CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กรุ๊ปเลือดบอกอะไร

    เลือด : สายธารแห่งชีวิต

        ในร่างกายของเรามีเลือดอยู่ประมาณ 3.8 - 4.9 ลิตร หรือคิดเป็น 7 % ของน้ำหนักตัว พลาสมาเป็นส่วนประกอบที่มีปริมาณถึง 55 % ของเลือด มีลักษณะเป็นของเหลวสีเหลืองที่ประกอบด้วยสารอาหารต่าง ๆ ฮอร์โมน แอนติบอดี และของเสีย ทำหน้าที่ช่วยให้เม็ดเลือดไหลเวียนไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ส่วนเม็ดเลือด ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่ เกร็ดเลือด เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้เลือดจับตัวเป็นลิ่มปิดที่ปากบาดแผล (ไม่อย่างนั้น เลือดอาจจะไหลออกจนหมดตัวได้) เม็ดเลือดขาว ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และศัตรูต่าง ๆ ของร่างกาย ถือเป็นตัวภูมิคุ้มกันที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพ เม็ดเลือดแดง ที่เราเห็นเป็นสีแดงของเลือดนั้นแท้จริงคือฮีโมโกบิน(Hemoglobin) เม็ดสีที่ประกอบด้วยธาตุเหล็กซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่จับโมเลกุลของออกซิเจน(ฮีโมโกบิน 1 โมเลกุลสามารถจับออกซิเจนได้ถึง 4 โมเลกุล) ช่วยลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ และถ่ายเทคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ว่ากันว่าในร่างกายเรามีเม็ดเลือดแดงอยู่ประมาณ 25 ล้านล้านเม็ดเลยทีเดียว


        ในเม็ดเลือดแดงนี้เองมีโปรตีนสำคัญชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แอนติเจน ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้าง แอนติบอดี สารสองตัวนี้มีความสำคัญในการถ่ายเทเลือดจากอีกคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง เพราะหากแอนติเจนกับแอนติบอดีเข้ากันไม่ได้แล้ว ผู้ที่ได้รับการถ่ายเลือดอาจเสียชีวิตได้


    เรื่องน่ารู้ของกรุ๊ปเลือด

        เลือดของคนเราแบ่งออกเป็น 4 กรุ๊ปตามระบบ เอบีโอ( ABO system) ได้แก่ กรุ๊ป A  กรุ๊ป B  กรุ๊ป AB และกรุ๊ป O การถ่ายเลือดนั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อแอนติเจนและแอนติบอดีของเลือดตรงกันหรือเข้ากันได้ หลักเกณฑ์ในการถ่ายเลือดมีอยู่ว่า

       * คนที่มีเลือดกรุ๊ป A ซึ่งมีแอนติเจน A และมีแอนติบอดี B สามารถรับเลือดกรุ๊ป A และ O ได้


       * คนที่มีเลือดกรุ๊ป B มีแอนติเจน B และแอนติบอดี A สามารถรับเลือดกรุ๊ป B และ O ได้

       * คนที่มีเลือดกรุ๊ป AB มีทั้งแอนติเจน A และ B แต่จะไม่มีแอนติบอดี สามารถรับได้ทุกกรุ๊ป แต่ให้ใครไม่ได้เลย

       * ส่วนคนที่มีเลือดกรุ๊ป O ไม่มีแอนติเจน แต่มีแอนติบอดีทั้ง A และ B สามารถให้เลือดได้กับทุกกรุ๊ป แต่รับได้เฉพาะเลือดกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เลือดกรุ๊ป O จึงได้ชื่อว่าเป็นนักบุญนั่นเอง


        กรุ๊ปเลือดเหล่านี้ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม ลูกจะมีเลือดอยู่ในกลุ่มที่ตรงกับพ่อหรือแม่อย่างน้อยคนใดคนหนึ่ง การตรวจเลือดจึงมักเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งในการพิสูจน์หาพ่อแม่ที่แท้จริง


         นอกจากนี้หลายคนอาจสงสัยว่าเวลาไปตรวจเลือด คุณหมอมักเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษสองตัวต่อจากผลกรุ๊ปเลือดด้วย เช่น กรุ๊ป B Rh+ หรือกรุ๊ป O Rh- เป็นต้น จริง ๆ แล้วเป็นการบอกชนิดของแอนติเจนที่พบในเลือดอีกชนิดหนึ่งนอกจากแอนติเจน A และ B  เรียกว่า อาร์เอชแฟกเตอร์(Rh factor)

         แอนติเจนชนิดนี้มีอยู่ในพลเมืองโลกประมาณ 85 % ส่วนที่เหลือไม่มี ดังนั้นใครที่ตรวจพบว่ามีอาร์เอชแฟกเตอร์อยู่ คุณหมอก็จะเขียนต่อท้ายกรุ๊ปเลือดว่า Rh+ แต่สำหรับคนที่ไม่มีแอนติเจนชนิดนี้ ก็จะถูกระบุว่า Rh-
    ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราควรต้องรู้ไว้อย่างยิ่ง หากผู้หญิงที่มีกรุ๊ปเลือด Rh- แต่งงานกับผู้ชายกรุ๊ปเลือด Rh+ จะทำให้ทารกในครรภ์ได้รับอันตราย เพราะแอนติบอดีในเลือดของแม่อาจถ่ายผ่านไปยังเลือดของทารกที่มีอาร์เอชแฟกเตอร์ แล้วทำปฏิกิริยาต่อกันอาจถึงกับแท้งได้ ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ทารกปลอดภัย ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจมีลูก สามี - ภรรยาควรจูงมือกันไปตรวจเลือดเพื่อลดความเสี่ยงนี้


        นอกจากนี้คนที่มีกรุ๊ปเลือด Rh- ไม่สามารถรับเลือดที่มี Rh+ ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิต และเนื่องจากกรุ๊ปเลือด Rh- หาได้ยากมาก เมื่อมีอุบัติเหตุฉุกเฉินกับคนเหล่านี้ขึ้น จึงต้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารเลือด หรือขอบริจาคจากคนที่กรุ๊ปเลือดตรงกัน ที่เราได้ยินบ่อย ๆ ทางสถานีวิทยุ จส.100 นั่นเอง


        ไม่เพียงเท่านั้น การศึกษาเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากของ Dr. Peter J. D'Adamo นายแพทย์ด้านธรรมชาติบำบัดชาวสหรัฐอเมริกา ยังค้นพบอีกว่า การกินอาหารและใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปเลือดนั้น ๆ สามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้

        Dr. Peter J. D'Adamo เขียนหนังสือออกมาหลายเล่มเพื่อเผยแพร่แนวความคิดเกี่ยวกับการกินอาหารให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือด เล่มหนึ่งที่โดดเด่นของเขามีชื่อว่า "Eat Right For Your Type"  ได้อธิบายว่า เม็ดเลือดทั้ง 4 กรุ๊ปของคนเรามีรายละเอียดที่แตกต่างกัน อาหารของคนแต่ละกรุ๊ปเลือดจึงแตกต่างกันด้วย ดังนี้

    จากคุณ : ฮิปโปสีชมพู - [ 25 พ.ย. 48 13:06:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป