CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ว่าด้วยวิธีเผชิญทุกข์แบบอ้างอิงพุทธศาสนาอย่างง่ายๆ ไม่ว่าคุณกำลังทุกข์ เครียด จากอะไรกระทู้นี้ช่วยคุณได้ทันตา

    ธรรมะใกล้ตัวตอนที่ 3: ว่าด้วยวิธีเผชิญทุกข์

    ตอนที่1: กฎแห่งกรรม- มีจริงหรือ ชาตินี้ชาติหน้าคืออะไร ความเชื่อหลังความตาย อ่านได้ที่
    http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y3728880/Y3728880.html
    ตอนที่2: เมตตา vs โทสะ- หนึ่งวิธีแผ่เมตตา บ่วงเวร อ่านได้ที่
    http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3774837/Y3774837.html

    ในบทความนี้จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ส่วนแรกวิเคราะห์ว่าความทุกข์เกิดจากอะไร ถ้าเราจะชนะศัตรูก็ต้องรู้จักศัตรูเสียก่อน
    ส่วนที่ 2 จะเสนอวิธีคลายทุกข์เป็นวิธีคิดแบบอิงธรรมมะเพื่อคลายทุกข์ชั่วคราวไม่ว่าจะทุกข์เครียดจากเรื่องอะไร
    ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเป็นจุดเรื่มต้นวิธีคลายทุกข์แบบหลักพุทธศาสนา
    ถึงแม้บทความนี้จะชื่อ ว่าด้วยวิธีเผชิญทุกข์ แต่จริงๆแล้วส่วนที่3 ก็เป็นวิธีสร้างความสุขนั่นแหละ เป็นความสุขที่สมบูรณ์ด้วย
    (อ่านรายละเอียดจากส่วนที่ 3)


    ส่วนที่ 1 ต้นเหตุของทุกข์

    ทุกข์ เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักกันอย่างดี สำหรับบางคนทุกข์เป็นสิ่งที่เข้ามาเยือนเป็นครั้งคราว แต่สำหรับบางคนดูเหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งไม่ว่าจะทำอะไรก็เจอแต่ทุกข์ผิดหวังกลับมาอยู่ร่ำไป
    ถ้าเราลองถามคนรอบๆตัวดูว่าอะไรคือต้นเหตุของทุกข์ เราจะได้คำตอบต่างๆกันออกไปมากมาย เช่น
    เสียเงินเป็นทุกข์ อกหักเป็นทุกข์ ไม่สบายเป็นทุกข์ รถติดเป็นทุกข์ ต่างๆนากี่ล้านคำตอบก็ได้
    สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสถานการณ์ที่นำทุกข์มาให้ แต่ว่าสถานการณ์ปัญหาเหล่านี้เป็นต้นเหตุของทุกข์จริงหรือ?
    ลองมาดูตัวอย่างเล็กๆเช่น รถติด คนส่วนใหญ่พอเจอรถติด ก็จะคิดว่าเปลืองค่าน้ำมันบ้าง เสียเวลาบ้าง ยิ่งถ้าวัน
    ไหนมีธุระเร่งด่วนอยากไปถึงเร็วๆยิ่งทุกข์ใหญ่ แต่สำหรับคู่ที่จีบกันอยู่หรือพึ่งเป็นแฟนกันใหม่ๆกลับอยากให้รถยิ่งติดยิ่งดีจะได้มีเวลาอยู่ด้วนกันนานๆ
    ลองมาดูกันต่อไปปกติคนจะมองว่าได้เงินเข้ามาเป็นสุข เสียเงินออกไปเป็นทุกข์ แต่สมมุติว่าคนๆหนึ่งกำลัง
    คาดหวังว่าจะได้กำไรหลายล้านจากการขายสินค้า แต่สุดท้ายแล้วเขาได้เงินเข้ามาแค่ไม่กี่หมึ่น เขาจะสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน?
    ในทางตรงกันข้ามคนที่เสียเงินทำบุญกลับมีความสุขขึ้นมาได้    
    หรือโรคร้ายแรงเช่นวัณโรคซึ่งในกรณีปกติคงไม่มีใครมีความสุขถ้าเป็นโรคนี้ แต่ก็เคยมีนักโทษในคุกในอดีต
    ยอมเสียของเพื่อแลกกับน้ำลายที่มีเชิ้อเพื่อที่จะได้ออกจากกรงชั่วคราวไปนอนโรงพยาบาลในคุกมาแล้ว
    หรือแม้แต่ความตายซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่กลัวเป็นนักเป็นหนา แต่สำหรับคนที่เป็นโรคเรื้อรังทรมานบางคนกลับอยากตายเร็วๆ
    ถึงขนาดให้หมอช่วยฆ่าตัวให้ก็มี
    จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นเพียงส่วนหนึ่งจะเห็นได้ว่า เหตุการณ์หรือปัญหาอะไรก็ตามไม่ได้ทำให้เกิดทุกข์ขึ้นมาโดยตัวของมันเอง
    แต่เป็นความอยากหรือไม่อยากของเราต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ขึ้นมา ยิ่งอยาก (หรือไม่อยาก) แรงก็ยิ่งทุกข์แรง
    ทั้งๆที่โลกนี้ไม่ได้เป็นไปตามความอยากของเราเลย ฝนไม่ได้ตกตามที่เราอยาก รถไม่ได้หายติดตามที่เราอยาก เราหรือคนรู้จักของเราไม่ได้หายป่วยจากที่อยาก ความทุกข์จึงเป็นเพียงส่วนเกินที่ไม่จำเป็นของปัญหาต่างๆอันเนื่องมาจากความอยาก(ตัณหา)
    กล่าวโดยสรุปแล้วทุกข์ก็เกิดจากการที่จิตเราไม่เข้าใจหลัก ไตรลักษณ์ ตามความเป็นจริง แล้วหลงเข้าไปยึดติดอยากให้เรื่องนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่อยากให้อะไรก็ตามเป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้ ความทุกข์ไม่ได้เกิดจากสถานการณ์ภายนอกอะไรเลยแต่เกิดจากภายในจิตใจเรานี่เอง  
    ถ้าเราจะแก้ทุกข์เราต้องแก้ในจิตใจของเรานี่แหละไม่ต้องวิ่งไปแก้นอกจิตนอกใจเรา พุทธศาสนาสอนให้เรารู้จักแยกแยะว่าความทุกข์ไม่ได้เกิดจากปัญหา ไม่ได้สอนให้เราหนีปัญหาด้วยการหันหน้าเข้าป่าเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งมีชีวิตยังไงเสียก็ต้องมีปัญหาเข้ามา เวลาเราเจอปัญหาเราก็มีหน้าแก้ปัญหานั้นๆให้ดีที่สุดต่อตนเองและต่อผู้อื่น ไม่ใช่ว่านั่งนิ่งไม่แก้ปัญหาแล้วบอกว่าปล่อยวาง และไม่ใช่ว่า ทุกข์เพราะปัญหาต่างๆทั้งที่ไม่จำเป็น
    ทางเดียวที่จะแก้ทุกข์ได้สนิทตลอดไปก็คือเจริญวิปัสนากรรมฐานจนรู้แจ้งถึงอริยสัจ (ถึงแม้จะเรียกว่าดับทุกข์สนิทแต่จริงๆถ้าเทียบกับคนธรรมดาแล้วถือว่าเป็นสุขอย่างยิ่งทีเดียว)

    จากคุณ : ปุ่นบ้อกี๋ - [ 27 ต.ค. 48 16:07:41 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป