ความคิดเห็นที่ 30
อ่านทู้นี้ แล้วนึกถึงฟามหลัง 7-8 ปีก่อน เพิ่งเข้ามหาลัย เกิดeffect จากเด็กเรียนที่ไม่เอาไหนด้านกีฬา ...ตอนนั้นรู้สึกว่า ถ้าฉันผอมตามตัวเลขดารา จะเป็นไง ลดน้ำหนักด้วยฟามอยากรู้ + เริ่มมีคนมาสนใจครั้งแรก...ใช้วิธีกินแต่แอบเปิ้ล เป็นหลัก 1.5-2เดือนหายไป 15 โลแบบเกรดตก ตัวเหลืองเพราะoverdose แคโรทีน เริ่มมานั่งหาแนวทางที่แก้ความกดดัน เพราะเวลาอดๆอดๆ...อารมณ์มันสะสม และเนื้อหนังกล้ามเนื้อ ก็สะสมความเครียดไปทั่วสรรพางค์กาย..เริ่มกลับมาว่ายน้ำอีกครั้งหลังจากเรียนตอนป.4 และไม่รู้จะว่ายได้ไหม(เหมือนจักรยาน) ตอนนั้น ดีดขึ้นลง 4-5 กก...อยู่หลายเดือน พอว่ายน้ำก็เสถียรขึ้น แต่ตอนนั้นยัง teen เลยเติบโตไหล่ผาย รูปร่างไม่เข้าที่เข้าทาง ว่ายอยู่ ปี แบบ ครั้งละ1-1.5 กม..4-5 ครั้งต่อweek...อาจเพราะว่ายไม่ถูกวิธีด้วย เลยมาลองแอโรบิกเพิ่มแต่ก็ยังคงว่ายอยู่ พอบิกไปสัก6 เดือน รูปร่างได้สัดส่วน เหมือนวิธีของtraınner นั้นถูกกะเรา และเป็นช่วงจะจบ ทำthesıs ทำงานกลางคืน นอนเช้า ตื่นบ่าย 5โมงไปเต้นบิก กลับมา กินน้อยกว่าปกติเพราะกลัวไม่มีสมาธิทำงาน ถ้ากินมากไป เลย 2 เดือนก่อนจบ หายไป 5 โล..เสถียรแบบไม่แท้จริง พอจบไปทำงานปีแรก จากที่เคยว่ายน้ำ เต้นบิก lıfestyle เปลี่ยน รู้ว่าขืนเป็นงี้ต่อไป มันจะบวมขึ้นๆๆๆ..และที่ทำงานที่แรก ไกลมากกกกก...ไม่happy ส่งไปตากแดด เปลี่ยนงาน ช่วงรอยต่อก่อนทำที่สอง..เริ่มไปสมัครfıtness เพื่อหาพื้นฐานที่ถูกต้อง + แนะนำจากผู้รู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา..ใช้เวลา 6เดือนวิ่ง30 นาที 17.00-17.30 และเต้นweıght 60 นาที+ว่ายน้ำ 30 นาที +ไปsauna..เรียกว่าอยุ่ตั้งแต่ 5โมงยัน 4ทุ่ม...เต้นเข้าเดือนที่5 เริ่มพบทางที่เหมาะกับโครงสร้างตัวเอง ต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิก ต่อเนื่อง คือ วิ่งระยะไกล traınner บอกว่าโครงสร้างญ.ต่างจากช..ถ้าเราเน้นความทนทานกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ความเร็ว การดึงไขมันออกไปจะburn ได้เต็มที่ เลย 45 นาที ที่120 %...เริ่มวิ่งใหม่ๆลอง30นาที..ขยับเป็น35 วันที่สอง และ40 นาที 3 วัน ขึ้นweek สอง45นาที และweek สาม 50 นาทีweek สี่ 55 จนปรับตามโปรแกรม วันไหนกินเยอะไปก็ต้องวิ่งนานขึ้น และวิ่งมาตั้งแต่ปี 2545....จวบจน2548 เข้าปีที่สี่ แล้ว ปี2545-2547...วิ่ง6.4กม..สองปี มาสองปีหลัง อยู่ที่7.2 กม...และจะขยับไปลองUnıted Marathorn 10 กม..November นี้เป็นครั้งแรกในชีวิต...มันอยุ่ที่ใจด้วย เวลาออกกำลัง คิดว่าhappy ที่มาทำไม่ใช่ออกเพื่อให้ผอม ผอมแล้วก็เลิก หรือออกเพื่อเอาไปเข้าสังคม..เวลาวิ่งจะไม่หยุด จนเลย45นาทีต้องต่อเนื่อง ไม่หยุดไม่ว่าเหตุใดๆ เพราะหยุดปุป heart rate จะ shocked ต้อง turn ใหม่.... ส่วนเรื่องใครว่า ขาใหญ่ น่องใหญ่..วิ่งเข้าปีที่สองจะเห็นเองว่า Demı Moore มีจริง...555!!,,,ฉันวิ่งมาเข้าปีที่สี่แล้ว นอกจากไอ้ที่ญ.กลัวกันนักไม่มี..หน้าท้องหายถาวร เผาผลาญตลอดเวลา เหงื่อออกแบบไปอาบน้ำมา เวลาวิ่ง ชอบมาก มาก...ฝนตกก็ไม่เป็นปัญหา ยกเว้นน้ำท่วม..รองเท้าจะหนัก...เรามีรองเท้า3 คู่เพื่อการขยายตัวของเท้าในหนึ่งweek จะวิ่ง4-5วัน..7 โลaverage,,,ถ้าเครียดมากก็9 โลวันนั้น..555... เรื่องผิวพรรณ หน้าตา ไม่แต่งหน้า ไม่ใช้ครีม วิ่งได้จากภายใน reflect สู่ภายนอก... และตอน17- 22 ปีส่วนใหญ่ญ.หมกมุ่นเรื่องตัวเลข ต้องเท่านั้น เท่านี้ตามมาตรฐานดารา แต่จะบอกว่า ออกกำลังกายไม่ต้องชั่งน้ำหนักอ่ะ แต่สัดส่วน กล้ามเนื้อ มันcontract และได้รูปด้วย...วิ่งอยุ่หลายครั้งมีฝรั่งมาชวนไปถ่าย...เฮ้อ...ต้องบอกไปว่า I am sporter NOT model.... คิดง่ายๆ คุณกินเข้าไป แล้วไม่ได้ใช้ ไม่ได้เอาออก มันก็เผละ แต่ถ้ากินแล้วได้ออก...ระบบการเผาทำงานตลอดเวลา...ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะอ้วน จะผอม....เราเองวิ่ง2 วันพักวันหนึ่ง และรักษาวินัยมาได้4 ปีแล้ว ถ้าต่อไปแต่งงาน ท้อง...ร่างกายจะกลับเข้าที่เร็วกว่าญ..ที่ไม่ออกกำลังกาย3เท่า...ของพวกเนี้ยใช้เวลา 2 ปีขึ้นไปที่ ร่างกายคุณจะรู้ว่า อ๋อ..Hign metaborism เรื่องกิน เรากินทุกอย่าง พวกมันๆไม่อ่ะ ทอดนานๆที แต่ให้ความสำคัญกับการวิ่งมากๆ...เห้นได้ชัดวันไหนก่อนวิ่งตึงๆ แน่นๆบรา พอวิ่งเสร็จหายไป เลยทั้งsıze ทั้งcup จะบอกว่า การรีดไขมันจะทำจากบนลงล่าง นั่นคือถ้าคุณออกไม่ถึง30 นาทีน่องคุณก็ใหญ่อยู่งั้น แต่หลัง55...มันไม่มีเหลืออ่ะ และเวลาวิ่งก็ต้องเพิ่มช่วงก้าวให้ยาวขึ้นหลัง25 นาที และเพิ่มความเร็วด้วย...อย่ามาวิ่งเป็นถ่ายแบบ มันไม่ได้อะไร เพราะมัวแต่ห่วงactıon ถ้าหลักการถูก แล้วท่าจะดีเอง รับรองวิ่งไปไม่นาน มีหนุ่มๆหัวดำ หัวทอง หัวน้ำตาลมาวิ่งตามคุณไม่ซ้ำหน้า...คนที่ประสบความสำเร็จ มักเล่นกีฬาออกกำลังกายมาสมำเสมอ...เพราะบุคลิกภาพ และอารมณ์ สังคม มันจะพัมนาไปพร้อมกัน...
จากคุณ :
kuddle
- [
28 ก.ค. 48 14:47:00
]
|
|
|