ความคิดเห็นที่ 1 ขอเพิ่มอีกนิคครับ ขออธิบายกระบวนการฟ้องร้องเพิ่มเติมครับ หากต่อมามันส่งหมายศาลมาฟ้องที่บ้าน ก็ขอให้เราเก็บเอกสารตัวแบบฟอร์มที่เราขอยกเลิกไปแล้วไว้ให้ดีครับ เอาไว้ใช้เพื่อยืนยันกับศาลว่าเราได้ยกเลิกไปแล้ว แต่มันไม่ยอม ซึ่งผลก็คือ มันจะไม่ได้เงินจากเราซักแดงเดียวครับ แต่ส่วนเงินที่เราได้จ่ายล่วงหน้าไปสำหรับสองเดือนสุดท้าย เราจะไม่ได้คืนเท่านั้นเองครับ ช่างมันอย่าไปแคร์ครับ เราถือว่าฟาดเคราะไป แต่จริงๆแล้วเราก็ร้องเรียน สคบได้นะครับ ว่าเป็นข้อสัญญาไม่เป็นธรรม ซึ่งตรงนี้หากใครอยากได้เงินคืนก็เขียนเรื่องราวทั้งหมดและส่งไปที่กองสัญญา ของทาง สคบ เค้าครับ เค้ามีหน่วยงานรับเรื่องราวร้องทุกข์อยู่แล้วครับ ยังไงก็ขอให้โชคดีอีกครั้งครับ หากใครมีปัญหาอยากเเลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็ลองเเอดมาทาง msn ที่ dackyman007@hotmail.com ถ้าว่างก็ยินดีให้คำปรึกษาครับ จากคุณ : The Rosenberg - [ 3 มิ.ย. 48 14:33:01 A:61.90.45.235 X: TicketID:032784 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากครับ ไอเดียบรรเจิดจริง ๆครับผม อิอิ จากคุณ : พีจัง (พีจังคับ) - [ 3 มิ.ย. 48 14:53:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถามเพิ่มเติมนิดนะคะ สมมุติว่าถ้าทำแบบนั้นไปแล้วเกิดมีการฟ้องร้องขึ้นมาจริงๆ เค้าจะถือว่าสัญญานั้นไม่มีผลบังคับ เนื่องจากยังไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรรึเปล่าคะ เหมือนกับว่าทางเค้ายังไม่รับทราบอะไรประมาณนี้น่ะค่ะ จากคุณ : viee - [ 3 มิ.ย. 48 15:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อ่านแล้วเซ็งเลย เพื่อนผมเล่นที่ cfc แต่มันไม่มีบัตรเครดิต มันเลยขอมาตัดที่บัตรเครดิตผมเนี่ย ทุกเดือนเลย ต่อไปถ้าเกิดมันเลิกเล่นเนี่ย...ผมจะซวยไม๊เนี่ย จากคุณ : BSF (BIG SUR) - [ 3 มิ.ย. 48 16:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ต้องอะไรทั้งนั้นแหละครับ ฟิตเนตชั่วอย่างนี้ ทางที่ดี อย่าไปข้องแวะกับมันหนะดีที่สุด ใครที่เป็นเมมเบอร์อยู่แล้ว ก็ซวยไป ใครที่คิดว่ากำลังจะไปเป็นเมมเบอร์ ก็เลิกคิดซะ เซลผู้ชายคนหนึ่งที่นี่ เช้าวันก่อน โดนเตะเข้าไป 2 ป้าบ โดยเมมเบอร์ผู้เหลืออด ปฏิบัติการ 10 วิ หายจ้อย จากคุณ : เกลียดเซลที่นี่ - [ 3 มิ.ย. 48 17:14:04 A:202.133.163.101 X: TicketID:088319 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ คคห. 3 คงยังอ่านไม่ละเอียดน่ะครับ เขาอธิบายไว้ชัดเจนเลยนะครับ ตั้งแต่การหาพยานยืนยัน เก็บสำเนาไว้ ถ่ายรูปขั้นตอนการยื่นเรื่องขอยกเลิก ถ่ายวีดีโอไว้ท่าจะดีนะครับนี่  :) จากคุณ : aston27 - [ 4 มิ.ย. 48 01:26:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดันๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : พงศ์อมร คุ้มคลั่ง - [ 4 มิ.ย. 48 02:30:33 A:58.11.104.48 X: TicketID:089860 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โปรดระวังจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญา เนื่องจากแม้สัญญาจะเลิกกันก็ตาม แต่ถือได้ว่าเป็นการผิดสัญญาเนื่องจากบอกเลิกสัญญาโดยไม่ชอบ ด้วยความเคารพ ปล.  เป็นสมาชิก CF คนหนึ่งเหมือนกัน แต่กลัวเพื่อนๆจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จึงขอเตือนให้พึงระวังประเด็นนี้ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 48 13:40:33 จากคุณ : ไม่มีใครเหมือนเรา - [ 4 มิ.ย. 48 13:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่นี่ทำไมเรื่องเยอะจัง มันมีอะไรดีนักหรือถึงอยากเป็นสมาชิกกันจังแม้แต่เด็กรุ่นน้องที่ออฟฟิศก็ไปสมัคร ทั้งๆที่ที่ทำงานก็มีฟิตเนส โยคะก็มีครูมาสอนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง แอโรบิคก็มี แค่เดือนละ 200 เอง สงสัยมันรู้ว่าคนไทยสุภาพไม่โวยวายมั๊ง ถ้าเป็นเมืองนอกจะกล้าทำแบบนี้มั๊ย จากคุณ : walkingtall - [ 5 มิ.ย. 48 10:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอโทษนะครับ คุณความเห็นที่แปด วิธีการบอกเลิกสญญาของผมนี่ ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการครับ แม้เขาจะบอกว่าห้ามยกเลิกก่อน12 เดือน ก็ตาม แต่เราก็มีสิทธิที่จะบอกเลิกได้อยู่ดีครับ เพราะสัญญาที่ทางฟิตเนสใช้นี้เรียกตามกฎหมายได้ว่าเป็นสัญญามาตรฐาน ซึ่งเขียนไว้แบบเดียวกันหมด ซึ่งถ้าส่วนใดไม่เป็นธรรม เราก็สามารถไม่ปฏิบัติได้ครับ โดยเฉพาะการที่เขาเขียยนสัญญาบังคบเราเล่น ก็เห็นได้อย่างชัดเจนถึงเจตนาของเขาที่จะพึงมุ่งแต่รายได้โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้บริโภค อย่างกรณีที่ผ่านไปได้ด้วยดีข้างต้น ถ้าไม่มีการนำมาโพสกระทู้นี้ก็คงไม่ได้รับการแก้ปัญหาหรอกครับ เพราะยังมีกรณีของผมและคนอื่นๆอีกมากมายที่โดนกระทำแบบไม่สนใจใยดี ผลที่ได้รับก็คือต้องหาทางออกครับ หนามยอกเอาหนามบ่ง คนที่เดือดร้อนก็ไม่ใช่ใครครับ ก็เซลไงครับ หัวหน้าเซลด้วย ร้อนไปถึง ปัญหาด้านการเงิน ซึ่งหากเกินการรวมตัวกันจนต่อต้านการข่มเหงเก็บเงินได้ก็ถงจุดจบครับ กรณีที่ผมแนะนำทั้งหมดนี้ ขอยืนยันว่าใช้ได้ผล 100 เปอเซ็นต์ครับ ส่วนใครที่กลัวว่าจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญานั้น ผมบอกได้เลยครับว่า ฟิตเนสฟ้องเราได้แน่ แต่สิ่งที่เขาจะได้รับจากการฟ้องร้องก็คือเขาแพ้คดีครับ เพราะเราเลิกสัญญาถูกต้องตามกฎหมาย และการบอกลิกสัญญาของเรานั้นถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนข้อตกลงว่าต้องเล่น 12 เดือนนั้นก็ใช้บังคับไม่ได้ เพราะ พรบ. ข้อสัญญาไม่เป็นธรรมได้บัญญัติไว้ชัดเจนถึงเรื่องข้อสัญญาในสัญญามาตรฐานที่ไม่เป็นธรรมนั้น ไม่สามารถใช้บังคับได้ครับ ซึ่งหากเขาฟ้องเรียกค่าเสียหาย เขาก็ต้องพิสูจน์ครับ ทีนี้ก็ต้องมาพิสูจน์ว่าเขาเสียหายอะไร ก็ตอบได้เลยครับว่าไม่ได้เสียหาย เพราะเราไม่ได้ใช้บริการจากเค้าเลยในฐานะสมาชิกนับแต่ยื่นใบยกเลิกสมาชิก ซึ่งกรณีนี้มันต่างจากกรณีโทรศัพท์ของฮัทช์ ซึ่งถ้าเรายกเลิกก่อน เค้าก็อาจได้เงินจำนวนหนึ่งเพราะการเปิดเบอโทรศุพท์เบอร์หนึ่งนั้นต้องใช้เงินถึงเกือบหนึ่งหมื่นบาท แต่กรณีของเรานี้ เขาไม่ได้เสียค่าอะไรเลยครับที่จะลงทุนไว้สำหรับเรา ค่าเครื่องอุปกรณ์นั้นก็ไม่ได้เสื่อมหรือเสียหายถ้าไม่มีเราเล่นครับ ดังนั้นถึงแม้ เค้าจะฟ้องเรา เค้าก็ไม่ได้อะไรครับ ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ขอย้ำว่าไม่ได้แม้แต่บาทเดียว แถมศาลจะต้องสั่งยกฟ้องด้วยซ้ำไปครับ เพราะฟิตเนสไม่สามารถหาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการยกเลิกสมาชิกของเราได้ ตรงนี้ขอให้ทุกท่านเบาใจได้ ใครจะใช้วิธีการของผมนั้น ปลอดภัยแน่นอนครับ ส่วนใครที่เป็นเซลล์ก็ระวังตัวไว้ให้ดี ถึงเวลาเวรกรรมมันจะตามทันแน่นอน โกหกพกลมสารพัด จนหลายคนหลวมตัวไปเล่น สุดท้ายทำตามที่ตกลงกันไม่ได้ก็หนีหน้าหายไป จนผมต้องแก้เผ็ดด้วยวิธีการนี้เอง ยังไงก็แล้วแต่ ก็ขอสาปแช่งเซลล์โฉดทุกคนที่ทำเลวต่อลูกค้าให้ได้รับกรรมสาสมที่สุด อ่านแล้วก็ขอให้สำนึกถึงบาปบุณคุณโทษด้วย ใครดีก็ดีไป แต่ใครเลวผมไม่เอาไว้ครับ จากคุณ : The Rosenberg - [ 7 มิ.ย. 48 01:36:20 A:61.91.91.166 X: TicketID:032784 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เรียน เจ้าของกระทู้ ตามที่ท่านกล่าวอ้างในความคิดเห็นที่ 10 ข้างต้นนั้น เสมือนว่าท่านเคยถูกฟ้องคดีในกรณีเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นขอเลขคำพิพากษาคดีแดงด้วย แต่หากเป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆตามทฤษฎีกฎหมายที่ท่านร่ำเรียนมาด้วยความร้อนวิชา โปรดตระหนักด้วยว่า พรบ.ว่าด้วยข้อสัญญาไม่เป็นธรรม ให้ดุลพินิจแก่ศาลในการบังคับให้เท่าที่เป็นธรรม เพราะฉะนั้นแล้ว ท่านเพียงแต่คาดเดาใช่หรือไม่ ว่าศาลจะตัดสินอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่ใช่ก็ได้ ศาลอาจพิพากษาให้ท่านชดใช้ค่าเสียหายเต็มตามฟ้อง หรือชดใช้ค่าเสียหายเพียงบางส่วน หรือตัดสินให้ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายเลยก็ได้ ซึ่งเป็นดุลพินิจของศาล ตามข้อเท็จจริงในคดีแต่ละเรื่องไป ซึ่งตรงนี้ยังเป็นประเด็นที่สามารถถกเถียงกันได้อยู่ จึงถือว่ายังมีความเสี่ยง ดังนั้นการที่ท่านแนะนำบุคคลทั่วไปเยี่ยงนี้ หากพวกเขาถูกฟ้องและถูกตัดสินให้ต้องชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ย ท่านจะรับผิดชอบแทนพวกเขาได้ไหม ทั้งนี้ เข้าใจว่าท่านหวังดี แต่กรุณารับผิดชอบต่อสังคมด้วย เพราะนั่นคือสิ่งที่นักกฏหมายที่ดีพึงมี ด้วยความเคารพอย่างสูง จากคุณ : ไม่มีใครเหมือนเรา - [ 7 มิ.ย. 48 23:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องขอโทษคุณความเห็นที่สิบด้วยนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะแก้ต่างอะไรทั้งนั้นกับคำพูดคุณข้างต้น แต่สิ่งที่คุณควรจะรู้ก็คือ ผมไม่ใช่เต่าหัวหด ไม่กล้าหาทางออก คุณเป็นนักกฎหมายก็ควรจะรู้ว่า สิ่งที่คนอื่นเขาไม่รู้ก็คือข้อต่อสู้ สิ่งที่เรารู้และควรจะนำไปเป็นแนวทางก็คือทางออก หากเราไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย ซึ่งแม้วิธิการของผมจะเสี่ยง ซึ่งมันขึ้นอยู่กับศาลจะพิพากษาตามที่คุณบอก แต่ด้วยความเคารพ หากคุณได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ของเหตุการที่เกิดขึ้นทั้งหมด คุณไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรทั้งนั้นแล้วครับ ข้อเท็จจริงของผมที่มีก็เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจกลับไปกลับมาได้ และหากคุณเป็นนักกฎหมายที่เข้าใจในข้อกฎหมายจริง เน้นว่าข้อกฎหมาย สิ่งที่คุณตอบคงไม่ต่างจากสิ่งที่วิธีที่ผมใช้แล้ว ผมอาจใช้เทคนิคที่ไม่เหมือนใคร แต่มันลอจิกหรือไม่ ลองคิดดู เพราะฉะนั้น หากคุณคิดว่าข้อกฎหมายที่คุณรู้มันแตกต่างจากผม ก็ขอให้ลองพิจารณาใหม่อีกครั้ง ว่าผมลำดับขั้นตอนผิดตรงไหน อย่างไร ซึ่งเรื่องของผม แม้จะอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล แต่ข้อต่อสู้ของผม มันมีน้ำหนักกว่าหรือไม่ ขอให้ไตร่ตรองดู ผมไม่ได้ต้องการจะเปรียบหรือวัดความรู้กับใคร แต่ขอให้คิดในแนวทางสร้างสรรค์ เพื่อคนที่เขาเดือดร้อนจะดีกว่า ยามจำเป็นก็ต้องเอากฎหมายมาใช้เอง หากคุณทำได้ดีกว่าผมก็บอกมา พร้อมจะยอมรับ แต่ถ้าเหตุผลคุณฟังไม่ขึ้น กลัวปัจจัยแวดล้อมที่คิดขึ้นแบบลบ ก็จะนำแต่ความมัวหมองในความรู้ที่ร่ำเรียนมาเท่านั้น ด้วยความเคารพเช่นกัน จากคุณ : The Rosenberg - [ 9 มิ.ย. 48 16:53:33 A:210.246.160.11 X: TicketID:032784 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอถามในถานะที่ผมไม่มีความรู้ด้านกฎหมายมาก่อนครับ ถ้าหากว่าคุณ RSB พูดถูกต้องเรื่องการบังคับสัญญาที่ไม่เป็นธรรม อย่างนี้ผู้ที่เสียหายจาก CF จะสามารถรวมตัวกันฟ้องเรียกค่าเสียหายได้หรือไม่ครับ? เพราะการฟ้องถ้าฟ้องเป็นรายบุคคลไป คาดว่าผู้ฟ้องจะไม่ได้อะไรนัก รวมถึง CF ก็ไม่น่าที่จะสนใจนักด้วย แต่ถ้าสามารถรวมตัวผู้ที่เสียหายจาก CF มาฟ้องในคราวเดียวกันได้ (ซึ่งผมคาดว่าน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 50 - 100 คน) แบบนี้น่าที่จะทำให้ CF ตระหนักถึงมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับเค้าได้ ซึ่งเค้าจะได้นำไปปรับปรุงบริการต่อไป กรณีดังกล่าวนี้จะสามารถทำได้หรือไม่ประการไดครับ? รบกวนคุณ RSB และทนายผู้รู้ทั้งหลายช่วยแจ้งให้ทราบด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Top27 - [ 10 มิ.ย. 48 14:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แล้วถ้าไม่ได้ทำหนังสือยกเลิกสมาชิก แต่ยกเลิกบัตรเครดิตไปเลยละคะ จะได้ไม๊ จากคุณ : เหยื่อเหมือนกัน - [ 10 มิ.ย. 48 17:30:07 A:148.177.241.8 X: TicketID:101294 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบความเห็นที่ 13 นะครับ จริงๆแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นนี้ เป็นกรณีของสัญญาที่เป็นเอกเทศสัญญาครับ สัญญาทุกฉบับที่ได้ทำนั้น เป็นสัญญาเฉพาะบุคคลซึ่งทำเป็นรายๆไป และในขณะนี้ กฎหมายไทย ยังไม่มีการดำเนินคดีแบบกลุ่มแบบสหรัฐอเมริกา ซึ่งคุณอาจเคยดูภาพยนตร์เรื่อง เอรินเบอโควิคใช่ไหมครับ แต่กรณีนี้ มันต่างออกไปครับ การดำเนินคดีแบบกลุ่มในลักษณะสัญญาเช่นนี้ ตามกฎหมายไทยแล้ว ไม่สามารถฟ้องรวมกันมาได้ เพราะมูลแห่งหนี้นั้นเกิดขึ้นต่างเวลากัน และแม้จะส่งผลร้ายแก่ผู้บริโภคเช่นเดียวกัน แต่ด้วยความรู้ที่ด้อยปัญญาของผมก็ตอบได้ว่า ในวิธีพิจารณาความแพ่งของไทยยังไม่เปิดให้มีการฟ้องคดีแบบกลุ่มครับ แต่คิดว่าในอนาคตอาจเกิดขึ้นได้แน่ครับ แต่คงต้องใช้เวลาพัฒนากฎหมายอีกหลายปีครับ ในทางตรงกันข้าม ในเมื่อเราหาทางออกโดยการใช้กระบวนการทางศาลแบบกลุ่มไม่ได้ แต่ประเทศเรายังมีที่พึ่งครับ นั่นคือ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคครับ ที่นี่จะมีกองที่ตรวจเกี่ยวกับสัญญาที่เอาเปรียบครับ ซึ่ง กระบวนการนี้ ไม่มีข้อยุ่งยากครับ สะดวกและรวดเร็วกว่ากระบวนการทางศาลมากครับ เพราะหากใช้กระบวนการทางศาลโดยยื่นฟ้องเองคงกินเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปีครับ แต่ถ้าเป็นกรณีร้องเรียนผ่าน สคบ ก็จะย่นระยะเวลาไปมากครับ ทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆเราก็ไม่ต้องเสียครับ แค่ส่งเรื่องราวของคุณไปที่กองสัญญาของ สคบ ครับ โดยวิธีการนี้ หากเรารวมตัวกันร้องเรียน ก็จะมีประโยชน์มากครับ เพราะเนื้อหาต่างๆ จะถูกประมวลรวมเป็นข้อเท็จจริงเข้าด้วยกัน และหากมีปริมาณที่มาก นั่นก็หมายถึง น้ำหนักในการต่อสู้เรียกร้องการเอารัดเอาเปรียบจากสัญญาก็มีมากครับ เรามีโอกาสที่จะเป็นอิสระมากกว่าการดำเนินคดีทางศาล ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายพอสมควร โดยเฉพาะค่าทนาย อย่างไรก็ตามหากมีผู้สนใจ เราก็รวมตัวกันได้ครับ ผมยินดีที่จะให้ควงามช่วยเหลือด้านกฎหมายสุดความสามารถครับ ส่วนตอบความเห็นที่ 14 นะครับ กรณีหากหนี โดยการเลิกบัตรเครดิตอย่างเดียวนั้น ไม่อาจหลุดพ้นจากความรับผิดได้ครับ คุณยังเป็นคู่สัญญากับฟิตเนสครับ ยังไงก็ลองส่งจดหมายบอกเลิกสัญญาตามที่ผมแนะนำข้างต้นนะครับ หรือไม่ก็ขอมันกรอกแบบฟอร์มก็ได้ครับ ซึ่งตัวสำเนาที่ผมเก็บไว้รู้สึกว่าจะเป็นสีเหลืองนะครับ ตัวจริงส่งให้มันไปครับ เราเก็บแต่กอบปี้ไว้ก็พอ ถ้าฟิตเนสไม่ยอมเซ็นรับก็ไม่เป็นไรครับ เราแค่ส่งให้เฉยๆ และเก็บตัวสำเนาไว้ก็พอครับ ถึงเวลาก็ใช้ต่อสู้ในชั้นศาลได้ครับ ขอให้โชคดีทุกท่านครับ จากคุณ : The Rosenberg - [ 10 มิ.ย. 48 20:32:12 A:210.246.160.11 X:202.28.88.253 TicketID:032784 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้ดีมากครับ จากคุณ : Top27 - [ 11 มิ.ย. 48 12:37:15 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พี่คะ แล้วที่พี่บอกเลิกสัญญาไปแล้ว เรามีสิทธิบอกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวเหรอคะ คือเท่าที่ทราบมาเราจะบอกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวไม่ได้หากไม่มีสิทธิตามข้อตกลงหรือตามกฎหมายไม่ใช่หรือคะ แล้วเรามีสิทธิอะไรที่จะบอกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวเหรอคะ ใช้กฏหมายใดอ้างคะ ช่วยบอกด้วยนะคะ เผื่อว่าต้องมีการฟ้องร้องจริงๆจะได้เตรียมแก้ต่างถูก เพราะที่เห็นในข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญา มีตั้งหลายข้อที่บอกว่าห้ามเลิกสัญญาเช่น ข้อ 6. แบบกำหนดเวลาขั้นต่ำ (หนูเป็นสมาชิกแบบนี้อยู่ค่ะ) กำหนดไว้ว่าต้องเป็น 12 เดือน ในสัญญาบอกว่าจะเลิกได้ต่อเมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวและทำตามวิธีการที่เค้ากำหนด และต้องได้รับอนุมัติจาก CFC ข้อ 8. จะยกเลิกสมาชิกภาพไม่ได้เว้นแต่กรณีทุพพลภาพและต้องมีใบรับรองแพทย์หรือ เข้ารับราขการทหารโดยมีคำรับรองจากส่วนราขการนั้นหรือมีเหตุผลอื่นอันCFCเห็นว่าเป็นเหตุอันสมควร ข้อ 17. สมาชิกมีสิทธิยกเลิกสมาชิกภาพได้ภายในสามวันหลังจากการเซ็นสัญญาการสมัครสมาชิกโดยต้องทำตามวิธีการตามที่เค้ากำหนดไว้(CFCจะไม่รับการบอกเลิกด้วยวาจา) เป็นต้น ทีนี้ประเด็นคือ 1.เราจะเอาสิ่งใด ข้อสัญญาข้อไหน ข้อกฎหมายอะไร สิทธิอะไร เพื่อใช้ในการบอกเลิกเค้าโดยที่เค้าไม่ได้ตกลงอนุมัติหรือยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรคะ 2. แล้วถ้าเราใช้ข้อ 15. อ้าง คือกรณีที่ข้อกำหนดใดของสัญญาไม่มีผลบังคับใช้เนื่องจากคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานรัฐบาลใด ให้บทบัญญัติที่เหลือของสัญญามีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ ซึ่ง(ถ้าเข้าใจไม่ผิด) ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งของศาลหรือหน่วยงานรัฐใดออกมายกเลิกข้อหนึ่งข้อใดของสัญญา สัญญานั้นก็ยังคงมีผลผูกพันพี่อยู่ใช่ไหมคะ 3. และในกรณีที่มีคำสั่งยกเลิกข้อกำหนดและเงื่อนไขของสมาชิกภาพข้อใดข้อหนึ่งเช่นสามข้อข้างบน(เรื่องการบอกเลิกสัญญา) ก็ต้องกลับไปใช้หลักกฎหมายทั่วไปเรื่องการบอกเลิกสัญญา คือ คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาฝ่ายเดียวได้ หากไม่มีข้อตกลงระบุไว้ในสัญญาหรือไม่มีสิทธิบอกเลิกตามกฎหมาย หรือจะบอกเลิกฝ่ายเดียวได้ต่อเมื่อคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา ไม่ใช่เหรอคะ แล้วกรณีที่พี่ทำอยู่มันเป็นการบอกเลิกฝ่ายเดียว แปลว่า CFC ทำอะไรที่เป็นการผิดสัญญากับพี่คะ เพราะเท่าที่อ่านมาพี่ก็ไม่ได้บอกไว้ถึงส่วนนี้ คือ หนูไม่อยากเสี่ยงถ้ายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนและเพียงพอ เผื่อถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาจริง ๆ จะได้เตรียมตัวไว้ก่อน และที่โพสต์มาไม่ได้จะแก้ต่างให้ CFC แต่เราก็ต้องอุดช่องโหว่ของเราทุก ๆ เรื่องใช่ไหมคะ จากคุณ : เราเหมือนเธอ - [ 12 มิ.ย. 48 00:12:24 A:58.8.155.128 X: TicketID:101412 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เสริมนิดนึงนะคะ ที่ยกเลิกบัตรกันแล้วไม่ไปใช้บริการแล้วก็ไม่จ่ายเงินรายเดือนโดยที่สัญญาไม่ได้ยกเลิก แล้ว CFC ก็ส่งจดหมายมาทวง เค้าอาจรอให้เรามียอดหนี้สะสม แล้วค่อยฟ้องทีหลังรึเปล่า เพราะเราก็ยังมีสถานภาพเป็นสมาชิกอยู่ เรื่องนี้เกิดกับพี่มากี่เดือนแล้ว และเหลืออีกกี่เดือนจะครบ 12 เดือนตามสัญญา อีกเรื่องคือ เค้าอาจไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายเรา แต่ฟ้องให้เราปฏิบัติตามสัญญาแทนก็ได้นี่คะ เราก็ยังไม่หลุดอยู่ดี จากคุณ : เราเหมือนเธอ - [ 12 มิ.ย. 48 01:35:58 A:58.8.155.128 X: TicketID:101412 ]