CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    @@ อยากให้ผู้ปกครองเข้าใจบ้าง ว่า... อาจารย์ก็ดูแลเต็มที่@@

    เมื่อวานพานักศึกษาไปเชียร์กีฬาข้างนอก(ไปรถบัส)
    ระหว่างทางกลับนักศึกษาขอเต็นบนรถ
    เราก็โอเค เพราะไม่ได้ซีเรียสอะไร
    ก็เข้าใจว่า .. เด็กอยากสนุกสนาน
    แล้วเราก็อยู่ รวมทั้งไม่มีเรื่องของแอลกอฮอลล์เกี่ยวข้อง

    ใกล้ถึงมหาวิทยาลัย เด็กเป็นลม(เด็กผู้ชาย)
    ก็เลยบอกให้นั่งพัก แล้วสักพักเด็กก็ขึ้นมาเต้นใหม่
    เฮ้อ ได้เรื่องเลยเด็กเป็นลมไปอีกรอบ(คราวนี้หมดสติไป)
    ถึงมหาวิทยาลัยก็เลยพาเด็กไปห้องพยาบาล
    (มีเด็กผู้หญิงอีกคนจากคณะอื่น เป็นลมด้วย)

    พยาบาลก็น่ารักมาก หึหึ
    (ใกล้เวลาเลิกงานแล้วถึงตอน 19.00 น.)
    หลังจากพยาบาลดูอาการแล้ว
    ก็บอกว่า... เด็กทั้ง 2 คนไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ
    (ประมาณว่าที่เป็น ส่วนหนึ่งเพราะเรียกร้องความสนใจ)
    เราก็ให้เพื่อนๆกลับบ้านไปก่อน เพราะดึกแล้ว
    เดี๋ยวผู้ปกครองจะเป็นห่วง ให้อยู่เฉพาะคนที่อยู่หอเดียวกัน

    เด็กผู้หญิงรู้สึกตัวแล้ว เลยเรียก taxi มารับ
    พอเดินออกมา ก็ไปเข้าห้องน้ำแล้วก็เป็นลมไปอีกรอบ

    สักพัก พยาบาลบอกว่า... นำส่งโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ
    เราก็โทรเรียกรถพยาบาลมา
    อาจารย์ที่ภาคอีกคนบอกให้พยาบาลทำเรื่องส่งตัว
    เผื่อเด็กจะได้เบิกค่ารักษาพยาบาลได้
    พยาบาลที่น่ารักก็บอกว่า.. มันเวลาเลิกงานแล้วนะคะ
    (แฟนคุณเธอมารออยู่ที่ในห้องพยาบาล)

    (ท่องไว้ๆๆ ใจเย็นๆ เด็กเป็นยังไงบ้างไม่รู้ )
    ระหว่างรอรถคุณเธอบอกว่า..อาการไม่ดีค่ะรีบไปดีกว่า
    เลยเอาเด็กขึ้นกะบะอาจารย์ที่ภาคอีกคนไป
    สวนกับรถพยาบาลหน้ามหาวิทยาลัยพอดี

    นางพยาบาลบนรถลงมาดูบอกว่า..
    ชีพจรปกติคะ หายใจปกติ แต่ยังไม่ได้สติ
    เลยไม่ได้ย้ายรถ เพราะมีเด็กผู้หญิงอีกคนที่รออยู่ที่ห้องพยาบาล
    ก็เลยให้บุรุษพยาบาลวอไปบอกที่โรงพยาบาลให้เตรียมไว้
    จะพาคนไข้ไปเอง

    ระหว่างนั้นก็โทรคุยกับแม่เด็กตลอด(พ่อแม่เด็กอยู่ต่างจังหวัด)
    พอไปถึงโรงพยาบาลหลังจากคุณหมอตรวจเสร็จก็ขอคุยด้วย
    คุณหมอบอกว่า.. ไม่ได้มีอาการของโรคหอบ(ที่เด็กบอกว่าเป็น)
    หรือโรคหัวใจอื่นๆ แต่เกิดจากสภาวะทางจิตใจ
    เหมือนเด็กเครียด แล้วคิดว่าตัวเองเป็นมาก
    ส่วนเด็กผู้หญิงอีกคน ก็น่ารักมาก
    พอรถพยาบาลไปถึง กลับมีแรงขึ้นมาซะงั้น
    ไม่ยอมมาโรงพยาบาล
    อืม ลุกขึ้นมาเถียงนางพยาบาลได้แล้ว เหอๆ
    แล้วตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยทำไม ฉันต้องให้เพื่อนๆเธอ
    มากระแหนะกระแหน ตอนให้เด็กกลับไปก่อน
    ประมาณว่า...
    ก็คณะ..รักเพื่อนไม่ทิ้งให้เพื่อนอยู่คนเดียวหรอกค่ะ (คนที่พูดก็กระเทยน่ะ)
    อ้าว งี้ว่าคณะฉันนี่นา ทำไมไม่คิดบางว่ามารออย่างงี้ ช่วยอะไรไม่ได้ แถมยังวุ่นวายรุมกันเสียงดัง
    แล้วมันสองทุ่มกว่า พ่อแม่เธอไม่ห่วงบ้างเหรอ
    :เนื่องจากเป็นเด็กคณะอื่น เค้าจะไม่ค่อยฟังอาจารย์ต่างคณะ (ซึ่งเด็กสมัยนี้ทำไมเป็นแบบนี้นะ)

    ได้คุยกับแม่ของเด็ก แม่ของเด็กก็บอกว่า..
    เค้าเป็นอยู่แล้วคือ เหมือนกับว่า ตื่นตูม วิตกเกินไป
    ระหว่างรอน้าของเด็ก(ที่บอกว่าจะมา)
    คุณหมอบอกว่า..อยากถามประวัติคนไข้เพิ่ม
    เลยพานักศึกษาที่อยู่หอห้องเดียวกัน
    เข้าไปคุยกับคุณหมออีกรอบอย่างละเอียด

    ระหว่างนั้นมีผู้ปกครองโทรมาบอกว่า..
    เป็นพี่ชาย เราก็บอกว่า..เด็กไม่เป็นไรมากแล้วค่ะ
    ตอนนี้คุยกับคุณหมออยู่เดี๋ยวจะโทรกลับไปแจ้งอีกครั้งนะคะ
    แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ..
    เด็กเป็นอะไร ไม่เป็นไรแล้วพาไปโรงพยาบาลทำไม
    แล้วก็คำพูดห้วนๆ อีกหลายประโยค
    รวมถึงน้ำเสียงที่บ่งบอกได้ชัดเจน
    เหมือนกับว่า อาจารย์เป็นคนทำให้นักศึกษาเป็นแบบนี้

    ทั้งๆที่ก็พยายามใจเย็นแล้วบอกว่า.คุยกับคุณหมออยู่
    คุณหมอก็รอคุย สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนน้ำเสียง
    แล้วบอกย้ำอีกที่ว่า...
    เดี๋ยวคุยกับคุณหมอเสร็จแล้วจะโทรกลับไปนะคะ
    (ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ปกครอง จะด่าไปแล้ว)

    พอคุยกับคุณหมอเสร็จ หลักๆคือ เด็กถือบวช(ถือศีลอด)
    แล้วไปเต้น(ซึ่งคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นอิสลามก้บอกว่า
    ถ้าถือบวชแล้วงานรื่นเริงเด็กจะทำไม่ได้ -*-)
    เด็กเลยอ่อนเพลีย + กับอาการที่เกิดขึ้น
    เป็นอาการที่เกิดจากสภาวะทางจิตใจ
    (คือ แทนที่เด็กเป็นแค่เป็นลม เด็กจะคิดไปเองว่า
    ตัวเองช๊อค เป็นโรคหัวใจ เป็นหอบ)

    เลยโทรไปหาแม่ของเด็ก
    บอกอาการแล้วเลยถามคุณแม่ของว่า..
    เด็กมีพี่ชายหรือเปล่า แล้วคำตอบคือ.. ไม่มีค่ะ
    (แล้วเมื่อกี้แมวที่ไหนมันโทรมาวีนฟร่ะ -*-)
    หลังจากคุยได้ไปสักพัก แม่ของเด็กบอกว่าคงเป็นลูกพี่ลูกน้อง

    เลยบอกคุณแม่ว่า..
    งั้นรบกวนฝากคุณแม่โทรไปคุยกับเค้าด้วยนะคะ
    เพราะถ้าอาจารย์โทรไปเองอาจจะเผลอพูดไม่ดีออกไป
    แล้วก็ไม่อยากให้พูดต่อไปจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต

    ไม่ใช่ว่าอาจารย์ไม่ดูแลเด็ก อาจารย์ก็ดูแลเต็มที่ทุกอย่าง
    อยากให้เห็นใจกันบ้าง บ้านอาจารย์อยู่เกือบนครปฐม
    รถส่วนตัวก็ไม่มี ฝนก็ตกหนัก (โรงพยาบาลอยู่แยกพัฒนาการ)
    นี่ 4 ทุ่มกว่าอาจารย์ก็ไม่ได้ทิ้งเด็กแล้วกลับไป
    ก็ตามดูแลจากมหาวิทยาลัยมาจนถึงโรงพยาบาล
    โทรแจ้งผู้ปกครองทุกระยะ อาจารย์ก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะ เข้าใจนะคะว่าเป็นห่วง แต่ไม่ Happyเลยที่มาพูดจากันแบบนี้
    คุณแม่เด็กก็ดีขอโทษ และขอบคุณเป็นการใหญ่

    กว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลเกือบ 5 ทุ่ม
    ถึงบ้านเกือบตี 1 แล้ววันนี้ก็ต้องมาทำงานทั้งที่เป็นวันหยุด(ทำวันเสาร์แทน) เพราะนักศึกษาปี 4 นัดให้ตรวจProject


    มานั่งนึกๆ ตอนเราเป็นนักศึกษาอาจารย์ที่ปรึกษายังไม่ได้
    ดูแลขนาดนี้เลย
    แต่นี่ต้องดูแลเด็กในที่ปรึกษาทุกอย่าง
    (เป็นที่ปรึกษาเด็กรหัส48 เด็กปี 1เลย)
    ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องเรียน จิปาถะ
    เด็กทุกคนในที่ปรึกษามีเบอร์มือถือทุกคน
    บางทีเด็กโทรมาตอน3-4 ทุ่ม ปรึกษาเรื่องเพื่อน
    เรื่องที่บ้าน เราก็ดูแลเต็มที่ทุกอย่าง
    รวมทั้งเรื่องเรียน (มีวิชาสอนพวกเค้าด้วย)

    บางครั้งผู้ปกครองโทรมา เรื่องเด็กขอทุนกู้ยืมไม่ได้
    เราก็ต้องหาวิธีแก้ไขซึ่งโชคดีที่เด็กขอทุนได้
    (แต่เด็กไม่ยอมมาพบก่อนยื่นเอกสารทำเรื่องขอทุน)

    บางครั้งผู้ปกครองโทรมาวีนกับอาจารย์
    เพราะเด็กหนีเที่ยวแล้วบอกว่า..
    กิจกรรมคณะ กว่าจะอธิบายได้ก็โดนไปหลายยก
    (แล้วคำว่า "อาจารย์" มันค้ำคอ ทำได้แค่ใจเย็นแล้วอธิบายซ้ำๆ)
    แล้วหลังจากเรียกนักศึกษามาพบ
    ไล่มันตั้งแต่ปี1 ยันปี 3 ที่ไปด้วยกันเรียกมาคุยหมด
    ผู้ปกครองกลับโทรมาอีกรอบว่า..
    อาจารย์อย่าบอกเด็กนะครับว่า..ผมโทรมา เฮ้อ
    ลูกหลานบังเกิดเกล้าจริงๆ เลี้ยงกันยังไงเนี่ย

    บางครั้งเด็กมาปรึกษาเรื่องมีปัญหากับผู้ปกครอง
    เราก็ต้องมองในแง่ว่า..
    เราเป็นผู้ปกครองแล้วบอกเด็กว่า...
    จริงๆแล้วที่เค้าเป็นแบบนี้
    หลักๆก็คือเค้ารักและห่วงเราน่ะแหละ
    เรื่องเรียน ก็ต้องมานั่งจัดตารางเวลาอ่านหนังสือให้
    แต่เด็กทำหรือเปล่าไม่รู้ โดยเฉพาะเด็กที่ขอทุนกู้ยืมก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ

    อาจจะโชคดีอยู่บ้างเด็กค่อนข้างวางใจ
    ด้วยวัยที่ห่างกันแค่ 5-6 ปี ทำให้ช่องว่างระหว่าง
    อาจารย์กับเด็กค่อนข้างน้อย
    เลยทำให้เค้ามาปรึกษาปัญหาต่างๆ
    ก่อนที่จะลงมือหรือคิดจะทำอะไร


    บ่นซะยาวเลย ก็แค่อยากให้เข้าใจกันบ้าง
    อาจารย์ก็ดูแลนักศึกษาเต็มที่เหมือนกันนะคะ
    จริงๆแล้วอาจารย์ก็แค่คนๆหนึ่ง ก็มีความรู้สึกไม่ต่างกับอาชีพอื่นๆนะคะ

    จะว่าอะไรก็ว่าเหอะค่ะ สำหรับคนที่อยากว่า


    _/\_ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

    มอบรัก

    จากคุณ : ขออนุญาตถอด Login นะคะ - [ 16 ก.ย. 48 10:24:01 A:10.1.30.152 X:203.144.188.7 TicketID:097882 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป