CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ####### การ X-Ray มีผลต่อลูกในครรภ์ ที่ไม่ได้รับการเตือนก่อนที่ รพ. BNH ########

    ข้อความนี้ไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะทำร้ายชื่อเสียงของโรงพยาบาล BNH สีลม แต่เป็นการเตือนถึงความไม่มีจิตสำนึกในการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ของบุคลากรบางกลุ่มในรพ.แห่งนี้ และข้อความนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้หญิงที่กำลังครรภ์หรือมีการวางแผนการมีบุตรในอนาคต ที่ไม่ทราบถึงผลกระทบของการ X-Ray ต่อลูกในครรภ์

    เรื่องมีอยู่ว่า ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2548 แฟนของผมได้เข้ารับการตรวจร่างกายประจำปีที่รพ. BNH โดยมีใบส่งตัวของบริษัทที่แฟนทำงาน ซึ่งอยู่ในย่านใกล้เคียงกัน ระหว่างได้รับตรวจร่างกายตามขั้นตอนต่างๆ ได้รับการบริการที่ไม่น่าประทับใจ การดูแลจากเจ้าหน้าที่ยังไม่เป็นมืออาชีพเท่าที่ควร ตอนที่นั่งรอการตรวจร่างกาย ก็บอกให้นั่งรอเฉยๆ ไม่ได้มีการอธิบายว่าเสร็จขั้นตอนนี้แล้วให้ทำอะไรต่อ ต้องคอยให้ถามเรื่อยๆ ขั้นตอนก็มีตรวจปัสสวะ ตรวจเลือดและ X-ray พอถึงขั้นตอนสุดท้าย แฟนก็ถามพนักงานว่าเสร็จแล้วหรือยัง เค้าบอกว่าเสร็จแล้วให้ใส่เสื้อผ้าได้ โดยไม่มีการบอกถึงขั้นตอนต่อไปว่าจะต้องรอพบแพทย์เป็นขั้นตอนสุดท้าย เราก็เลยนั่งรอด้านนอกสักพัก คิดว่าเสร็จเรียบร้อยจึงไปถามพนักงานว่าการตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง เพราะแฟนอยากกลับบ้านไปทานข้าวที่คุณแม่เตรียมไว้ให้ เจ้าหน้าที่คนก็บอกว่ากลับได้ แล้วเราก็ถามว่าต้องรับเอกสารอะไรบ้าง ในกรณีที่ใบส่งตัวจากบริษัท เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้กับบ้านได้

    พอเรากลับถึงบ้าน ในขณะที่ทานข้าวอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์จาก รพ. ว่าการตรวจร่างกายยังไม่เสร็จ จะต้องทำการพบแพทย์เป็นขั้นตอนสุดท้าย เราก็งงๆว่าทำไมตอนแรกบอกว่าเสร็จแล้วกลับบ้านได้ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะบ้านอยู่ใกล้ๆรพ. พอมาถึงแผนกตรวจร่างกาย ชั้น 4 ก็นั่งรอที่บริเวณต้อนรับ เราก็เห็นแบบสอบถามว่างอยู่ที่โต๊ะ จะหยิบขึ้นมาเขียนว่าได้รับการบริการที่ไม่น่าประทับใจ แต่แฟนเราก็เป็นคนดีซะเหลือเกิน บอกว่าอย่าไปเขียนว่าเค้าเลย พวกเราเป็นคนผิดเองที่ถามไม่เคลียร์เอง ผมก็ตามใจแฟนครับ ไม่เขียนก็ไม่เขียน หลังจากนั้นแฟนก็เข้าไปพบแพทย์ในห้อง สักพักแฟนก็เดินออกจากห้องด้วยน้ำตาเต็มใบหน้า แล้วบอกผมว่า การ X-Ray จะมีผลต่อลูกในครรภ์ ซึ่งอาจทำให้ลูกพิการ ไม่มีแขนขาได้ ขณะนั้นแฟนผมท้องประมาณ 6 weeks หมอคนนั้นยังตำหนิแฟนว่า ทำไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ห้อง x-ray ก่อนทำการตรวจว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ (ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว เจ้าหน้าที่ทำการ X-ray ควรถามคนไข้ผู้หญิงเสมอทุกครั้งว่า ตั้งครรภ์หรือไม่ หรืออย่างน้อยก็ต้องมีป้ายเตือนในบริเวณที่สังเกตได้อย่างชัดเจน) แฟนก็บอกว่าไม่เห็นมีใครถามแล้วจะให้แฟนบอกทุกคนในแต่ละขั้นตอนว่าท้องอยู่หรือ นอกจากนี้ คุณหมอก็ถามว่า ในห้อง x-ray ไม่มีป้ายเตือนว่าคนตั้งครรภ์ให้แจ้งก่อนอ่านป้ายเตือนหรือ ซึ่งแฟนผมบอกว่าก็ไม่เห็นมีป้ายอะไรบอกให้เป็นที่สังเกตจริงๆ คุณหมอจึงแนะนำให้เรารีบไปปรึกษาหมอสูติของโรงพยาบาลโดยเร็ว เราเองก็กะจะไปดูให้เห็นกับตาว่ามีป้ายจริงๆอยู่หรือไม่ แต่พอดีนางพยาบาลบอกให้ไปปรึกษาหมอสูติฯก่อนไหม เรากังวลมากๆก็เลยไปพบหมอสูติก่อนดีกว่า หมอสูติบอกว่ามีโอกาสที่จะส่งผลต่อลูก แต่โอกาสนั้นน้อยมากและในกรณีที่ลูกมีความผิดปรกติก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า สาเหตุนั้นมาจากรังสี x-ray หรือไม่ แต่สามารถตรวจความผิดปรกติของเด็กในครรภ์โดยตรวจความเจริญเติบโตเป็นระยะๆ หรือไม่เด็กก็จะแท้งในระยะ 3 เดือนแรก แล้วยังย้ำอีกว่าการแท้งของเด็กพิสูจน์ไม่ได้ว่าจะเกิดจากการ X-ray ฟังแล้วเสมือนว่าพยายามจะปัดความรับผิดชอบที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ก่อน

    แต่ที่เสียความรู้สึกอีกอย่างก็คือ การปรึกษาหมอสูตินั้น โรงพยาบาลยังมีการเรียกเก็บเงินค่าปรึกษาหมอด้วย ถึงแม้จะเป็นเงินไม่มากหรอกแต่เรารู้สึกเสียความรู้สึกมากๆ ว่าเรื่องราวเกือบทั้งหมด โรงพยาบาลก็ไม่ได้รู้สึกรับผิดชอบแต่อย่างใด หวังเพียงแต่อยากเรียกเก็บเงินเท่านั้น หลังจากนั้นเรากับแฟนจึงจะไปดูที่ห้อง x-ray ว่ามีป้ายเตือนหรือไม่ ซึ่งดูก็รู้ว่าเพิ่ง print มาจากคอมพิวเตอร์ลงบนกระดาษ A4 ติดลวกๆ ด้วยสก็อตเทป ที่ใต้ป้ายหน้าห้อง x-ray การกระทำดังกล่าวแสดงถึงความไม่มีจิตสำนึกในการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์อย่างรุนแรง และเป็นการหลอกลวงพวกผมว่ามีการติดป้ายเตือนแล้ว ตอนนั้นโมโหมากๆเลยว่าทำไม รพ.เอกชนที่มีชื่อเสียงระดับนี้ ได้กระทำการอย่างนี้ ตอนแรกก็จะไปคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง แต่แฟนบอกว่าอย่าไปหาเรื่องกับพวกเค้าเลย เพราะเราไม่มีหลักฐานว่าเค้าเพิ่ง print คำเตือนมาติดในระหว่างคุยกับหมอสูติฯ อยู่ แล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ดีขึ้นกับลูกของเรา จึงตัดสินใจไปปรึกษาคุณหมอที่รพ.เอกชนใกล้เคียงกัน คุณหมอท่านใหม่ก็บอกเราว่า ลูกของเราก็มีโอกาสได้รับผลกระทบต่อการ x-ray แต่ก็มีโอกาสน้อยก็ตาม แล้วไม่สามารถตรวจสอบความผิดปรกติทางสมองได้เลยและไม่สามารถตรวจสอบความผิดปรกติทางร่างกายเล็กน้อยได้ เช่น ปากเบี้ยวหรือนิ้วกุดเป็นต้น ทางเดียวคือต้องรอให้ลูกในครรภ์โตมากขึ้นกว่านี้ก่อน จึงทำการตรวจความผิดปรกติได้ ซึ่งทำให้เรา Freak Out สุดๆเลย ไม่รู้จะทำอย่างไรดี รู้สึกว่าส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเราทั้งสองคนว่าทำไมเรื่องสำคัญอย่างนี้ถึงไม่รู้ เราก็อ่านหนังสือคู่มือตั้งครรภ์หลายเล่ม ทำไมไม่มีการเตือนผลของการ X-ray ต่อลูกในครรภ์ หลังจากนั้นเราก็ได้ทำการค้นหาข้อมูลทาง Internet เพิ่มเติม ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่บอกว่าการ X-Ray ปอด มีผลต่อลูกในครรภ์น้อย ถึงมีโอกาสน้อยก็ตาม แต่ด้วยความเป็นพ่อเป็นแม่ของลูกคนแรกก็ยังคงกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดกับลูกในอนาคต

    ท่านใดมีความรู้หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับผลกระทบของ x-ray ต่อลูกในครรภ์ กรุณา e-mail ไปยัง suwicha@hotmail.com นะครับ ขอบพระคุณมากครับ

    จากคุณ : สุวิชา - [ 5 ต.ค. 48 12:37:04 A:192.168.4.97 X:203.185.129.244 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป