ความคิดเห็นที่ 1 ควร และไปบำบัดจิตอย่างจต่อเนื่อง จากคุณ : mrs.night owl - [ 3 มิ.ย. 48 22:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องบาปคงบาปแน่นอนค่ะ ไม่อยากให้เกิดปัญหาต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเองค่ะ จากคุณ : ปุ้ม หญิง - [ 3 มิ.ย. 48 22:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าทำเลย ยกให้เป้นลูกบุญธรรมของพ่อแม่ตัวเองดีกว่า รึยกให้คนอื่นก็ได้ ในความเห็นส่วนตัวนะคือ ฆ่าคนเนี่ย บาปสุดแล้ว คลอดแล้วทิ้งให้คนอื่นเลี้ยง ยังบาปน้อยกว่านะ (ถึงจะโดนด่าว่าแม่ใจยักษ์ก็เหอะ) จากคุณ : ตะวันยิ้ม :-) - [ 3 มิ.ย. 48 22:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ให้คนอื่นเลี้ยงเป็นกานยกภาระให้คนอื่นรึป่าวหละค่ะ จากคุณ : hong_12 - [ 3 มิ.ย. 48 22:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องแบบนี้สังคมต้องช่วยกันหาทางออกให้คะ การทำแท้ง มันตัดปัญหาคะ ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะกว่าเด็กจะมาถึงจุดนี้มันแสดงให้เห็นว่า การเลี้ยงดู การอบรม มีข้อบกพร่องหลายอย่าง ถ้าคิดว่าหยุดให้คนมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งไม่ได้ ต้องให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดและการป้องกันโรคติดต่อให้ทั่วถึง จากคุณ : :) - [ 3 มิ.ย. 48 22:59:34 A:24.226.44.151 X: TicketID:080273 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่รุ้นะ เรื่องนี้น่ะ คิดว่าสังคมน่ะ ดีแต่พูด ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ไม่มีทางแก้ปัญหาให้ อุดมคติน่ะดีทั้งนั้น แต่อีแดง ลูกไอ้ดำ ที่ขับแท้กซี่ ต้องเช่า แม่ขายพวงมาลัย อีแดงนี่ก็ดันมาท้องตอนอายุสิบสี่ พ่อแม่ไม่รู้จะเลี้ยงยังไงไหว ท้องก็ท้องมาแล้ว ทีนี้ทำไงล่ะ ทำแท้งก็ผิดกฎหมาย จะหาหมอเถื่อน ชีวิตก็ต้องเสี่ยง ฆ่าคนน่ะใครก็รู้ว่าบาป ให้เกิดมาเป็นคนแล้วผลักภาระไปให้กับทั้งสังคม ทั้งเด็ก บาปเหมือนกัน ให้หาทางชีวิตกันเอง กลัวบาปคลอดแล้วเอาไปทิ้งเนี่ยนะ ใจบุญเหลือเกินแล้ว แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 48 23:40:26 จากคุณ : mrs.night owl - [ 3 มิ.ย. 48 23:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จริงเรื่องนี้น่ะ ไม่อยากมาถกกับใครๆ หรอกนะคะ เพราะมันซับซ้อนละเอียดอ่อนเหลือเกิน แต่ไหนๆ ก็น่าโดนด่าค่อนข้างแน่แล้ว ขอซะหน่อยแล้วกัน ไอ้ต้นเหตุน่ะ เขาคงจะรู้กันอยู่แล้วแหละว่า จะป้องกัน หรือควรทำอย่างไร แต่เด็กที่ถูกไปทิ้งบ้าง รอให้เกิดแล้วฆ่าบ้าง เราจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ แม่ที่อ่อนวุฒิภาวะ ด้อยการศึกษา บางคนพุดแบบหนังสือก็ว่า เด็กกลับไปเรียนได้ แต่ความจริงแล้ว เด็กไม่สามารกกลับไปสู่ระบบโรงเรียนปกติได้แล้ว หาโรงเรียนรับยาก เมื่อมีลูกตั้งแต่วัยเด็ก แม่ก็เด็ก เด็กก็แบเบาะ สังคมพูดง่าย ว่ายกให้พ่อแม่เลี้ยง แล้วถ้าหากพ่อแม่ไม่อยู่ในฐานะจะเลี้ยงได้ล่ะ หากเป็นครอบครัวหาเช้ากินค่ำล่ะ เราฟังที่ปลายเหตุ ก็พูดได้สิว่า ต้องให้ป้องกัน ให้ความรู้ อะไรก็ว่าไป แต่ในความเป็นจริงปัญหา มันเกิดแล้ว และต้อได้รับการแก้ไขเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ แม่วัยรุ่น ควรทำอย่างไร พ่อแม่เด็กหญิงคนนั้นต้องตัดสินใจค่ะ สังคมไม่มีสิทธิ์ไปตัดสิน เพราะท้ายที่สุด ครอบครัวนี้ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจนี้ สังคมไม่ได้ไปช่วยเหลือ อุ้มชูเขา หรือมีมาตรการที่ดีช่วยเขาเลย เมืองนอกเขามีให้ติดต่อ หากท้องแล้วไม่ต้องการลูก และไม่ต้องการทำแท้ง เขามีครอบครัวที่ต่อคิวกัน เพื่อจะรับเด็กไปเลี้ยงเป็นลูก ตั้งแต่แรกเกิด ตัวแม่มีสิทธิ์เลือกครอบครัวที่ตัวเองอยากยกให้ มีสัมภาษณ์ มีการติดต่ออยู่เสมอ ค่าใช้จ่ายที่มี เขาก็ดูแลให้หมด เมืองไทย มีอะไรให้เขาบ้าง แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 48 23:55:32 จากคุณ : mrs.night owl - [ 3 มิ.ย. 48 23:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เด็กหญิง มีลูกเป็นเด็กหญิง :)  เราว่าเค้าคงงไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ที่ดีนะ จากคุณ : barbabeau (Barbabeau) - [ 3 มิ.ย. 48 23:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ควรทำแท้ง และก็... สะกดคำว่า "รับผิดชอบ" กันบ้างสิครับ จากคุณ : firstini chemistani - [ 4 มิ.ย. 48 00:13:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าไม่พร้อมหลายๆประการ... เช่น พ่อแม่ฐานะไม่ดี และเด็กไม่รักดี ไม่รักเรียน.. คงยากมากที่จะเป็นแม่เด็กที่ดีได้ เพราะรังตัวเขาเองก็เอาตัวไม่รอด การท้อง และให้เด็กคลอดออกมาแล้วให้ไปหาคนรับอุปการะต่อนั้น... มันเหมือนกับการปัดภาระให้กับสังคมส่วนรวมรับผิดชอบ ซึ่งสังคมส่วนรวมปัจจุบัน ก็เน่าพอควรแล้วนะ ถ้าเราบอกว่า ให้ทำแท้ง... ฉะนั้นเราจะไม่ออกความเห็นให้ไปในทางใด ทางหนึ่ง.. ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของเด็กสาวนั้นเอง และพ่อแม่ของเขา ที่เป็นผู้ปกครอง อาจมีกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่อ้าง บาป บุญ คุณ โทษ... แต่ตัวคนอ่านบางคน มันต่างมึมมองนั้น และคนอ่านทุกคนไม่มีเอี่ยวอะไรกับ ชีวิตอนาคตของเด็กสาวนั้นเลย.. มันจึงง่าย สำหรับคนที่บอก ให้อุ้มท้องไปเพื่อเห็นแก่เด็กในท้อง... การพูดเกลี้ยกล่อมคนนะมันแสนง่าย เพียงแค่พิมพ์ให้มันออกมาอ่านดุแล้ว สละสลวย แต่ความจริงที่เด็กสาวนั้นต้องเผชิญหน้า มันยากกว่าหลายๆๆๆเท่า... ทั้งสับสน และ ไร้จุดยืนของตัวเอง ยังไม่แม้แต่รู้จักตัวเองดีพอเลย ***เป็นการออกความเห็นมุมกว้าง ฉะนั้นกรุณาไม่เหมา และตีความ อิสระความเห็นที่ไม่ละเมิดกฏ*** แก้ไขตกหล่นพิมพ์ผิดเยอะ แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 48 00:20:12 แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 48 00:18:32 จากคุณ : JidNince - [ 4 มิ.ย. 48 00:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ทำแท้งค่ะ เรามีเพื่อนคนนึง คล้ายๆแบบนี้ค่ะ ตอนนั้นเค้าอยู่ ม.4 ไม่ได้ทำแท้งค่ะ ล่าสุด ได้ข่าวว่าเรียน ป.ตรี อยู่ พ่อแม่เค้าก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำค่ะ ดีที่พ่อแม่เค้า และฝ่ายชายค่อนข้างเข้าใจ นะคะ สังคมสมัยนี้เจริญแต่วัตถุค่ะ จิตใจเสื่อมลงๆ จากคุณ : มีน แอนด์ มาร์ช - [ 4 มิ.ย. 48 00:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วยที่ว่า "สังคมดีแต่พูดครับ" สุดท้ายถ้าไม่ทำแท้งเด็กผุ้หญิงคนนี้ก็ต้องเลี้ยงลูกของเธอเองคนเดียวครับ ไม่มีใครช่วยจนถึงที่สุดหรอกครับ ญาติตัวเองก็ไม่ใช่ใครจะมาช่วยเลี้ยงลูกจนโต หรือพวกคุณ ๆ จะช่วยเลี้ยงจนเด็กโต จริงมั้ยครับ? ผมตอบไม่ได้หรอกครับ ว่าควรทำหรือไม่ควรทำแท้ง เพราะผมไม่ใช่เด็กผุ้หญิงคนนั้นและผมก็ไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ดังนั้น ผมจึงไม่ "บังอาจ" เอาความคิดเห็นส่วนตัว ความรู้สึกของตัวเองไปตัดสินการตัดสินใจของเด็กผู้หญิงคนนั้นหรอกครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกินกว่าคนอื่น ๆ นอกจากตัวเธอเองจะเข้าใจได้ จากคุณ : enishi - [ 4 มิ.ย. 48 03:26:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ควรทำ เพราะถ้าไม่ทำปัญหาเยอะกว่าทำ ถึงจะไม่ถูกต้องก็ตาม สังคมไม่ยอมรับแต่ไม่เห็นจะช่วยอะไรได้ การยับยั้งชั่งใจที่หลายคนบอกว่าต้องมีก็ใช้กับกรณีนี้ไม่ได้เพราะมันเกิดไปแล้ว จากคุณ : freefeel - [ 4 มิ.ย. 48 03:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ควรทำ หากเด็กม.3 คนนั้นเค้าอยากทำแท้งนะ แต่หาก พ่อเด็กที่อยู่ในครรภ์มีวิธีอื่น แบบว่า อยากได้เด็ก ไว้ ก็อยากให้ดร้อปเรียนคลอดลูก แล้วหากตัวเองไม่อยากเลี้ยง ก็ให้พ่อ หรือ คนที่อยากเลี้ยงไป แต่หาก ไม่มีใครสักคน ต้องการเด็กที่อยู่ในครรภ์ รีบๆ ทำแท้งไปจะดีกว่า สงสารเด็กที่ต้องเกิดมาแล้ว จะเจออะไรก็ไม่รู้ คือ หากเราเป็นเด็กคนนั้นที่อยู่ในท้อง เรายินดีตายตั้ง แต่อยู่ในท้องแล้วล่ะ จากคุณ : อยู่ไกล๊...ไกลจากบ้าน - [ 4 มิ.ย. 48 03:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบว่า ทำแท้ง ถ้าทำไปซะ แม่เด็กอาจจะกลับตัวได้ แต่ถ้าไม่ทำ จะทำร้ายคนสามฝ่าย คือ แม่เด็ก ปู่ย่าตายาย ที่ต้องรับเลี้ยงหลาน และตัวเด็กเอง อาจจะอยากตายก็ได้ หากต้องเกิดมา ท่ามกลางความไม่พร้อม จากคุณ : จำฉันได้ไหม - [ 4 มิ.ย. 48 04:01:40 A:219.209.176.47 X: TicketID:036500 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ทำค่ะ ทุกคนควรจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตน เด็กก็ไม่มีสิทธิฆ่าลูกตัวเอง เพื่อเห็นแก่หน้าใคร พอลูกโตแล้วค่อยกลับมาเรียนต่อ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มีอเมริกันคนนึง มีลูกตอนสิบหก ก็ออกมาเลี้ยงลูก ตอนหลังจบปตรีพร้อมลูก เรียนห้องเดียวกันเลยค่ะ ตอนจบก้ปลื้มทั้งบ้าน ออกทีวีด้วย กำลังจะต่อโททั้งคู่ จากคุณ : ม่ายค่ะ - [ 4 มิ.ย. 48 04:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่อยากตอบว่าให้ทำแท้ง แต่มันคือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ถ้าพ่อแม่เด็กหาเช้ากินค่ำ ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดู ข้างบ้านเรา เคยมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 13-14 ปี อยู่ม.2 ท้องแล้วต้องออกจากโรงเรียน เธอไม่ได้ทำแท้งคลอดลูกสาว  ภาระตกอยู่ที่พ่อแม่ผู้หญิง ครอบครัวนี้ยังมีลูกสาวเล็กๆอีก 2 คน รวมเด็กทั้งหมดในบ้านเป็น 4 คน ผู้ชายที่ทำเด็กสาวท้องมาอยู่ด้วยประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นเธอก็ท้องอีกครั้งหนึ่งแล้วก็ได้ลูกสาวอีกคน ไม่นานผู้ชายคนนั้นก็จากไป สรุปลำบากมากกว่าเก่าอีก กลายเป็นว่ามีเด็ก 5 คนที่ต้องเลี้ยงดู เฮ้อ! บาปมันก็บาป แต่ใครทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ อย่าเอาบาปของตัวเองไปโยนให้คนอื่น ถ้าเราทำผิดและไม่พร้อมจะเลี้ยงดูให้บาปตกอยู่ที่เราคนเดียวดีกว่า จากคุณ : แมงป่องสีชมพู - [ 4 มิ.ย. 48 05:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คือถ้าน้องเค้าจะทำแท้งก็เข้าใจนะ  แต่ถ้าเกิดกับตัวเองคงไม่ทำหรอก  แต่จะหาครอบครัวคนที่รู้จัก  และพร้อมจะเลี้ยงดู แล้วยกลูกให้เค้าดูแล จากคุณ : winterdaydream - [ 4 มิ.ย. 48 05:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ให้เด็กคนนั้นตัดสินใจเองดีที่สุดค่ะ เพราะทุกอย่างขึ้นกับตัวเขาเอง จะบาปก็บาปที่ตัวเขา จะมีภาระก็ภาระที่ตัวเขา... จากคุณ : shory - [ 4 มิ.ย. 48 06:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วแต่ เรายังไม่เคยเจอคนทำแท้ง เพื่อนน้องสาว ท้องตอน ม.3 เหมือนกัน เราก็เห็นเค้าเลี้ยงลูก พ่อแม่เค้าถึงจะผิดหวังอะไรขนาดไหน สุดท้ายก็ต้องยอมรับและมานั่งเลี้ยงหลานอยู่ดี จากคุณ : Lanina - [ 4 มิ.ย. 48 07:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกะ #3 จากคุณ : มังกรสยาม - [ 4 มิ.ย. 48 07:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ... อะจ๊ากส์!!! ทำไม ทำแท้งกันเยอะจังอะ...? O_o"! ถ้าเป็น คนในครอบครัว ข้าพเจ้าไม่ให้ทำอะ... (-_-") ถึงจะลำบากแค่ไหนก็เหอะ... ส่วนบ้านไหนจะรักสบาย... ปัดภาระ ทำผิดทั้ง กฎธรรมชาติ ทั้ง กฎหมาย ก็เชิญล่ะค่ะ... เฮ่อ... (-_-")... ... จากคุณ : Spirited A's way - [ 4 มิ.ย. 48 09:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่น่าจะทำนะคะ   เพราะเคยอ่านหนังสือว่า ถ้าทำแท้งไปเนี่ย มดลูกก็จะแย่กว่าคนที่ไม่เคยทำ และการที่ฆ่าคนเนี่ยมันเป็นบาปนะคะ ถึงแม้จะมีอนาคตที่ดีกว่าการไม่ทำแท้งนิดหน่อยแต่ก็จะเสียใจไปจนตาย ถ้าที่บ้านมีพ่อแม่ดูแลด้วย ก็อย่าไปทำเลยค่ะ จากคุณ : @หมีน้อย@ - [ 4 มิ.ย. 48 10:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ดูผลโหวตแล้ว แล้ว ........... พูดไม่ออก คงต้องดูสภาพแวดล้อมประกอบ ว่า มีใครที่จะรับผิดชอบชีวิตใหม่อีก 1 ชีวิตได้หรือไม่ จากคุณ : โทโมกะ - [ 4 มิ.ย. 48 10:38:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับคุณ mrs.night owl และ คุณ JidNince มากๆ คนที่ว่ากลัวบาปๆๆๆ น่ะ ยื่นมือไปช่วยอะไรเค้าได้บ้างล่ะนอกจากพูด คนฐานะไม่ดี คุณเอาเงินไปช่วยเขาได้รึเปล่า อย่าบอกว่าเงินไม่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพคน ถ้าไม่มีเงิน ก็มีโอกาสน้อยที่จะได้เรียนดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี แล้วจะเป็นเด็กที่มีคุณภาพได้อย่างไร สังคมไทยน่ะพอรู้ว่าใครท้องไม่มีพ่อ คนส่วนใหญ่ในสังคมมองเขาด้วยสายตายังไง?? แล้วเรื่องจะกลับไปเรียน การรับการศึกษาต่อหลังจากไปคลอดลูกน่ะทำได้จริง แต่แรงกดดันจากสังคม เด็กอายุ 13-14 รับได้แค่ไหน ถ้าแม่สุขภาพจิตไม่ดี ลูกจะมีคุณภาพได้ยังไง คุณไปช่วยฟื้นฟูจิตใจเขาได้รึเปล่า แค่ตอนตั้งท้อง แม่เครียด ลูกก็ได้รับผลกระทบไม่รู้เท่าไหร่ แล้วตอนเลี้ยง ถ้าแม่เลี้ยงทิ้งขว้าง เขาจะเป็นเด็กที่น่าสงสารมาก ปัญหามันเกิดขึ้นมาแล้ว จะไปพูดว่าทีตอนทำไม่คิด มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว กลัวบาป เลยคลอดลูกทิ้งให้คนอื่นเลี้ยง ??? เราว่าอย่างนี้มันผลักภาระให้คนอื่นยิ่งกว่าทำแท้งอีกนะ เราว่าทำแท้ง รับความผิดไว้ในใจคนเดียวยังดีกว่าทำตัวเป็นคนใจบุญ คลอดลูก แล้วไม่มีปัญญาเลี้ยงให้ดี เด็กที่ไม่มีคุณภาพน่ะ ไม่ใช่ปัญหาของแม่คนเดียวนะ เป็นปัญหาของครอบครัว สังคม อีกหลายทอด ถ้าเด็กม.3 คนนั้นและครอบครัวรวมถึงฐานะมีความพร้อม ก็เห็นด้วยถ้าจะไม่ทำแท้ง แต่ถ้าเด็กม.3 คนนั้น และครอบครัวไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านจิตใจ เขาก็มีสิทธิจะเลือกทำแท้งและรับการฟื้นฟูจิตใจ เราเชื่อว่ามันเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เขาคิดได้ กลับตัวและเดินไปในทางที่ถูกต้อง การที่สังคมตัดสินว่า เด็กม.3 ควรต้องออกมาจากโรงเรียน นั่งเลี้ยงลูก โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพในการเลี้ยง แล้วสรรเสริญว่านั่นคือความรับผิดชอบ ?? เราว่า... คุณทำร้ายอนาคตเด็กถึง 2 คน ด้วยกันนะ ทั้งแม่ทั้งลูก จากคุณ : พยับหมอก - [ 4 มิ.ย. 48 11:11:15 A:61.91.215.189 X: TicketID:100370 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่าโลกเราน่าอยู่เพราะ โลกเรายังมีความรัก ความเมตตาค่ะ โลกที่เต็มไปด้วยเหตุผลอย่างเดียวไม่เอาเรื่องจิตใจเข้ามาด้วย ไม่น่าอยู่สำหรับเรา เพราะโลกคงต้องตัดบุคคลที่เป็นภาระออกให้หมด เพื่อให้คนที่ให้คนเข้มแข็งเท่านั้นที่อยู่ เด็ก ม. 3 ที่โจกท์ว่ามา มีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร จิตใจเป็นอย่างไร ทำไมเธอถึงท้อง ยังมีอีกตั้งหลายอย่างที่เราไม่รู้ เพราะฌะอก็ไม่ใช่เรา แล้วจะให้เราโหวตได้อย่างไรว่าควรหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ละเอียดอ่อนกว่านั้น ไม่ใช่รายการ กำจัดจุดอ่อนนะ แม้นว่าหลายคนในนี้คิดว่าเป็นแบบนั้น เราเลือกแทนใครไม่ได้หรอก เรารู้แต่ว่าถ้าเป็นเรา คงไม่มีทางทำแท้ง กล้าทำ (ถ้าไม่ได้ถูกข่มขืนนะ) ต้องกล้ารับ เขาเป็นลูกที่เกิดเพราะความผิดของเรา จะไปทำแท้งก็เท่ากับการแก้ปลายเหตุเหมือนกัน เราไม่มีวันเลือกแบบนั้นเด็ดขาด เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เราคงคิดตายตามเขาไปเลยดีกว่า ชีวิตเกิดมาก็ต้องสู้แล้วมีทุกข์ทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าถามเราว่าอยากเกิดไหม เราก็อยากเกิดค่ะ เพราะมันคือรสชาติของชีวิต อย่าไม่คิดแทนคนที่จนกว่าเรา ลำบากกว่าเราว่าเขาทุกข์ เขาอาจจะสุขกว่าเราก็ได้ การให้โอกาสอีก 1 ชีวิตเกิด นั่นอาจหมายถึงการให้โอกาส คน ๆ นึงที่วันนึงเขาอาจจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น ๆ ในสังคมเราก็ได้ ใครจะไปพยากรณ์ได้ จากคุณ : ใช่มั้ยค่ะ - [ 4 มิ.ย. 48 11:23:12 A:210.203.185.171 X: TicketID:006667 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนเรา ท้องตอน ม.6  เค้าไม่ได้ทำแท้งคะ เก็บเด็กไว้ แรกๆผู้ชายก็ดูเหมือนรับผิดชอบ เค้าก็ออกมาใช้ชีวิตแบบครอบครัว ทั้งๆที่ยังไม่พร้อม  พ่อแม่ ไม่เห็นด้วย เพราะผู้ชายติดยา !!! แถมวันเค้าคลอดเค้ายังต้องโทรมายืมเงินเราจ่ายค่าหมอ เพราะพ่อกับแม่เค้าโกรธมาก ไม่ยอมไปดูเลย เราเคยถามว่าทำไมไม่เอาเด็กออก เค้าบอกว่ากลัวบาป  หลังจากคลอดไม่นานเค้าก็เลิกกับแฟน แล้วกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่แฟลตตำรวจ  พ่อกับแม่เค้าก็จำใจต้องเลี้ยงหลานอย่างกล้ำกลืน โดยที่ไม่ได้รักหลายสักเท่าไหร่เลย เพราะรู้สึกตลอดเวลาว่า นี่เป็นสาเหตุให้อนาคตลูกเค้าหายไป ส่วนเพื่อนเราหลังจากกลับมาอยู่กับพ่อแม่ ก็ออกเที่ยวทุกวัน กลางวันทำงานเป็นพนักงานห้าง กลางคืนออกเที่ยว เค้าบอกเราว่า ทำไมเค้าต้องมานั่งจมทุกข์อยู่คนเดียว ทั้งๆที่ผู้ชายคนนั้นไม่ได้รับรู้อะไรด้วยเลย  เค้าควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนๆกัน เราฟังแล้วก็อึ้งๆ   หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็ลาออกจากงานห้างมาทำงานที่ผับใหญ่แห่งนึง เค้าบอกเราว่าเค้าไปเป็นพนักงานต้อนรับที่นั่น เราถามเค้าว่าคิดไงมาทำงานแบบนี้ เค้าบอกว่า " ก็ดีออกได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ  ได้เที่ยวทุกคืนโดยไม่ต้องเสียตังค์ " หลังจากขาดการติดต่อกันไปนาน เรามาเจอเค้าอีกครั้งตอนเราเรียนปี 4 เค้าเข้ามาเรียนปี 1 ที่มหาลัยเดียวกันกับเรา  แล้วเค้าก็เล่าถึงแฟนใหม่เค้าให้เราฟัง ว่าแฟนเค้าเป็นคนส่งเค้าเรียน แฟนเค้าเปิดร้านอาหารกึ่งผับอยู่ที่หน้ามหาลัยนี่เอง  เราเลยบอกไปว่าว่างๆจะแวะไปเที่ยวหาที่ร้าน เพื่อนเรารีบปฏิเสธ จนมารู้ทีหลังว่าเพื่อนเราไม่สามารถให้คนในร้านรู้ได้ว่าเพื่อนเราคบกับเจ้าของร้าน เนื่องจากเจ้าของร้านมีเมียแล้ว ???  สรุปก็คือเพื่อนเรากลายไปเป็นเมียน้อยเค้า ส่วนเรื่องลูกนั้น ดูเค้าไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเอาเสียเลย และก็รู้สึกว่าเพื่อนที่มหาลัยจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเค้าเคยมีลูกแล้ว เพราะเราเห็นเค้าควงกับผู้ชายในม. แบบเปลี่ยนเป็นว่าเล่น ลองคิดถึงอนาคตเด็กที่เป็นลูกเค้าดูนะคะ ว่าตอนนี้จะเป็นยังไง  ตอนนี้เรากับเค้าก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว  ไม่รู้เป็นไงบ้าง จากคุณ : *แชมพู* - [ 4 มิ.ย. 48 13:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าเด็กอยุ่ในสังคมที่มีหน้ามีตา อยุ่ รร. ดีๆ ทำเถอะ เพื่ออนาคตเด็ก แต่ถ้าอยู่กันแบบชาวบ้านๆ มีเรื่องแบบนี้บ่อย ก้อเก้บไว้ นี่เราแนะนำจิงๆนะ เจอเคสแบบนี้หลายรายแล้ว จากคุณ : ## WoodStock ## - [ 4 มิ.ย. 48 14:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ขอพูดเรื่องปาบไม่ปาบนะคะ แต่เด็กม.3นี่วุฒิภาะในการที่จะเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งยังต่ำเหลือเกิน ใครๆก็รู้ว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนี่ต้องการทั้งวุฒิภาวะของคนเป็นแม่และปัจจัยภายนอก เช่นเงินทอง เพราะการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้มีคุณภาพได้เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ไม่ต้องถามว่าทำไมเด็กถึงไปมีเพศสัมพันธ์กันทั้งๆที่ยังเด็ก เพราะถ้าออกกฎหมายห้ามคนมีเพศสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานได้ คงไม่มีปัญหานี้มาให้คุยเป็นประเด็นกัน การแก้ปัญหานั้นก็มีอยู่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้หญิงที่อุ้มท้องเอง --คลอดออกมาแล้วเลี้ยงดูเอง แต่คงต้องทนการถูกประนามน่าดู เพราะสังคมไทยไม่ค่อยให้ทางเลือกกับคนที่ท้องในวัยเรียนเท่าไร พอตั้งท้องก็ต้องหยุดเรียน หรือถูกไล่ออกจากโรงเรียน จะอุ้มท้องไปเรียนก็อับอาย --มีองค์กรเข้ามาช่วยเหลือ ในที่พักพิงระหว่างตั้งท้องจนถึงคลอด และยกเด็กให้ครอบครัวอุปการะ แต่องค์กรแบบนี้ยังมีไม่มากพอที่จะรองรับปัญหา --ทำแท้ง ปัญหาก็คือการทำแท้งนั้นผิดกฎหมาย ผู้หญิงที่ไปทำแท้งนั้นมักมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิต ตกเลือด ตลอกจนต้องถูกตัดมดลูกทิ้ง กล่าวคือคนที่ทำแท้งให้จะทำอย่างๆรก็ได้ไม่มีมาตราฐาน ไม่สะอาด หากผู้หญิงตายมักจะฟ้องร้องอะไรไม่ได้ เราจึงสนับสนุนให้มีการทำแท้งที่ถูกกฎหมายเพื่อรักษาและปกป้องสิทธิของผู้หญิง เราพูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่ขอพูดว่าปาบหรือไม่ เพราะผู้หญิงมีสิทธิเลือก บางคนอาจถามว่าแล้วเด็กล่ะมีสิทธิเลือกมั้ย ขอตอบเลยว่าเด็กคนหนึ่งพอคลอดออกมาคนเป็นแม่ต้องดูแลถึง20ปี คนไม่ใช่หมาแมว พอคลอดออกมาไมกี่วันก็วิ่งได้เลย มันเป็นความรับผิดชอบระยะยาว หากคนเป็นแม่ยังเอาตัวรอดไม่ได้ก็ไม่รู้จะไม่ดูแลเด็กคนหนึ่งได้อย่างไร และขอบอกเลยว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้หญิงที่ตั้งท้องเองการมีกฎหมายตรงนี้ออกมาเพื่อเป็นทางเลือกเท่านั้น การทำแท้งไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่าลอง จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนอยากท้องเพื่อที่จะไปทำแท้ง สุดท้ายนี้ไม่มีคำตอบว่าเด็กม.3คนนั้นควรจะไปทำแท้งหรือไม่ แต่ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะตัดสินใจเลือกแบบไหน นั้นก็คือชีวิตของเธอ แต่ขอให้คิดอย่างรอบคอบ จากคุณ : Feminine Mystique - [ 4 มิ.ย. 48 14:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 30 น้องสาวเรา  (ลูกน้าสาว)  ท้องตอนอยู่ ม.2  อายุ 14 ตอนนี้น้องสาวเราอายุ 28  ลูกชายเขาอายุ  14 เดินไปไหนมาไหนเหมือนพี่สาวกะน้องชายเปี๊ยบเลย ลูกชายเขาหน้าตาดี  เรียนเก่ง  น้องสาวเราบอกว่าโชคดีที่วันนั้นไม่ทำแท้ง ทุกวันนี้เขาก็อยู่กัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก มีความสุขกันดี  แฟนเขารับผิดชอบด้วยไงตอนท้อง ต้องดูเป็นกรณีไปด้วยว่าท้องเพราะอะไร  ถ้าโดนข่มขืน เราว่าทำแท้งก็น่าจะเป็นทางออกได้  ตอนนี้ไม่ผิดกฎหมายด้วย แต่ถ้าท้องเพราะพลาดกับแฟน  เราว่าไม่ควรทำ  เพราะบาป และก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขด้วยจากความรัก . จากคุณ : ไม้ร่ม - [ 4 มิ.ย. 48 21:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เราว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจนะ ไม่มีใครบอกได้ว่าต้องมีเงินมากเท่าไหร่ถึงจะนับได้ว่ามากพอที่จะเลี้ยงลูกได้อย่างสบาย คือคำว่าดีและก็สบายเนี่ยมันวัดจากอะไร ก็จะขอตอบเจ้าของกระทู้อย่างที่ใจเราคิด คือถ้าเป็นเรา เราไม่ทำแท้งแน่นอน เราคิดว่าเราเลี้ยงลูกของเราได้ เราคิดว่าเราแกร่งพอที่จะปรับตัวปรับใจกับสิ่งต่างๆรอบๆตัวได้ และเราก็รู้ว่าเราจะสอนลูกของเราให้มองโลกอย่างที่เราทำได้ เราจะบอกให้เขารู้ว่าเขามีค่ากับเราแค่ไหน คือเขามีค่ามากพอที่จะให้เราเสียสละทุกอย่างเพื่อเขา เราจะสอนให้เขาเห็นค่าของความรัก ความอดทน ให้เขารู้จักต่อสู้และแก้ปัญหาทุกอย่างที่เข้ามา เราจะสอนให้เขารู้ว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจจริงๆ เรารู้ว่าหลายคนจะว่าเราบ้าที่เราเก็บเขาไว้ แต่ในเมื่อกระทู้นี้ถามถึงความเห็นของคนที่เข้ามาตอบแต่ละคน เราก็ตอบในสิ่งที่เขาถามตามที่เราคิดค่ะ จากคุณ : bloom - [ 5 มิ.ย. 48 03:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 10กว่าปีก่อน เพื่อนท้องตอน ม.2  ลาออกไปแต่งงานเลี้ยงลุกอยู่บ้านตั้งแต่อายุ14  ทีแรกก็ไม่รู้ว่าทำไมลาออก ทั้งๆที่เราก็สนิทกับเพื่อนคนนี้  และแล้วก็มีข่าวลือทั่วห้องว่า เพื่อนพี่ชายชวนดูหนังโป้ที่บ้าน ดูแล้วได้กันเลย  เขาเป็นเด็กเรียบร้อย ทำไมท้องได้  เราก็งงๆ  ปัจจุบันลูกสาว(11ขวบ) อายุเท่าน้องสาวเรา เรียนโรงเรียนและห้องเดียวกันด้วยค่ะ(พอดีน้องสาวเราอายุห่างกับเรา13ปี) จากคุณ : tadam - [ 5 มิ.ย. 48 12:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเลือกได้ คงหยุดเรียนก่อน เเล้วให้ญาติดูแลเด้ก แล้วกลับมาเรียน จากคุณ : พุงพุ้ย - [ 5 มิ.ย. 48 21:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าเลือกวิธี "ฆ่า" ก็รู้สึกว่าความ ซ ว ย จะตกอยู่กับเด็กซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลยแต่ฝ่ายเดียว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ถ้าเห็นว่าการ "ฆ่า" เหมาะสม แนะนำว่า ฆ่าผู้ชายที่ทำให้ท้อง แล้วฆ่าตัวตายตามขณะที่กำลังท้องๆ อยู่นั่นแหละ ลดปัญหาสังคมได้อย่างที่ต้องการ (อาจมีมลพิษเล็กๆ น้อยๆ ตอนเผาศพ แต่สังคมรับได้) จากคุณ : ติ๊ว - [ 6 มิ.ย. 48 00:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่ต้องทำ บาปมากนะนั่น จากคุณ : Pazz - [ 6 มิ.ย. 48 01:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลองนึกว่าตัวเองเป็นเด็กที่อยู่ในท้องดูสิ ปล. เด็กที่ไหนท้องเหรอ จขกท. แบบว่า สอดรู้สอดเห็น จากคุณ : Mr.Adults - [ 6 มิ.ย. 48 13:30:54 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าจะทำก็ต้องดูด้วยว่ากี่เดือนแล้ว ปกติถ้าเกิน 2 เดือนจะอันตราย อาจตกเลือด ถึงตายได้นะ จากคุณ : iloveinzaghi9 - [ 6 มิ.ย. 48 17:29:08 ]