ความคิดเห็นที่ 1 มีของ Lab Siries ดีมากๆ แต่จำชื่อรุ่นไม่ได้ ลองไปดูที่ counter ของ Aramis ดูนะ จากคุณ : anonymous coward - [ 1 ก.ย. 48 09:33:55 A:61.91.143.123 X: TicketID:102575 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เหมือนกันเลยครับ ตอนนี้ผมแทบจะกินใบไผ่แทนข้าวอยู่แล้ว ขอบตาดำคล้ำเหมือนกันอะ รอฟังคำตอบด้วยคน จากคุณ : Assign - [ 1 ก.ย. 48 10:32:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าเพิ่งไปถึงประเด็นเรื่องทำยังไงถึงหายเลยนะครับ  การทำให้หายนั้นไม่ยากหรอก แต่เราเข้าใจหรือเปล่าว่า ทำไมมันจึงเกิดขึ้น และ อะไรจะเกิดขึ้นตามมา อันนี้สำคัญกว่าเรื่องความสวยความหล่อนะครับ มาดูว่ามันเกิดจากอะไรก่อนดีกว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ขอบตาดำ เกิดจากนอนน้อย นอนดึก แต่จริงๆแล้วมีเรื่องซ่อนเร้นมากกว่านั้นครับ ร่างกายของคนเราจะมีสัญญาณบ่งบอก ความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเสมอ แต่น่าเสียดายที่คนเราไม่เข้าใจ หรือ ไม่รู้ว่า ร่างกายต้องการบอกอะไรเรา คนที่ขอบตาดำ พึงระวังไว้ครับ ว่าร่างกายกำลังเตือนเรา ว่า ไตกำลังจะเสื่อม ! ไม่ต้องตกใจครับ ไม่ว่าอายุแค่ไหน หนุ่มสาว หรือวัยกลางคน หรือ แก่ชรา ล้วนมีสิทธิไตเสื่อมด้วยกันทั้งนั้น ผมพูดถึงไตเสื่อมนะครับ ไม่ใช่โรคไต ตามที่เราเข้าใจกัน ไตเป็นอวัยวะภายในที่ทำหน้าที่กรองของเสียในร่างกาย ซึ่งจริงๆแล้วเป็นเพียงหนึ่งในหน้าที่หลายๆอย่างของไต หน้าที่อีกหลายอย่างของไต ถ้ากล่าวถึงทั้งหมด เกรงจะยิ่งยาว จึงสรุปให้สั้นๆว่า ไตนั้นเปรียบเหมือน GM หรือผจก.ของร่างกาย คนเราโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ ใช้ชีวิตกันในรูปแบบที่สุขภาพร่างกายจะเสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะการทำร้ายไตของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะรับประทานอาหารที่ปรุงแต่งมากเกินไป หรือ อาหารที่มีปัจจัยหยินหยางไม่สมดุลกับร่างกายตัวเอง (เค็มมาก มันมาก เผ็ดมาก ฟาสฟู้ด อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง อาหารอุตสาหกรรมต่างๆฯลฯ ) อีกทั้งการใช้ชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับเวลาที่ถูกต้อง  ทั้งนอนน้อยเกินไป นอนมากเกินไป นอนไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย (รวมถึงการออกกำลังที่ไม่เหมาะกับสภาวะของร่างกายตัวเอง)  เครียดมาก กดดันมาก รีบเร่งมาก ฯลฯ คนในยุคปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะอยู่ในภาวะไตเสื่อมมากขึ้น และให้สังเกตสภาพร่างกายของตัวเองดังต่อไปนี้ครับ 1.มักจะอ่อนเพลียบ่อย ขาดความกระตือรือร้น 2. นอนไม่ค่อยหลับ หรือ หลับไม่สนิท 3.ปัสสาวะบ่อย หรือ กะปริดกะปรอย 4.ปวดตามตัว เป็นตะคริวบ่อย 5.จาม คัดจมูก เป็นหวัดง่าย 6. ซึมเศร้า ปวดหัวง่าย ขี้ลืม ขี้วิตกกังวล 7.หย่อนสมรรถภาพทางเพศ หลั่งเร็ว  ประจำเดือนไม่ปกติ 8.ขอบตาดำคล้ำ ผมหงอก ผมร่วงก่อนวัย จริงๆมีเยอะกว่านี้นะครับ...เอาแค่นี้เช็คตัวเองก่อนแล้วกัน  คือ ไม่ได้หมายความว่าต้องมีอาการแบบนี้ทั้งหมดนะครับ แต่โดยรวมแล้วมีปรากฎให้เห็นกับตัวเอง และคนรอบข้าง ทีนี้มาดูกันครับว่า อะไรบ้างที่ทำให้ไตเราเสื่อมกันนะครับ 1. ใช้ชีวิตขาดสมดุล : ทำงานหนักเกินไป หามรุ่งหามค่ำ ไม่หลับไม่นอน หรือ เที่ยวกลางคืนหนัก หมกมุ่นความบันเทิง ฯลฯ 2. เพศสัมพันธ์ : การมีเพศสัมพันธ์มากเกินควร และการหลั่งน้ำอสุจิมากเกินควร ทำให้ร่างกายเสียพลังไปโดยเปล่าประโยชน์ และไตจะอ่อนแอลง 3. การทานยารักษาใดๆเป็นระยะเวลานาน หรือ ในปริมาณที่มาก : ทั้งยาแก้ปวด ยาคุมฯ ยาแก้หวัด แก้ไอ แก้เครียด ซึ่งแม้โรคจะหาย แต่ไตจะมีเคมีของยาตกค้างอยู่ ยังมีอีกเยอะครับ แต่ค่อนข้างจะลงรายละเอียดเยอะไปแล้ว แค่นี้คงครอบคลุมแล้วล่ะมั้งครับ ลองพิจารณารูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเองดูก่อน ว่าเป็นอย่างไร และมีอาการตามที่ผมว่ามาหรือไม่ แล้วเรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องการแก้ไข การแก้ไข ง่ายสุดครับ คือ ปรับพฤติกรรมของตัวเอง ทั้ง การนอน การกิน การอยู่    ผมให้Tip ง่ายๆเลยนะครับ หนึ่งวันมี 24 ชม. ให้แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนละ 8 ชั่วโมง  ทำงาน 8 ชั่วโมง  ส่วนตัว 8 ชั่วโมง (เที่ยว พักผ่อน ดูทีวี สันทนาการ ออกกำลังกาย)  นอน    8  ชั่วโมง  เป็นไงล่ะครับ ทำยากใช่มั้ยครับ ผมถึงบอกไงว่าคนยุคปัจจุบัน นี้ไตเสื่อมกันเยอะ และจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นอีกเยอะมากๆในไม่เกิน 10 ปีนี้ หมอจะกำไรมากขึ้นจากการรักษาคนป่วย แต่คนป่วยจะไตพังกันมากขึ้น จากการกินยา แล้วก็จะวกมาให้หมอรักษาไตอีก (- _- " ) เพราะฉะนั้น เราจึงควรพิจารณาตัวเอง และ ตัดสินใจเองครับว่าจะ บริหารจัดการกับชีวิตตนเองอย่างไร ที่ไม่เสียงาน และ ยังมีรายได้ และ ไม่เสียสุขภาพ ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : CHM - [ 1 ก.ย. 48 12:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงคุณCHM แล้วมันทำไมถึงทำให้ขอบตาดำละครับ หรือเป็นเพราะว่าเลือดไปเลี้ยงไม่พอ ความคิดเห็นของคุณดีมากๆเลยครับ จะเอาไปบอกเพื่อนๆ จากคุณ : แป้งมัน - [ 1 ก.ย. 48 12:52:50 A:160.1.212.111 X:61.90.149.29 TicketID:095228 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... เราขอบตาดำเพราะเป็นภูมิแพ้ เคยแพ้ควันพิษตอนเข้ามาอยู่ กทม ใหม่ๆ ต้องทานยาแก้แพ้ทุกวัน เม็ดละ 15 บาท หลังๆ ร่างกายปรับตัวได้แล้วเลยไม่ต้องใช้ยา แต่รอยดำคล้ำใต้ตาและที่ริมฝีปากก็ยังไม่จางไป ... จากคุณ : ป้ายนี้ยกเลิก - [ 1 ก.ย. 48 15:52:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หันมาใช้ "ขอบตาแพะ" แทนครับ เหอๆ... ...อ้าว คนละเรื่องกันเหรอ จากคุณ : สายัณห์ ตะวันเพลิง - [ 1 ก.ย. 48 19:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากๆ ค่ะ กำลังคิดว่าจะตั้งกระทู้ถามพอดี เราลดความอ้วน (โดยจำกัดอาหาร+เต้นแอโรบิค) พึ่งลงแค่ 5 โล ทั้งๆที่อาทิตย์แรกเต้นทุกวัน(พึ่งทำจริงๆ จังๆ ได้เดือนกว่าๆ) แต่พักหลังมานี้ ไม่ค่อยได้เต้น อาทิตย์นึง แค่ 2-3 วัน วันละไม่ถึง ครึ่งชม. เราตื่นตอนตี 1-2 และต้องยืนๆเดินๆ ทำงาน อาศัยนอนกลางวัน แต่นอนยาว  บางทีก็นอนตอนกลางคืนต่อด้วย รู้สึกว่าพักหลังนี้เพลียง่าย เหนื่อย เลยใช้เวลานอนมากขึ้น ตื่นสายอยู่หลายวัน ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหน่อยนึง แต่รู้สึกว่าหน้าเปลี่ยนไป มีเส้นจากใต้ตาลงมาที่แก้ม (ไม่ใช่ถุงใต้ตานะคะ) และก็ใต้ตาลึกคล้ำ กำลังสงสัยว่าตัวเองแก่ลง หรือว่า แก้มยุบ ทำให้ดูตาโหลกันแน่ คิดมองหาอะไรมาบำรุงรอบดวงตาอยู่ แต่ค้นมาเจอกระทู้นี้ งั้นขอถามคุณ CHM ว่า ถ้าเกิดเราเป็นไตเสื่อมจริงๆ เราควรดูแลร่างกายยังไงได้บ้าง โดยที่ไม่ต้องพึ่งหมอ และกินยา มันหายขาดได้ไหมคะ? แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 48 08:29:58 จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 2 ก.ย. 48 08:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอโทษนะครับที่เข้ามาตอบช้า วันนี้งานยุ่งจริงๆครับ ^ ^" ตอบคุณแป้งมันก่อนนะครับ ที่คุณสันนิษฐานค่อนข้างใกล้เคียงครับ ผมเปรียบเทียบง่ายๆนะครับว่า ไตเหมือนแบตเตอรรี่ ถ้าแบตเสื่อม กำลังไฟก็น้อยลง การส่งพลังงานก็ทำได้ไม่เต็มที่ เลือดลม ก็ไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ การที่คนเรามีผิวพรรณสวย เต่งตึง ไม่แห้งหยาบ ซีดจางผมดำดกสวย ไม่ร่วงไม่หงอก ขอบตาไม่คล้ำ ก็เพราะเลือดลมไหลเวียนได้ดีครับ สำหรับคุณโดดเดี่ยวฯนะครับ ควรปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด่วนเลยครับ เมื่อก่อนผมก็อย่างนี้ล่ะครับ ดีที่รู้ตัวก่อน เลยปรับตัวทันไม่งั้น ป่านนี้จะเจ็บป่วยเป็นอะไรไปแล้วไม่รู้ คำสอนคนโบราณบอกว่า "ใช้ชีวิตคล้อยตามธรรมชาติ" ธรรมชาติของคนเรานั้น "กลางวันทำงาน กลางคืนพักผ่อน" (หยางขยับ  หยินสงบ) คนยุคสมัยนี้ แม้แต่เด็กนักเรียน นักศึกษา มีแนวโน้มจะเจ็บป่วย และร่างกายอ่อนแอมากขึ้นครับ เพราะค่านิยมว่าการทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่หลับไม่นอน ดูหนังสือยันสว่าง ดูแล้วขยันดีน่าชื่นชม แท้จริงแล้ว เป็นการลดทอนพลังงานของตัวเอง ทำให้"ทุน"ที่มีอยู่ลดน้อยลง กรณีของคุณต้องปรับเวลาในการทำงานและการนอนจริงๆครับ นอนไม่เกิน 4 ทุ่ม หลับไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง ทำให้ได้ในช่วงระยะ 1 เดือนนี้ก่อน ทำงานเฉพาะเวลากลางวัน (ไว้มีโอกาสผมจะอธิบายให้ฟังเรื่องของ "วงจรธรรมชาติ" ว่า ทำไมเราต้องนอนไม่ต่ำกว่า 7-8 ชม. ทำไมต้องนอนไม่เกิน4ทุ่ม ทำไมต้องทำงานกลางวัน พักผ่อนกลางคืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุกคนมากเลยครับ ) ระยะแรกถ้าปรับยากนัก เพราะภาระต่างๆ ก็ขอให้ค่อยๆปรับนะครับ แต่ต้องตั้งใจที่จะปรับจริงๆ เงินทอง การงาน แลกกับคุณภาพชีวิตไม่คุ้มหรอกครับ จากคุณ : CHM - [ 2 ก.ย. 48 19:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อนะครับ... นอกจากนี้ ผมมีข้อแนะนำสำหรับคุณอีก ดังนี้ครับ 1. ปรับวิธีการออกกำลังกาย    แอโรบิคก็เป็นการออกกำลังที่ดี แต่ช่วงนี้ร่างกายคุณขาดสมดุล จึงไม่แนะนำให้เล่นต่อ เพราะอาจทำให้คุณสูญพลังมากขึ้น อยากให้คุณฝึกโยคะกับครูผู้ชำนาญ ซึ่งหาเรียนได้ไม่ยากในเวลานี้ (ห้ามฝึกเองจากหนังสือ หรือ ซีดีเด็ดขาดนะครับ จะเสียมากกว่าได้ ) การฝึกโยคะ ไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เรื่องความสวยความงาม แต่เป็นการปรับสมดุลของระบบภายในต่างๆ ของร่างกาย และช่วยฟื้นฟูสภาวะที่ผันแปรต่างๆให้เข้าที่ได้ดีมาก แต่ต้องฝึกอย่างมีวินัย และมีสมาธิ นอกจากนี้ หากมีโอกสอยากให้ฝึกชี่กงควบคุ๋ไปด้วย จะเห็นผลดี และเร็วยิ่งขึ้น หากรู้สึกว่า ยากหรือห่างตัวเกินไปสำหรับคุณ ก็ให้เลือกการว่ายน้ำ โดยว่ายอย่างเบาๆ แต่ต่อเนื่อง ในเวลาที่พอสมควร (รู้สึกเหนื่อยเมื่อไรให้หยุดพัก ห้ามฝืนต่อ)  ว่ายเบาๆ อย่าจ้ำพรืด..จ้ำพรืด..(คุณไม่ได้ไปแข่งกับใคร คุณกำลังบำบัดตัวเอง) 2. ปรับอาหาร : งดเนื้อสัตว์ย่อยยาก อย่างวัว หมู ไก่ เป็ด แกะ ของเผ็ด ของเย็น (ไอสครีม น้ำแข็ง ) ของมัน ของทอด ให้ทานปลาทดแทน และทานผักสด ที่ปรุงน้อย (เช่นสลัด)มากขึ้น ทานพวกถั่วแดง งาดำ ข้าวโพด ดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ (ห้ามดื่มน้ำเย็น) และงดเครื่องดื่มของมึนเมา น้ำอัดลม นม น้ำอุตสาหกรรม (ชาเขียว ชาขาว บรรจุขวด เครื่องดื่มบำรุงกำลัง) 3. อยู่ห้องแอร์ให้น้อยลง อยู่หน้าจอคอมฯ จอโทรทัศน์ให้น้อยลง หาเวลาอยู่กับธรรมชาติมากขึ้น (เดินเท้าเปล่าในสนามหญ้าได้จะดีมาก) ลองเอาเท่านี้ไปปรับใช้ก่อนนะครับ จริงๆมีเยอะกว่านี้มาก แต่ตอนนี้เวลาผมไม่อำนวยแล้ว ถ้ายังไงมีข้อสงสัยก็เข้ามาถามได้อีกครับ แต่อาจจะตอบช้านิดนึงนะครับ พอดีวันเสาร์อาทิตย์ต้องเดินทาง กลับมาวันจันทร์ ผมจะเข้ามาที่นี่อีกครั้งครับ จะเห็นว่าที่แนะนำไป ดูเบสิคมากเลยใช่มั้ยครับ แต่ทำยากมากเลย นี่ล่ะครับ ผมถึงบอกว่าคนในยุคนี้จะป่วยกันมากขึ้น เพราะสร้างความยุ่งยากให้วงจรธรรมชาติของตัวเอง ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : CHM - [ 2 ก.ย. 48 19:46:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ คุณ CHM มากๆ เลยค่ะ 1. คงต้องเลือกว่ายน้ำ เพราะเราไม่ชอบโยคะนัก 2. เราทานถั่วต่างๆ งาดำ  ข้าวโพด และปลาเป็นปรกติอยู่แล้วค่ะ โดยเฉพาะสลัดกับส้มตำ ของหวานของมัน ก็ไม่ชอบกินอยู่แล้ว แต่คงต้องงดหมู ไก่ เนื้อ 3. บ้านไม่ได้ติดแอร์ เดี๋ยวนี้อยู่หน้าคอมไม่เกินวันละ 2 ชม. และก็ไม่ได้เล่นทุกวัน ใกล้จะเบื่อแล้ว หุหุหุ แต่ยังหย่าไม่ขาด เท่าที่ประเมิน เราคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องการนอนไม่ตรงเวลาและเราเองก็ทำงานที่ใช้พลังงานมากๆ แล้วมาออกกำลังกายด้วย ร่างกายเลยปรับไม่ทัน เรื่องเวลานอนคงปรับยาก เพราะเราขายของที่ตลาดเช้าน่ะค่ะ ร้านเปิดตี 2 ครึ่ง จึงต้องตื่นมาเตรียมตัวขนของตั้งแต่ ตี 1 กว่า ๆ และก็ยืนๆ เดินๆ ขาย ถึงประมาณสัก 7 - 8 โมง ลูกค้าถึงซา ก็จะเริ่มเก็บร้าน กว่าจะเสร็จก็ 10 โมงครึ่ง - 11 โมง จึงจะได้เข้าบ้าน พักผ่อน เปลี่ยนไม่ได้จริง ส่วนที่ออกกำลังกาย คือเราเอาเวลาสะดวก เต้นกับบ้าน คือเวลาที่ไม่อิ่มหรือหิวจนเกินไป และไม่เหนื่อยเกินไปน่ะค่ะ บางทีก็ 2-3 ทุ่ม เต้นแต่ละที ไม่ถึงครึ่งชม. ดีด้วยซ้ำ 2 อาทิตย์ ฟิต เต้นทุกวัน แต่หลังๆ มา พอดีว่าพ่อไม่อยู่ เลยต้องทำงานแทนพ่อด้วย เลยเหนื่อย เต้นไม่ไหว หลังๆ ก็ลดลงๆ เพราะมันรู้สึกเพลีย  ว่างเลยเอาแต่นอน พอรู้สึกดีขึ้น มีคนทักว่าน่าเปลี่ยน เลยลองส่องกระจกและสังเกตดู มันก็เป็นแพนด้าแบบนี้แหละค่ะ เคยพยายามคำนวนเวลา ให้นอนได้ 8-10 ชม. ก็คือต้องเข้านอนตั้งแต่ตอนเย็น 5-6 โมง ปรากฏว่า ดันตื่นตอน 3 ทุ่มประจำเลย แล้วก็นอนไม่หลับ จนไปขายของน่ะค่ะ กลุ้มใจจริงๆ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 3 ก.ย. 48 15:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 *ทำโฟโน-ดีขึ้นค่ะ *เครื่องเกรฟาส-ครั้งเดียว จางลงมากๆ พนง บอก 6เดือน หายแน่ จากคุณ : 2 - [ 4 ก.ย. 48 03:42:17 A:58.8.255.164 X: TicketID:106875 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงคุณโดดเดี่ยวผู้น่ารัก ขอโทษนะครับที่เข้ามาตอบช้า วันนี้งานยุ่งอีกแล้ว ^ ^" ก้อวันจันทร์นี่ครับ เข้าใจนะครับสำหรับเรื่องงานของคุณ  จริงๆมีวิธีการดูแลสุขภาพ และท่าชี่กงอย่างง่ายๆ ซึ่งน่าจะช่วยในการปรับสมดุลของร่างกายคุณ ซึ่งต้องใช้งานผิดเวลาแบบนี้ แต่คงต้องใช้เวลาในการพิมพ์ค่อนข้างมากหน่อย เอาเป็นว่า ผมติดคุณไว้ก่อนแล้วกัน ผมขอไปเรียบเรียง แล้วเดี๋ยววันสองวันนี้จะเข้ามาพิมพ์ให้ แล้วคุณลองเอาไปใช้ดูนะครับ แต่ถ้ายังไงลองคุยกับครอบครัวดูนะครับ วางแผนว่าอีก ปี หรือ 2-3 ปี หรือ 5 ปี ข้างหน้า จะปรับเปลี่ยนกิจการ หรือ อาชีพที่ทำอยู่มั้ย มีความเป็นไปได้มั้ย เพราะผมอยากให้ดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับวงจรธรรมชาติจะเป็นการดีที่สุด ก่อนที่จะมีปัญหาสุขภาพตามมาในภายหลังนะครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : CHM - [ 5 ก.ย. 48 20:06:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณค่ะ อาชีพสงสัยจะเลิกยาก นอกจากเราไม่ไหวจริงๆ แหะๆ จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 6 ก.ย. 48 03:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ยอมตาดำต่อไป ให้อยู่ห่างคอม แล้วหนูจะกินอาราย จากคุณ : น้ำสังข์ - [ 9 ก.ย. 48 13:06:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงคุณโดดเดี่ยวฯ และทุกท่านที่สนใจครับ ขอโทษนะครับที่เข้ามาตอบช้าอีกแล้ว ก่อนอื่นจะขอพูดถึงเรื่องของไตอีกเล็กน้อยนะครับ อาการผิดปกติที่แสดงออกทางร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม หรือ ความรู้สึกก็ดี ล้วนมีส่วนสัมพันธ์กับอวัยวะไต   ไตนั้นเปรียบเสมือนแบตเตอรี่ที่มีค่ายิ่งของมนุษย์ เป็นเหมือนผลึกแก้ววิเศษที่มีค่ามหาศาล แต่ก็เปราะบางยิ่งนัก และง่ายต่อการแตกร้าว  วิธีการดูแลรักษาไม่ยากเลยสำหรับคนในยุคสมัยก่อน แต่ยากยิ่งสำหรับคนยุคสมัยนี้ นั่นคือ "คล้อยตามธรรมชาติ" คนสมัยก่อน ตื่นเช้า นอนแต่หัวค่ำ  ทานอาหารที่สดใหม่ไม่ผ่านกระบวนการอุตสาหกรรม ดื่มน้ำบริสุทธิ์ ใช้กำลังกายมากกว่าพึ่งพาสิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ ในขณะที่คนยุคปัจจุบัน นอนดึกเป็นกิจวัตร (ทำงาน,ดูบอล,ดูโทรทัศน์,เที่ยวกลางคืน) ทานอาหารปนเปื้อน แปรรูป ดื่มน้ำอัดลม พึ่งพาเทคโนโลยีจนเกินความจำเป็น ฯลฯ อาการไตเสื่อมจะเกิดใน 2 ลักษณะ แยกเป็น ไตหยิน กับ ไตหยาง อาการไตหยาง หรือ ไตหดตัวแน่น - นอนไม่หลับ หรือ หลับๆตื่นๆ -นอนกัดฟัน ฝันร้ายบ่อย -อสุจิเคลื่อนตอนนอน - เป็นเหน็บชาบ่อย ฯลฯ  โดยมีสาเหตุมาจาก 1.ทานอาหารรสเค็มจัด หรือ เนื้อย่าง ปิ้งไฟ หรือ พวกเนื้อแห้ง แดดเดียวบ่อย 2. ระบบการทำงาน หรือ การใช้ชีวิตที่ขาดระเบียบ 3.การนั่งทำงานหรือ นั่งรถนาน ส่วนอีกลักษณะคือ ไตหยิน หรือ ไตคลาย -เฉื่อยชา เกียจคร้าน -ความต้องการทางเพศต่ำลง -ปวดเมื่อหลัง เอว -ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน - นอนตื่นสาย ไม่อยากตื่น -อารมณ์อ่อนไหวง่าย -ขี้หูมาก -เหงื่อออกเยอะผิดปกติ ตามปกติแล้ว ในเวลากลางคืน ไต ซึ่งเป็นอวัยวะธาตุน้ำ หรือ "หยิน" จะทำงานมากกว่าเวลากลางวัน  (สังเกตว่าเวลาตื่นเช้า เราจะปวดปัสสาวะก่อนเป็นอันดับแรก)   ดังนั้น เมื่อเราใช้ชีวิตที่เพิ่มปัจจัย "หยิน" ในชีวิตประจำวันมากจนเกินดุล ไตจึงยิ่งทำงานหนักขึ้น (อาการหยินที่เกิด เช่น ขี้เกียจ อยากนอนตลอดเวลา ปัสสาวะบ่อย เซื่องซึม สีหน้าซีดเซียว ขอบตาคล้ำ หงุดหงิดขี้รำคาญ เป็นต้น)  ฉะนั้น ถ้าใครที่ใกล้ตัว หรือ พนักงานของใคร ที่ขี้เกียจ ก็อย่าไปดุด่า โทษเขา แต่ควรพูดคุย สอบถาม วิธีการใช้ชีวิต แล้วแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การนอน การใช้ชีวิต จะได้บุญครับ ^ ^  การใช้ชีวิตที่ไปเพิ่มปัจจัยหยินได้แก่ - การดื่มน้ำเย็นเป็นนิสัย รวมทั้ง น้ำแข็ง ไอสกรีม หวานเย็น และอาหารลักษณะนี้ - ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ - การสวมใส่เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ซึ่งมีไฟฟ้าสถิตย์ -การอาศัยอยู่ในที่เย็นนานๆ เช่น ห้องแอร์  ดังนั้น คนที่ทำงานในออฟฟิศที่เปิดแอร์ทั้งวัน ควรหาเวลาเดินไปข้างนอกเปลี่ยนอากาศบ้าง หรือ ใส่เสื้อแจ็คเก็ต (ควรเป็นผ้าธรรมชาติ เช่น คอตตอน ) และ หาโอกาสออกกำลังกายกลางแจ้งบ้าง  สำหรับคนที่นอนห้องแอร์ ควรสวมเสื้อผ้า ห่มผ้าให้อบอุ่น - การนั่งรถนานๆ โดยเฉพาะบนเส้นทางที่รถติดมากๆ ยิ่งเพิ่มปัจจัยหยินมากขึ้น -นอนไม่เป็นเวลา ทำงานไม่เป็นเวลา นอนน้อย หรือ นอนผิดเวลา สำหรับคนที่นอน และ ทำงานผิดเวลา เช่น คุณโดดเดี่ยวฯ นะครับ ตามหลักวงจรธรรมชาตินั้น เวลากลางวัน คือ ยามสำหรับ ทำงาน เรียนหนังสือ  ส่วนกลางคืน คือ ยามสำหรับพักผ่อน นอนหลับ ( หยางเคลื่อนไหว หยินสงบนิ่ง) การใช้ชีวิตที่ผิดวงจรนั้น จะส่งผลถึงสุขภาพร่างกาย และจิตใจ อย่างแน่นอน แม้ในปัจจุบันนี้จะยังไม่แสดงตัวออกมาอย่างเต็มที่ นั่นเพราะ ตัวคุณมี "ทุน" ที่ยังค้ำยันอยู่ แต่เมื่อใดที่ทุนนั้นพร่องลงไปเรื่อยๆ เพราะการใช้ชีวิตที่เพิ่มปัจจัยหยินเช่นนี้อยู่ อาหารที่ควรเลือกรับประทานเป็นหลัก ได้แก่ 1. ข้าวกล้อง 2.สาหร่ายทะเล 3.ถั่วแดง ผักสด ผลไม้รสไม่หวานและ น้ำน้อย 4.เต้าเจี้ยว หลีกเลี่ยง การใช้ชีวิต ดังนี้ 1. การสวมใส่รองเท้าส้นสูง 2. การนั่งหรือนอนบนเก้าอี้ที่แข็ง หรือ นุ่มเกินไปผิดรูปกายภาพ (เก้าอี้ หรือ เตียง ดีไซน์เก๋ๆ ที่นิยมกันในหมู่คนรุ่นใหม่ ) ควรเลือกแบบที่ไม่แข็ง ไม่นุ่ม กำลังดี อย่างที่นอนใยมะพร้าว การใช้ชีวิตที่ควรปรับเพิ่ม 1. พยายามอย่านั่งหลังงอ 2. อย่านั่งนานๆ หรือ อย่าอยู่อย่างเฉื่อยชานานๆ 3. ดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ (ไม่เย็น) หรือ น้ำอุ่นได้จะยิ่งดี วันละ 6 แก้วอย่างน้อย โดยดื่มแบบค่อยๆจิบ อย่าดื่มคำโต หรือเอื้อกเดียวหมดแก้ว 4. เมื่อต้องนอนตอนกลางวัน เพื่อตื่นมาทำงานตอนกลางคืน ให้ปฏิบัติ ดังนี้ 1. ไม่เปิดแอร์ ให้เปิดหน้าต่าง 2. สวมใส่เสื้อผ้าธรรมชาติ อย่าใส่เสื้อใยสังเคราะห์ 3. ปฏิบัติ ชี่กง ท่านอน ดังนี้  ชี่กงท่านอน 1. นอนหงายบนที่นอนที่ราบเรียบ ไม่ต้องห่มผ้า ไม่หนุนหมอน สองแขน วางข้างตัว แยกห่างลำตัวเล็กน้อย สองฝ่ามือหงายขึ้น  สองขาแยกเสมอไหล่ ปลายเท้าทั้งสองแบะออกตามสบาย ไม่เกร็ง ลำคอศีรษะ ไหล่ บ่า ปล่อยตามสบาย ยิ้มเพื่อให้ใบหน้าผ่อนคลาย จินตนาการว่า ที่กลางศีรษะ กับที่ จุดตรงระหว่าง อวัยวะเพศกับรูทวาร มีเส้นเชื่อมต่อกันอยู่ (จุดกลางศีรษะ เรียกว่า ไป่ฮุ่ย หรือ จักร 7 จุดระหว่างอวัยวะเพศกับรูทวารหนัก เรียก ฮุ่ยอิน หรือ จักร 1 )  เพ่งสมาธิที่จุดไป่ฮุ่ย และ หายใจเข้าออก ช้าๆ ยาวๆ ขณะเพ่งที่จุดนี้ 5 ครั้ง ...เอ่อ..ขอติดไว้เท่านี้ก่อน เดี่ยวตอนเย็นจะเข้ามาต่อนะครับ (ต้องทำงานแล้วครับ ^ ^") จากคุณ : CHM - [ 12 ก.ย. 48 09:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กระทู้นี้น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณคุณ CHM มากๆ นะคะ เหลียนปออยากขอคำแนะนำด้วย ดูจากที่คุณ CHM บอกมา เหลียนปอน่าจะเป็นอาการไตหยาง เพราะมีอาการ - นอนไม่หลับ หรือ หลับๆตื่นๆ ทั้งคืน - นอนกัดฟัน - ฝันทุกคืน (แต่ไม่ได้ฝันร้ายนะคะ) ถ้ามีอาการไตหยาง ต้องปฏิบัติตัวยังไงบ้างคะ ทุกวันนี้ออกำลังสัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 1-1.5 ชม. weight training + Cardio + วิ่งลู่บ้าง (บางวัน) นอน 4-5 ทุ่ม ตื่น 6 โมงเช้า จากคุณ : เหลียนปอ - [ 12 ก.ย. 48 12:48:42 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีรอบเย็นครับ ต่อเลยแล้วกันนะครับ เมื่อเพ่งสมาธิที่จุดไป่ฮุ่ย (กลางกระหม่อม) พร้อมหายใจเข้าออกยาวลึก 5 ครั้งแล้ว จินตนาการว่า มีกลุ่มแสงสีขาวกระจุกอยู่ที่กลางกระหม่อมนี้เกิดขึ้น จากนั้น หายใจเข้าอีกครั้ง แล้วหายใจออกช้าๆ พร้อมกับจินตนาการว่า แสงสีขาวจากกลางกระหม่อมนี้ ค่อยๆ แยกเป็น 2 สาย เคลื่อนไปตามจุดดังนี้ - ขมับทั้ง 2  พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - ใบหู ทั้ง2  พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - ข้างลำคอทั้ง 2  พร้อมภาวนาว่า "คลาย" -บ่าทั้ง 2   พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - หัวไหล่ ทั้ง 2  พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - ต้นแขนทั้ง 2 พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - ข้อศอก ข้อพับทั้ง 2  พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - แขนท่อนล่างทั้ง 2 พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - ข้อมือทั้ง 2 พร้อมภาวนาว่า "คลาย" - สุดท้าย เคลื่อนมาที่ฝ่ามือและนิ้วทั้ง 10 ทั้ง2 ข้าง  พร้อมกับหายใจออกสุดพอดี    เพ่งสมาธิที่กลางฝ่ามือ (เรียกว่าจุดเหล่ากง) และ ปลายนิ้วทั้ง10 ทั้ง 2 ข้าง พร้อมหายใจเข้าออก ช้ายาว ผ่อนคลาย ไม่ฝืน 5 ครั้ง ถือว่าจบชุดที่หนึ่ง ต่อชุดที่สอง กลับมาเพ่งสมาธิที่จุดไป่ฮุ่ยอีกครั้ง หายใจเข้าจินตนาการเห็นกลุ่มแสงสีขาวเหมือนเดิม หายใจออกพร้อมจินตนาการว่าแสงสีขาวเคลื่อนที่ไปตามจุดดังนี้ - หน้าผาก พร้อมภาวนาว่า "คลาย"  (เคลื่อนจุดไหนภาวนาว่าคลายที่จุดนั้น ผมจะละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ) -หว่างคิ้ว - ลูกตาทั้งสอง -จมูก -แก้ม -จุดเหนือริมฝีปาก -ปาก -ลำคอ และ ต่อมทอนซิล -หน้าอกทั้งสอง พร้อมปอด -ลิ้นปี่ พร้อมหัวใจ -กระบังลม พร้อมกระเพาะ และตับ - หน้าท้อง พร้อมลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็ก - สะดือ ท้องน้อย พร้อมต่อมลูกหมาก - อวัยวะเพศ - จุดฮุ่ยอิน (จุดระหว่างอวัยวะเพศ และ รูทวารหนัก) -หน้าขาทั้งสอง - หัวเข่าทั้งสอง - หน้าแข้งทั้งสอง -ข้อเท้าทั้งสอง - หลังเท้าทั้งสอง แล้วหยุดที่ปลายนิ้วเท้าทั้งสอง พร้อมหายใจออกสุดพอดี เพ่งสมาธิที่ปลายนิ้วเท้าทั้ง10 ทั้งสองข้าง หายใจเข้าออกช้า ยาว ลึก ผ่อนคลาย ไม่ฝืน 5ครั้ง จบชุดที่สอง ต่อชุดที่สาม กลับมาเพ่งสมาธิที่จุดไป่ฮุ่ยอีกครั้ง หายใจเข้าช้าลึก จินตนาการเห็นแสงสีขาวเหมือนเดิม หายใจออก จินตนาการว่าแสงเคลื่อนที่ไปตามจุดดังนี้ - หลังศีรษะ (จุดนี้ คือ บริเวณที่คุณลากเส้นยาวจากหว่างคิ้วมาด้านหลังศีรษะ) อย่าลืมภาวนาว่า "คลาย" นะครับ - หลังคอ - ปุ่มกระดูกต้นคอ - แผ่นหลังตอนต้น พร้อมกับกระดูกสันหลังเรียงข้อลงมา -แผ่นหลังตอนกลาง พร้อมกระดูกสันหลังเรียงข้อลงมาอีก -แผ่นหลังตอนล่าง พร้อมกระดูกสันหลังเรียงข้อลงมาอีก และ ไตทั้งสองข้าง - เอว - กระดูกก้นกบ - ด้านหลังต้นขา หรือขาอ่อนทั้งสอง - ข้อพับ - น่อง - หลังข้อเท้า หรือ เอ็นร้อยหวาย - ส้นเท้า - กลางฝ่าเท้า แล้วหยุดที่จุดหย่งเฉวียน ซึ่งจุดนี้จะอยู่ระหว่างกลางฝ่าเท้า กับข้อแรกของนิ้วเท้า เพ่งสมาธิที่จุดนี้ พร้อมหายใจเข้าออก ช้า ยาว ลึก ไม่ฝืน ผ่อนคลาย 5 ครั้ง จบชุดที่ 3 ต่อชุดที่4 กลับมาเพ่งสมาธิที่จุดไป่ฮุ่ยอีกครั้ง หายใจเข้าออก 5 ครั้ง ที่ไป่ฮุ่ย พร้อมจินตนาการว่าแสงสีขาวที่นี่ส่องแสงเจิดจ้า และมีพลังอันบริสุทธิ์ และ รับเอาพลังความรักความเมตตาจากสรรพสิ่งรอบข้าง เข้ามาเพิ่มพลังให้พลังแสงสีขาวของเรา จนเปี่ยมพลังยิ่งขึ้น จากนั้น ค่อยๆเคลื่อนพลังแสงนี้ไปทั่วทุกอณูในร่างกายเรา จนภายในร่างกายเราสุกสว่างไปทั่วร่าง เพ่งสมาธิไปยังจุดที่เรามีปัญหาสุขภาพ เช่น ใครที่เป็นโรคหัวใจก็เพ่งไปที่หัวใจ , โรคกระเพาะก็เพ่งไปที่กระเพาะ ,หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทก็เพ่งที่นั่น เป็นต้น พร้อมจินตนาการว่าพลังแสงนี้ กำลังชำระล้างสิ่งสกปรก อันเป็นบ่อเกิดของโรคภัย ให้หายสิ้น (อย่าลืมจินตนาการไปที่ไตของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นโรคไต หรือ ไม่  โดยเฉพาะคุณโดดเดี่ยวฯ ให้เพ่งสมาธิ ใช้พลังแสงชำระล้างไตของคุณ นานกว่าจุดอื่นๆเล็กน้อย ) เมื่อชำระล้างจุดที่มีปัญหาแล้ว 1 จุด ให้จินตนาการว่า แสงสีขาวนี้ นำพาสิ่งสกปรก หรือ พลังที่ไม่บริสุทธิ์ ออกจากจุดนั้น แล้วพุ่งไปที่จุดหย่งเฉวียน (ฝ่าเท้า) ผลักสิ่งสกปรกนั้น ออกนอกฝ่าเท้าไปเลย แล้วค่อยเริ่มชำระ จุดที่มีปัญหาจุดต่อไป จนครบทุกจุดที่คุณมีปัญหา ในขณะที่จินตนาการว่าแสงนี้กำลังชำระล้างจุดที่มีปัญหา คุณสามารถกำหนดลมหายใจเข้าออก จุดละ 5 ครั้ง หรือมากกว่านี้ก็ได้ เพื่อเป็นมิเตอร์กำหนดเวลาในการชำระแต่ละจุด เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว หายใจเข้าลึกๆให้ภาวนาว่า "พลังความรัก ความเมตตาไปที่ใด โรคภัยหายหมดสิ้น" พร้อมกับจินตนาการว่า แสงสีขาวที่ไปทั่วร่างนี้ ยิ่งสุกสว่างยิ่งขึ้น จากนั้นหายใจออก จินตนาการว่าแสงสีขาวนี้ซึมซับไปทั่วร่าง จนแสงค่อยๆหรี่ลง พร้อมกับภาวนาว่า "ฉันให้อภัยต่อทุกสิ่ง" จบชุดที่ 4 ต่อชุดสุดท้าย "เก็บพลัง" ค่อยๆ ยกมือทั้งสองข้างมาประสานไว้ที่ท้องน้อย (จุดตันเถียน วัดโดยนำนิ้วทั้ง4 ชี้ กลาง นาง ก้อย ชิดเรียงกัน แล้วทาบที่ริมสะดือ ...ด้านข้างนิ้วก้อยอยู่ที่ไหน ตรงนั้นคือจุดตันเถียน หรือท้องน้อย อันเป็นคลังเก็บพลังของคุณ) ประสานมือไว้ที่ท้องน้อย โดยแบ่งวิธีประสานสำหรับชาย หญิง ดังนี้ - ผู้ชาย มือซ้ายวางนาบท้องน้อย มือขวาวางทับมือซ้าย - ผู้หญิง มือขวาวางนาบท้องน้อย มือซ้ายวางทับมือขวา เวลาประสานมือ ให้กลางฝ่ามืออยู่ทับกัน (กลางฝ่ามือบน ทับกลางหลังมือล่าง) หรือ จุดเหล่ากงอยู่ตรงกันนั่นเอง เคลื่อนมือที่ประสานวน "ตามเข็มนาฬิกา" ที่ท้องน้อย เป็นวงกลม 36 รอบ จากนั้น เคลื่อนมือ "ทวนเข็มฯ"  เป็นวงกลม 36รอบเช่นกัน เป็นอันจบบริบูรณ์ ประโยชน์ของการฝึกชี่กงท่านอนชุดนี้ - ปรับสมดุลต่างๆในร่างกายให้กลับทำงานอย่างเป็นปกติ - ทำให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น - จิตใจผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น สามารถหลับได้ลึกและสนิทมากกว่าเดิม - สามารถรักษาโรคให้ตัวเองได้ในระดับหนึ่ง คุณโดดเดี่ยวฯควรฝึกชี่กงชุดนี้ ทุกครั้งก่อนนอนเป็นประจำ จะช่วยปรับสมดุลของร่างกายได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคงช่วยคุณได้บ้าง ข้อแนะนำ หรือ เคล็ดในการฝึกให้ได้ผลอย่างดี - ควรดื่มน้ำอุ่น1 แก้วก่อนฝึก (ย้ำว่าน้ำอุ่น และไม่ต้องแก้วโตมากนะครับ) - ผ่อนคลายจิตใจ ไม่ต้องกังวล หรือคาดหวังกับผลในการฝึก เพราะเราเพิ่งเริ่มต้น แต่อย่าละความตั้งใจในช่วงเริ่มต้น (ทำอย่างปล่อยวาง ไม่เคร่งเครียด) - เปิดเพลงเบาๆ ประกอบการฝึก ซึ่งควรเป็นเพลงบรรเลง แนวนิวเอจ คลาสสิค หรือ เพลงสวดมนต์ภาษาจีน หรือธิเบต อาการที่อาจเกิดขณะฝึก 1.รู้สึกร้อน เย็น ชา ซ่า ในบริเวณ หรือจุดต่างๆที่แสงเคลื่อนที่ไป เป็นอาการปกติ ที่ "ชี่" เคลื่อนไหว  ไม่ต้องกลัวครับ ถือเป็นเรื่องดี 2. อันนี้ก็ถือว่า "ชี่" เคลื่อนไหวเหมือนกัน แต่อาจจะดูแปลกหน่อย คือจะมีการสั่น หรือ เคลื่อนไหวร่างกายได้เอง  จนน่ากลัว ว่าเหมือนเข้าทรง ...แต่ไม่ต้องตกใจครับ อาการนี้ไม่ได้เกิดกับทุกๆคน น้อยคนที่จะเกิด แต่ถ้าเกิดก็เป็นเรื่องปกติ และถือว่าโชคดีมากด้วย อันนี้เป็นภาวะ"หยางชี่" ของคุณมีมาก ไม่อันตรายอะไร  เมื่อเกิดอาการนี้ขึ้น ให้ใจเย็นๆ ผ่อนคลายตัวเอง หยุดการกำหนดจิตทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนไหนก็ตาม และปล่อยให้ร่างกายเคลื่อนที่ไป ตามที่เขาอยากเคลื่อน ซึ่งสังเกตให้ดีๆ นะครับ ว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายในภาวะนี้ จะทำเพื่อรักษาตัวเอง อย่างกรณีของผม ซึ่งเคยเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม สองมือของผมจะตบและนวดที่กระดูกเอว อย่างต่อเนื่องเอง โดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจเคลื่อนมือเอง สรุปแล้ว อาการอย่างที่สองนี้ คือ การที่ร่างกายผ่อนคลายตัวเองจนได้ที่ แล้วมีปฏิกริยาในการรักษาโรคให้ตัวเองนั่นเอง แต่การจะเกิดอาการนี้ได้ จิตใจ กับ ร่างกายต้องผ่อนคลายจริงๆครับ (คนที่มีแนวโน้มจะเกิดอาการอย่างที่สองนี้ คือ คนผมดก มีจอนผม หนวดเคราครึ้ม ขนเยอะ   มองโลกในแง่ดี ร่าเริง หัวเราะง่าย ) 3. เห็นภาพต่างๆ เช่น ป่าไม้เขียวขจี  ทะเลสาปที่สดชื่น ภูเขาที่สง่างาม อันนี้ก็ไม่ต้องตกใจครับ เป็นเรื่องปกติ และ เป็นเรื่องดี แสดงว่าจิตใจคุณผ่อนคลายถึงระดับจิตใต้สำนึก และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน  โอกาสเกิดน้อยกว่า แบบที่สองอีกครั้ง  ถ้าสมมุติเกิดขึ้น ก็ให้ยิ้มแย้ม และกำหนดสมาธิที่ลมหายใจและแสงของเราต่อไป ให้สักแต่เห็นภาพ แต่อย่ายึดติดอะไร  แล้วคุณจะได้ข้อธรรมะ จากภาพนั้นครับ อ่านแล้วอาจจะกลัวนะครับ สำหรับแบบที่ 2กับ 3 แต่อย่างที่บอกล่ะครับ ว่าโอกาสเกิดยาก แต่ผมก็ต้องบอกเอาไว้ก่อน เผื่อบังเอิญ่ว่า "คุณ" คือ คนที่แจ็คพ็อต จะได้ไม่ต้องตกใจกลัว เดี๋ยวจะมาโทษผมซะอีก ^ ^" โดยส่วนใหญ่คนที่ฝึก จะเกิดภาวะอย่างแรกเป็นส่วนใหญ่ 95% ครับ ดังนั้น ไม่ต้องกลัวจนไม่กล้าจะฝึกล่ะครับ (อุตส่าห์นั่งพิมพ์ให้ตั้งนาน -_-") คนที่ผมสอนวิธีนี้ให้ส่วนใหญ่ ก็จะชอบกันครับ เพราะฝึกง่าย ใช้เวลาน้อย และอ้างไม่ได้ว่าไม่มีเวลา เพราะผมให้ฝึกตอนคุณล้มตัวลงเข้านอน แค่ก่อนนอนไม่กี่นาทีเอง  อย่างน้อย แม้จะยังไม่เข้าถึง "ชี่" แต่ก็ช่วยทำให้จิตใจผ่อนคลาย เกิดสมาธิดียิ่งขึ้น และหลับได้สนิทยิ่งขึ้นครับ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : CHM - [ 12 ก.ย. 48 19:31:05 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับคุณเหลี่ยนปอ และทุกท่านที่สนใจ ก็สามารถฝึกชี่กงท่านอนนี้ได้เช่นกันครับ นอกจากนี้ แนะนำให้คุณเหลียนปอ ลองอ่านที่ผมพิมพ์ไปทั้งหมด ทุกคห.นะครับ แล้วจะเข้าใจมากขึ้น ขอแนะ Tips พิเศษให้ สำหรับอาการไตหยาง 1. งดเนื้อสัตว์ให้มากที่สุด โดยเฉพาะวัว หมู แพะ แกะ 2. งดของมัน ของทอด ของเผ็ด ของรสจัด เครื่องแกง ต้มยำทุกอย่าง เผือก หน่อไม้ กุ่ยช่าย 3. ทานผัก ผลไม้ให้มาก เน้นผักสด ปรุงน้อย ถั่วแดง ข้าวกล้อง งาดำ 4. อย่านั่งนานๆ ทั้งนั่งทำงาน นั่งรถ หาโอกาสเดินไปเดินมา บ้าง 5.หาโอกาสถอดส้นสูง เดินเท้าเปล่า หรือ รองเท้าแตะบ้าง 6. จัดระเบียบการใช้ชีวิตของตัวเอง ถึงเวลากินก็กิน ถึงเวลานอน ก็นอน (สัญญากับตัวเองจะนอนไม่เกิน 5 ทุ่ม เป็นต้น) 7.ควบคุมอารมณ์อย่าหงุดหงิด ขึ้รำคาญ 8. ฟังเพลงเบาๆ อย่างดนตรีจีนบรรเลง เพลงคลาสสิค บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องฟังทั้งวัน ถ้าคุณมีเพลงแนวที่ชอบอยู่แล้ว แต่ให้หาโอกาสฟังในแต่ละวัน เช่น วันละ 30 นาที แล้วก็ฟังอย่างตั้งใจ มีสมาธิกับทีละทำนอง ลองทำตามนี้ดูก่อนครับ แล้วมาดูผลกันในเดือนสองเดือนนี้ ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : CHM - [ 12 ก.ย. 48 19:40:47 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อืม..เกือบลืมครับ หลังจากฝึกชี่กงเสร็จ หากใครอยากอาบน้ำ ต้องรอให้เวลาผ่านไป 30 นาทีก่อนนะครับ แล้วให้อาบน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ (ห้ามน้ำเย็น) ถ้าอยากดื่มน้ำ ห้ามดื่มน้ำเย็นเด็ดขาด และให้ดื่มแบบจิบทีละนิด ห้ามดื่มเอื้อกเดียวหมดแก้ว แค่นี้ล่ะ... จากคุณ : CHM - [ 12 ก.ย. 48 19:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาอ่านเจอ ขอบคุณ คุณ CHM จะลองทำตามดูครับ จากคุณ : PK (pkpop) - [ 13 ก.ย. 48 02:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เรา ยังคงจะ คิดถึง เธอ จากคุณ : เสมอ - [ 13 ก.ย. 48 10:30:33 A:58.10.186.167 X: TicketID:104926 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณค่ะ กระทู้ข้างบนโดนลบไปแล้ว พักหลังไม่ค่อยได้มา เลยไม่ค่อยชินที่นักลบสวนลุมนี่เยอะจริงๆ แถมมือไวอีกต่างหาก จากคุณ : โดดเดี่ยวผู้น่ารัก - [ 13 ก.ย. 48 12:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากๆ เลยค่า จากคุณ : เหลียนปอ - [ 14 ก.ย. 48 13:00:03 ]