ความคิดเห็นที่ 1 ตอบจากประสบการณ์ที่น้าและป้าที่บ้านเคยผ่านะคะ หมอจะแนะนำให้ตัดออกหมด อาจจะรังไข่ด้วย กันไว้ดีกว่าแก้น่ะค่ะ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะกลับมาเป็นอีก ถ้าตัดรังไข่ก็อาจต้องกินฮอร์โมนทดแทน แต่ถ้าอายุมากแล้ว หมออาจไม่ให้กิน เพราะถ้ากินก็จะเสี่ยงกับมะเร็งเต้านมอีก แนะนำให้กินถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทดแทน เพราะมีฮอร์โมนเพศหญิงตามธรรมชาติอยู่ค่ะ ส่วนผลเสียอื่นๆ ไม่เห็นมีนะคะ เค้าผ่ามาหลายปีแล้ว ก็ยังแข็งแรงดี จากคุณ : ตุ้งมิ้งโรล - [ 5 เม.ย. 48 17:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยผ่ามาเมื่อ 3 ปีที่แล้วค่ะ ทั้งมดลูกและรังไข่ ตอนที่ผ่าอายุยังไม่ถึง 50 ด้วยค่ะ (ตอนนี้ 50 แล้วค่ะ) คุณหมอให้ทานฮอร์โมนวันละ 1 เม็ด ตอนนี้ยังทานอยู่คงต้องทานอีกหลายปีค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าไม่ทานจะทำให้กระดูกบางเร็วขึ้น และยังเสี่ยงกับโรคหลอดเลือดตีบด้วย ผลเสียของการผ่าก็แค่เรื่องทานฮอร์โมนนี่ล่ะค่ะ แต่ถ้าผ่ามดลูกอย่างเดียว ก็ไม่ต้องทานฮอร์โมน ผ่าแล้วสบายดีค่ะ แถมสบายตัวไม่ต้องห่วงเรื่องมีประจำเดือนด้วยค่ะ จขกท ไม่ต้องกังวลนะคะ ถ้าจำเป็นต้องผ่าก็ผ่าเถอะค่ะเพื่อความปลอดภัย ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ผ่ามาแล้วค่ะ - [ 5 เม.ย. 48 20:59:01 A:210.203.179.64 X: TicketID:072646 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีเนื้องอก 3.5 เซ็นเหมือนกันค่ะ อายุ 43 แล้ว คุณหมอ ยังไม่ให้ผ่าออก เพราะไม่อันตรายอะไร ออกกำลังกาย บ่อยๆ ไม่ปวดท้องตอนมีรอบเดือนแล้วค่ะ กลัวผ่าเหมือนกันค่ะ ..แต่ร่างกายแข็งแรงขึ้น จึงชะลอไม่ผ่าไปก่อน จะเป็นอะไรมั๊ยเนี่ย.. จากคุณ : jariya ka. - [ วันจักรี 21:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อเดือนต.ค ปีที่แล้ว ไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ก็เจอเนื้องอกที่ปากมดลูก 5.6 ซม. หมอก็ยังไม่ให้ผ่า แต่ให้มาเช็คอีก 6 เดือนต่อมา  วันนี้ไปเช็คแล้วอัลตราซาว์ด ปรากฎว่ามันโตขี้นเป็น 6.7 ซม. หมอบอกว่าเอาออกเถอะเพราะมันโตขนาดเท่ากับเราท้อง 3 เดือนเชียวนะ โห 6.7 ซม.เนี่ยมันเท่ากำปั้นเชียวนะ หมอก็บอกว่ามี 3 วิธี 1. ตัดเฉพาะเนื้องอกอย่างเดียว แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นอีกได้ 2. ตัดเฉพาะเนื้องอกและมดลูก เก็บรังไข่ไว้ ให้ผลิตฮอร์โมน ก็จะทำให้ไม่มีประจำเดือนแต่ ก็ไม่ต้องกินฮอร์โมนเหมือนกัน ข้อเสีย อาจมีโอกาสเกิดเนื้องอกที่รังไข่ได้เหมือนกัน 3. ตัดหมดทั้งเนื้องอก ,มดลูกและรังไข่  ไม่ต้องมีปัญหาเนื้องอกที่มดลูกอีก  แต่ต้องกินฮอร์โมน ซึ่งไม่แน่ว่าถ้าเรามีเซลล์มะเร็งที่ส่วนอื่นเช่นหน้าอก ก็อาจไปก็กระตุ้นให้โตขึ้นได้    หมอบอกว่าถ้าไม่คิดจะมีบุตรแล้วหมอแนะนำให้ตัดทั้งหมดตามข้อ 3 ดีกว่า เพราะอายุมากแล้วอีกไม่กี่ปีก็จะหมดประจำเดือนแล้วเข้าสู่วัยทอง เพียงแต่ถ้าเราผ่าตัดไปก็จะเข้าสู่วัยทองเร็วขึ้นเท่านั้นเอง สรุปแล้ว หมอให้ไปตัดสินใจดูข้อดีข้อเสียเอง  เลยคิดว่าจะลองไปตรวจอีกโรงพยาบาลประกอบการตัดสินใจดีไหม  แล้วควรจะบอกหมอไหมว่าเราไปตรวจจาก รพ. แรกมาแล้วได้ผลอย่างเนี่ย แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 48 22:30:35 จากคุณ : Bbank - [ วันจักรี 22:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ชาสมุนไพรเจสันวินเตอร์ Dr.Inaba H. ประเทศญี่ปุ่น ให้ชื่อชาเจสัน วินเตอร์ ว่า " Functional Food" หรืออาหารที่มีหน้าที่สำคัญในร่างกาย เพราะว่า 1. ป้องกัน ร่างกายทางชีวภาพ เช่นป้องกันการเกิดมะเร็งโดยผ่านการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย 2. ป้องกัน โรคหรือภาวะผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง หรือ เบาหวาน 3. ป้องกัน การกลับมาเป็นโรคใหม่ เช่น ป้องกันไม่ให้ระดับคลอเลสเตอรอลสูง 4. ควบคุมจังหวะ หรือกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย โดยการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง 5. ชะลอความแก่ โดยผ่านขบวนการการป้องกันการเกิดปฏิกิริยา อ๊อกซิเดชั่น ชาเจสันวินเตอร์ จึงเหมาะมากสำหรับคนในปัจจุบันที่มีความสนใจในการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น (Health Concious Generation) จากคุณ : ลุงแดง - [ 8 เม.ย. 48 08:28:41 A:61.90.68.31 X: TicketID:094459 ]

ความคิดเห็นที่ 6 - อายุ 50กว่าปี ใกล้จะหมดประจำเดือนแล้ว ถ้าไม่มีอาการเช่น ปวดท้อง ประจำเดือนมามาก ปัสสาวะบ่อย หรือก้อนเนื้องอกโตเร็วส่วนใหญ่แพทย์จะไม่แนะนำให้ตัดมดลูก เพราะหลังประจำเดือนหมด เนื้องอกจะเล็กลงเองเนื่องจากขาดฮอร์โมนไปเลี้ยง - เนื้องอกไม่ได้สัมพันธ์กับประวัติมะเร็งในครอบครัว - ผลเสียของการตัดมดลูก คือ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด หรือการดมยาสลบ ปัจจุบันค่อนข้างปลอยภัย ส่วนผลเสียอื่น บางคนอาจมีปัญหาเรื่องมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่ไม่มีความต้องการทางเพศ แต่อาจเป็นจากช่องคลอดสั้นลง แต่มีเพศสัมพันธ์จะทำให้ช่องคลอดยาวขึ้นได้ บางคนรู้สึกว่าการที่มีปากมดลูกจะรู้สึกดีกว่าเวลามีเพศสัมพันธ์ จากคุณ : keng - [ 8 เม.ย. 48 20:41:10 A:172.29.7.104 X:203.170.234.8 TicketID:003395 ]