแสนเหงา และเศร้าหมอง เอาไว้เบื้องหลัง
ลาก่อน
โลกที่รังแกกันมาตลอด
ผมรู้ว่า มันเจ็บ ไม่อยากรับรู้อะไรอีก ในเวลาที่สติมันกระเจิงไปหมด จนไม่สามารถกอบมันขึ้นมาใหม่
ผมเข้าใจ
แต่ว่า ตายแล้ว
จะเป็นยังไงต่อ
มันจบแล้วจริงๆ หรือเปล่า
หรือเป็นแค่โลกๆ นึงที่พึ่งจบไปเหมือนในวิดีโอเกมส์
หลังจากตาย มันก็มีโลกใหม่ที่ต้องไปเจออีก
อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
เพราะชีวิต
ความรู้สึกนึกคิด
ซึ่งเรียกว่าจิต เป็นสิ่งที่ยังคงอยู่ มัน คือซอฟแวร์ที่ไม่มีวันเสื่อมสลาย
และไม่มีวันตาย
การฆ่าตัวตาย ก็เหมือนเราทำลายฮาร์ดแวร์ (ทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์)
ที่ที่เราเอาซอฟแวร์ (แผ่น) ไปใส่ไปยึดไปติดกับมันไว้
(จนเราเข้าใจว่า เครื่องนั้นทั้งเครื่อง คือตัวเรา
)
ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ถูกทำลาย จิต ซึ่งเป็นซอฟแวร์จะ eject ตัวเองออก โดยอัตโนมัติ แล้วก็ต้องไปหาฮาร์ดแวร์ใหม่
เพื่อเกิดเป็นชีวิตใหม่อีก
ตัวเราจริงๆ คือซอฟแวร์แผ่นนั้นนั่นเอง
มันเป็นกฏธรรมชาติ
ที่บางคนไม่เคยรู้
แต่บางคนรู้ และเข้าใจ มาเป็นพันๆ ปี
เราเกิด และตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ไม่สามารถนับได้
เป็นอนันต์
ถึงวันนี้เราจะฆ่าตัวตายหนีโลกนี้ไป
เราต้องเกิดใหม่อยู่ดี
แล้วก็ต้องมาทุกข์ใหม่อีก
(อาจจะเรื่องเดิมๆ
หรือเรื่องที่หนักกว่าเดิมเข้าไปอีก
) แล้วเราก็ทนไม่ได้อีก
แล้วก็ต้องฆ่าตัวตายอีก
มันจะเกิดอีกซักกี่ครั้ง
กว่าเรา จะได้พบชีวิตใหม่ที่เป็นสุข อย่างที่ต้องการ
แล้วมันจะมีชีวิตแบบนั้นจริงหรือ
ตอบคำถามตัวเองก่อน ก่อนที่จะปักมีดเล่มนั้นลงไปบนอก
หรือกระโดดลงมาจากเก้าอี้ ที่เชือกแขวนคอ พร้อมจะกระตุกจนกระดูกคอหลุด
หรือก่อนจะเหนี่ยวไกจนมันสมองทะลักไหลออกมา
ว่า มันทำให้เราเป็นอิสระจากทุกข์จริงหรือเปล่า
.
เราคงไม่อยากลงทุนแบบสูญเปล่า ด้วยการหนีมัน
แล้วก็ต้องไปเจอกับสภาพเดิมอีก
(ในชีวิตหน้า)
เหมือนหนีเสือปะจระเข้
เหมือนกระโดดหนีไฟลงไปในบ่อน้ำร้อน
ที่ร้อนพอๆ กับไฟ
ผมว่า เราพอจะมีวิธีหนีชีวิตที่สุดจะรันทดนี้ได้
โดยไม่ต้องฆ่าตัวตาย
เมื่อเราเชื่อแล้ว
เชื่อว่า เราต้องเกิดใหม่อีก
เราก็พอจะเข้าใจว่า การฆ่าตัวตาย มันช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเราต้องกลับมาเกิด แล้วก็เจอกับสภาพเดิมอีก
เราต้องทำใจรับก่อน ว่าการฆ่าตัวตายไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาของเราจริงๆ มันแค่การหนีต่างหาก
แล้วการอยู่ต่อไป
จะใช้ชีวิตต่อยังไง
เราคงต้องเชื่อในเรื่องที่สอง
นั่นคือเรื่องของกรรม
เราฝังเม็ดมะม่วงลงในดิน เราก็ จะได้ต้นมะม่วง (แน่นอน)
มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
มันเป็นวิทยาศาสตร์ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องงมงาย
ซึ่งเหมือนกรรม ที่เราทำอะไรไว้ เราก็ จะได้รับสิ่งนั้นแน่นอน
และสิ่งที่เราได้ทำไว้ จะถูกบันทึกเอาไว้ในซอฟแวร์ที่เรียกว่า จิต เอาไว้ทั้งหมด
เมื่อถึงเวลาตามที่โปรแกรมธรรมชาติกำหนด มันก็จะ activate ตัวเองออกมาเป็นผลของการกระทำที่เราเคยทำเอาไว้
ทั้งดี และไม่ดี
บางทีความเจ็บวันนี้
คงเป็นผลกรรมที่เราเคยทำเอาไว้ในอดีต
ลองนึกย้อนหลังกลับไปดีๆ
กรรมเดี๋ยวนี้เป็น hi-speed บางที่ไม่ต้องระลึกย้อนหลังไปถึงชีวิตที่แล้ว
แค่นึกย้อนไปซักสิบปีที่แล้วก็จะเจอ ว่าเราเคยไปทำอะไรกับใครเอาไว้
ถ้าเจอแล้ว ก็ขอให้เข้าใจ ว่าความเจ็บที่เรากำลังเผชิญในวันนี้
เราเคยทำกับใครบางคนเอาไว้ในอดีต
และวันนี้ เรากำลังเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส เหมือนเค้า
ซึ่งถูกเราทำร้ายจนเจ็บปวดทุกข์ทรมานแสนสาหัสในวันนั้น
มันเป็นผลกรรม ที่เราทำกับเค้าเอาไว้เอง
ขอให้ทำใจ
และบอกตัวเองทุกครั้ง
ว่ามันเป็นผลกรรมของเราเอง
ก้มหน้ายอมรับมัน
ไม่ต้องไปหาเหตุอะไรอีกแล้ว ว่าใครมาทำให้เราเจ็บ ใครมาแกล้งเรา ใครมาให้ร้ายเรา มันจะทำให้เรายิ่งทุกข์หนัก และมีใจคิดร้ายกับเค้า จนเราต้องไปสร้างกรรมใหม่ขึ้นมาอีก
จากคุณ :
sonydiver
- [
24 ก.พ. 48 12:32:13
]