ความคิดเห็นที่ 1 มีประโยชน์สำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงว่าจะได้รับเชื้อมานะคะ หรือเหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับความเสี่ยงเช่น ถูกเข็มฉีดยา จะมีวิธีการตรวจ HIV Antigen(ตัวเชื้อ) ในกระแสเลือด(ราคาค่อนข้างแพง จึงไม่ค่อยนิยม)ซึ่งทั่วไปที่ไปตรวจกันจะเป้นการตรวจหา Antibody ต่อเชื้อนะคะ ทั่วไปหากทานยาต้าน HIV ในช่วงแรกที่เชื้อยังอยู่ในกระแสเลือดสามารถกำจัดเชื้ออกไปได้ค่ะ(หลังจากได้รับเชื้อ เชื้อจะใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ในการ invasive เข้าสู่เม็ดเลือดขาว ซึ่งถ้าหลังจากช่วงที่เข้าสู่เม็ดเลือดขาวแล้วล่ะ ไม่ว่ายาตัวใดก็จะไม่สามารถกำจัดเชื้ออกไปได้หมดค่ะ) จากคุณ : วัฌชา - [ 27 มิ.ย. 48 06:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตกลงว่า การทานยาต้านนี้ จะช่วยได้มากน้อยอย่างไรครับ คิดว่าคงเป็นความรู้ไว้ในกรณีที่คนอื่นเกิดการพลาดได้ครับ จากคุณ : Christian Chang "ช่วยได้มากหรือน้อยนั้น ผมคงตอบไม่ได้หรอกครับ ... เพราะผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้ด้านเภสัชฯ ... แต่โดยส่วนตัวแล้ว ยาต้าน HIV เบื้องต้นที่ดีที่สุดก็คงเป็นการหักห้ามใจของคุณเอง รองลงมาก็คือถุงยางอนามัยครับ ..." จากคุณ : หนุ่ม No.7 - [ 27 มิ.ย. 48 08:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เคยมีอุบัติเหตุที่อาจะทำให้ติดเชื้อHIV ได้ หมอเลยให้มาทานระหว่างที่ยังไม่ทราบผลครวจเลือดของเราและคนอีกคนที่เกียวข้อง อยากจะบอกว่าหมอให้มา 3 ตัวยา ทานแล้วทรมานที่สุด ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน  โลกหมุนเลยล่ะค่ะ ทำงานไม่ไหวเลย  พยาบาลเค้าก็เตือนแล้วล่ะว่า ไม่เคยมีใครทานได้ครบเดือนเลย เพราะผลข้างเคียงมันเยอะ พอผลตรวจเลือดออกมาว่าไม่เป็นอะไร เราก็เลิกทานค่ะ ต้องทานให้ครบถึงจะมีผลค่ะ จากคุณ : ผ่านมา (Leika) - [ 27 มิ.ย. 48 10:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การทานยานี้จะลดโอกาสความน่าจะเป็นให้น้อยลงไป เช่น 3/1000 เป็น 3/10000 หรือ 3/100000 ถามว่าช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ก็ตอบไม่ได้ แต่ถ้ากินเร็วกว่า(ภายใน 24-48 ชม.)ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นน้อยกว่า และที่บอกว่าก่อนจะจ่ายยาจะต้องตรวจเลือดก่อนนั้น คงไม่ใช่หรอกครับ เนื่องจากถ้าเพิ่งได้รับเชื้อมา แล้วตรวจเลือดทันทีก็ไม่เห็นผลอะไร (ต้องรอ 3 เดือน) แต่การทานยาก็จะมีผลข้างเคียงอย่างที่ คห.3 บอกเอาไว้ จากคุณ : Enkephalin - [ 27 มิ.ย. 48 10:56:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ู           เอ่อ เราตอบในกรณีที่ จขกท ถามนะคะ ว่ามีมั้ยแบบที่หลังจากได้รับเชื้อจะสามารถขอตรวจดูได้ ซึ่งการตรวจจริงๆแล้วมีคือ วิธีการตรวจหา HIV surface Antigen นะค่ะ แต่ไม่ค่อยนิยมและทำได้เฉพาะ รพ. ที่เป้นโรงเรียนแพทย์ส่วนใหญ่นะคะ เพราะราคาแพง และผลที่ได้มีความเฉพาะเจาะจงต่ำ        ส่วนที่ต้องรอ 3 เดือนหลังจากรับเชื้อนั้นจะเป็นวิธีวัดจากระดับของ Antibody ที่ร่างกายสร้างต่อเชื้อ HIV นะค่ะ        ส่วนยาที่ทานมีหลาย regimen ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยยา 3-4 ตัว ซึ่งก็มีอาการข้างเคียงที่พบค่อนข้างบ่อยอยู่แล้วสำหรับยาต้านไวรัสเอดส์ ปรกติบุคลากรทางการแพทย์ถ้าประสบเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะต้องรับประทานยาป้องกัน แล้วนัดมา follow up ผลตามนัดค่ะ (แต่สำหรับบุคคลทั่วไปเนี่ยยังไม่เคยเห็นกรณ๊แบบนี้เลยนะค่ะ)             สำหรับผลการยืนยันเนี่ย ไม่สามารถยืนยันได้ว่าป้องกันได้ทั้งหมดนะค่ะ แต่ตัวเลขจำไม่ได้แล้วค่ะ             สรุปก็คือ หาวิธี่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้นะคะ ^^ จากคุณ : วัฌชา - [ 27 มิ.ย. 48 12:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประมาณ 3 หมื่นบาท กิน 1 เดือน ช่วยได้ เยอะ โดยเฉพาะด้านจิตใจ แต่ผลข้างเคียงเพียบคับ ผิวแห้ง ปวดท้อง มากๆ หมอบอกว่า ก่อนที่เชื้อ hiv จะ แพร่พันธุ์ ในร่างกาย มันจะมี ระยะ  window period คือ เชื้อไวรัสเข้ามา แต่ ยังไม่แพร่หนะครับ ถ้ากินยาตัวนี้เข้าไปมันก้อจะต้านได้ เคยกินหนะ - -' จากคุณ : Almost Innocent - [ 27 มิ.ย. 48 20:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกท่านที่มาให้ความรู้นะครับ จากคุณ : Christian Chang - [ 28 มิ.ย. 48 02:51:01 ]