CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ++ KAEW ไดอารี่ ++ ไปตรวจตา หาเชื้อ CMV

    โย่ว......

    เมื่อวันพุธ ไปโรงพยาบาลมาหล่ะคะ  หลังจากตัดสินใจขอทดลองดูแลตัวเองโดยไม่ใช้ยาต้าน สักระยะนึงก่อน (ถ้าดูแลดีๆแล้วยังแย่ลง ก็ค่อยกินยา)  ก็ต้องวางแผนดูแลตัวเอง   อันดับแรกที่เรากลัวคือ  ตาบอด  เพราะผู้ติดเชื้อ HIV จะมีโอกาสตาบอดจากการโดนเชื้อ CMV ทำลายประสาทตา สูงมากๆๆๆ โดยเฉพาะในผู้ติดเชื้อที่ ภูมิคุ้มกันต่ำกว่า 50 เช่นเรา

    เราเคยตรวจ CMV มาครั้งนึง  ตอน ภูมิคุ้มกัน 60 กว่าๆ  ประสบการณ์ครั้งนั้นก็ สยองหน่อยๆ เพราะเป็นครั้งแรก  เลยกลัวๆ  วิธีการคือ  จะต้องหยอดยาขยายม่านตา 3 รอบ ยานี้โคตรแสบเลย  แล้วนั่งรอสักพักพอม่านตาขยายเต็มที่ ก็นอนบนเตียง แล้วคุณหมอจะเอาไฟที่คาดอยู่บนหัวมาส่อง เหมือนโดนสปอต์ไลท์ส่องหน้าอ่ะ แถมหนีไปไหนไม่ได้ คุณหมอจะถ่างตาเอาไว้ ทรมานสุดๆ ส่องกันนานมาก  เสร็จเรียบร้อย ไปไหนไม่เป็นเลย มองอะไรไม่ได้ แถมสีเพี้ยน เป็นอยู่ 2-3 วัน แถมปวดตามากๆอีก

    ครั้งนี้เลยรีๆรอๆ อยู่นานกว่าจะตัดสินใจไป    คราวนี้ย้ายโรงพยาบาลด้วย มาตรวจตาที่ โรงพยาบาลบำราศนราดูร  คุณหมอชูฤทธิ์ เป็นคนช่วยนัดให้ ไปคลีนิคพิเศษตอนเย็น  กว่าจะไปถึงก็แทบแย่ เพราะต้องขับรถไปรับคุณอาก่อน เพราะตรวจตาแล้วจะขับรถไม่ได้ ต้องให้อาพากลับ   แล้ววันพุธที่ผ่านมา ฝนตกหนัก รถติดมากๆๆ ไปถึงโรงพยาบาล 6 โมงกว่าแล้ว

    คุณหมอชูฤทธิ์คอยอยู่ พอทำบัตรเสร็จก็ไปพบ คุณหมอสุกัญญา  คุณหมอน่ารัก และ ใจดีมากๆๆ  พยาบาลในห้องก็ใจดี แถมคุณหมออ่านเอดส์ไดอารี่ครบ 3 เล่มด้วย  

    ด่านแรก พยาบาลให้ปิดตาทีละข้างอ่านตัวเลข (เราใส่แว่นไป เพราะตรวจตาใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้)  ผลคือ  ตาขวาอ่านได้แค่ 2 บรรทัด  ตาซ้าย เห็นแค่ เลข 85 ตัวเท่าบ้าน นอกนั้นอ่านไม่ออก

    คราวนี้ทั้งคุณหมอ คุณพยาบาล งง ว่าทำไมมองไม่เห็น  หมอขอแว่นไปดู ส่วนคุณพยาบาลพาไปวัดสายตากับเครื่อง   พระเจ้าช่วย.....................ตาซ้ายสั้น 1500  ตาขวา 1400 แถมเอียงอีกเยอะมาก   คุณพยาบาลบอกว่า ทำไมสายตาสั้นมากมายอย่างนี้  

    คุณหมอบอกว่า แว่นที่ใส่มันสั้นประมาณ 1200 เอง เราถึงมองไม่เห็น  แสดงว่าในเวลาปีกว่า สายตาสั้นเพิ่ม 2-300 เลยนะเนี่ย  เฮ้อ....... ทีอย่างนี้อ่ะ ขึ้นจัง  ทีภูมิคุ้มกันก็ลดลงจนจะไม่เหลือแล้ว

    หลังจากฮือฮาเรื่องสายตาสั้นแบบผิดปกติจบ  เราก็ยังไม่ได้แว่นคืน เลยมองอะไรไม่เห็น  แต่เห็นลางๆ ว่า คุณพยาบาลยื่นอะไรสีขาวๆมาให้ ก็เลยเอื้อมมือไปรับ   นิ่มๆแฮะ  เอามาดูใกล้ๆตา อ้อ..... ลำลีก้อน  ว่าแต่เอามาให้เราทำไม  เพราะพอส่งให้เสร็จ คุณพยาบาลก็เดินไปไหนไม่รู้

    อืมมมมม   เอามาทำไม  เราไม่ได้จะเป็นลมนี่หว่า  ลองเอามาดมๆๆๆดู ว่าเค้าใส่อะไรมา  (เหมือนหมาเลยเนอะ  สงสัยอะไรต้องดมก่อน)   คุณพยาบาลเดินกลับมาพอดี คงงงๆว่าเราดมอะไร ก็เลยบอกว่า  เค้าให้ไว้เช็ดตา

    เพล้ง............................. หน้าแตก  อายจัง

    คุณพยาบาล เดินไปเอายามาหยอดตาเอานี่เอง  ยาแสบมากๆๆๆ เลย  พอยาโดนตา เราจะกระพริบตาโดยอัติโนมัติ ยาก็จะไหลลงมา เค้าถึงให้สำลีไว้เช็ด  แต่ที่โรงพยาบาลเดิมเค้าไม่ได้ให้งัย เราเอาแขนเสื้อเช็ดก็เลยไม่รู้ว่าส่งสำลีมาทำไมนะ

    หยอดเสร็จ ก็นั่งรอ   แล้วหยอดใหม่เป็นระยะๆ 3 รอบอ่ะ  แล้วก็ถึงตอนตื่นเต้น คุณหมอเรียกไปนอนบนเตียง กลัวมากเลย  เพราะมันแสบตาสุดๆ ทรมานมาก  แต่คุณหมอสุกัญญาใจดี ชวนคุยเรื่อยๆ    คุณหมอเป็นกันเองมากๆเลย  ถุงมือก็ไม่ใส่อ่ะ  สงสัยเจอผู้ติดเชื้อเอดส์จนชิน

    นอนเรียบร้อย หมอเริ่มหยิบไฟมาครอบหัว  เราว่าเจ้าเครื่องนี้มันตลกดีนะ  เหมือนหมอจะไปกรีดยาง ตอนเช้ามืด   คุณหมอส่งสัญญานบอกว่า แสบตาหน่อยนะคะ   พร้อมกับเอานิ้วถ่างตาเราไว้ แล้วก้มหน้ามา เจ้าไฟนั่นแรงมากๆๆๆ ส่องมาเต็มๆ แถม หมอมีอุปกรณ์พิเศษ เหมือนแว่นขยายอันเล็กๆมาส่องด้วย โอ้............................ สว่างจ้า เหมือนระเบิดลง   อดทนไว้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    เสร็จไป 1 ข้าง  แล้วก็ต่ออีกข้าง    .................... ใช้เวลาไม่นานนะ  น้อยกว่าคราวที่แล้วที่เราตรวจมาก ครั้งนั้น หมอส่องไฟซะเราแทบตาย  ครั้งนี้ส่องไม่นาน พอลงมายืนก็แค่มึนๆๆ  งงๆๆ การมองเห็นยังใช้ได้ แล้วมองสีไม่เพี้ยน

    ยืนงงๆอยู่  คุณหมอก็บอกว่า เดี๋ยวไปถ่ายรูปนะคะ   อืมมมมมมมมมมมมม ถ่ายรูปอะไรหว่า  สักพัก คุณพยาบาลมาจูงไปอีกห้องนึง  มันมีเครื่องเหมือนที่วัดสายตา  ที่ให้เอาคางวาง แล้วมองตรงจุดไฟ มีคอมพิวเตอร์ด้วย สักพักคุณหมอก็เดินมา  

    เราก็นั่งอยู่กับเจ้าเครื่องนี่ แล้วก็มีแสงเหมือนแฟรชถ่ายรูป ถ่ายตาทีละข้าง เสร็จแล้วคุณหมออธิบายว่า เป็นการถ่ายรูปประสาทตา   อีกแป๊บนึง ก็มีรูปขึ้นที่คอมพิวเตอร์

    เป็น กลมๆๆ สีส้มๆๆ แดงๆ   เหมือนรูปดาวอังคาร  มีเส้นระโยง  ระยางเต็มไปหมด  แล้วมีลูกกลมๆสีขาวๆ มีหางเหมือนดาวตก หรือ อุกกาบาตวิ่งผ่าน

    คุณหมอบอกว่า  นี่รูปประสาทตาของเรา  ว้าววววววววววววว   เพิ่งเคยเห็นนะเนี่ย   เจ้าลูกอุกกาบาต นั่นคือ จอรับภาพหรืออะไรสักอย่างนี่หล่ะ  ของ คนสายตาสั้น  ของเราสายตาสั้นมากกกกกกกกกกกกกกกกก  หางของเจ้านี่เลยยาว

    คุณหมอเห็นทำหน้างงๆ   เลยเปิดอีกรูปให้ดู  อันนี้เป็นของ น้องหนุ่มลีซอ น้องในเว็บที่ไปตรวจก่อนหน้าเรา น้องหนุ่มสายตาไม่สั้น

    จ๊ากส์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมไม่เหมือนกันอ่ะ  รูปประสาทตาน้องหนุ่มสวยมากๆๆ เป็นสีส้มอ่อนๆๆ  เหมือนพระอาทิตย์ตอนเช้า  ไม่มีเส้นระโยงระยางมากเท่าไหร่  ที่สำคัญไม่มีอุกกาบาตวิ่งชน    

    โห...................... รู้สึกมีปมด้อยขึ้นมาทันที  เพิ่งรู้ว่า สายตาสั้นแล้ว ถ่ายรูปประสาทตาแล้วจะน่าเกลียด ขนาดนี้

    กลับมาที่รูปตาเราใหม่  คุณหมออธิบายว่า  เราสายตาสั้นมากๆๆๆๆๆๆ  เลยทำให้ อะไรสักอย่าง(จำไม่ได้) ในลูกกะตา บางลง  ดังนั้นจึงเห็นเส้นสายต่างๆๆ มากมาย  แถมมีรอยแผลเป็นที่จอตา สันนิฐานว่า เกิดเพราะสายตาสั้นเกินไป

    แต่เรื่องที่น่ายินดีคือ  ตาเราสะอาดปลอดภัย ไม่มีเชื้อโรคใดๆเข้าไปป้วนเปี้ยน  คุณหมอเปิดรูปของตาที่โดน CMV รุกรานให้ดูด้วย  มันจะเห็นเป็น ฝ้าๆสีขาวๆ ในรูปน่ะ  เจ้าเครื่องนี่ดีมากๆๆเลยนะ เห็นชัดแจ๋ว ไม่มีผิดพลาดเลย

    คุณหมอชมว่า เราดูแลตัวเองดีมากๆๆๆๆ ภูมิคุ้มกันต่ำมาก แต่แข็งแรงดี ไม่มีอาการใดๆๆเลย    หมอจะนัดตรวจทุก 2 เดือน แต่เราขอมาเดือนละครั้ง เพื่อความชัวร์  ถามคุณหมอเรื่องทำ เลสิค เพราะรู้สึกว่าสายตาสั้นมากเกิน  ตอนนี้ถึงใส่คอนแทคเลนท์ ยังมองไม่ค่อยชัดเลย เราอ่านป้ายถนนไม่เคยเห็นเลย จนกว่าจะมาอยู่ชิดๆป้ายอ่ะ  (ก็เลยหลงทาง หรือ ขับเลย เป็นประจำ)

    หมอบอกว่า  ยากหน่อย เพราะ สายตาสั้นมากๆ  เอียงก็มาก  มันผ่ายาก  แล้วต้องเช็คว่าจอตามันบางเกินรึเปล่าด้วย   แถม ถ้าผ่าคงแพงมากๆๆๆๆ เพราะเป็นเคสที่ยาก

    เศร้าใจ    .................  เราสายตาสั้นมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะชอบอ่านหนังสือทุกที่ ทุกเวลา อ่านเยอะไปหน่อย ใส่แว่นมาตั้งแต่ ป.2  ใส่คอนแทคเลนส์ตอน ม.4  ตอนนี้แว่นหนามากๆๆ แอบกังวลว่า ตอนอาการของเอดส์ออก เราจะผอมมาก  แถมดำ  มันต้องน่าเกลียดสุดๆอ่ะ ใส่แว่นตาหนาๆ หนักๆ หน้ามีแต่กระดูก    ไม่ยอมอ่ะ  กลัวไม่สวย   เค้าจะยอมให้คนป่วยใส่คอนแทคเลนส์มั้ยนะ    คงไม่ยอมแน่เลย เพราะใส่นอนไม่ได้นี่นา

    อืมมมมมมมมมมมมมมม คงต้องลองหาข้อมูลเรื่องเลสิค  อยากมองโลกชัดขึ้นกับเค้าบ้าง

    สรุปการไปตรวจตาครั้งนี้ สนุกกว่าเดิมมาก คุณหมอน่ารักใจดี พยาบาลก็ใจดี ตรวจละเอียด ไม่มีทางที่เจ้าเชื้อ CMV จะหลบอยู่ได้แน่ๆ   ค่าตรวจทั้งหมด 390 บาท เป็นค่าทำบัตรคนไข้ซะ 10 บาท แล้วถ้ามาตรวจในเวลาราชการจะถูกกว่านี้  อันนี้เป็นคลีนิคนอกเวลาราชการเลยบวกเพิ่มเล็กน้อย

    ใครที่สงสัย หรือ กังวลเรื่อง ตาบอด ก็ไปตรวจบ้างก็ดีนะจ๊ะ  ปลอดภัยไว้ก่อน  เพราะ CMV ขึ้นตา มันรักษายากนะ  แถมโอกาสจะตาบอดสูงมาก

    จากคุณ : ++MooKaew++ - [ 16 ก.ย. 48 15:26:00 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป