CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ...........เปลือย (ส่วนหนึ่งของชีวิตที่ถูกปกปิดมาตลอด)...........

    เมื่อยามที่ผมรู้สึกสะเทือนใจอย่างรุนแรง ผมจะเป็นโรคบ้าเดิน อย่างเช่นวันนี้หลังจากที่ผมเสร็จจากมื้อเที่ยงกับลูกค้า ผมเริ่มออกเดินจากชั้นสองของโรงแรมสวิสโซเทล เลอคองคอร์ด ไปหยุดพักที่เมเจอร์รัชโยธิน จากนั้นก็ผ่านไปถึงลาดพร้าว ก่อนไปจบที่ร้านๆหนึ่งแถววัดเสมียนนารี

    ตลอดเวลาของการเดิน ผมพยายามหาคำตอบให้กับชีวิตด้วยใจที่สับสนและปวดร้าว แต่ผมก็ไม่สามารถหาคำตอบนั้นให้กับตัวเองได้....จนมาถึงบริเวณริมทางรถไฟหน้าวัดเสมียนฯ....ผมได้พบกับชายเสียสติคนหนึ่ง ซึ่งทำให้ผมได้พบกับตัวเองในบางแง่มุม ด้วยกรณีที่ชายคนบ้านั้น แก้ผ้าออกทั้งหมดเพียงเพื่อต้องการจะปลดทุกข์เบา...ผมจึงเข้าเปิกกระทู้นี้ภายใต้นิยามของคำว่า เปลื้องหมดเพื่อปลดวาง....ซึ่งสิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ คือชีวิตในก้นลึกของจิตใจที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน

    ถ้าคุณมีพี่หรือน้องหรือเพื่อนสักคน ที่บังเอิญเค้าท้องตั้งแต่อายุ 19....คุณคิดว่าอนาคตเค้าจะเป็นอย่างไร?

    ผมมีลูก 2 คน คนโตอายุ 19 ส่วนคนเล็กห่างออกมาปีครึ่ง ในขณะที่ผมตอนนี้เพิ่งอายุ 39 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา....ในวันนั้น วันที่แฟนผมบอกว่าเธอท้อง ผมตัดสินอย่างไม่ลังเลด้วยเหตุผลที่ว่า "เรายังไม่พร้อม!" ผมพาเธอไปหาหมอเพื่อเอาเด็กออก....แต่วันที่เราอยู่ที่หน้าห้องของหมอ เธอจับมือผมและบอกว่า "กลัวจังเลย"....เพียงแค่ไม่กี่คำ นั่นทำให้ผมทวงถามความเป็นลูกผู้ชายขึ้นมา "นี่เราจะให้ผู้หญิงคนนีงต้องเข้าไปเผชิญความน่ากลัวแต่เพียงลำพัง ทั้งๆที่เหตุเป็นของเราด้วยงั้นหรือ?".....ผมจูงมือเธอออกจากคลีนิคนั้นโดยทันที

    20 ปีผ่านไป ด้วยสำนึกที่มีเสมอมาโดยไม่มีมรดกใดๆมาช่วยค้ำจุน ผมรับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัวผมตลอดมา จนถึงทุกวันนี้.....แต่ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ชีวืตของครอบครัวผม เกิดมิติอื่นซับซ้อนอย่างที่อาจจะยากที่คุณจะเข้าใจได้ แม้ว่าจะเป็นความภูมิใจอย่างที่สุดก็ตาม

    วันที่ลูกชายเรา สอบติดสถาปัตย์จุฬา....ผมพูดแม่ของลูกผมว่า "ขอบคุณเธอมากนะ ที่ทำให้เค้าเป็นที่ภาคภูมิใจของเราได้.....สงสัยเธอกับชั้น คงเป็นไอ้แก่, อีแก่เดินกันแค่สองคนในอีกไม่นานนี้มั๊ง?"......คำตอบคือ "ชั้นคงเดินกับเธอได้แค่ลูกโตแค่นั้นแหละนะ"

    ปี 2529 แฟนผมท้องขณะเราทั้งคู่ต่างเรียน มหาลัย
    ปี 2530 แฟนผมคลอด ผมออกจากมหาลัยมาทำงาน
    ปี 2531 แฟนผมคลอดลูกคนที่ 2
    ปี 2532 แฟนผมขออกไปหางานทำ เพื่อช่วยผม แต่ผมขอให้เธออยู่เลี้ยงดูลูก โดยกำหนดไว้ว่า ถ้าลูกทั้ง 2 คนเราได้เข้าโรงเรียนอนุบาลเป็นทีเรียบร้อยแล้ว ค่อยให้เธอหางานทำ
    ปี 2536 แฟนผมเริ่มงานในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งที่ลูกเราทั้งสองเรียนอยู่

    จากวันนั้น ถึงวันนี้ เราทั้งสองมีจุดประสงค์ร่วมกันอยู่อย่างหนึ่งคือ "ลูก".....สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่ยึดเราไว้จนทุกวันนี้....แต่คำว่ายึดเราไว้ ไม่ได้หมายถึงยึดความสัมพันธ์อย่างที่ทุกคนคิดว่ามันน่าจะเป็นหรอกนะครับ มันมีมิติอื่นเกิดขึ้นอย่างที่ผมได้เกริ่นไว้แล้ว

    คำว่าความรัก มีเป็นล้านๆนิยาม แต่สำหรับผม ความรักเปรียบเสมือนสะพานเท่านั้น...สะพานแห่งความรู้สึกในช่วงหนึ่ง ที่ทอดไปหาฝั่งอีกฝั่งหนึ่งซึ่งผมเรียกมันว่า ผูกพันธ์, ห่วงหา, เอื้ออาทร และท้ายสุดคือจากจากกัน (ซึ่งอาจจะหมายถึงแก่ตายจากกันก็ได้)

    ปัจจจุบันนี้ ผมข้ามสะพานรักนั้นมานานแล้ว เราต่างรู้กันดี เราเริ่มต้นชีวิตครอบครัวในวัยของความเป็นเด็กทั้งคู่ มีสิ่งเดียวที่บังเอิญเราทำได้ดี คือรู้จักคำว่า "หน้าที่"....หน้าที่ของการรับผิดชอบร่วมกัน หน้าที่ของการเป็นผู้ปกครอง และหน้าที่ของการเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน.....จนถึงวันที่เราต่างรู้ว่าหน้าที่ของเราใกล้หมดลงแล้ว....อีก 5 ปีข้างหน้า ลูกสาวคนเล็กของเราจะเรียนจบมหาลัย....เราทำหน้าที่ ที่เราพึงต้องกระทำร่วมกัน จบลงแล้ว

    ผมและเธอ เราต่างรู้กันมาเสมอ ว่าเราต่างมีที่มาที่ไม่เหมือนใครสักเท่าไหร่....ถึงแม้เราจะภูมิใจในสิ่งที่เราทำมาด้วยกัน....แต่ถ้ามองกันให้ดี เราแค่ต่างทำหน้าที่ที่มีต่อกัน....อย่างที่ว่าไว้ครับว่า สะพานมีเป็นนิยามของความรัก มันส่งเราถึงฝั่งที่เป็นความหมายอื่นมานานแล้ว....ผมและเธอ ต่างมีชีวิตในส่วนที่นอกเหนือจาก "หน้าที่" ของเราด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน หลังจากที่เราต่างรู้จักตัวตนเองมากขึ้น ผนวกกับโดยหน้าที่การงานที่ผมต้องเดินทางตลอดตั้งแต่ลูกเรายังเล็ก ทำให้เราต่างมองเห็นอิสสระภายใต้หน้าที่ของกันและด้วยกันมาตลอด

    ปี 2537 ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีอายุมากกว่าผม 7 ปี ตอนนั้นผมคิดว่าผมรักเธอมาก เราคบกันอยู่ 2 ปี แต่ท้ายสุด 5 ปีให้หลัง หลังจากที่เธอจากผมไป ผมถึงรู้ว่าเธอหลอกผมมาตลอด เพียงเพื่ออาศัยนามสกุลและเงินเล็กๆน้อยๆที่ผมมี เป็นสะพานในธุรกิจให้เธอเดินข้ามไป

    จากนั้นอีก 2 ปี ผมได้พบกับใครอีกคน ซึ่งคนนี้ผมคบกับเธอในระยะเวลาที่นานทีเดียว เราต่างลึกซึ้งต่อกันมาก แต่ท้ายสุด การจากไปของเธอ มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมมีมาในชีวิต และนี่คือการตอกย้ำความไม่เชื่อใจต่อผู้หญิงทุกคนในโลกนี้

    จริงๆแล้ว ผมไม่เคยค้นหา ผมไม่เคยกระหายใคร่มีใครต่อใคร เพื่อมาชดเชยกับ "หน้าที่" ที่ผมมี ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่หลังจากความสะเทือนใจได้สักพักปี ผมก็ได้พบกับอีกคน ซึ่งอายุใกล้เคียงกับผม เราห่างกันแค่ 3 ปีในปีนั้น แต่เธอช่างแสนบริสุทธิ์ และด้วยเหตุนี้ ผมจึงคบกับเธอได้แค่ไม่เกิน 2 ปี......

    และแล้ว จู่ๆ พลันที่ผมย้ายไปอยู่ภูเก็ต หลังจากที่ผมเบื่อหน่ายกับกรุงเทพเต็มที.....ใครคนนีงก็ก้าวเข้ามาในชีวิตอย่างตลกมาก เราคบกันอยู่ 3 ปีเห็นจะได้ คนนี้ไม่ได้เป็นคนในสเป็คผมเลย ผมเคยพูดกับเธอเมื่อไม่นานนี้ว่า ผมไม่เคยรักเธอเลย แต่ก็อย่างว่าแหละ ตามคำนิยามที่ผมเคยบอกให้เธอฟังแล้วว่า ความรักเป็นเพียงสะพาน อีกฝั่งนั้นมันคือความผูกพันธ์ต่างหาก และเธอก็เป็นคนที่ก้าวเข้ามาโดยไม่ต้องใช้สะพานเลย....ความดีของเธอต่างหากที่พาดฝั่งข้ามมาโดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวมาก่อน

    แต่วันนี้ ผมไม่มีเธอแล้ว........

    ผมไม่รู้ว่าระยะทางที่วันนี้ผมเดินเป็นเท่าไหร่....คำตอบที่ผมพยายามหาคือ ผมก็มีหัวใจ ผมมีความรู้สึก....ผมต้องการมีชีวิตที่เหมือนคนอื่นๆ แต่นั่นผมต้องทิ้งสิ่งที่ผมทำมาตลอด 20 ปีอย่างนั้นหรือ....แล้วถ้าผมทิ้งความรับผิดชอบที่ผมมีมาตลอดอันยาวนานนั้นได้ ผมจะมีความรับผิดชอบกับชีวิตใหม่ที่ก้าวเข้ามาได้อย่างเต็มภาคภูมิงั้นหรือ....หรือผมต้องอยู่กับหน้าที่ตลอดไป โดยยอมทิ้งชีวิตส่วนที่เหลือของผมไปงั้นหรือ

    ปล. (อันนี้ถึงเฉพาะบุคคล ไม่เกี่ยวกับผู้อ่านอื่นๆ) ใครสักคนที่บอกผมว่า "คุณควรดูแลคนในครอบครัวคุณให้ดีดีกว่า" ผมจะโกรธมากกับคนที่พูดคำนี้กับผม เพราะผมถือว่า ถ้าน้ำหน้าอย่างคุณ ไม่ได้สร้าง 20 ปีให้สำเร็จด้วยมือแล้ว....อย่าเสนอหน้ามาสอน....แต่ผมจะอภัยให้ เพราะคนๆนั้นอาจไม่เคยรับรู้ความเป็นตัวตนของผมในแง่นี้ และนี่ผมกำลังพูดเรื่องมิติความเป็นส่วนตัวผม

    จากคุณ : Phuket_Jazzy (คนภูเก็ต) - [ 6 มี.ค. 48 22:42:50 A:61.90.0.125 X: TicketID:085861 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป