ความคิดเห็นที่ 1 คือถ้าต้องฆ่าตัวตายเพราะไม่อยากเต้นท่าไก่แจ้เนี่ย ....บางทีน้องคนนั้นก็ไม่สมควรใช้ชีวิตอยู่บนโลกเน่า ๆ ใบนี้เหมือนกัน ..เพราะผมไม่ได้คิดว่า เรื่องท่าไก่แจ้ น่าจะเป็นเรื่องแฟนงอนมากกว่านะ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 มิ.ย. 48 13:12:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก็คงเป็นส่วนหนึ่งแต่คงไม่ใช่ทั้งหมด จากคุณ : kaws - [ 13 มิ.ย. 48 13:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มันเกินไปนหน่า .....เรื่องแย่ ๆ ยังมีอีกตั้งเยอะแยะ จากคุณ : NICE130 - [ 13 มิ.ย. 48 13:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...สมควรตาย... จากคุณ : XIXIX - [ 13 มิ.ย. 48 13:18:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมขอเรารับน้องแนวอบอุ่น ก็มีเต้นบางแต่พี่เค้าจะดูว่าใครเล่นด้วย ใครไม่เล่นด้วย ใครขี้อายก็จะใช้แบบไปพูดคุยสร้างความคุ้นเคย ส่วนใครใจกล้าก็ให้มาแสดงออก จากคุณ : โทโมกะ - [ 13 มิ.ย. 48 13:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ความรู้สึก, ปัญหา ณ ขณะนั้นและขีดความอดทนแต่ละคน ไม่เหมือนกันนะ จากคุณ : PalmIIIc - [ 13 มิ.ย. 48 13:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อาจเป็นฟางเส้นสุดท้ายครับ แต่ ไม่ใช่ทั้งหมด จากคุณ : ชาเขียว - [ 13 มิ.ย. 48 13:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่ามันอาจจะมีเหตุลมากกว่านั้นนะ คงไม่ใช่เรื่องรับน้องเรื่องเดียวหรอกเจ้าตัวเองที่รู้ อาจจะมีปัญหาเก็บกดแล้วไม่ได้ระบาย หรือบอกกับใคร ใช่+กับขณะนั้นขีดอดทนมีจำกัด มันก็ทำให้แตกได้ น้องเค้าอาจจะไม่เคยเจอสภาพแบบนี้ก็อาจทำให้รับไม่ได้ รับน้องแต่ละคณะไม่เหมือนกัน บางคณะอาจแค่น่ารัก น่ารัก แต่บางคณะรุ่นพี่บ้าอำนาจ เก็บกดแล้วมาลงที่น้องใหม่ โดยเอาคำว่าประเพณีนำหน้า เราไม่ได้เข้าข้างใคร และเราก็เคยเป็นทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องมาแล้ว ในสายตาเรารับน้องแบบนี้ยังเด็กๆ ที่เรารับโหดกว่านี้เยอะ ลองถามคนที่เคยเรียนผ่านโรงเรียนช่างต่างๆมา แต่ถามเราสมควรไหมเราว่า น่าจะเป็นความสมัครใจของแต่ละคนดีกว่า เราเคยเห็นรุ่นน้องโดนรุ่นพี่ว๊ากแล้วชัก ก็สงสารเค้าเหนื่อยเป็นโรคหัวใจก็ไม่กล้าบอก จนเรารุ่นพี่ต้องประท้วงกัน รุ่นพี่บางคนว๊ากตามหน้าที่ จบแล้วจบเลยไม่มีอะไร แต่มีรุ่นพี่บางคนที่ไม่ดีแฝงอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้เหมือนกัน แล้วที่บอกจะได้รักกันสามัคคีกัน เราว่าไม่จริง ยังมีการแบ่งพรรคกันอยู่เลย มันอยู่ที่คนมากกว่าต้องเข้าใจว่าคนเรามาจากต่างที่ ต่างวัฒนธรรมกันค่ะ จากคุณ : แพนด้าตัวกลม - [ 13 มิ.ย. 48 13:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ เห็นด้วยกับ คหที่ 6 "ความรู้สึก, ปัญหา ณ ขณะนั้นและขีดความอดทนแต่ละคน ไม่เหมือนกันนะ" พวกคุณไม่รู้จริง ไม่มีสิทธิ์ไปว่าคนที่ตายไปแล้ว ปัญหาอะไรก็ช่างที่เขารับไม่ได้ พวกคุณไม่สมควรตัดสินว่าเขาสมควรอยู่หรือสมควรตาย เกิดคุณมีปํญหาเช่น ริดสีดวงแบบอย่างหนัก ต้องการตายให้พ้นๆ ไป คุณต้องการให้คนหัวเราะเยาะหน้าโลงศพไหม ให้เกียรติคนตายบ้างซิคะ เขาตายไปแล้ว พูดเฉพาะว่าสมควรรับน้องหรือเปล่า + เหตุผลก็น่าจะเพียงพอแล้ว เรานึกว่าพวกคุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ซะอีก ผิดหวังกับบางคน ฮือ ฮือ (คุณ DG นั่นแหล่ะ) จากคุณ : แมงป่องสีชมพู - [ 13 มิ.ย. 48 13:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สร้างกระแสงาย  กำลังอินเทรน ขายข่าวได้ด้วย ถ้าบอกว่าฆ่าตัวตายเพราะอกหัก ข่าวก็จะออกมาเข้าเนื้อตัวเองไงล่ะ จริงไม๊ ไอ้เด็กนี่มันเอาสถาบันเป็นข้ออ้าง ถ้าใครเป็นแฟนก็สมควรเลิกๆไปได้  ใจตุ๊ดชะมัด จากคุณ : Sorokin - [ 13 มิ.ย. 48 13:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ท่าไก่แจ้ อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ที่รู้ๆ...วงการ การศึกษา วุ่นวายกันน่าดูชมทีเดียว ก็อย่างที่เพื่อนๆ ของน้องที่ตายเค้าว่า น้องใหม่รุ่นหลังๆ คงได้รับอานิสงฆ์ จากการฆ่าตัวตายของน้องคนนี้บ้าง สำหรับกรณี ประเพณีการรับน้องใหม่ อือม...อันนี้จริงแท้ จากคุณ : ใช้หนีราชการเท่านั้น - [ 13 มิ.ย. 48 13:56:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ...ขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวนิดนึง คนที่ไม่รู้อะไรมากมายแล้วไปตัดสินวิพากษ์คนอื่น รู้หรือว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร รู้หรือว่าทำไมเขาถึงฆ่าตัวตาย รู้หรือว่าเขาต้องมีปัญหาต้องเจ็บปวดกับภายในจิตใจอย่างไร จริงอยู่สงสารเห็นใจคนที่อยู่ต่อเช่นพ่อแม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาสมควรถูกตำหนิ (เช่นถ้าเขาเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แต่ไม่เคยมีใครรู้ และโรคเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตายอันไม่ได้รักษา สมควรแล้วหรือจะไปตำหนิเหมือนคนที่ตายเพราะโรคมะเร็ง ไปบอกเขาได้มั้ยว่าไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้) คนเราผ่านเรื่องราวบนโลกมาไม่เท่ากัน ประสบพบเจอปัญหาชีวิตมาไม่เท่ากัน เราแสดงความเห็นทัศนคติได้แต่ไม่ใช่ไปวิพากษ์คนอื่นยิ่งคนที่ตายไปแล้วโดยไม่ได้รู้อะไรที่แท้จริง ....ตอบเจ้าของกระทู้ เห็นเหมือนความเห็นอื่นๆครับ ถ้าจะเป็นก็เป็นปัจจัยหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่สาเหตุ ...เพิ่งเขียนถึงข้อเท็จจริงหรือปัญหาการฆ่าตัวตายและการพยายามเหลือเกินที่จะหาคนรับผิดชอบหากระโถนให้คนผิดมาลง แทนที่จะช่วยกันส่งเสริมภาวะจิตใจให้ดีขึ้นกับมามัวสนใจแต่เรื่อง เลิก/ไม่เลิกรับน้อง (ไม่เกี่ยวกับข่าวตอนนี้โดยตรง) เชิญชวนตามไปอ่านในบล้อกตามนี้ครับ..http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=9&month=06-2005&date=13&blog=2 แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 48 22:25:54 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ 13 มิ.ย. 48 14:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงคุณแมงป่องสีชมพู ....ผมขอโทษ ที่ทำให้ผิดหวังครับ ... จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 มิ.ย. 48 14:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนผมรับน้องผมก็ยอมรับว่าผมเครียดมากเหมือนกัน จำได้ว่าวันพุธสัปดาห์ที่2ของการรับน้อง ผมเรียก Taxi กลับบ้าน แต่.....ไม่สามารถบอกเค้าได้ว่าจะไปใหน เพราะ......"ไม่มีเสียง เสียงหายไปหมดแล้วตอนซ้อมเชียร์" ตอนนั้นยอมรับว่าเครียดมากๆๆๆๆๆ มีเพื่อนผมหลายคนทีรับไม่ได้ และไป Ent เข้าคณะอื่น / มีบางคนที่ไม่ยอมซ้อมเชียร์ สุดท้ายเรียน 4 ปี แต่ไม่กล้าเข้ากลุ่มใหนซักกลุ่มเพราะ(คิดไปเองว่า)กลัวเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ........แต่........ ทุกสิ่งย่อมมีข้อดีข้อเสียของมัน ........ หลายคนที่ผ่านมาได้ ทุกวันนี้ที่สนิทกัน ทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ และก็น้องๆ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเพราะความสนิทระหว่างการซ้อมเชียร์เหมือนกัน (นินทา และ"ด่า"พี่ๆเหมือนกัน) สำหรับน้องคนนี้........จะไปโทษรุ่นพี่ว่าเป็นตัวการทำให้น้องเค้าตายผมว่าก็ไม่ถูกนัก......... แม้เค้าจะเป็น "ไม้ขีดแรก" ที่จุดลงบนถังน้ำมัน ......... แต่ถ้าไม่มีถังน้ำมันอยู่ก่อน ไม่ว่าจะโยนไม้ขีดสักกี่ล้านไม้ขีดลงไป ก็คงไม่มีระเบิดหรอกจริงใหมครับ? สงสารทุกฝ่ายทั้งพ่อแม่ และรุ่นพี่ และสื่อมวลชนที่คิดจะขายแต่ข่าวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบใดๆที่จะเกิดขึ้นต่อสังคม ขอไว้อาลัยให้กับน้องเค้าครับ จากคุณ : Top27 - [ 13 มิ.ย. 48 14:19:28 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ควรไปว่าคนที่ตายไปแล้วค่ะ..ลองมาเป็นลูกเป็นหลานคุณบ้างสิ... เราว่าการรับน้องมันก็โหดจริง ๆ นั่นแหล่ะ... ควรเลิกได้แล้ว ไม่เห็นมีสาระไรเลย.. อ้างว่าจะทำให้สามัคคีกัน..ก็เห็นจบออกมาก็ตัวใครตัวมันนี่คะ.. เห็นข่าวมาเยอะแล้วนะไอ้เรื่องรับน้องที่มันไม่สมควรเนี่ย.. ทางมหาวิทยาลัยควรควบคุม...ไม่ใช่สนับสนุน.. นี่อะไรคนตายทั้งคน ยังจะรับน้องกันต่ออีก..ไม่รู้อะไรกันนักกันหนา.. จากคุณ : สังคมแย่... - [ 13 มิ.ย. 48 14:28:42 A:203.146.41.120 X: TicketID:089358 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เราคิดว่าเค้าก็คงมีหลายๆเรื่องประดังเข้ามา แต่จากที่ได้ยินครอบครัวเค้าพูด เมื่อวันศุกร์ พี่สาวให้สัมภาษณ์ออกอากาศ โยนความผิดไปให้การรับน้องของคณะ เราว่ามันก็เกินไป น้องเสียไป ใครๆ ก็เสียใจ แต่อย่าเพิ่งเหมา / โยนความผิดไปให้ใครคนใดคนหนึ่งสิ เราว่าไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ แล้วถ้าแค่นี้ น้องเครียด ไม่รู้จักแก้ปัญหา แก้ไขความเครียด น้องตายหนีปัญหา  คิดว่าแก้ปัญหาได้เหรอ ตอนนี้ทุกๆคนกลับต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาของน้อง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว พ่อแม่ คณะ เพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัย สังคม ฯลฯ จากคุณ : คุณหน่อย - [ 13 มิ.ย. 48 14:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่เห็นด้วยกับการรับน้องเลยครับ โดยเฉพาะการว๊าก ผมคิดว่ามันไม่เข้าท่า แล้วก็ไร้สาระมาก ๆ เลยอะ ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นได้ ผมจะไม่เข้าร่วมประชุมเชียร์ อะไรนั่นเด็ดขาด จากคุณ : อาตี๋อินเตอร์ - [ 13 มิ.ย. 48 15:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าแค่เต้นท่าไก่แจ้แค่นี้ทนไม่ได้ แล้วต่อไปจะอยู่ในสังคมได้ยังไง จากคุณ : Dark side of Angel - [ 13 มิ.ย. 48 15:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ ^ ตอนนี้คุณก้อพูดได้สิ ลองนึกถึงตอนนั้นสิเด็กใหม่เข้ามาไม่รู้ประสีประสา ต้องการเพื่อนต้องการพี่แนะนำ ตอนนี้ผมก้อคิดเหมือนคุณว่าถ้าย้อนกลับไปเราไม่เข้าหรอก แต่ถ้าอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นจริงๆจะทำได้หรอ ไม่มีเพื่อนเลยนะถ้าไม่ร่วมเชียร์ จากคุณ : ฮาร์โมนิก้า - [ 13 มิ.ย. 48 15:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คนที่บอกว่าสมควรตาย นี่สมควรตายจริงๆ บอกให้ว่าเป็นคำอาถรรพ์นะ ไม่ได้ไปยืนอยู่ตรงที่เค้าอยู่ ก็อย่าไปตัดสินเค้า หึ หึ ขนาดทักษิณ ยังเกือบตายเพราะ คำว่า สมควรตาย มาแล้ว ต้องแก้ตัวลิ้นพันกันเลย ขอบอก จากคุณ : ระวังห่าน - [ 13 มิ.ย. 48 15:37:57 A:203.107.217.61 X: TicketID:083161 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถูกผิดไม่รู้ รู้แต่ว่าเด็กสมัยนี้เปราะบางเหลือเกิน ไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนกัน จากคุณ : วังดอกไม้ลอย - [ 13 มิ.ย. 48 15:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณแม่ของเด็ก มก.คนนั้น ก็อย่ามาโยนความผิดที่ลูกตัวเองตายให้  การรับน้อง เลย    ถ้ามันเครียดขนาดที่จะต้องฆ่าตัวตายอย่างนั้นจริงๆ  ป่านนี้ปีนึงคงมี เฟรชชี่ ตายกันเป็นพันคนแล้ว   ลูกตัวเองมีปัญหาเองมากกว่า  จะมาทำให้คนอื่นๆที่เค้าชอบการรับน้อง ซวยไปอีก  แม่ม! จากคุณ : ติ่งแตก (ติ่งแตก) - [ 13 มิ.ย. 48 15:43:03 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีความเห็นเหมือนกับ คห.ที่ 21 เหมือนกันว่าทำไมเด็กสมัยนี้เปราะบางจัง ทั้งๆที่สภาพสังคมของการแข่งขันกันแย่งชิง มันรุนแรงกว่าสมัยก่อนมาก ไม่ได้ช่วยให้พวกเค้ามีจิตใจที่เข้มแข็งได้เลย ความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าการเลี้ยงดูจากครอบครัวก็มีส่วนด้วยนะคะ ต้องสอนให้เค้าอยู่บนโลกของความจริง ในอนาคตอาจต้องเจออะไรที่โหดร้ายกว่านี้ก็ได้ อย่างเช่นจบแล้วทำงานเพื่อนร่วมงานมีหลายแบบ ทั้งหวังดีหวังร้าย ถ้าเจออะไรที่แรงกว่าการรับน้องเนี่ยซึ่งมันพัฒนาไปในแบบที่ลุ่มลึกมากขึ้น ถ้าจิตใจไม่แกร่งพอก็ฆ่าตัวตายได้อีก การแก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุค่ะ ตัวดิฉันเองก็เคยผ่านการรับน้องมา และก็เป็นนิสิตเกษตรเต็มตัว ก็ผ่านมาได้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นด้วยกับทุกสิ่งที่รุ่นพี่ทำแต่เมื่อมองกลับไปมันก็เป็นสีสันในชีวิตนะคะ อย่าไปซีเรียสกับมัน ฝึกมองโลกในแง่ดี แล้วชีวิตจะมีความสุข การกระทำอะไรก็ตามมันมีมุมมองให้มองได้หลายมุมอยู่แล้ว อยู่ที่คุณจะเลือกมองมุมไหน ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : น้องปาย (น้องปาย) - [ 13 มิ.ย. 48 16:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเห็นด้วย กับคุณปายครับ เป็นสีสันกับชีวิต และผมคิดว่ารับน้องซ้อมเชียร์เนี่ยทำให้สนิทกับเพื่อนๆเร็วมากๆเลย ถ้าไม่มีกิจกรรมคงนานเลยแหละกว่าจะรู้จักกัน เพราะมหาลัยก้อโตกันแล้ว คงจะกลายเป็นตัวใครตัวมันมากกว่า จากคุณ : ฮาร์โมนิก้า - [ 13 มิ.ย. 48 16:15:53 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยกับ คห.ที่6 เราไม่รู้ว่าในขณะนั้นน้องเขามีปัญหาอะไรอยู่รึเปล่า เรื่องรับน้องท่าเต้นไก่ย่างหรือไก่แจ้เนี่ย มันออกแนวตลกๆ ทะลึ่งปนฮาๆ แต่น้องเขาคงขี้อายเลยเครียดไปใหญ่โต อืม..ไม่รุสินะ เราเป็นคนนอกไม่รุอะไรมาก แต่คิดว่ามันต้องมีปัญหาอื่นที่น้องเขาคิดๆอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่การรับน้องอย่างเดียว ใช่ค่ะ เห็นด้วยว่าเด็กเดวนี้เปราะบางจิงๆ จากคุณ : วาซีน่า เรน - [ 13 มิ.ย. 48 16:20:52 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ก็ดี.....ตายเพราะมีแพะเป็นม.เกษตร ดีกว่าตายเพราะแฟนทิ้งตั้งแยะ........ จากคุณ : จันทร์กลางหาว - [ 13 มิ.ย. 48 16:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คนที่เค้าออกความเห็นประมาณ ว่าถ้าเต้นไก่แจ้ แค่นี้ไม่ไหว ก้อสมควรตายแล้ว หรือ รับน้องแค่นี้ไม่ไหวก้อควรตายแล้ว เค้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับ คือความหมายของเค้าประมาณว่า ไม่เชื่อนั่นเอง ว่าจะฆ่าตัวตายเพราะเหตุนี้ จากคุณ : ฮาร์โมนิก้า - [ 13 มิ.ย. 48 16:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อืม.....อาจจะแรงไปนิดนะครับ ถ้าแค่เต้นท่าไก่แจ้ แม้จะดูลามกยังไงทำให้เขาฆ่าตัวตายกะเรื่องแค่นี้ละก็ ผมว่าเขาสมควรตายแล้ว จากคุณ : Mr.Adults - [ 13 มิ.ย. 48 17:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าถ้าแค่เรื่องรับน้อง แล้วมาฆ่าตัวตาย ก็สมควรตายแล้วละครับ เพราะเรื่องแค่นี้ ยังรับไม่ได้ ก็ไม่สมควรอยู่ดูโลกอีกต่อไป เพราะ สิ่งโหดร้ายกว่าเรื่องรับน้องในโลกนี้ยังมีอีกมากมาย แต้องเจอมันอยู่เรื่อย ตลอดเวลา จากคุณ : canman - [ 13 มิ.ย. 48 17:32:49 A:203.172.119.226 X: TicketID:055073 ]

ความคิดเห็นที่ 30 #27 ฮาร์โมนิก้าร์ ยังเข้าใจผมหน่อย ดีจาย! ตอนแรกไม่อยากอธิบาย กลัวโดนหาว่าแก้ตัว ...ยังดีที่คุณเข้าใจ และไม่ตีความผิดเพี้ยนครับ จากคุณ : Mr.DogGie - [ 13 มิ.ย. 48 17:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จำได้เสมอว่า .... เหนื่อยกับการซ้อมเชียร์ และรุ่นพี่ แต่ ก็สนุกมาก ไปอีกแบบ หลังๆ กลายเป็นชอบมากเลย การเชียร์เนี่ย จากคุณ : leonymb21 - [ 13 มิ.ย. 48 18:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ลำพังแค่เต้นท่านี้อย่างเดียว คงไม่เท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่ามันมีอีกหลายเรื่องที่เข้ามารวมด้วยในการรับน้องนี้ น้องใหม่หลายคนต้องปรับตัวจากสังคมเดิมที่เคยชินอยู่ มาสู่สังคมใหม่ที่เค้าอาจจะไม่เคยเจอมาก่อน culture shock รวมถึงการปรับตัวไปสู่สังคมหรือวิถีการดำเนินชีวิตอีกแบบ เป็นประเด็นนึงที่ทำให้คนตาย หรือบาดเจ็บมามากแล้ว เช่น นักเรียนทุนหวยที่ไปเรียนต่อแล้วปรับตัวไม่ได้จนต้องเกิดเรื่องขึ้น แน่นอนว่ากิจกรรมรับน้อง ส่วนนึงก็ทำขึ้นเพื่อช่วยให้นักศึกษาใหม่ปรับตัวเข้ากับสังคมมหาลัยได้ แต่ประเด็นคือ วิธีการที่จะเลือกใช้นี่สิ บางครั้งรุ่นพี่คิดว่าวิธีนี้จะช่วยได้ แต่ปรากฏว่าไม่เลย มันอาจไปซ้ำเติมเค้าให้หนักขึ้น ยาขนานนึงที่ใช้รักษาได้กับหลายๆ คนอาจไปฆ่าอีกคนก็ได้ ดังนั้นเราต้องยอมรับความแตกต่างของคนบ้าง ไม่ใช่เอากฏเกณฑ์ของตัวเองที่บอกว่าคนส่วนใหญ่ น่าจะรับได้ แล้วน้องคนนี้รับไม่ได้ เลยบอกให้ไปตายซะ ... มันพูดเอาแต่สะใจ คือ ไม่ได้ไปอยู่ที่ตรงนั้น มันจะพูดอะไรก็ได้ คนตายไปแล้วจะมาแก้ตัวอะไรได้ล่ะ คนเราอาจจะเข้มแข็งในเรื่องนึง แต่อ่อนแอกับอีกเรื่องนึง ไม่เหมือนกัน ไม่มีใครสมบูรณ์แข็งแกร่งไม่ซะหมดหรอก บางคนอาจจะมีจุดอ่อนในเรื่องที่เราคิดไม่ถึงก็มี แล้วที่น่าสลดใจอีกอย่างคือ ทางมหาลัยไม่ได้คิดถึงจุดเรื่องความแตกต่างนี้เลย แถมยังโบ้ยไปที่ประเด็นอื่นเหมือนปัดความรับผิดชอบออกไป ที่นี่ทีจะเอาดีใส่ตัวละทำจริง ขนาดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ได้เกี่ยวกับเค้าเลย ยังเสนอหน้าไปประเคนปริญญาให้ไอ้เสือน้อยถึงโรงแรม ยังดีทีไม่กราบมันด้วย แล้วยังไม่นับเรื่องมุดๆ ย้ายคณะอีกนะ ขอโทษที่ต้องยกตัวอย่างอดีตมาพูด คือ แค่จะอุปมาถึงความไม่เอาไหนของคนที่ทำหน้าที่ดูแลสถานศึกษานี้ อย่างน้อยก็ให้บทเรียนนี้ กระตุ้นต่อมจิตสำนึกของคนที่รับน้องไว้บ้าง อย่าเพียงสักแต่เห็นว่าเค้าอ่อนแอกว่าคุณแล้วก็พูดแค่ว่า สมควรตาย จากคุณ : ระวังห่าน - [ 13 มิ.ย. 48 18:41:31 A:203.107.217.61 X: TicketID:083161 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตอบก่อนแล้วกันว่า ไม่เชื่อว่าเค้าฆ่าตัวตายเพราะรับน้อง รับน้องมีส่วน แต่ไม่ใช่แรงผลัก การฆ่าตัวตายมันต้องมีปัจจัยมากกว่านี้ ส่วนเรื่องวิธีการรับน้อง ก็ต้องว่าเป็นกรณีๆ จากคุณ : firstini chemistani - [ 13 มิ.ย. 48 18:57:20 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เคยอ่านข่าวน้องแย่งพัดลมกับพี่ แล้วพอพี่ไม่ให้ ก็กระโดดตึกฆ่าตัวตายเปล่า??? จากคุณ : ๑๙ กุมภาฯ - [ 13 มิ.ย. 48 19:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รับน้องตรงไหนแค่กิจกรรมบัณฑิตยุคใหม่เหมือนไปนั่งฟังอบรมในอาคารจักรฯ ก็อาจจะมีกิจกรรมสันทนาการบ้างเล็กๆน้อยๆ พวกที่เกลียดการรับน้องก็ได้ทีเลยนะจากเหตุการณ์นี้ ยกเลิกรับน้องไปเลย! ยกเลิกรับน้องไปเลย! แต่ลองไปดูความเป็นจริงว่านิสิตใหม่ส่วนใหญ่สนุกกับการรับน้องมากขนาดไหน ส่วนใครไม่สะดวกไม่มาเข้าร่วมก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร   แน่นอนว่าการที่ไปร่วมรับน้องต้องได้เพื่อนมากอยู่แล้วแต่คนที่ไม่ไปก็ไปหาเพื่อนเอาตอนเข้าห้องเรียนก็ได้ ใครบอกว่าคนที่ไม่ไปรับน้องแล้วไม่มีเพื่อนไม่จริงมั้งครับ แต่ถ้าตัวนิสิตเป็นคนไม่เปิดรับใครเองหรือเป็นคนที่นิสัยแย่ไม่มีคนคบจะต้องให้ทางมหาวิทยาลัยจัดหาเพื่อนให้อีกมั้ยครับ???ไม่งั้นอาจฆ่าตัวตายได้อีก เรียนๆไปผลการเรียนไม่ดีคิดมากจะฆ่าตัวตายจะต้องให้ ทางมหาวิทยาลัยจัดหา A ไว้สำหรับเด็กกลุ่มนี้ไหมครับ??? สรุป...สังคมจะต้องสร้างสวรรค์ไว้ให้คนพวกนี้อยู่ หรือครอบครัวควรสร้างเขานี้ให้เข้มแข็งกันแน่ครับ??? เลี้ยงลูกไม่ดีพอตายมาโทษคนอื่นซะอย่างนั้น ถ้าเค้าเอามีดไปปาดคอลูกคุณค่อยไปว่าเค้านะ งานนี้ที่เลวที่สุดคือหนังสือพิมพ์อยากจะขายข่าวมากไปหน่อยเลยกลายเป็นต้องหาแพะกันให้วุ่น ทั้งๆที่น้องเค้าก็จากเราไปแล้ว ด้วยเหตุผลที่ต่างคนต่างก็ไม่ยอมรับความผิดของตัวเองโยนกันไปก็โยนกันมา ปล.อย่ามาว่านะว่าไม่ใช่ตัวคุณก็พูดได้ซิ ผมก็เคยคิดอยากตายครับแล้วก็รู้ด้วยว่าปัญหาที่ว่าใหญ่ของเราบางทีคนอื่นมันมองเหลือเล็กนิดเดียว แต่ถ้าจะตายก็ไม่ควรจะต้องเดือดร้อนคนอื่นโดยเฉพาะส่วนรวม เพราะมันจะทำให้ผู้ตายนั้นบาปหรือดูมีความผิดขึ้นไปอีกไม่สร้างผลดีต่อใครทั้งสิ้น นอกจากทำให้บางคนดูดีในสายตาคนอื่น จากคุณ : jouice - [ 13 มิ.ย. 48 20:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 หึ หึ ... ไม่ต้องไปยุ่งกับชีวิตเค้าหรอกครับ ไม่ต้องประเคนเกรด หรือหาเพื่อนให้ เพียงแต่อย่าไปยื่นเชือกให้เค้าผูกคอตายละกัน อืม ... ดูเหมือนจะได้ผลนะ สกอ. ส่งหนังสือให้ ม. รัฐและเอกชน ทั่วประเทศยุติกิจกรรมรับน้อง แค่นั้นแหล่ะ พวกแกนนำรุ่นพี่ 20 ม. ก็เต้นเป็นเจ้าเข้าเลย ... อะไรจะหวังดีอยากให้น้องอยู่ใน มหาลัย มีความสุขขนาดนั้น จากคุณ : ระวังห่าน - [ 13 มิ.ย. 48 21:23:41 A:203.107.217.61 X: TicketID:083161 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นด้วยกับ 27+35 ครับ แก้ปัญหาที่ครอบครัวเถอะ จากคุณ : RyanUtd - [ 13 มิ.ย. 48 21:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คนเราร้อยพ่อพันแม่ครับ ไม่มีใครเหมือนใคร จิตใจ ความคิดหลายๆอย่างย่อมแตกต่างกัน วัตถุประสงค์ของการรับน้องเป็นเรื่องที่ดี คือต้องการสร้างความคุ้นเคยและให้น้องๆได้รู้จักกัน แต่ที่ผิดคือวิธีที่ใช้รับน้อง ผมไม่เห็นความจำเป็นที่รุ่นพี่(ซึ่งก็ยังเป็นแค่เด็กปี2) ต้องมาใช้ความรุนแรงหรือบังคับให้รุ่นน้องทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทั้งมาเต้นท่าไก่ หรือ ทำอะไรก็ตามที่รุ่นพี่ต้องการ หลายๆคนอาจสนุก แต่...ก็มีหลายๆคนที่ไม่อยากทำ รุ่นพี่ไม่เคยเข้าใจในจุดนี้ การที่เราจะทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ เราก็ควรเข้าใจในความเป็นปัจเจกของแต่ละบุคคลด้วย ไม่ใช่ยึดถือตัวเองเป็นใหญ่ จากคุณ : วันฟ้าใสของอั้มมี่ - [ 13 มิ.ย. 48 21:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เพราะเขาเปราะบางเกินกว่าจะอยู่บนโลกนี้ เลยต้องช่วยเร่งประหารซะใช่มั้ยคะ จากคุณ : Dirrty Girl - [ 13 มิ.ย. 48 21:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นไปได้ หากคนๆ นั้นอยู่ในภาวะความเครียด หรือมีความกดดันอะไรบางอย่างหรือหลายๆ มารุมเร้าพร้อมกัน และไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ เราว่าสภาพจิตใจเค้าคงจะอ่อน ร่อแร่ๆ กว่าภาวะปกติเอามากๆ  จนถึงขนาดที่ตัดสินใจหนีปัญหา ด้วยการฆ่าตัวตายแบบนี้ สรุป...ไม่น่าจะปกติ ยิ่งถ้าเพราะด้วยท่าไก่ย่างด้วยแล้ว... ถ้าเจอท่าอื่นยิ่งกว่านี้ จะทำไงเนี่ยยย มีอีกตั้ง 108-1900 จากคุณ : sweet E.T. - [ 13 มิ.ย. 48 22:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อะไรที่ยืนยันได้อย่างแน่นอนว่า เขาฆ่าตัวตายเพราะรับน้อง จริงๆ? จากคุณ : popkala - [ 13 มิ.ย. 48 22:42:43 ]

ความคิดเห็นที่ 42 พวกที่บอกว่า แค่นี้ก็ฆ่าตัวตาย เปราะบาง ฯลฯ ไปว่าเค้าว่าสมควรตาย แค่เรื่องแค่นี้ แสดงว่า พวกคุณน่ะ "อ่อน" ไม่มีความเข้าใจที่จะตอบกระทู้หรือวิเคราะห์เนื้อหาของเหตุการณ์ สภาพจิตใจคนเราไม่เท่ากัน กรอบของแต่ละคน เล็กใหญ่ ไม่เท่ากัน เนื่องจากพื้นฐานไม่เท่ากัน เอาบรรทัดฐานตัวเองไปตัดสินคนอื่นได้อย่างไร?? จะท่าไก่แจ้ ไก่ย่าง ไก่ภูเขาไฟที่ไหน ก็ไม่เกี่ยว จุดที่สำคัญคือว่า เนื้อหากิจกรรมที่ทำต่างหาก จุดประสงค์ไหนที่ทำให้กดดัน รับน้องตั้งแต่ 9 โมง ยัน 4 ทุ่ม ถามจริง ๆ ไปทำบ้าอะไร งานการอย่างอื่นไม่มีทำหรอไง แล้วไหนจะเรื่องรุ่นพี่ขู่อีกว่า ถ้าไม่มาร่วม ไม่มีเพื่อน สารพัดจะมาหลอกล่อ เพื่อสนองความสะใจ แหกปาก ตะโกนด่า กิจกรรมสนุก ๆ ดี ๆ อีกเยอะ ที่สามารถละลายพฤติกรรม หรือทำให้รุ่นน้องรู้จักกันได้ ตอนมิตติ้งสวนลุม ไม่ให้อมยิ้มเก่าไปว้ากอมยิ้มใหม่บ้างล่ะ หึ ละลายพฤติกรรม หรือให้รุ่นน้องรับความกดดันได้ ข้ออ้างแบบเด็ก ๆ เอาเข้าจริง ๆ ก็สนองความสะใจของตัวเองกันทั้งงั้น เถื่อนจะตาย ระบบแบบนี้ ไม่คิดว่าระบบรับน้องเนี้ยะ สร้างค่านิยมผิด ๆ ให้กับสังคมไทยบ้างหรือ เช่น... ระบบคนเก่าคนใหม่ ในที่ทำงาน ชั้นมาก่อน ถือตัวอวดดี กดขี่คนใหม่ หรือการไม่เคารพซึ่งกันและกันของแต่ละบุคคล ประจวบเหมาะที่มาเสียชีวิต พร้อม ๆ กับเทศกาลรับน้อง เค้าก็เลยจับคู่กันน่ะ แต่ใครจะรู้ว่า รับน้องอาจมีส่วนก็ได้ จะว่าข่าวออกเกินไปก็น่าจะได้ แต่จะว่าไป รุ่นพี่ที่ทีหลังมาโชว์ท่าไก่ย่าง ถามจริง ๆ เหอะว่า เต้นแบบสุด ๆ เหมือนที่สั่งให้รุ่นน้องทำจริงหรือ รู้ ๆ กันอยู่น่ะ จากคุณ : ~amily~ - [ 13 มิ.ย. 48 23:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ต้องมีเชือกสำหรับผูกคอก็ตายได้ครับ คัตเตอร์กรีดเส้นเลือดก็ตายได้ ยาพารากินเข้าไปมากๆก็ตายได้ กินน้ำยาล้างห้องน้ำก็ตายได้ ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องริบของพวกนี้ออกจากชีวิตเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายไหมล่ะทั้งๆที่ของเหล่านี้ก็เห็นได้ในชีวิตประจำวันและมันก็ใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น อ้อมีอีกอย่างไม่ต้องมีอุปกรณ์ไปโดดแม่น้ำเจ้าพระยาตายก็ยังได้ หรือจะให้ย้ายแม่น้ำออกจากชีวิตเขาด้วย คิดเอาเองว่าจะตามเช็ดตามแก้หรือจะสร้างภูมิคุ้มกันจากภายใน ผมยกตัวอย่างเปรียบเทียบลองพิจารณาดูนะครับ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในการรับน้องอยู่แล้วเพราะก็เกลียดเหมือนกันรุ่นพี่ที่รับน้องแบบป่าเถื่อนอยากให้แก้ตรงจุดนี้มากกว่าถ้าคิดจะแก้แต่ไม่ใช่สั่งงดการรับน้องทุกชนิดตามกระแสสังคมเพียงเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดหรือรอดตัวจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความ"ตื่นตูม"ของคนสั่ง...นี่หรือคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ จากคุณ : jouice - [ 13 มิ.ย. 48 23:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สำหรับเรายังสนับสนุนระบบการซ่อมน้องอยู่อย่างแน่นอน ไม่อยากให้เลิกไปเลย ศิลปากร เฮ้อออออ จากคุณ : ## WoodStock ## - [ 14 มิ.ย. 48 00:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จะบอกว่าตอนที่โดนรับมาโหดกว่านี้ซะอีก ไม่เห็นจะคิดอะไรเลย   การรับน้องโดยพื้นฐานแล้วเค้าฝึกความอดทน อดทนทั้งด้านร่ายกายและจิตใจ ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้หรอ (ไอ้พวกรุ่นพี่ที่มันไม่ดีจริงๆก็มี  แต่นั่นมันก็ไม่ต่างจาก สังคมใหญ่บนโลกใบนี้ที่ต้องมีทั้งคนดี คนเลว เหมือนกัน) ไม่ว่าใครฆ่าตัวตาย เราไม่เคยเห็นใจหรือสงสารเลย อายุ18เนี่ย ผู้ใหญ่เต็มที่แล้วด้วย อุตส่าห์เกิดมาไม่รู้จักใช้ชีวิตให้คุ้มค่าก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว   ปัญหามันจะเยอะขนาดไหนเชียว   เด็กที่มันไม่มีพ่อแม่  พิการ ข้าวไม่มีกิน นั่งขอทานอยู่ริมถนน  เค้ายังดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ นี่พ่อแม่ก็มี  ปัญหาทางใจ เกิดจากแฟน หรือ การเรียน หรือครอบครัว ไม่รู้ล่ะ แต่แค่นี้ไม่รู้จักแก้จะไปทนอะไรได้ ที่พูดเนี่ยไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอปัญหา อาจจะคนละปัญหากับเด็กคนนั้น แต่มั่นใจว่าก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และก็ต้องทนอยู่นานเป็นสิบปีเหมือนกัน เราไม่เห็นจะต้องหาทางออกแบบนี้เลย เครียดมากก็ร้องไห้ออกมา  แก้บ้าบ้างเป็นบางที พอมีสติก็นั่งสมาธิ  ตั้งจิตให้ได้   เรื่องไม่ดีก็ไม่เก็บมารกจิตรกใจ   มันก็เห็นอยู่มาจนโตป่านนี้ได้ และในวันนี้ก็มั่นใจภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเอง เราเป็นอย่างนี้แล้วจะให้เราเข้าใจเห็นใจปัญหาของคนอ่อนแอ รวมทั้งคนที่ปัดสวะให้สังคมได้ไง   ข้อเท็ตจริงเป็นไงไม่รู้ล่ะ  รู้แต่ว่าไม่มีสิ่งไหนที่ทำให้มนุษย์ฆ่าตัวตายได้  นอกจากใจตัวเอง จากคุณ : เหอะๆนานๆจะของขึ้นซะที (Sorokin) - [ 14 มิ.ย. 48 01:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โดยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่าการรับน้องจะทำให้น้องเค้าถึงกับต้องฆ่าตัวตาย แต่มันก็อาจจะเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง เหมือนฟางเส้นสุดท้าย อะไรประมาณนั้น ตอนแรกก็รู้สึกสงสารน้องและครอบครัวมากกับความสูญเสีย แต่หลังจากที่ทั้งคุณแม่และพี่สาวออกมายกความดีความชอบทั้งหมดของสาเหตุการฆ่าตัวตายของน้องให้กับการรับน้อง และมหาวิทยาลัย เลยเปลี่ยนเป็นรู้สึกแย่กับน้อง (ขอโทษทีนะ รู้ว่าไม่ควรแต่มันรู้สึกอย่างนี้จริงๆ อ่ะ) กับครอบครัวของน้องที่มาโยนความผิดทั้งหมดให้คนอื่น ตอนนี้ทั้งมก. รุ่นพี่ที่รับผิดชอบเรื่องการรับน้อง คณะของน้อง สังคมมหาวิยาลัยโดยรวม และ ประเพณีการรับน้อง ต้องตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้วหรือเปล่า แล้วตอนนี้ก้อมีคนแก่ (ผู้ใหญ่) บ้าจี้ ผู้เกลียดระบบการรับน้อง ระบบประชุมเชียร์ ระบบว๊ากเกอร์ สนอง need ของตัวเองโดยการออกจดหมายเวียน + ให้สัมภาษณ์ สั่งยกเลิกการรับน้อง (ที่บอกว่าไม่ได้สั่งยกเลิกแต่ให้อยู่ในวิจารณญาณของอธิการบดีน่ะ ลองอ่านดูดีๆ นะ อีกอย่าเราบังเอิญได้ฟังตอนสัมภาษณ์น่ะ มันหมายความว่า "ห้าม" จริงๆ นะ) เฮ้อ...แก้ปัญหาแบบชุ่ยๆ เงี้ยนะ...นี่เหรอผู้ใหญ่ของวงการศึกษาบ้านเรา... จากคุณ : And So??? - [ 14 มิ.ย. 48 01:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่น่าเชื่อว่าแค่รับน้องเพียงเรื่องเดียว จะทำให้น้องเค้าฆ่าตัวตาย คิดว่าน้องเค้าน่าจะมีปัญหาอย่างอื่นสะสมด้วยแหละ เข้าใจความรู้สึกของครอบครัวที่สูญเสียน้องเค้าไปนะ แต่แม่กับพี่สาวไม่น่าจะโทษว่าเป็นเพราะเรื่องรับน้องอย่างเดียวเลย ก็ที่น้องเค้าไปร่วมกิจกรรมนั่นมันแค่ปฐมนิเทศน์ไม่ใช่เหรอ (แล้วก็หนีกลับบ้าน) ยังไม่มีอะไรหนักหนาซักหน่อย จากคุณ : asta - [ 14 มิ.ย. 48 01:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 48 99 + 1 = 100 พอครบ 100 จึงถึงภาวะทางใจที่พร้อมที่จะฆ่าตัวตาย 1 ที่ว่าคือ สภาวะ ของการ "ต้อนรับ" ในแบบวิธี ของ เกษตรเขา ก็เท่านั้น จากคุณ : น้าพร - [ 14 มิ.ย. 48 01:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ครือแบบว่า.....ปีนึงๆ มีเด็กที่เอนท์ติดและ เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องกี่แสนคน....แล้วมีตายกี่คน? พวกรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมรับน้อง ก็เคยเป็นรุ่นน้องมาก่อนไม่ใช่เหรอ...มันก่อเป็นสิ่งที่ทำต่อๆกันมารึป่าว? เราคิดว่ากิจกรรมรับน้องมันคือการ ทำกิจกรรมร่วมกัน การปรับตัวให้เข้าได้กับบรรทัดฐานและสังคมใหม่   คนเราเกิมมาเป็นสัตว์สังคม เราต้องปรับตัวไม่ใช่เหรอ ทำไมเค้าไม่ปรึกษา หรือเล่าให้ครอบครัวฟัง ?????? เราเชื่อในกระบวนการรับน้อง จากคุณ : Drama Princess - [ 14 มิ.ย. 48 03:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คนเราความเข้มแข็งมันต่างกันนะคุณ จากคุณ : shory - [ 14 มิ.ย. 48 04:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ก็ไม่อยากจะเชื่อนะคะแต่ก็ไม่มีใครรู้ความจริงเวลาแสดงความคิดเห็นน่าจะนึกถึงจิตใจคนอื่นเค้าบ้างนะคะน้องเค้าก็เสียไปแล้วถ้าพ่อแม่น้องเค้ามาอ่านเค้าคงเสียใจนะคะลองนึกง่ายๆนะคะถ้าน้องเค้าเป็นญาติคุณ จากคุณ : hyacin - [ 14 มิ.ย. 48 10:10:16 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ใช่คับ ... ใช้มีดคัตเตอร์กรีดเส้นเลือดก็ตายได้ ... แต่ไม่ต้องไปยื่นมีดให้เค้าได้ไหม ใช่คับ ... กินยาพารา หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ มากเกินก็ตายได้ ... แต่ไม่ต้องไม่ส่งขวดยาให้เค้าได้ไหม และก็ไม่ต้องย้ายแม่น้ำหรอกคับ เพียงแต่ไม่ต้องพาเค้าไปยืนกลางสะพานก็พอ คือ อย่างที่เคยบอก คนเราความเข้มแข็งไม่เท่ากัน ยาที่จะให้เค้าเพื่อรักษา มันอาจไปซ้ำให้เค้าตายเร็วขึ้นก็ได้ ถามความสมัครใจ หรือเช็คก่อนหรือยังว่าเด็กเค้าพร้อมหรืออยากจะเข้าร่วมกิจกรรมนี้หรือเปล่า ถามว่าปีนึงมีคนตายเพราะรับน้องกี่คน อาจจะไม่เยอะหรอกคับ แต่ถ้าไม่กี่คนนั้นเกิดเป็นญาติ พี่น้องคุณ คุณจะเลือกให้เค้าตายเพราะเรื่องนี้ไหมคับ คนที่บอกว่าเคยผ่านรับน้องมาแล้ว ไม่เห็นตายเลย ทำไมทนไม่ได้ จะไปดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างไร ... ขอบอกว่า คุณเป็นคนที่โชคดีที่เติบโตมาแล้วสามารถดำเนินชีวิตในสังคมอันโหดร้ายได้ แต่อย่าลืมว่ายังมีคนส่วนน้อยที่เค้าไม่ได้โชคดีแบบนั้น พ่อแม่เลี้ยงดูมาในสถาพที่ทำให้เค้าเปราะบาง ทำให้โตขึ้นมาไม่ได้เข้มแข็งแบบคุณ การแก้ปัญหา ถ้าไม่ยอมรับในเรื่องความแตกต่างของคน ก็เปล่าประโยชน์ ส่วนเรื่องที่ สกอ. บอกห้ามรับน้องนี่คือ ห้ามเลยคับ รวมถึงถ้ารู้ว่าเด็กแอบออกไปจัดกันเองนอกมหาลัย ถือว่ามหาลัยมีความผิดด้วย เค้าทำถูกแล้วล่ะที่ระงับในปีนี้ ส่วนปีหน้าว่ากันใหม่จะรับไม่รับ ถ้าการสั่งงดรับน้องนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ชุ่ย มันก็ดูเหมือนจะเหมาะกับการรับน้องแบบชุ่ยๆ เหมือนกันแหล่ะ จากคุณ : ระวังห่าน - [ 14 มิ.ย. 48 10:10:56 A:203.107.217.61 X: TicketID:083161 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ถึงยังไงก็ไม่น่าจะมีใครว่าเขาสมควรตาย จากคุณ : a little fish - [ 14 มิ.ย. 48 11:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 54 พวกที่บอกว่า แค่นี้ก็ฆ่าตัวตาย เปราะบาง ฯลฯ ไปว่าเค้าว่าสมควรตาย แค่เรื่องแค่นี้ แสดงว่า พวกคุณน่ะ "อ่อน" ไม่มีความเข้าใจที่จะตอบกระทู้หรือวิเคราะห์เนื้อหาของเหตุการณ์ ---------------------------------------------------------------------------------------------- เรียนคุณลี่ ( คห.42 ) ผมต้องมาตอบเสียหน่อยเนื่องจากเป็นคนพูดว่าเด็กเปราะบางเป็นคนต้นๆ ( แต่เท่าที่ตอบไม่ได้ สรุปประเด็นไปว่า สมควรที่น้องเค้าจะต้องไปแล้ว ) ในมุมมองของผม ผมค่อนข้างจะสมเพสกับเหตการณ์ที่ต่อเนื่องจากการกระทำของน้องเค้าครับ ไม่มีใครยอมรับกันเลยและพยายามหาแพะที่เหมาะสมที่สุดเพื่อรับปัญหา เรื่องนี้ไปเต็มๆ พวกเราคงจะชินกับสถานการณ์แบบนี้มาพอควร หรือว่า มันกลายเป็นสันดานของสังคมไทยไปแล้ว ที่จริงแล้วทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วน ทั้งนั้นแหละครับ น้องเค้าอาจจะมากหน่อย ในเรื่องของการจัดการในภาวะวิกฤต ทั้งในเรื่องของอารมณ์และความคิด ( อันนี้ถ้าได้สัมผัสกับเด็กทั่วๆไปในสมัยนี้ จะพบว่ากระบวนการแก้ปัญหา จะอยู่ในลักษณะแก้ที่ปลายและแก้เฉพาะหน้า ซึ่งจะก่อปัญหาตามมาเรื่อยๆ ต้องแก้กันไปจนกว่าจะทำอะไรไม่ได้ก็ต้องปล่อยเลย ตามเลย หนึ่งความเชื่อมั่นในตัวเองสูง สองประสบการณ์ทางโลกไม่มาก   แต่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมดนะครับ เพียงส่วนหนึ่งเท่าที่รับรู้และต้องแก้ปัญหาให้ ) ฝ่ายครอบครัว ที่เป็นฝ่ายบ่มเพาะเด็กมา ก็ต้องรับไปบ้าง เพราะถือว่า เป็นส่วนสำคัญในการสร้างให้น้องเค้ามีลักษณะเฉพาะ ทัศนคติ ทั้งกระบวน การคิดและพฤติกรรม  เคยเห็นหรือเปล่าครับ พ่อแม่ครอบครัวไม่มีปัญหาแต่ ลูกมีปัญหา ทำไมล่ะครับ หรือบางกรณีจะรู้ก็ต่อเมื่อลูกได้ไปกระทำอะไรสักอย่าง แล้วเกิดปัญหาขึ้นมา หลายกรณีแก้ได้เมื่อรู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร แต่กรณีนี้โชคร้าย หน่อยที่ไม่สามารถค้นหาได้  // Black Box – ใครๆก็ไม่รู้ได้ นอกจากตัวเค้าเอง ฝ่ายสถานศึกษา ที่หลายท่านพยายามมอบถ้วยชนะเลิศ โครงการสยามเมืองแพะให้ ก็มีส่วนอยู่ ถ้าท่านได้กำกับดูแลเนื้อหาของกิจกรรมที่ควรจะเป็นได้ให้เหมาะสม ( ในสายตาของคนทั่วไปได้ ) และให้สิทธิ์ในการเลือก แก่น้องใหม่บ้าง คำครหาต่างๆคงจะน้อยลง  ส่วนเด็กจะเลือกหรือไม่ มันก็โตแล้วปล่อยมันคิดเอาบ้าง ส่วนเรื่องที่ผู้ใหญ่ให้พักการรับน้อง ผมว่าควรไปกำหนดเนื้อหาดีกว่า ไม่ต้องสาระแน เอาหน้า แก้ปัญหาไปวันๆ  เรื่องดีมันก็มีมาก เรื่องจันรัยมันก็พอมี ต้องเลือกต้องคัด สรุปผมก็ยังคิดว่าทำไมน้องไม่แก้ปัญหา และเลือกทางออกที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไหนเลย แม้แต่กับตัวเองด้วย  ( ไม่ได้บอกว่าสมควรแล้วนะ / อ่านให้ดีดี ถ้าไม่เข้าใจให้สำรอกออกมา คิดออกมาอ่านอีกครั้ง .. ถ้าไม่เข้าใจให้ถาม เพราะยังมีประเด็นในด้านเศรษฐศาสตร์อีก ) ในด้านสื่อส่วนใหญ่ ( ตัวดีเลย ) เราก็รู้สันดาน รู้เช่นเห็นชาติกันมาพอควรแล้ว  ก็จะไม่กล่าวถึง เพราะกลัวเสนียดปาก กรุณาสังเคราะห์เพิ่มถ้าเพียงแต่วิเคราะห์ ก็จะเข้าใจเพียงครึ่ง  แล้วถ้าคิดว่าเข้าใจเท่านี้ ก็พอแล้ว ปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนข่าวหน้าหนึ่งหัวสีดีกว่า สร้างอารมณ์ไปวันๆ รกสมอง จากคุณ : วังดอกไม้ลอย - [ 14 มิ.ย. 48 13:35:02 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ผมผ่านประสบการณ์แบบนี้มานานมากแล้ว (เกือบ 20 ปี) ในคณะที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของระบบ SOTUS ในประเทศไทย โดยส่วนตัวไม่คิดว่ากิจกรรมพวกนี้ไม่มีข้อดี แต่ข้อดีของกิจกรรมนี้สามารถพบได้ในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องทำกิจกรรมอยู่แล้ว ในขณะที่ข้อเสียนั้น ถึงที่มีปัญหาจะมีน้อย แต่มีแต่ละครั้งไม่มีใครรับผิดชอบได้ มองในแง่วุฒิภาวะหรือการสั่งสอนอะไรที่รุ่นพี่บอกว่าพยายามสอนน้อง ผมว่าเหลวไหลทั้งเพ เด็กป.6สอนเด็กป.2ยังรับฟังได้มากกว่าให้พี่ซีเนียร์มาสอนเฟรชชี่ อย่าว่าแต่ให้พวกมอร์ที่เผลอๆจะอายุน้อยกว่ามาสอนเลย อายุมากกว่านิดเดียวกล้ารับผิดชอบได้แค่ไหน? ปากบอกรับผิดชอบ แต่ถ้าจับดำเนินคดีข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยประมาทใครจะเดินออกมารับผิดชอบบ้าง? ว้ากเกอร์อ้างว่าสอนระเบียบวินัยน้อง ผมเห็นหลายๆคนเอาตัวไม่รอด ใช้ชีวิตเหลวไหลเละเทะก็มาก รีไทร์ก็ไม่น้อย ไม่ได้ว่าว้ากเกอร์แย่ แต่จะบอกว่าว้ากเกอร์ก็เหมือนคนอื่น แล้วจะเอาอะไรมาสอนน้อง? ผมว่าไม่ต้องไปตั้งกฎอะไรให้ยุ่งยาก ขอให้คณะประกาศให้เฟรชชี่รู้สิทธิ์ของตัวเอง ไม่ต้องไปเชื่อพวกประสาทแดกที่บอกว่า เฟรชชี่สิทธิ์เป็นศูนย์ ใครโดนละเมิด โดนข่มขู่ก็แจ้งตำรวจไป ปล่อยให้กฎหมายจัดการ แล้วรุ่นพี่จะเข้าใจว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรไปทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนั้นกับคนอื่น กิจกรรมรับน้องมันก็จะเข้ารูปเข้ารอยเหลือแต่เรื่องดีๆเอง จากคุณ : CrazyHOrse - [ 14 มิ.ย. 48 17:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ยังมีคนไม่เข้าใจ แค่อยากจะสื่อออกมาว่าของทุกอย่างมีทั้งคุณโทษ แต่มีคนบางประเภทชอบโทษสิ่งของเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นมา เข้าสำนวน "รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง" เยอะซะด้วยคนแบบนี้ ยื่นมีดให้แล้วไงก็เอาเก็บไว้ไปตัดเชือกตอนกำลังจะรัดคอตายไง(สร้างสรรค์กว่าไหมครับ) ถามหน่อยว่าคนที่เครียดมากๆกำลังจะตายถ้าคุณไม่ใช่คนสนิทเขาคุณจะรู้ไหมว่าเขาผิดปกติ(คนสนิทบางคนยังไม่สนใจเลยนับประสาอะไรกับคนอื่น) แล้วตั้งแต่ตื่นเช้ามามีเหตุการณ์กี่เหตุการณ์ที่ทำให้อารมของเขาถึงจุดpeakที่ว่าอยากตายแล้ว บางทียังไม่มีใครทำอะไรด้วยซ้ำแค่นึกถึงเรื่องเลวร้ายทั้งที่ผ่านมาและที่กำลังประสบอยู่ก็อยากจะตายมันซะตรงนั้น ส่วนเรื่อง สกอ. เลขาฯ ออกมาบอกเองว่าให้อยู่ในดุลยพินิจของอธิการบดี แค่ขอความร่วมมืองดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่บางคนคิดว่าการรับน้องเป็นสิ่งไม่เหมาะสมทั้งหมดซึ่งที่จริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ไม่ได้คิดว่าน้องเค้าสมควรตายแต่คิดว่าถ้าน้องเค้ายังไม่ตายพ่อแม่ควรจะใส่ใจมากกว่านี้ แต่ในเมื่อน้องเค้าตายไปแล้ว คนเป็นมันยังต้องการที่จะมีเรื่องกันต่อนี่แหละที่ผมมองว่าทุเรศสิ้นดี แต่ทำนายว่าอีกไม่นานก็จะเงียบไปเหมือนทุกๆข่าวเข้าทำนองคนไทยลืมง่าย ส่วนกิจกรรมรับน้องเดี๋ยวมันก็เกิดใหม่ในรูปแบบอื่นๆ อยู่ดี จากคุณ : jouice - [ 14 มิ.ย. 48 17:42:24 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ เค้ายังไม่มีการรับน้องค่ะ จากคุณ : หมูน้อยห้อยหัว - [ 14 มิ.ย. 48 18:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แล้วไอ้บ้าที่มันมาให้เต้นท่าไก่ย่างนี่ใครล่ะ ภารโรงหรือคับ หรือเป็นพวกรุ่นพี่ที่กระสันต์ออกนอกหน้า เอาท่ามาฝึกให้ก่อนจะเล่นจริง จากคุณ : ระวังห่าน - [ 14 มิ.ย. 48 19:02:36 A:203.107.217.61 X: TicketID:083161 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แล้วเวลาทำกิจกรรมร่วมกันเนี่ยพวกคุณกะไม่ให้มีการสันทนาการบ้างเลยเหรอ ไอ้การเข้าห้องประชุม ในโครงการบัณฑิตยุคใหม่เนี่ย มันไม่น่าจะมีการบังคับให้เต้นนี่คะ จากคุณ : หมูน้อยห้อยหัว - [ 14 มิ.ย. 48 21:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เรียนคุณพี่ วังดอกไม้ลอย เนื่องจาก หนูต้องการจะสื่อว่า คนเราแต่ละคนมีจุดเปราะบางที่ไม่เหมือนกัน แต่เชื่อได้ว่า ทุกคนมีจุดเปราะบางกันทุกคนแน่นอน สำหรับเหตุการณ์ที่ว่านี้ การที่จะไปตัดสินเค้าว่าทำนองว่า "เรื่องแค่นี้ ทนไม่ได้ ไม่รู้ว่าอยู่บนโลกนี้ได้ไง" หรือว่า "สมควรตายแล้ว" น่าจะดูเป็นการออกความเห็นที่ "ทู่เรด" มาก ๆ ค่ะ ในบรรทัดฐานของตัวหนูเอง ในเรื่องของการวิเคราะห์ ต้องดูคำจำกัดความว่า "รับน้อง" ที่ทุก ๆ คนได้ใช้กันอยู่นี่ มันรวมไปถึงกิจกรรมส่วนไหนของการ "รับน้อง" ให้ร้องเพลงเชียร์ ให้เล่นกิจกรรมสันทนาการ รอดซุ้ม เล่นเกม หรือ แหกปากตะโกนด่า ออกคำสั่ง ทำยังกะน้องอยู่ร้อยเอ็ด พี่อยู่สุไหงฯ  แดดร้อน ๆ ให้ออกไปวิ่ง ไปคลุกฝุ่น โคลน เอาน้ำเย็นราด กินของแปลก ๆ เอานู่นเอานี่มาผสมกันให้มั่ว เล่นอะไรพิเรณ ๆ อย่าง อมลูกอมต่อ ๆ กัน เอาแตงกวามาชุปนมข้นหวาน แล้วผูกไว้ที่ตัวเด็กผู้ชาย ให้เด็กผู้หญิงมาดูดเอานมข้นหวานออกไปให้หมด ฯลฯ ให้นั่งตบมือร้องเพลง ซ้อมเชียร์เป็นเวลาหลายชม. การข่มขู่ว่า การไม่เข้าร่วมกิจกรรมที่รุ่นพี่กำหนด ด้วยคำขู่ต่าง ๆ นา ๆ กิจกรรมรับน้องที่ว่านี่ ต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่ มันก้ำกึ่งไปทางอนาจาร ม.ที่รับน้องน่ารัก ๆ ยังมี ถ้ามีคนเข้ามาบอกว่า กิจกรรมข้างต้นบางอย่างไม่ใช่การรับน้อง งั้นก็ต้องมองการรับน้องในปัจจุบันค่ะว่า กิจกรรมพวกนี้ อยู่ในการรับน้องด้วยกันทั้งสิ้น หรืออาจจะมากกว่าที่กล่าวมา การทำกิจกรรมรับน้องที่สร้างสรร น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า กิจกรรมที่ต้องมาแหกปาก ตะโกน ว้ากกัน การที่บางกลุ่มออกมาบอกว่า จุดประสงค์ "ดี" ในการรับน้องคือ ช่วยละลายพฤติกรรม ช่วยอย่างนั้น อย่างงี้ บอกข้อดีสารพัด ต้องถามค่ะว่า แล้ว "จำเป็น" ต้องทำแบบนี้มั้ย มี "วิธีอื่น" อีกมั้ย การรับน้องแบบรุ่นพี่ เล่นเกมนิด ๆ หน่อย ๆ พูดคุยกันดี ๆ ซ้อมร้องเพลงธรรมดา ต้อนรับแบบอบอุ่น ๆ ก็ได้ รุ่นน้องเข้ามหาลัยค่ะ ไม่ใช่เข้าค่ายทหาร การรับน้องแบบฝึกทหาร จะช่วยอย่างนั้นอย่างงี้ ไม่เชื่อค่ะ หนูเชื่อในความสมัครใจของแต่ละคน มันมีขอบเขตของมันอยู่ค่ะ ยอมรับว่า สื่อตีข่าวตามกระแสสื่อ สันดรสื่อ อันนี้ทำใจค่ะ เพราะเค้าใหญ่ ทำอะไรไม่ได้ นอกจากคนไทยทั้งประเทศที่รู้ไส้รู้พุงมัน จะร่วมใจช่วยกันบีบให้องค์กรแบบนี้พัฒนาค่ะ ส่วนการที่หน่วยงานภาครัฐออกคำสั่งตามกระแส ในส่วนหนึ่งรู้สึกเห็นด้วย เพราะพวกรับน้องแบบเถื่อน ๆ มีเยอะกว่าพวกรับน้องแบบน่ารักดี ๆ และแน่นอน พวกรับน้องแบบน่ารักดี ๆ ก็ต้องไม่พออกพอใจเป็นธรรมดา เพราะไปเหมารวมเค้า แต่เดี๋ยวก่อน..... คนที่ทำดี ๆ รับน้องดี ๆ จะไปเดือดร้อนทำไม เค้าขอความร่วมมือ คุณคิดว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ร้องเพลง เล่นเกมสนุกสนานกับน้อง ๆ คุณทำต่อไป ไม่ได้ทำอะไรผิดนิ ถ้าเกิดอะไรขึ้น น้อง ๆ ที่คุณรับ อย่างน้อยก็ช่วยเป็นเสียงให้คุณได้ แต่พวกที่จะเดือดร้อนจริง ๆ ก็พวกที่แหกปาก กดขี่น้อง ๆ ไอ้พวกนี้แหละ ถ้าเค้าห้ามแล้วมันยังกล้าทำ มันก็มีปัญหา สรุปว่า...โตแล้ว เรียนระดับอุดมศึกษา ถ้าคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ทำไป แล้วก็กล้ารับในสิ่งที่ตัวเองทำก็เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องคู่กรณี เราไม่ว่าทางม.หรอกนะ จุดเปราะบางแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่กิจกรรมที่ทำร่วมกับคนหลาย ๆ รูปแบบ แสดงผลต่างไปของแต่ละคน ควรที่จะควบคุมให้ดี อย่าปล่อยให้คะนองเสียจนควบคุมไม่ได้ จากคุณ : ~amily~ - [ 14 มิ.ย. 48 22:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมขอสรุปสั้นๆดังนี้ครับ 1. งานนี้คนผิดคือ 1.1 สื่อบ้านเรา เนื่องจากเน้นประโคมข่าวเพื่อเพียงขายข่าวอย่างเดียว ทั้งๆที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่า ท่าไก่ย่างไม่ใช้สาเหตุที่ทำให้น้องเขาฆ่าตัวตายหรอกครับ ไม่งั้นน้องเขาคงไม่ดำรงชีวิตมาถึง 18 ปี หรอกครับ เพราะ 18 ปีของชีวิตคนเราน่าจะได้เจออุปสรรคอะไรมากมายครับ เช่น สอบตก อกหักจากคนรัก และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับอุปสรรค"ท่าไก่ย่าง" เต้นท่าไก่ย่างมันเป็นเรื่องที่จิ๊บจ๊อยมากๆครับ 1.2 ครอบครัวของน้องเขา เนื่องจากไม่ยอมรับความจริง น่าจะหันมองดูตัวเองบ้างครับ โทษแต่คนโน้น คนนี้ ควรใช้สติและปัญญาครับ มองหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนที่จะโทษคนอื่นครับ 2. งานนี้มีแพะคือ ม.เกษตร งานนี้อยู่ดีๆก็รับไปเต็มๆ ครับเนื่องจากกิจกรรมการรับน้องนี้มีเป็นร้อยปีแล้วครับ ในอดีตไม่เห็นจะมีปัญหา อะไรเกิดขึ้นครับ ซึ่งส่วนตัวผมก็ไม่ชอบการรับน้องที่ใช้วิธีรุนแรงครับและผมเบื่อไอ้พวกรุ่นพี่ที่ชอบแสดง Power เพื่อโชว์หญิงครับ เพราะไม่ได้มีสิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นมา ควรจะเปลี่ยนเป็นกิจกรรมการสร้างสรรค์ครับเช่นจัดซุ้มเล่นเกมส์ ออกค่ายพัฒนาชุมชม หรือจัดค่ายจริยธรรมก็ได้ครับ ซึ่งกิจกรรมสร้างสรรคพวกนี้ ได้ Out Put ไม่ต่างกับกิจกรรมที่ใช้ความรุนแรงครับ จากคุณ : Ken - [ 15 มิ.ย. 48 08:12:13 A:203.170.228.231 X: TicketID:082750 ]

ความคิดเห็นที่ 62 .. ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : ฮาร์โมนิก้า - [ 15 มิ.ย. 48 12:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอชื่นชมความคิดเห็นของคุณ "ระวังห่าน"มากๆครับ คุณมองโลกในมุมที่ลึกซึ้ง และเข้าใจสภาวะจิตใจคนได้ดีครับ.. ................... เพราะเขาเปราะบางเกินกว่าจะอยู่บนโลกนี้ เลยต้องช่วยเร่งประหารซะใช่มั้ยคะ Dirrty Girl ผมชอบประโยคนี้มากๆครับ.สั้นและได้ใจความที่สุด.. ขอแสดงความเสียใจกับน้องเขาด้วยครับ ไปสู่ที่ชอบๆนะครับ จากคุณ : ศีลในใจ - [ 15 มิ.ย. 48 15:37:14 A:221.128.98.16 X: TicketID:098982 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เห็นด้วยกับคุณ amily มากๆค่ะ การรับน้องมีหลายวิธีที่จะเลือกใช้ได้ แต่ก็มีบางส่วนที่ก็เลยเถิดไปจนน่าจะใช้คำว่าอนาจารได้แล้ว อย่างให้น้องผู้หญิงผู้ชายเลียพลาสติกชุบนมข้นคนละด้านอย่างนี้ มันสอนอะไรเหรอ พวกรุ่นพี่ พอสถานการณ์พาไปก็เริ่มทำกิจกรรมแบบ เอามัน มากกว่าจะมานั่งคิดว่าไอ้กิจกรรมที่ทำไปนั้นมันเหมาะสมหรือไม่  ไม่ได้ต่อต้านการรับน้อง แต่ไม่เห็นด้วยกับการรับน้องแบบนอกลู่นอกทาง จากคุณ : HoneyBugs - [ 15 มิ.ย. 48 17:33:37 ]