CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เอาบทความเกี่ยวกับ"สิว"มาฝากกันครับ

    สิว

    เป็นการอักเสบของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน ปกติไขมันที่สร้างจากต่อมจะออกมาตามเส้นขน สิวเกิดจากไขมันไม่สามารถออกจากเส้นขนได้ สิวมีหลายชนิดที่พบเสมอ มีสิวธรรมดา สิวหัวดำ สิวที่มีการอักเสบ บางรายมีตุ่มหนองร่วมด้วย

    สาเหตุของสิว

    ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้แก่

    ฮอร์โมน ร่างกายสร้างฮอร์โมน androgen(หรือที่รู้จักกันก็คือ เทสโทสเทอโรน นั่นเอง) ทำให้เกิดการสร้างไขมันเพิ่ม โดยมากฮอร์โมนจะเริ่มสร้างขณะอายุ 11-14 ปี ดังนั้นจึงพบว่าสิวเกิดมากวัยนี้ และอาจจะเป็นอยู่ 5-6 ปีก็จะดีขึ้น สำหรับผู้หญิงสิวจะเกิดมากน้อยตามประจำเดือน

    การผลิตไขมันเพิ่มขึ้น ทำให้ไขมันซึ่งออกตามเส้นผมผสมกับเซลล์ผิวหนัง และเชื้อแบคทีเรียเกิดอุดตันกลายเป็นสิว

    มีการเปลี่ยนของรากผม รากผสมเจริญเร็ว เซลล์มีการแบ่งตัวมาก และเซลล์ที่ตายก็มาก เกิดการอุดตันของขุมขน

    แบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Propionibacterium acne

    องค์ประกอบที่ทำให้สิวเป็นมากหรือน้อยได้แก่

    1. กรรมพันธุ์

    2. การทำงานของต่อมไขมัน ถ้าหน้ามันมากมีโอกาสเป็นสิวมาก

    3. อาหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิว ยกเว้นบางรายที่รับประทานอาหารแล้วมีอาการคัน

    4. อากาศ บางรายเป็นมากในฤดูร้อน บางรายเป็นมากฤดูหนาว

    5. อารมณ์เสียทำให้สิวเกิดมาก

    6. การใช้เครื่องสำอาง ทำให้เกิดสิว เช่นการใช้สบู่ ยาสระผม เครื่องแต่งหน้า ครีมบำรุงผิวก่อนนอน การเลือกเครื่องสำอางค์ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าไม่ทำให้เกิดสิว แต่ก็ควรจะระวังในการใช้ ให้ล้างเครื่องสำอางด้วยน้ำยาล้าง หรือใช้สบู่และน้ำล้างออกอย่าถูแรง

    7. การระคายผิว เช่น การถูไถ การนวดหน้า สารเคมี

    8. ยาเช่น INH, Iodides,Bromide,Steroid,ยาคุมกำเนิด testosterone ,gonadotropin, anabolic steroid เป็นฮอร์โมนที่ใช้สำหรับนักเพาะกาย,steroid ,ยากันชัก ยารักษาวัณโรค[inh],lithium

    ตำแหน่งที่พบสิว
    ส่วนใหญ่พบบริเวณที่มีไขมันมากได้แก่หน้าไหล่ หลัง หน้าอก

    การรักษาสิว

    1. งดใช้เครื่องสำอางทุกชนิด

    2. งดยาหรือครีมทาหน้าก่อนนอน

    3. ห้ามบีบหรือแกะสิวเด็ดขาด เพราะทำให้สิวลุกลาม

    4. อาหารไม่มีข้อยกเว้น

    5. ห้ามล้างหน้าหรือถูหน้าแรงๆ ให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งโดยใช้สบู่อ่อนใช้ผ้าซับเบาๆ

    6. คนที่หน้ามันให้ล้างหน้าด้วยสบู่อย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง

    7. การเลือกยาทาสิวขึ้นกับชนิดของสิวซึ่งจะกล่าวตามชนิดของสิว

    8. การเลือกยารับประทานขึ้นกับชนิดของสิวซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์

    ยารักษาสิว
    ยารักษาสิวมีทั้งชนิดทาภายนอกและชนิดรับประทาน สิวชนิดไม่รุนแรงหรือไม่มีการอักเสบมักจะใช้ยาทาภายนอก อาจจะใช้ชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดร่วมกัน ยารักษาสิวมักจะทำให้อาการดีขึ้นแต่ไม่หายขาด ยาที่ใช้รักษามีดังนี้

    lสบู่และน้ำ

    การใช้สบู่อ่อนหรือสบู่ที่เป็นกลางหรือสบู่สำหรับใช้กับเด็กล้างด้วยน้ำสะอาดวันละ 2-3 ครั้งอย่าให้มากกว่านี้เพราะจะทำให้แห้งไปและอาจจะเกิดปัญหากับผิวหนังได้ สบู่ที่ใช้ไม่ควรจะเป็นด่างมากเกินไป และไม่ควรที่จะถูแรงๆเพราะจะทำให้ผิวหนังพกช้ำและเกิดปัญหา

    Benzoyl peroxide

    เป็นชนิดครีมหรือเจล 2.5% 5% 10% เมื่อทายาไว้บนผิวหนังปริมาณเชื้อและไขมันบนผิวหนังจะลดลง ยานี้จะมีระคายเคืองต่อผิวหนังจะทำให้ผิวหนังลอกหลุดเร็วขึ้น ทำให้ปริมาณหัวสิวลดลง ในระยะแรกของการใช้ยาอาจจะทำให้ผิวหนังแดงอักเสบจึงควรจะเริ่มใช้ยาในขนาดความเข้มข้นต่ำๆ ทาระยะเวลาสั้นแล้วล้างออก เมื่อผิวหนังทนต่อยาจึงเพิ่มความเข้มข้น และทาไว้นานขึ้นจนไม่ต้องล้างออก เมื่อทาตามบริเวณลำตัวอาจจะทำให้สีเสื้อจางลง

    sqalicylic acid

    กรดนี้จะช่วยละลายขุยทำให้สิ่งสกปรกหลุดออก แต่จะไม่ช่วยในการลดการสร้างไขมัน ยานี้จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องเมื่อหยุดยาก็จะกลับเป็นใหม่

    Sulfer

    เป็นยาที่ใช้กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยมากต้องผสมกับสารชนิดอื่น เช่น alcohol,salicylic acid,resorcinol ยาชนิดนี้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แต่ยาทาส่วนใหญ่ก็มีตัวยานี้ผสม

    สำหรับสมุนไพรหรือสารธรรมชาติก็ยังไม่มีหลักฐานว่าได้ผลสำหรับยาที่ควรจะปรึกษาแพทย์ไม่ควรจะซื้อยาเองได้แก่

    ยาทา

    ยาทาที่เป็นปฏิชีวนะ

    Azelaic acid ยานี้จะลดประชากรของเชื้อ Propionibacterium และละลายขุย ยานี้ทำเป็นรูปครีม อาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือน
    erythromycin solution 1-4% ออกฤทธิ์โดยการต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ เมื่อใช้ร่วมกับ Bebzoyl peroxide จะทำให้ได้ผลดี
    Clindamycin phosphate solution 1%
    Tetracyclin เป็นยาทาตัวแรกๆที่ได้มีการนำมาใช้ทาเพื่อรักษาสิว แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมลดลงเนื่องจากผลข้างเคียงของยา
    Sulfonamide ทำเป็นรูปสารละลายซึ่งยังมีการใช้ยาชนิดนี้อยู่
    ยาทาชนิดอื่น

    อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอTretinoin เป็นยารักษาสิวที่ให้ผลค่อนข้างดีชนิดยาทาภายนอน ยาตัวนี้เป็นยาละลายขุยซึ่งทำเป็นรูปครีมหรือเจลความเข้มข้น 0.01-0.1% ยานี้จะมีอาการระคายเคืองต่อผิวหนังทำให้ผิวหนังแดง แห้ง ลอกเป็นขุยดังนั้นจึงต้องทายาในขนาดความเข้มข้นต่ำๆ เมื่อใช้ร่วมกับ Benzoyl peroxide ให้ใช้ Benzoyl peroxide ทาในตอนเช้า ส่วนวิตามินเอให้ทาก่อนนอน
    Adapalene เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ มีผลข้างเคียงเหมือนอนุพันธ์วิตามินเอ
    Tazarotene เป็นสารสังเคราะห์วิตามินเอ
    ยารับประทาน

    ยาปฏิชีวนะ

    Tetracyclin เป็นยาที่ใช้รักษาสิวตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมักจะให้ในรายที่ผู้ป่วยเป็นสิวค่อนข้างมากตั้งแต่สิวที่เป็นหนอง โดยเริ่มต้น 500-1000 มิลิกรัมต่อวัน เมื่อดีขึ้นจึงลดขนาดของยาลง และอาจจะต้องให้ยาในขนาดต่ำเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ไม่ควรให้ยานี้ในเด็กและคนท้อง
    Erythromycin สำหรับผู้ที่ใช้ tetracyclin ไม่ได้เช่น เด็ก คนท้อง คนที่แพ้ยา tetracyclin
    Minocycline Doxycycline เป็นยาสังเคราะกลุ่ม tetracycline ห้ามใช้ในคนท้อง
    ฮอร์โมน

    estrogen เป็นฮอร์โมนที่ออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนทำให้มีการสร้างไขมันลดลง แต่การใช้ต้องระวังผลข้างเคียงเช่นมะเร็งเต้านม
    ยาคุมกำเนิด นิยมใช้รักษาสิวมากกว่า estrogen เดี่ี่ยวๆเนื่องจากผลข้างเคียงต่ำกว่า อาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน คัดเต้านม การใช้ยาคุมเมื่อการรักษาวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
    Steroid

    จะใช้ในกรณีที่เป็นสิวมาก ควรจะใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะหากใช้ในระยะเวลานานจะเกิดโรคแทรกซ้อน

    Isotretinoin

    เป็นยาที่ใช้ได้ผลสำหรับสิวที่ดื้อต่อยาหรือการรักษา เหมาะสำหรับสิวหัวช้าง cystic acne ยาชนิดรับประทาน Isotretinoin ใช้รักษาสิวชนิดดื้อต่อการรักษาชนิดอื่น ยานี้จะทำให้ไขมันและเชื้อลดลงจึงไม่เกิดสิว ยานี้มีผลข้างเคียงมากจึงไม่แนะนำให้ซื้อรับประทานเอง ผลข้างเคียงที่พบได้คือปากแห้ง ผิวแห้งแตก ผมร่วงปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ สำหรับคนท้องก็อาจจะทำให้เด็กเกิดมาพิการและแท้ง ผลข้างเคียงอื่นๆที่พบได้แก่ คลื่นไส้อาเจียนปวดข้อปวดกระดูก ปวดหัว การใช้ยานี้ต้องคุมกำเนิด และหากต้องการตั้งท้องต้องหยุดยานี้ 1 เดือน


    ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิว

    สิวมิใช่เกิดจากความสกปรกของหน้าร่วมกับความมันของหน้า แต่สิวเกิดจากการสะสมของไขมัน เซลล์ตายของผิวหนังและสิ่งสกปรก วิธีที่ถูกต้องให้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่อ่อนและซับเบาๆด้วยผ้า

    สาเหตุของสิวไม่ใช่เกิดจากอาหารเช่นช็อกโกเลต แต่แนะนำให้กินอาหารที่มีคุณภาพ

    ความเครียดก็ไม่ใช่สาเหตุของสิว แต่คนที่เครียดมากๆและได้ยาคลายเครียดอาจจะทำให้เกิดสิวจากยา

    การรักษาสิวต้องใช้เวลา หากยาที่คุณใช้รักษาเองไม่หายควรที่จะปรึกษาแพทย์

    สาเหตุของสิ่วส่วนใหญ่เกิดจากเครื่องสำอาง เช่น makeup ครีมรองพื้น moisturizers จะทำให้มีการอุดต่อมขุมขนทำให้เกิดสิว

    สิ่งแวดล้อมก็มีส่วนทำให้เกิดสิวเช่น ละอองไขมันจากการทำอาหาร น้ำมันเครื่องเป็นต้น

    สิ่งที่ต้องระวังในการรักษาสิวสำหรับคนท้อง

    1. อนุพันธ์ของวิตามินเอทั้งชนิดกินและทา เพราะอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์
    2. ยาคุมกำเนิด
    3. ยาปฏิชีวนะกลุ่ม tetracyclin
    ****************************************************
    บทความจาก http://www.siamhealth.net/Health/Photo_teaching/acne.htm

    ปรับปรุงและแก้ไขโดย: ค้างคาวกินผักบุ้ง

    จากคุณ : ค้างคาวกินผักบุ้ง - [ 25 มี.ค. 48 08:37:51 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป