ความคิดเห็นที่ 39
ที่เจ้าของกระทู้เสนอ ไม่ใช่ของใหม่ เขามีมาก่อนแล้วในอินเดีย ในยุคพุทธศตวรรษที่ 13 ... จะเล่าให้ฟังนิดๆหน่อยๆ ดังต่อไปนี้...
ในยุคนั้น ศาสนาพราหมณ์ เริ่มพัฒนาตัวเองกลายเป็นศาสนาฮินดู เพื่อต่อสู้แย่งชิงบุคคลกลับคืนมา เพราะหลังจากเกิดศาสนาพุทธขึ้นมา มีคนไปเป็นพุทธกันมาก ..เริ่มพัฒนาเมื่อ พุทธศตวรรษที่ 2 ..จนมาบูมเอาตั้งแต่ เริ่มพุทธศตวรรษที่ 7 มาเรื่อยๆ ในยุคนั้น กลายเป็นฮินดูแล้ว โดยมีลัทธิหรือ ศาสตร์ที่เป็นหลักใหญ่ 6 ศาสตร์หรือลัทธิ เรียกว่าลัทธิทั้ง 6 คือ นยายะ , ไวเศษิกะ , สางขยะ , โยคะ , มีมางสา , เวทานตะ ...
และมีลัทธิย่อยๆอื่นๆอีกมาก
ในที่นี้จะยกมากล่าว ลัทธิฮินดูย่อยอันหนึ่ง คือ ลัทธิฮินดูตันตระ ซึ่งตรงกับหัวข้อในกระทู้นี้ ....หลักการของลัทธินี้ คือการสวดมนตร์การใช้คุณไสย แบบไสยดำ และไสยศาสตร์ต่างๆ สำหรับผู้เริ่มนับถือ มีพิธี 5 ประการ เรียกว่า ปัญจจัตวะ หรือ ธาตุ 5 หรือ ปัญจมการ แปลว่าอักษรย่อ ม 5 ตัว คือ 1. มัทยะ หรือ มทิระ คือ น้ำเมา 2. มามมะหรือมัตสยะ คือ เนื้อสัตว์หรือเนื้อปลา 3. มนตะ พร่ำสาธยายมนต์ให้เกิดความกระสันต์กำหนัด 4. มุครา แสดงท่ายั่วยวน 5. ไมถุนะ เสพเมถุน ร่วมเพศกัน
ผู้เข้าถือลัทธินี้ ต้องเข้าทำพิธีนี้ในกลางคืน เรียก กาลจันทร เริ่มด้วยการนั่งล้อมวง แล้วเริ่มดื่มน้ำเมา แล้วทำไปจนครบทั้ง 5 ขั้น หลักการคือ ในการทำแต่ละข้อ ต้องทำให้มากๆเต็มที่ สุดๆไปเลย เพื่อจะให้หายอยาก เพราะการเสพย์มากๆๆนั้น คือแก้ความอยากด้วยการสนองความอยาก ดื่มกันให้เมาเต็มที่ กินเนื้อกินปลาให้อิ่มเต็มที่ มีเซ็กซ์กันให้มากๆเท่าที่จะทำได้....
ต่อมาเมื่อใกล้ที่จะถึงจุดที่ศาสนาพุทธจะสูญหายไปจากอินเดีย ก็มีนิกานยของพุทธบางนิกาย เลียนแบบลัทธินี้ เอาหลักของลัทธินี้ไปใช้ เรียกว่าพุทธตันตระ หรือมนตรยาน ซึ่งภายหลังนิกายพุทธตันตระนี้ ก็ได้ไปปักหลักฐานในประเทศธิเบต ปัจจุบันนี้ก็ยังมีปฏิบัติกันอยู่ พระภิกษุในนิกายนี้ สามารถดื่มเหล้าได้ มีเซ็กซ์ได้ อย่างเต็มที่ ตามแนวปฏิบัติ 5 ม นั้น เรื่องที่พระในศาสนาพุทธมีเมียได้ มีครอบครัวได้ ก็เริ่มแพร่กระจายไปจากลัทธิตันตระนี้เอง จนไปถึงญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบัน พระญี่ปุ่น มีเมียมีลูกได้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าเจ้าของกระทู้หรือใคร สนใจแนวนั้น ลองไปสืบถามจากพวกนิยมแบบนี้ดู เขามีทำกันมานานเป็นพันปีแล้ว ..แต่ผลจากการทำ จะไปนิพพาน หรือ จะลงนรก ก็ต้องคอยดูกัน แต่ที่น่ากลัวคือ ปัจจุบันโรคเอดส์และกามโรคอื่นๆ มากมาย ถ้าไปทำแบบนั้นแล้วติดโรคมา หรือตั้งท้องขึ้นมา ก็ต้องหาทางออกแก้ปัญหากันเอง (เขาเล่ากันว่า เมื่อมาถึงการทำพิธีข้อ 5 คือมีเซ็กซ์กัน ..พวกที่เข้าทำพิธีจะมั่วกันสุดๆ ไม่ต้องรู้ว่าใครเป็นใคร ถ้าเป็นหญิง เกิดตั้งท้องขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก... ตรวจดีเอ็นเอเอาเอง แต่ฝ่ายชายคงไม่มีใครยอมตรวจ คงไม่มีใครอยากได้เมียได้ลูก ที่ได้จากการเข้าสู่พิธีแบบนั้น )
จากคุณ :
ชิฯ
- [
30 ต.ค. 48 02:24:28
A:65.188.149.241 X: TicketID:000833
]
|
|
|