ความคิดเห็นที่ 1 หนังสือคู่มือ “นมแม่ ทุนสมองของลูกรัก” น้ำนมแม่ เป็นอาหารทิพย์ เป็นอาหารสมองที่สำคัญยิ่งของลูก ช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทาน และที่สำคัญ การที่ลูกดูดนมแม่ จะส่งผลสำคัญถึงการคงสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก อันเป็นรากฐานสำคัญของความรัก ความผูกพัน ของแม่ พ่อ ลูก และขยายไปถึงคนรอบตัว ซึ่งจะส่งผลถึงสังคมที่อบอุ่น และมีจิตใจดีต่อกัน หนังสือเล่มนี้จะรวบรวมประสบการณ์ เทคนิคต่าง ๆ จากแม่ทุกภูมิภาค มาประมวลเพื่อเสนอแนะวิธีปฏิบัติที่จะทำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ตลอดระยะสำคัญ และช่วยแก้ไขปัญหาในสภาวะต่างๆ อาทิเช่น “การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ลูกน้อย คือการให้นมแม่อย่างเดียว ไม่ต้องมีอาหารเสริมอื่นใดในช่วง 6 เดือนแรก หลังจากนั้นจึงให้น้ำและอาหารที่เหมาะสมตามวัย ควบคู่กับนมแม่ จนลูกอายุ 2 ปี” “แม่ทุกคนสามารถให้ลูกดูดนมได้ทุกเวลาที่ลูกหิว  แม่ที่จำเป็นต้องทำงานนอกบ้าน และไม่สามารถพาลูกไปด้วยได้ สามารถบีบน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้” หน้าปกเป็นภาพพระราชทานพระฉายาลักษณ์พระโอรสทีปังกรขึ้นปก และพระครอบครัวที่ปกใน แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 48 13:42:37 จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 14:56:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หนังสือรับขวัญวันสมองสดใส จากคุณ : มายมิ้นท์ - [ 8 ส.ค. 48 15:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เครื่องแขวน (Mobile) มีความยาวของเชือกไม่เกิน 22 เซนติเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ในส่วนของตัวเครื่องแขวนออกแบบเป็นรูปทรงเรขาคณิต สีสันสดใส มีช้างน้อยซึ่งเป็นของเล่นสามารถแกะออกจากตัวเครื่องแขวน ( Mobile ) เพื่อให้เด็กเล่น เขย่า-กัด หรือ กรุ๊งกริ๊ง (Rattle) แขวนไว้ตรงกลาง ของเล่นกระตุ้นพัฒนาการ ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับทารกผ่านมาตรฐานสมอ. และตรงตามมาตรฐานของเล่นสำหรับเด็กในเครือข่ายยุโรป (CE) แกนทำจากลวดพลาสติก หุ้มด้วยผ้าอย่างดี สามารถโค้งงอพับเก็บได้ วัสดุที่แขวนเป็นรูปทรงเรขาคณิตผลิตจากผ้าทอของไทย สีสดใส (ขาว-ดำ-แดง และแม่สี) สีไม่ตก จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องแขวน (Mobile) ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หนังสือเล่มแรกของลูก หนังสือสัมผัสร้อยรักในครอบครัว “ร้องเล่นเต้นเพลิน” หนังสือสัมผัสร้อยรักในครอบครัวนี้ เป็นหนังสือคำคล้องจอง คำกลอน โดยคัดเลือกเพลงที่คุ้นหูเป็นที่รู้จัก ให้พ่อแม่อ่านด้วยน้ำเสียงอบอุ่น สนุกสนาน หรือร้องเล่นกับลูก ซึ่งมีผลงานวิจัยออกมาทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าการอ่านหนังสือให้ลูกฟังพร้อมกับให้เด็กได้เห็นภาพประกอบไปด้วยจะช่วยให้เด็กเกิดความจำโดยอัตโนมัติ เวลาที่โตขึ้นเด็กจะสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ ส่วนในท้ายหนังสือจะมีท่าทางประกอบ เพื่อเป็นตัวอย่างให้พ่อแม่ได้ทำกิจกรรม สัมผัสลูกด้วยความรัก และช่วยฝึกลูกในการพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ในแต่ละหน้า จะมีการประกอบภาพด้วยผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้และฝึกการสังเกตของเด็ก เพิ่มความสนุกสนานในการอ่านและการมองภาพ ส่วนบนหน้าปกหนังสือจะเป็นวัสดุสะท้อนภาพตัวเอง ซึ่งเรียกว่า Inter Personal จะเป็นการสร้างพัฒนาการศักยภาพทางด้านสมองของเด็กได้อีกด้วย หนังสือทำด้วยวัสดุพิเศษ “เอวาโฟม” เพื่อให้มีความหนาและเบา เด็กจะเปิดได้สะดวก ปลอดภัยไม่บาดมือหรือเป็นอันตรายต่อเด็ก วัสดุที่ใช้มีความยืดหยุ่นพอดี ไม่เปื่อยยุ่ยเมื่อเด็กอมหรือขบกัด สีที่ใช้พิมพ์ ผ่านการทดสอบคุณภาพตามมาตรฐานสากล จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เทคนิควิธีเล่น 1. พ่อแม่อ่านให้ลูกฟังด้วยน้ำเสียงอบอุ่น สนุกสนาน อาจจะเปิดภาพให้ลูกได้มองเห็น บางเวลาให้ลูกได้ฝึกจับสัมผัสผิวของวัสดุที่ทำพิเศษในแต่ละหน้า เพื่อเปิดทุกวงจรของสมองให้สั่นเต้น คึกคัก ทำให้เขาได้เรียนรู้สัมผัส แยกแยะความหมาย ความแตกต่างของสรรพสิ่งรอบตัว 2. การอ่านช้า ๆ จะช่วยกระตุ้นความทรงจำให้ลูกรัก บางครั้งพ่อแม่อาจร้องเป็นเพลง เป็นบทสัมผัส หรือทำเสียงสูงๆ ต่ำๆ ตามจังหวะ เพื่อกระตุ้นสมองด้านความฉลาดทางดนตรี พร้อม ๆ กับการทำกิจกรรมท่าทางประกอบเพลง พัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ และสร้างความสนุกสนาน 3. พ่อแม่อาจใช้นิ้วชี้ตามคำประกอบภาพ ในแต่ละหน้า เพื่อกระตุ้นการพัฒนาภาษา สร้างความประทับใจและปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน อันเป็นพื้นฐานของการใฝ่เรียนรู้ในอนาคต ข้อแนะนำ ควรใช้ผ้าสะอาดเนื้อบาง เช็ดคราบน้ำลายหรือรอยเปื้อนแต่ละหน้า ไม่ควรนำหนังสือไปล้างในน้ำหรือแช่น้ำ เพราะกาวหรือเนื้ออีวาโฟมจะหลุดลอกออกมาทำให้หนังสือชำรุดเร็วเกินควร จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 หนังสือนุ่มนิ่ม (หนังสือลอยน้ำ) เป็นของเล่นอีกชิ้น ที่สร้างความเพลิดเพลินยามเมื่อเด็กอาบและเล่นกับน้ำ ขณะอาบน้ำเด็กส่วนใหญ่จะอารมณ์ดี จึงออกแบบของเล่นให้เป็นรูปหนังสือนุ่มนิ่ม ผลิตด้วยพลาสติก พิมพ์ด้วยสีปลอดภัย ไม่ปนเปื้อนสารพิษ โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ทำให้ลูกน้อยเพลิดเพลินใจยามได้จับ ถือ ขยำ หรือ อม กัด เนื้อหา ทำเป็นรูปภาพเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว เช่น ชุดเครื่องแต่งกาย หรือสัตว์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเด็ก ช่วยกระตุ้นสมองด้านความทรงจำและเพื่อสร้างทัศนคติให้เด็กคุ้นเคยกับเด็ก คิดว่าหนังสือคือเพื่อน และเพื่อตัดความเชื่อเก่าๆออกไป เช่น ผู้ใหญ่จะไม่ค่อยให้เด็กอยู่ใกล้หนังสือ เพราะกลัวเด็กจะทำหนังสือขาด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นบ่อเกิดให้เด็กกลัวหนังสือ เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างให้เด็กคิดว่า “หนังสือคือเพื่อนที่ดีที่สุดตั้งแต่เกิดจนโต” เทคนิควิธีเล่น 1. เป็นของเล่นสำหรับลูกได้จับ ถือ อม กัด โดยเฉพาะยามที่อาบน้ำ เพื่อเป็นการปลูกฝังความรักหนังสือและสร้างความจดจำที่ดีที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน ยามที่อยู่กับหนังสือ เป็นจุดเริ่มแรกที่จะปลูกฝังนิสัยรักการอ่านในอนาคต 2. เป็นหนังสือภาพ ขนาดพอเหมาะมือ ภาพเป็นลายเส้น ขอบเขตชัดเจน มีคำกำกับภาพ เพื่อเป็นการวางรากฐานความฉลาดด้านภาษา ขณะอาบน้ำ พ่อแม่อาจชี้ชวนให้ลูกดูภาพในหนังสือ พร้อมกับออกเสียงคำประกอบภาพ หรืออธิบายเพิ่มเติมถึงสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกเรียนรู้ด้วยการบันทึกความทรงจำในสมอง 3. สามารถนำมาประกอบ เล่นเกม ทายคำ หรืออะไรเอ่ย ซึ่งเด็กวัย 8 – 9 เดือน ชอบ ข้อแนะนำ หลังจากเล่นเสร็จแล้ว ควรล้างน้ำธรรมดา ถ้าสกปรก ใช้สบู่หรือแชมพูสำหรับเด็กล้างเบา ๆ แล้วผึ่งลมให้แห้ง จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ซีดีและเทปเพลง “เพลงกล่อมลูกชาวสยาม” ดนตรี คือ หัวใจของพลังของสมอง และเสียงเพลงที่เด็กฟังควรเป็นเพลงที่มีทำนองใกล้เคียงกับเสียงหัวใจ ส่วนในด้านของเนื้อหาของเพลงควรจะมีความหมายที่ดี เพื่อจะทำให้เด็กซึมซับแต่สิ่งที่ดีดี เและบทเพลงที่เสนอนั้นเป็นบทเพลงกล่อมลูกพื้นบ้านที่คัดเลือกมาจากเพลงกล่อมเด็กในทุกภาคของไทย ทั้งภาคเหนือ – กลาง – อีสาน – ใต้ และบทสวดที่เป็นภาษายาวีของพี่น้องชาวมุสลิม มีคำอธิบายประวัติความเป็นมา เพลงกล่อมลูกของไทยตั้งแต่อดีตกาลจนปัจจุบันมีคำร้องตามภาษาถิ่น เนื้อหาของเพลงจะเน้นการปลอบโยน ความรัก การเลี้ยงดู วัฒนธรรม ประเพณี ของแต่ละท้องถิ่น การนำไปใช้ พ่อแม่ควรเปิดเพลงเบาๆ สบายๆ ให้ลูกฟังเป็นประจำทั้งกลางวันกลางคืน ประกอบหรือสลับไปกับการเล่น หรือกระตุ้นพัฒนาการด้วยวัสดุอื่น ๆ ตามสภาพที่เหมาะสม ทดแทนการปล่อยให้ลูกอยู่กับโทรทัศน์ เพื่อพัฒนาอารมณ์สุนทรีย์ทางดนตรี ช่วยให้สงบ เพลิดเพลิน และหลับสบาย พัฒนาเซลล์สมองส่วนการได้ยินและเป็นรากฐานสำคัญกับการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กระตุ้นจินตนาการและการคิดเมื่อเติบโตขึ้น “เพลงกล่อมลูกชาวสยาม” เป็นผลงานชิ้นเอกที่ ดร.สุกรี เจริญสุข แห่งวิทยาลัยดุริยางค์ศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวบรวมขึ้นตามโครงการของสถาบันวิทยาการการเรียนรู้ เพื่ออนุรักษ์ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ของไทยอันทรงคุณค่า อันจะนำไปสู่แรงบันดาลใจให้พ่อแม่ยุคใหม่หันมาร้องเพลงให้ลูกฟังมากขึ้น อาจจะร้องเพลงเก่าตามตัวอย่างในเทปหรือซีดี หรือร้องเพลงที่ตนเองชอบ “เสียงพ่อแม่ คือเสียงสวรรค์” สำหรับลูกทุกคน พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูควรฝึกหัดร้องเพลงกล่อมลูก และใช้เสียงของตน ร้องเพลงให้ลูกฟัง แต่หากยังไม่ถนัดหรือไม่แน่ใจ ก็สามารถเปิดเพลงกล่อมลูกและร้องคลอตามไปด้วย จะยิ่งได้ผลดีขึ้น จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผ้าพัฒนาการ ผ้าพัฒนาการรับขวัญผืนนี้ ถูกออกแบบพิเศษเพื่อกระตุ้นการรับรู้ ผิวสัมผัสของผ้าที่แตกต่าง เช่น ผิวเรียบ ผิวลื่น ผิวหยาบ ผิวลอน ภายในผืนผ้ายังแทรกยางที่บีบเป็นเสียงแปลก ๆ ไว้ มีเสียงกระดิ่ง ที่จะใส่ไว้ในถุงพลาสติกก่อนที่จะเย็บประกอบ เพื่อความปลอดภัย ผ้านี้จะสร้างความสนใจ ยามเด็กน้อยได้ห่ม จับ ลูบไล้ตลอดผืนผ้า ให้มีเสียงดังกรอบแกรบ เด็กจะมีการสังเกต เรียนรู้เสียงที่แตกต่างหลากหลาย จะกระตุ้นประสาทสัมผัสเกือบทุกส่วนของลูกรัก และสีสันที่สดใสแตกต่างและลวดลายแปลกตาช่วยให้กระตุ้นการมองเห็น และเกิดวงจรเชื่อมโยงในสมองของประสาทสัมผัสหลายส่วนไปพร้อม ๆ กัน เทคนิควิธีใช้ ผ้าพัฒนาการถูกออกแบบให้มี 2 ด้าน ด้านหนึ่งเมื่อใช้ปูให้เด็กนอนหรือนั่งเล่น เด็กจะได้รับรู้ถึงผิวสัมผัสที่แตกต่าง  อีกทั้งภายในผืนผ้ายังได้สอดของเล่นสำหรับขยำหรือเขย่าที่เกิดเสียงต่าง ๆ กันไป  เป็นการประสานการรับรู้สัมผัสที่หลากหลาย มีรูปภาพช้างขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นการมองเห็นด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่ง  ผลิตด้วยเนื้อผ้าที่ละเอียด  สามารถใช้ห่มหรือคลุมตัวเด็กได้ผ้านี้สามารถใช้ห่อของเล่นทุกชิ้น เพื่อเก็บรวบรวมให้อยู่ในที่เดียวกันไม่กระจัดกระจาย และนำติดตัวไปได้ทุกที่ ลูกน้อยก็จะมีของเล่นกระตุ้นพัฒนาการเล่นครบทุกชิ้นจนครบช่วงวัยของเขา ผ้าพัฒนาการจึงเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเจ้าตัวน้อย  ทั้งยามหลับหรือยามตื่น พ่อแม่ก็ยังสามารถสร้างกิจกรรมมากมาย ที่จะผูกร้อยความรักสายใยในครอบครัวเล็กๆจากผ้าผืนนี้ให้เกิดขึ้น  เช่น ผ้าปูรองเล่นยามนวดตัวให้ลูกน้อยเบา ๆ จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 15:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ของเล่นกระตุ้นพัฒนาการ ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับทารกผ่านมาตรฐานสมอ. และตรงตามมาตรฐานของเล่นสำหรับเด็กในเครือข่ายยุโรป (CE) แกนทำจากลวดพลาสติก หุ้มด้วยผ้าอย่างดี สามารถโค้งงอพับเก็บได้ วัสดุที่แขวนเป็นรูปทรงเรขาคณิตผลิตจากผ้าทอของไทย สีสดใส (ขาว-ดำ-แดง และแม่สี) สีไม่ตก และตรงกลางเป็นของเล่นรูปช้าง (Rattle) ผลิตจากผ้าเนื้อพิเศษสำหรับทารก สีย้อมปลอดภัย ผลิตตามมาตรฐานสากล ภายในตัวช้างมีของเล่นที่เขย่าแล้วเกิดเสียง บริเวณหูช้างด้านหนึ่งใส่พลาสติกให้เกิดเสียง อีกข้างใส่เม็ดพลาสติกบรรจุในถุงผ้าเพื่อให้เกิดสัมผัสที่หลากหลาย ห่วงยางเหลืองปลอดภัย กัด อม ได้ จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 16:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจากของเล่นกระตุ้นพัฒนาการ - รูปทรงแบบเรขาคณิตของตัวแขวน จะช่วยในการสร้างพัฒนาการด้านการด้านการมองเห็น ซึ่งเป็นรูปทรงที่เด็กสามารถมองเห็นได้ชัด - การแกว่งของตัวแขวน (Mobile) จะช่วยเด็กในการมองเห็น ซึ่งเด็กช่วง 3 เดือนแรกเด็กจะสามารถมองเห็นได้แค่ด้านซ้ายและด้านขวาเท่านั้น - รูปทรงแบบเรขาคณิตของตัวแขวนจะออกแบบให้เด็กสามารถถือ กำ และขยำได้ เพื่อเด็กจะได้ฝึกในส่วนของกล้ามเนื้อ -หูช้างมีเสียงและพื้นผิวที่แตกต่างกันจะเป็นการพัฒนาการทางด้านการได้ยินและเกิดการกระตุ้นสมองของเด็กโดยธรรมชาติ - เด็กสามารถกัดของเล่น ซึ่งธรรมชาติของเด็กเมื่อเข้าสู่อายุประมาณ 4-6 เดือนเด็กจะเริ่มกัดสิ่งของที่ได้สัมผัส วิธีประกอบและนำไปใช้ นำส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ แกนเครื่องแขวนที่ดัดพับไว้ออกมาจัดให้ตรง แล้วนำวัสดุรูปทรงเรขาคณิตมาติดกับเชือกห้อยของแกนพลาสติก โดยติดรูปทรงสี่เหลี่ยมสีขาวดำไว้ต่ำสุด เพื่อช่วยพัฒนาจุดปรับระยะใกล้ (Focus) โดยเฉพาะสำหรับเด็กในช่วง 2 เดือนแรกหลังคลอด สำหรับช้างน้อย อาจนำมาติดห้อยแขวนตรงกลาง เพื่อความสมดุลและความสวยงาม เมื่อประกอบเรียบร้อย ให้นำไปแขวนบริเวณที่เด็กนอน ห่างจากเด็กในระยะมองเห็นประมาณ 9-12 นิ้ว (1 ฟุต) แขวนไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท ให้เครื่องแขวนแกว่งได้ อาจติดกับเปล หรือแขวนไว้กับเพดานเหนือที่นอนเด็ก เพื่อกระตุ้นการมองเห็น และสร้างความเพลิดเพลิน กระตุ้นให้เด็กไขว่คว้า เมื่อเด็กอายุมากขึ้นอายุ 3-4 เดือน ให้เลื่อนสูงจนเด็กคว้าไม่ถึง หากมีของเล่นที่ทำเสียงดนตรีได้ ก็สามารถนำมาประกอบไว้ใกล้กับโมบาย เพื่อกระตุ้นการได้ยินไปด้วย จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 16:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หนังสือคู่มือแม่ “รับขวัญวันสมองสดใส” เป็นคู่มือสำหรับพ่อแม่ สร้างความเข้าใจเรื่องการพัฒนาสมองของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 2 ขวบ และอธิบายวิธีการใช้อุปกรณ์แต่ละชิ้นภายในถุงรับขวัญ  รวมถึงประโยชน์และข้อแนะนำในการเก็บรักษาที่ถูกวิธี เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านี้คงอยู่นานตลอดช่วงอายุ 2 ปีแรก พ่อแม่ควรหยิบมาอ่านเป็นประจำ เพื่อทำความเข้าใจหลักการ เหตุผล และวิธีการต่าง ๆ ที่ถูกต้องในการเลี้ยงดูลูกให้มีสมองเติบโตตามวัย ทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจในการกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อย ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาสมองและพัฒนาการเรียนรู้ของลูก นอกจากนี้ ภายในคู่มือ ยังมีข้อแนะนำในการทำของเล่นด้วยตนเอง และรายการหนังสือที่พ่อแม่ควรจัดหาเพิ่มเติมให้ลูกในระยะ 2 ขวบแรก ซึ่งในหนังสือประกอบด้วยสารจากฯพณฯนายกรัฐมนตรีถึงคุณพ่อ คุณแม่ของเด็กด้วย จากคุณ : ขอนแก่ - [ 8 ส.ค. 48 16:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นของจริงแล้วครับ อยากทราบราคา ต่อชุดครับ ว่าเท่าไร เพราะดูในรูป สีสรรสดใส เหมือนจะดูดีกว่าของจริงเยอะครับ จากคุณ : shintaro - [ 9 ส.ค. 48 14:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชอบผ้าพัฒนาการค่ะ จากคุณ : ดาร์ลิ่ง - [ 9 ส.ค. 48 15:12:32 A:202.183.235.3 X:202.183.235.55 TicketID:104272 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เค้าไม่ได้ขายหรอกค่ะ เค้ามีไว้แจกให้เด็กเกิดใหม่ ที่เกิดในช่วง 27 กค 48 - 26 กค. 49 นี้เท่านั้นค่ะ จากคุณ : nokkrajok online - [ 9 ส.ค. 48 16:21:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เอ ของในถุงไม่เห็นเหมือนกับที่เคยเรื่องเล่าเช้านี้ หรือผู้หญิงถึงผู้หญิงทางช่อง 3 เลยนี่ค่ะ แล้วหมอนไว้วางลูก กับผ้าปิดตัวแม่ลูกเวลาให้นมหายไปไหน จากคุณ : rachomon - [ 9 ส.ค. 48 23:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ยกเลิกไปเหอะ เลียนแบบเมืองนอกแต่ต่างกันมาก จากคุณ : ไปหาเอาเองว่าทำไม - [ 10 ส.ค. 48 05:31:39 A:216.47.142.240 X: TicketID:087142 ]