เรื่องราวชีวิตรักของนักศึกษา หรือรักนอกตำราของวัยรุ่นไทย ไปจนถึงการมั่วเซ็กซ์ของวัยรุ่น ชี้ชัดว่าระบบการศึกษา ของไทยอ่อนแอ ทั้งสถาบันครอบครัว ก็ยังคลอนแคลนไม่มั่นคง
นานแสนนาน พ่อแม่ผู้ปกครอง ก้าวตามไม่ทันความนึกคิด และพฤติกรรมของลูกหลาน ขณะที่สาละวนอยู่กับการทำมาหากิน ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง ยุคน้ำมันแพง วัยรุ่นวัยฮิปมีจำนวนไม่น้อย ทำในสิ่งที่สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ
หลายสถาบันการศึกษาที่สนใจพฤติกรรมของวัยรุ่นไทย พบว่ามีทั้งเรื่องบ้าแฟชั่น-บ้าวัตถุ-ไม่สนใจเรื่องสังคม-มั่วเซ็กซ์เปลี่ยนกิ๊กบ่อยๆ ไปจนถึงอัตราการดื่มสุราที่เพิ่มมากขึ้น ขณะอายุผู้ดื่มสุราก็ยิ่งน้อยลง
การสอนเพศศึกษาในวัยรุ่น ยังสอนกันแบบเกาไม่ถูกที่คัน ดังนั้น เด็กวัยรุ่นจึงสนองตอบความอยากรู้ ด้วยวิธีเรียนรู้ด้วยตัวเอง
นิตยสารวัยรุ่น เดอะ ฟ็อกซ์ แม็กกาซีน ฉบับประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ทำแบบสอบถามบรรดานักศึกษาทั้งชายและหญิง จากกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่งในหลายๆ มหาวิทยาลัย ได้ข้อมูลที่น่าสนใจ
น่าสนใจ....ชนิดที่ผู้ใหญ่...ต้องอึ้ง
คำถามที่ว่า คุณมีเซ็กซ์ครั้งแรกเมื่อไร คำตอบจากนักศึกษาชาย มาเป็นอันดับ 1 คือ ช่วงมัธยมต้น (อายุประมาณ 14-15 ปี)
นักศึกษาหญิง ตอบเป็นอันดับ 1 คือช่วงมัธยมปลาย (อายุประมาณ 15-17 ปี)
คำถาม คุณเรียนรู้เรื่องเซ็กซ์จากที่ไหน คำตอบที่มาเป็นอันดับ 1 ของนักศึกษาชายและหญิงตรงกัน คือ เรียนรู้จากเพื่อน อันดับ 2 คือ จากหนังโป๊และอินเตอร์เน็ต และอันดับ 3 จากนิตยสาร
คำถาม ความถี่ในการเปลี่ยนคู่ควง นักศึกษาหญิงตอบมาเป็นอันดับ 1 ว่า เปลี่ยนเมื่อเจอคนที่ถูกใจกว่า หรือเมื่อเบื่อคนเก่าแล้ว อันดับ 2 เรื่อยๆ ไม่ซีเรียส ส่วนฝ่ายชายตอบมาเป็นอันดับ 1 ว่า ต่ำกว่า 3 เดือน อันดับ 2 บอกว่าไม่กี่อาทิตย์ก็เปลี่ยนแล้ว
คำถาม คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการมีเซ็กซ์เพื่อสะสมแต้ม อันดับ 1 นักศึกษาชายตอบว่า อยากให้ผู้หญิงมาสะสมตัวเองบ้าง ส่วนอันดับ 1 ของฝ่ายหญิงตอบว่า เป็นสิทธิส่วนบุคคล
คำถาม การป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์อันดับ 1 ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงตอบตรงกันว่า สวมถุงยาง แต่ที่น่าตกใจก็คือ ข้อมูลอันดับ 2 ของฝ่ายชายตอบว่า ใช้วิธีหลั่งข้างนอก
ฝ่ายหญิงบอกว่า ถ้าเป็นแฟนจะไม่ใช้ถุงยาง แต่ถ้าเป็นกิ๊กถึงจะใช้!
นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจุบันนักศึกษาชาย-หญิง จำนวนมากนิยมใช้ชีวิตคู่แบบอยู่ก่อนแต่งมากขึ้น ไปจนถึงการนิยมเซ็กซ์แบบสวิงกิ้ง หรือการแลกเปลี่ยนคู่นอนกัน
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง พบว่า นักศึกษาที่มาจากต่างจังหวัดแล้วเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ จะมีการจับคู่เช่าหอพัก อพาร์ตเมนต์ แมนชั่น ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเฉกเช่นคู่สามีภรรยาทั่วไปมากที่สุด
ตอนเช้าทั้งคู่จะออกไปเรียนที่มหาวิทยาลัย บางคู่ก็เรียนคณะเดียวกัน บางคู่ก็เรียนต่างคณะ ขณะที่บางคู่เรียนอยู่คนละมหาวิทยาลัย พอตกเย็นก็จะกลับมา
น.ส.อ้อย (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง คุยว่า ตอนนี้ขึ้นปี 3 การใช้ชีวิตคู่ ทำให้เรียนช้าไปหน่อย แต่ก็คิดว่าค่อยๆ เรียนให้จบ แฟนเรียนอยู่ที่เดียวกัน
พี่เขาใกล้จบแล้ว อีกไม่กี่หน่วยกิตเอง
อ้อยยอมรับ สองปีแล้วที่ใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนผัวเมีย เพียงแต่ว่าเรายังเรียนอยู่ มันคล้ายๆกับว่าอยู่ด้วยกัน ก็เป็นกำลังใจให้กัน ช่วยเหลือกัน เราก็เป็นเด็กต่างจังหวัดทั้งคู่ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวย อยู่ด้วยกันก็เหมือนมีคนมาช่วยหารค่าใช้จ่าย ค่าห้อง ค่าน้ำ-ไฟ เวลามีปัญหา ก็ได้แฟนนี่แหละช่วย
เราอยู่กันด้วยความรักจริงๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก
อ้อยคุยต่อว่า ยุคนี้ไปดูเถอะ อยู่ด้วยกันตั้งหลายคู่ เฉพาะที่หน้ารามฯ เขาอยู่กันเป็นคู่ๆเลย บางคู่อยู่ด้วยกันจนเรียนจบมีงานทำ ได้แต่งงานกันก็มี บางคู่ก็อาจเลิกกันไป สมัยนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
ถามถึงเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์และการป้องกันการตั้งครรภ์
เราก็รู้ว่ายังไม่พร้อม อ้อยตอบทันที
เวลามีอะไรกันก็จะป้องกัน จริงๆก็กลัวพลาดเหมือนกัน เคยคุยกับแฟน ถ้าพลาดท้องขึ้นมา เราจะทำอย่างไร แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า เราก็คงต้องรับผิดชอบ เห็นผู้หญิงทำแท้งกันเยอะ เราคงไม่ เราท้องกับคนที่เรารักนี่ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ถ้าพลาดมาก็ต้องเลี้ยงดูกันไป
นิตยสารเดอะ ฟ็อกซ์ แม็กกาซีน ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ จากคำถาม เคยทำแท้งหรือไม่ และถ้าท้องขณะเรียนอยู่จะทำแท้งหรือไม่
นี่คือคำถาม สำหรับนักศึกษาหญิง ได้คำตอบเรียงตามอันดับ ดังต่อไปนี้
1. ไม่เคย แต่ถ้ามีปัญหาก็คงต้องทำ (แท้ง) 2. เคยทำ (โดยวิธีกินยาขับ, ไปหาหมอ) 3. ไม่ทำ เพราะกลัวเจ็บ, ไม่ทำ เพราะกลัวบาป และ 4. ไม่ทำ เพราะสามารถดร็อปเรียนไว้ก่อนได้ พอคลอดเสร็จค่อยกลับไปเรียนต่อ
ส่วนรูปแบบของชีวิตรักนักศึกษา ที่ริลองหลักสูตรเร่งรัด รักนอกตำรา มีหลายคู่ที่พลาดพลั้งถึงขั้นฝ่ายหญิงตั้งท้อง แต่ที่สุดแล้วฝ่ายชายไม่ยอมรับและเลิกรากันไป
ผลสำรวจของนิตยสารฟ็อกซ์ พบว่า มีจำนวนมาก ฝ่ายหญิงเลือกที่จะไปทำแท้ง
กรณีของแพร อดีตเชียร์ลีดเดอร์ของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เธอเล่าว่า คบกับแฟนได้ 2 เดือน มีอะไรกันไปเรื่อยๆ ตอนที่ตั้งท้องไม่รู้ตัวเลย
พอแพ้ท้องสักเดือน ไปซื้อแผ่นเทสต์มาลองตรวจดูเองก็พบว่าตั้งท้อง ก็ชวนแฟนไปหาหมอ หมอยืนยัน เราอึ้งกันไปทั้งคู่ จากนั้นแฟนก็ให้เงินสองพัน บอกว่า...ให้ไปเอาออกซะ แล้วตีตัวออกห่าง
แพรชวนเพื่อนไปทำแท้งที่คลินิกที่ใช้ชื่อ ศูนย์วางแผนครอบครัว ดูแลรักษาตัวเอง ตั้งหน้าเรียนต่อจนจบ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
กรณีของแพร โชคดีที่เธอไม่ตกเลือดตายแบบหลายหญิงสาวที่ไปทำแท้งแล้วติดเชื้อ
ยังมีวัยรุ่นหญิงอีกจำนวนไม่น้อย ไม่เลือกทำแท้ง แต่เลือกวิธีคลอดแล้วทิ้ง ดังที่มีข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถ้ารวมที่ไม่เป็นข่าว จะมากสักแค่ไหน?
ไม่เฉพาะแต่การใช้ชีวิตอยู่ก่อนแต่ง เจาะลึกไปถึงพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นยุคนี้ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น แทบไม่ต้องแปลกใจ ทำไมสถิติวัยรุ่นชาย-หญิงติดเชื้อเอดส์จึงเพิ่มมากขึ้น
กรณีการมั่วเซ็กซ์ เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ไปจนถึงการมั่วเซ็กซ์ หมู่แบบสวิงกิ้ง นิตยสารฟ็อกซ์ พบข้อมูลว่า มีการจับกลุ่มก๊วนสมาชิกทั้งชายและหญิง เช่าอพาร์ตเมนต์หรือหอพักเพื่อปฏิบัติการนี้โดยเฉพาะ
มีการตั้งชื่อก๊วนสวิงกิ้งไว้ใช้เรียกกันอย่างลับๆด้วย
ก๊วนสวิงกิ้งของกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ มีการประกาศโชว์ในเว็บไซต์ ทั้งภาพและเสียง มีการประกาศแลกเปลี่ยนคู่นอน ประกาศเสนอตัวขอร่วมวงสวิง (กิ้ง) ในเว็บเพิร์ซ, เว็บสวิงกิ้ง ไปจนถึงเว็บหาคู่ต่างๆ ที่มีอยู่เกลื่อน
นิตยสารฟ็อกซ์รายงานทิ้งท้าย พฤติกรรมที่ว่านี้เป็นเพียงวัยรุ่นจำนวนหนึ่ง ไม่เหมารวมวัยรุ่นที่คิดดีทำดี ซึ่งมีอยู่มาก.
จากคุณ :
Yes, We drive TOYOTA
- [
22 ส.ค. 48 13:53:21
]