เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพิ่งได้สบตายกับความตายเป็นครั้งแรก
ที่ว่าสบตา คือ ยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยนิ่งๆ นานนับชั่วโมง
ยืนมองทั้งคน และเครื่องที่อยู่ข้างเตียงเงียบๆ ไม่พูดจา
กระทั่งคนที่อยู่บนเตียงนั้นจากไปด้วยอาการสงบ
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๒๓ ไปเฝ้าไข้พระอาจารย์ ที่เคยตั้งกระทู้ในห้องนี้นานมากแล้ว
กรณีที่ท่านอาพาธด้วยมะเร็งในเม็ดเลือด
และเข้ารับการรักษาที่ รพ.จุฬาฯ (ตึกสงฆ์อาพาธ วชิรญาณวงศ์) อย่างต่อเนื่องเกือบปี
ท่านต่อสู้ด้วยใจเข้มแข็ง และภาพจากภายนอกเหมือนว่าจะหายขาดในรอบแรก
และกลับไปรักษาตัวที่วัด ณ ต่างจังหวัด
แต่ในรอบหลัง ดูภายนอกท่านอิ่มเอม
แต่กลับเป็นว่าสภาพภายใน น่าเป็นห่วงมากกว่ารอบแรกนัก
วาระสุดท้าย หมอเจ้าของไข้ เรียกญาติๆ มาพบเพื่อแจ้งอาการ
ทุกคนเฝ้ารอให้ถึงเวลานั้นด้วยอาการที่แตกต่าง
แต่พอถึงเวลาจริงๆ แล้วก็ใจหายนะครับ
ชีพจร ที่นับถอยหลังลงเรื่อยๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
จาก 206 ลด 200 ลด 100 ลด 60 และก็ดิ่ง เมื่อถึง 35
กระพริบ 35 กระพริบอีกหน 10 กระพริบอีกหน 30 กระพริบอีกหน 0 .....
เพิ่งเห็นกับตาว่าการจากไปอย่างสงบเป็นอย่างนี้นี่เอง
แรกทีเดียวคิดไว้ว่าท่านอาจจะมีอาการกระตุกบ้าง
แต่กลับกลายเป็นว่าท่านเงียบไปเสียเฉยๆ
การหายใจที่ช้าลง ชีพจร ที่ลดลง ๆ ๆ
แล้วท่านก็จากไปอย่างสงบ เหมือนหลับสนิท
ด้วยวัย ๖๒ (ซึ่งเข้าสู่ร่มกาสาวพัสต์ตั้งแต่เมื่ออายุได้ ๑๕)
ทิ้งความวุ่นวายไว้กับคนข้างหลัง
ซึ่งเป็นสิ่งน่าละอายใจเหมือนกันนะครับ
ประทับใจบุคลากรทางการแพทย์ที่นี่ตลอดปีที่ผ่านมา
ประทับใจกับเจ้าหน้าที่เขตประทุมวัน
มาเล่าสู่กันฟังครับ
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 48 10:59:48
จากคุณ :
ประกายจันทร์
- [
25 ต.ค. 48 12:58:13
]