ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเป็นสุภาพสตรี ผมแนะนำให้ฉีดนะครับ เพราะไม่งั้นอาจมีปัญหาเรื่องแผลเป็นได้ เพราะใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะจางหาย ฉีดไว้ จะได้เป็นน้อยๆหน่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอีกหรอกครับ โอกาสมีแต่ไม่มาก แล้วเป็นอีกก้อฉีดมันอีก น่าจะคุ้มกว่านะครับ เพราะบางแผลมันจะใหญ่และก้อดำ เห็นชัด โดยเฉพาะบนใบหน้า จากคุณ : ตอบทุกห้อง (Mr Consultant) - [ 10 มี.ค. 48 01:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เราเป็นตอนอายุ 20 อ่ะ ตอนนั้นจำได้ว่างานศพตา ละนอนดึก ตื่นเช้ามากร่างกายอ่อนแอสุดๆพอดีมีหลานอายุ ตอนนั้น ก้อราวๆ 2 ขวบได้มั้ง ด้วยที่ว่างานศพคนเยอะหลานยังเด็กรับเชื้ออะไรได้ง่ายดาย นอนกะเราทุกคืนสะด้วยสิ ปากฏว่าหลานป่วย ด้วยความที่นอนด้วยกอดกันหอมแก้มกันทุกวัน ก้อติดหลานมา หลังจากเสร็จงานศพ ทั้งอาทั้งหลานทั้งพ่อของหลาน เอ่อมมมมม อีสุกอีใสรับประทานค่า หลานนะไม่เท่าไหร่มีไข้ ตุ่มออกก้อไม่มากเพราะเด็กตัวเล็ก ส่วนอามันพ่อมัน เห้อออ ไม่อยากจะพูดลายไปทั้งตัวแถมค้นๆๆ อยากแกะอยากเกา แต่แม่บอกว่าให้มันออก ออกมาให้หมด จำได้ว่าแม่ให้ทานยาเขียวที่ขมๆ เหมือนการขับตุ่มออกมาให้หมด ละทายาที่หมอให้มาไม่ได้ฉีดยา หรือกินยาตัวอื่นนะค่ะ เป็นตุ่มๆใสๆ จนมันแห้งเองนี่เกือบอาทิด ได้นะ ละกว่าจะหายตัวลายนี่ก้อ อีกอาทิดได้ รวมๆๆ ก้อสองอาทิด ถ้าไม่แกะไม่เกามันก้อไม่เป็น แผลเป็นนะค่ะ แต่รู้มันอดไม่ได้ หรอกลูบๆๆ ก้อพอนะค่ะ เพื่อความงามของผิวในวันข้างหน้า แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 48 02:47:41 จากคุณ : ~o~LuN@rGirL~o~ - [ 10 มี.ค. 48 02:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราเป็นตอนอายุ 24 น่ะไปหาหมอเอายามากิน รู้สึกว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อไวรัสนะ สรุปว่าได้ยาดีเอาจากหมอมากล่องเดียว พอหมดก็ไปซื้อร้านขายยาชนิดเดียวกัน เราว่าดีมากเลยล่ะ ออกไม่เยอะแล้วก็ไม่เป็นแผลเป็นด้วยล่ะ ปัจจุบันหายดี เราว่าดีนะถ้าให้มันออกหมดไม่ไหวอ่ะ เพราะมันคัน เราก็อยากเกาใช่มั้ย แล้วก็เป็นแผลเป็นอีกด้วย จากคุณ : donalna - [ 10 มี.ค. 48 03:30:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพิ่งเป็นตอน 27 ค่ะ ออกเยอะมาก เยอะมาก ๆ ค่ะ คือจะมีตุ่มขึ้นแทบจะทุกรูขุมขนเลย ที่บ้านเห็นแล้วกลัวมาก เพราะไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเยอะเท่านี้ ทุกวันนี้มีแผลเป็นเต็มตัวเลย เศร้ามาก เป็นจ้ำ ๆ เหมือนตุ๊กแก แม้มันจะจาง ๆ ไปแต่ก็ยังรู้สึกไม่สวยใสเหมือนก่อนเป็น หน้าก็เป็นแผลเป็น แง.... เพื่อนที่เป็นแพทย์ผิวหนังบอกว่าถ้ามาหาก่อนเป็นจะให้กินยา เพราะถ้าเป็นตอนโตแล้วมันจะออกเยอะอย่างนี้แหละ หายามาทานซะนะคะ หวังดีจริง ๆ จากคุณ : คนเคยเป็น - [ 10 มี.ค. 48 05:41:21 A:84.80.52.170 X: TicketID:077778 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรากินยา fam อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ตุ่มไม่ขึ้นเลย จากคุณ : อ้วนล่ำดำเตี้ย - [ 10 มี.ค. 48 07:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยาฆ่าเชื้อไวรัสราคาแพงมากเลย ถ้ายาในไทยประมาณ 4000 ยานอกประมาณ 7000 จากคุณ : ตาลเฉาะ - [ 10 มี.ค. 48 12:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มีคุณหมอที่เคารพ แนะนำว่าถ้ามันเริ่มมีเป็นจุดแดงๆขึ้นมา ให้ไปหาคุณหมอ แล้วฉีดยา มันจะได้ขึ้นไม่เยอะ แล้วถ้ามันขึ้นที่หน้าจะมีแผล ตอนที่มันแห้งแล้วจะคันมากๆๆ คุณหมอจะมียามาให้ทานค่ะ จากคุณ : พี่สาวเราเพิ่งเป็น (ว่าน) - [ 10 มี.ค. 48 15:22:21 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณ ทุกความเห็นมากค่ะ ไปหาหมอมาเมื่อตอนบ่าย โดยใช้สิทธิประกันสังคม หึหึ ตามระเบียบค่ะ หมอ: เป็นอีสุกอีใสเหรอ กี่วันแล้ว เรา : วันนี้วันที่ 3 ค่ะ หมอ : เหรอ อืม ไม่ค่อยมีตุ่มขึ้นนะ เรา : มันขึ้นตามตัวน่ะค่ะ ข้างนอกยังไม่ค่อยขึ้น (โชว์ที่แขน 2 ตุ่ม ให้ดู) หมอ: รู้ใช่มั้ย ว่าไม่มียากินให้หาย ต้องให้มันออกเอง เรา : เอ่อ ค่ะ หมอ: รู้จักยาเขียวมั้ย เรา : ค่ะ แต่ถ้ากินแล้วมันออกเยอะไม่ใช่เหรอคะ หมอ: อืม ก็คนโบราณเค้าว่านะ เรา : เห็นบางคนเค้าบอกให้ทา หมอ: อืม ทาก็ได้ เรา : หมอไม่แนะนำให้ฉีดยาเหรอคะ หมอ: ไม่ฉีดแล้ว เป็นแล้วไม่ฉีดแล้ว เรา : เอ่อ ต้องฉีดก่อนเป็นเหรอคะ หมอ: ใช่ เดี๋ยวหมอให้ยาแก้คัน กับ ยาแก้ปวดหัวนะ เรา : ค่ะ (คิดในใจ แค่เนี้ย) ขอใบรับรองแพทย์ด้วยค่ะ หมอ: อืม ทำงานที่ไหนล่ะ เรา : บ.... แถวบางนาค่ะ หมอ: อืม ทำงานวันไหนมั่ง เรา : จันทร์ - ศุกร์ ปกติค่ะ หมอ: งั้น หยุด พฤหัส - ศุกร์ละกันนะ ดูอาการก่อน เรา : ค่ะ หมอ: เรียบร้อย ไปรอรับยาได้เลย เรา : ขอบคุณค่ะ (แค่เนี้ย) หมดล่ะค่ะ ออกมาจากห้องหมอด้วยความงงๆ ไม่มีการตรวจใดใดทั้งสิ้น แล้วก็ได้ยามาเท่านั้น ยาเขียวก็ไม่ให้ ไปซื้อเองอีกเรา ก็สำนึกได้ว่าประกันสังคมนี่นะ คงได้เท่านี้แหละ ส่วนฝั่งที่ไม่ใช่ประกันสังคม แบ่งได้ชัดเจนนะคะ คนน้อย แค่ถุงใส่ยายังคนละเกรดเลย ได้บทเรียน 1 บท ด้วยความอยากลอง กะลังคิดว่าพรุ่งนี้เช้าๆ จะไปหาหมออีกที คราวนี้จ่ายเองก็ได้ฮ่ะ จะลองดูความแตกต่าง จากคุณ : เนปาลีที่รัก - [ 10 มี.ค. 48 16:25:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฉันเป็นตอนอยู่ ป.6 ตอนนั้นแม่ก็ห้ามกินโน้นกินนี่ ด้วยความเราก็อดกินมาหลายวันก็อยากกิน พ่อสงสาร ก็อนุญาติให้กินได้ทุกอย่าง จำไม่ได้ว่าไปกินอะไรเข้า ทำให้มันแสลง กลายเป็นว่าไม่หาย เกิดโรคอะไรซ้อน ขึ้นมาก็จำไม่ได้ เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ รู้แต่ว่าเป็น อีสุกอีใส อยู่เป็นปีๆ เลย พ่อแม่พาไปหาตั้งหลายหมอ รักษาอยู่หลายปีกว่าจะหาย แถมพอหายแล้ว ทุกหน้า หนาว มันจะขึ้นรอยแผลเป็นกลับมาให้คันยิกๆทุกปี พึ่งจะหายขาดจริงๆ ตอนทำงานนี่เอง ที่มันไม่ย้อนกลับมา ตอนหน้าหนาวอีกแล้ว ใครมาเห็นผิวสวยๆตอนนี้ จะไม่ อยากเชื่อว่า เมื่อก่อนมันดูไม่ได้เลย แผลอีสุกอีใสทั้งตัว จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 10 มี.ค. 48 22:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทำไมตอนเราเป็นหมอเค้าไม่แนะนำให้กินยาเขียวอ่ะ หมอบอกว่ายาเขียวมันไปกระตุ้นให้มันยิ่งขึ้น หมอให้ยาอะไรไม่รู้มากิน แพงนิดๆ สรุปแล้วทั้งตัวขึ้นแค่ 2 เม็ด แล้วก็หาย จากคุณ : AmiTa ShaQuiLLe - [ 11 มี.ค. 48 00:29:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนผมเป็นก็กินยาเขียวนะ กิน 3 เวลาเลย แล้วก็ห้ามกินของมันๆ ทอดๆ ห้ามแกะ ห้ามเกา อาทิตย์เดียวก็หาย ร่องรอยไม่มีปรากฏ    อ้อ ตอนตุ่มมันขึ้นอยู่ในห้องแอร์ก็ดีนะ มันจะช่วยปรับอุณหภูมิไม่ให้เหงื่อเราออก ไม่งั้นเวลาเหงื่อออกจะคันมาก จากคุณ : @Momotaro@ - [ 11 มี.ค. 48 09:25:24 ]