ความคิดเห็นที่ 1 แค่เหตุผลนี้จริงๆ เหรอที่จะเลิกน่าจะมีอะไรมากกว่านี้รึเปล่าเพราะคนเราจะเลิกกันนี่คงจะต้องเป็นอะไรที่สุดถึงที่สุดจะอดทนแล้วน่ะ แต่นี่มองแล้วเป็นเรื่องนิสัยที่แตกต่างกันมากกว่า ไม่น่าถึงจะทำให้คุณเลิกได้น่ะ จากคุณ : ???? - [ 7 ธ.ค. 48 20:11:26 A:206.197.217.20 X: TicketID:111979 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เฮ้ออออออออ ไม่คุยกันก่อนละคะ เขามีสิทธ์จะรู้นะคะว่าเขาไม่ดีตรงไหน แต่ถ้าบอกแล้ว เขายังไม่ปรับปรุงตัว อันนี้ก็ให้เขาพิจราณาตัวค่ะ จากคุณ : อยากน่ารักน้อยลง - [ 7 ธ.ค. 48 20:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : โซล-เมท - [ 7 ธ.ค. 48 20:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีเบื้องหลังแน่นอน จากคุณ : ต้นหอม - [ 7 ธ.ค. 48 20:29:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 คุณคงเป็นคนขี้เบื่อมั้งค่ะ ตอนนี้อะไรๆก็ขวางหูขวางตาไปหมด ลองแยกกันอยู่สักพักซิค่ะ ถ้าคุณรู้สึกดีที่ไม่เห็นเค้าก็แปลว่าหมดรักแล้วจริงๆ แต่ถ้ายังคิดถึงเค้าก็แปลว่าเค้ายังมีค่าสำหรับคุณ แต่คู่แต่งงานส่วนมากเริ่มต้นเพราะความรัก สุดท้ายอยู่ เพราะความเข้าใจ นะคะ ของเราตอนนี้เรารู้สึกว่าเค้าเป็นทุกอย่างค่ะ เพื่อน พี่ ของเราตอนนี้เรารู้สึกว่าเค้าคือคู่ชีวิตคะ คุณลองดูลองคิดดีๆนะคะ คนต่อไปที่เจออาจจะใช่ตัวจริงก็ได้ หรืออาจไม่เจออีกเลยก็ได้ ส่วนเรื่องหย่าคงไม่ต้องหาเรื่องพาลหรอกมั้งค่ะ พูดกันตรงๆบอกกันให้หมด(แบบรักษาน้ำใจนะคะ)ข้อสงสัย เค้าก็คงยอมหย่าแหละคะ คงไม่มีใครอยากให้คนที่เรารักเป็นทุกข์หรอกคะ เพราะของเราตอนแต่งงานใหม่ๆ ไม่มีความสุขเลยเพราะคิดถึงบ้านครอบครัว แฟนเราเค้าถามเลยว่าจะกลับไปอยู่บ้านมั้ย เค้าสงสารเรา เค้าจะหย่าให้ ตอนหลังอยู่ไปสักเดือนก็ลงตัวคะ ปล.ระหว่างนี้อย่าผิดศีลนะคะ จากคุณ : แก้ว - [ 7 ธ.ค. 48 20:31:21 A:203.118.120.104 X: TicketID:108753 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แต่เราว่าเหตุผลนี้ แหละ ที่ทำให้เราเลิกกะแฟน เรื่องจุกจิกที่คนคิดว่ามันเล็กน้อยเนี่ย เราว่าสำคัญ เพราะเจอทุกวัน มันก็น่าเบื่อ จากคุณ : ซ - [ 7 ธ.ค. 48 20:33:24 A:58.10.172.179 X: TicketID:094094 ]

ความคิดเห็นที่ 7 VOTE คุณ โซล-เมท น่ารักดีครับ.....เยี่ยม จากคุณ : องค์ชายรอง - [ 7 ธ.ค. 48 20:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้อยาก "เลิก" ทำไมไม่มองให้ดีก่อน "เลือก" ละ จากคุณ : ลุงแมว - [ 7 ธ.ค. 48 20:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แฟนเราก็เป็น ปีนี้เป็นปีที่7แล้ว จะดูซิว่า มันจะอาถรรพ์อย่างที่เขาว่ากันไหม จากคุณ : ต้นลูกตาล - [ 7 ธ.ค. 48 23:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ใจเย็นๆนะคะ ถามใจตัวเองให้ดีก่อนว่าคุ้มไหมที่จะเลิกกับแฟนเพราะ...ความเบื่อหน่าย เป็นเหตุ คุณเคยบอกเขาตรงๆอย่างจริงจังแล้วหรือยังว่าเขามีข้อเสียที่ความหนืดเนือยเฉื่อยชา ผลัดวันประกันพรุ่งของเขา ลองให้เขาปรับปรุงตัวดูก่อนไหมคะ ในขณะเดียวกันคุณก้ลองถามใจตัวเองดูว่ายังรักและอยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาอีกหรือเปล่า และถ้าคุณตัดสินใจเลิกกับเขาจริงๆแล้วคุณจะต่องกลับมาเสียใจภายหลังไหม ค่อยๆคิดนะคะ ใช้สติและเหตุผลให้มากๆ อย่าลุแก่อารมณ์ ดิฉันเอาใจช่วยให้คุณพบทางออกที่ดีเกี่ยวกับปัญหานี้นะคะ จากคุณ : พับสา - [ 7 ธ.ค. 48 23:26:03 ]

ความคิดเห็นที่ 11 น่าเบื่อ คำนี้อีกแล้ว จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว - [ 8 ธ.ค. 48 00:55:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เฮ้อ...เรื่องยาสีฟันกลางหลอดอีกหล่ะ คนที่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆอ่ะ ถ้าเป็นคุณนะ สมมุติว่าคุณไม่ชอบคนที่บีบยาสีฟันกลางหลอดมากๆๆ แต่คุณตื่นทุกเช้ามาเจอแฟนคุณบีบยาสีฟันกลางหลอดทุกเช้าๆๆๆๆๆ ทั้งๆที่คุณทั้งบอกทั้งตเตือนทุกวันเหมือนกัน คุณจะเซ็งไหม มันเป็นเรื่องเล็กนะ แต่เจอทุกวันอ่ะ เซ็งตายเลย จากคุณ : bellemaman - [ 8 ธ.ค. 48 03:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้าใจ สำหรับคนที่ตำหนิเรา ลองมาฟังทางนี้ ตอบคุณ คห 1 เป็นเรื่องจริงที่เราสองคนนิสัยแตกต่างกันมากๆ แต่เราสองคนมีทัีศนะคติที่คล้ายๆ กัน คิดอ่านกับเหตุการณ์ต่างๆ ประมาณเดียวกันตลอด เคยคุยกันสนุกมาก แล้วก็สามารถผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกันได้อย่างนี้ เราเป็นคนขยันมากๆ hyperactive ในขณะทีี้่สามีขี้เกียจสุดๆ ต้องยกตัวอย่างใช่ไหม อืมม เช่น เราเป็นคนตื่นเช้่า ทุกๆ วันหยุด เราจะรู้สึกตัวแบบ นอนต่อไม่ได้อีกต่อไป ตอนประมาณ 7 โมงเช้า ขณะที่สามีจะตื่นประมาณเที่ยง หรือ สายกว่านั้น หลังจากที่เราตื่น เราไม่สามารถทำอะไรที่เสียงดังเช่นดูดฝุ่นได้ เพราะจะเสียงดังรบกวนเขา เขาจะลุกจากเตียงขึ้นมาหน้าง้ำหน้างอ เราต้องทำอะไรเงียบๆ ของเราไปจนกว่าเขาจะลุกขึ้นมา สามีเมื่อตื่นมาแล้ว เขาจะต้องนั่งเงียบๆ อื่มกาแฟ อ่าน นสพ ประมาณ 1 ชั่วโมง เขาจึงจะตื่นเต็มที่ หลังจากนั้น เขาจะไปเล่นแกมส์คอมพิวเตอร์ ทั้งวัน จนพระอาทิตย์ตกดิน จึงจะลงมาดูทีวี ในช่วงนี้ เขาจะดูรายการที่เขาชอบ ถ้าเราจะดูทีวี เราก็ต้องดูตามเขา บอกเลยว่าไม่เคยได้ดูละครกับใครเขาเลย จริงๆ เราไม่ได้เบื่ออย่างเดียว มันเหนื่อยด้วยน่ะ เคยมีคนบอกไว้ว่า กว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตคือสิ่งที่เราต้องทำด้วยความรับผิดชอบ ขอบอกว่าความรับผิดชอบทุกอย่างในชีวิตเป็นหน้าที่เรา ตั้งแต่การดูแลรับผิดชอบการจ่ายค่าสารธารณูประโภคต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ค่าิอินเตอร์เนท ทั้งแบบบ้าน แบบไร้สาย ค่าบริการส่วนกลางจ่ายให้ หมู่บ้านฯ ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ เพราะเขาบอกว่าเดี๋ยวไปจ่ายให้ แล้วก็ไม่จัดการ แล้วมันก็เลท เคยโดนตัดไฟ เพราะเขาลืม เคนต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตทั้งๆ ที่ไม่ควรต้องจ่าย ประกันภัยเบ็ดเตล็ดบ้าน ประกันรถยนต์ จิปาถะที่หมดอายุ เราต้องดูแลต่อเอง ไปชำระเงินเอง เพราะว่าไว้ใจเขาไม่ได้ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ตั้งแต่ปุ๋ยใส่ต้นไม้ เครื่องปรุงในครัว กระดาษชำระ เราต้องคอยทำรายการไว้ให้เขาไปซื้อ เขาก็มักจะซื้อมาไม่ครบประจำ ฯลฯ เขาอยากมีสวน เราตกลงกันว่าเขาจะดูแล "เอง" ปรากฎว่า most of the time สวนรกเรื้อ หญ้าขึ้นสูง จนคนข้างบ้านมาแซวให้ระวังงู ตอนนี้คือถ้าเราลงไปช่วย เขาจะทำสวน ให้มันดูดี ถ้าเราไม่ช่วยก็ปล่อยให้มันเป็นป่าอยู่อย่างนั้น เขาอยากมีตู้ปลา ก็อีก ตกลงกันว่าเขาจะดูแล ปรากฎว่า สวยได้่เป๊บเดียว ก็น้ำขุ่นคลั่ก เข้าอีหรอบเดิม คือ ตู้ปลาจะดูดี ถ้าหากว่าเราช่วยเขาทำ ขอบอกว่าเรามีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง มีเครื่องตัดหญ้า ตู้ปลาก็มีเครื่องกรองอัตโนมัติ แถมยังมีตัวช่วยดูดน้ำ แล้วก็มีสายยางยาวมาก พาดออกไปนอกบ้าน แค่เขาหยิบมันมาจุ่มๆ เขาก็สามารถเปลี่ยนน้ำได้ แต่เขาไม่ทำ เขาจะูพูดตลอดว่าไว้อาทิตย์หน้าค่อยทำ เขามีอุปกรณ์ช่างทุกชนิด ไขควง น็อต สารพัดแบบ มันเป็นงานอดิเรกของเขา เขาชอบที่จะสามารถเจาะกำแพง แขวนอะไรๆ ได้เอง แต่ขอโทษ ใช้แล้วไม่เคยเก็บ วางเกลื่อนกลาดเต็มบ้าน เราเรียกให้เขาเก็บ เขาก็จะหยิบมันจากพื้นแล้วซุกๆ ไว้ตามซอกชั้นวางของอื่น เราก็จะพูดออกไปเลยว่า เก็บเข้าที่เลยสิ เขา็ก็จะบอกว่าเดี๋ยวค่อยเก็บ การทำนิติกรรมต่างๆ ในชีวิตคู่ ก็เราทั้งนั้นที่เดือนร้อนว่าทีถูกที่ควรมันเป็นยังไง เขาไม่เคยช่วยเช็คข้อมูล หรืออะไรอื่นเลย มีแต่เราที่ต้องคอยเรียกหาข้อมูลจากสอง-สามที่ เพื่อเปรียบเทียบ ฯลฯ แต่ถ้าได้ใบเสนอราคามาหลายๆ ใบแล้วเขาจะชอบวิเคราะห์เปรียบเทียบ ว่าต้องเลือกเจ้าไหน จึงจะดีที่สุด ไม่รู้ว่าเท่านี้พอจะทำให้คุณนึกภาพตามเราออกหรือยัง จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 8 ธ.ค. 48 05:27:46 A:61.91.251.53 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ คุณ คห 2 เราคุยกันเรื่องนี้ตั้งแต่แต่งงานใหม่ๆ เราบอกเขาว่าเราเกลียดมาก คนที่ไม่รับผิดชอบ เขารับรู้ตลอด ทุกครั้งที่เขาพลาด เราจะโกรธมาก และเราพูดใส่หน้าเขาด้วยว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกเกลียดเขามากในวินาทีนั้น (ตอนนั้นรู้สึกอย่างนั้น) เราบอกเขาว่า สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราหมดรักเขา แค่ทำในส่ิงที่พูดว่าจะทำ .. แค่นั้นเอง ชีวิตเราก็จะไม่มีปัญหา แต่เขาชอบอาสา แล้วเขาก็ลืม ตอนนี้เราบอกเขาตลอดว่าเราหมดรักเขาแล้ว เขาก็บอกตลอดว่าขอโอกาสอีกสักครั้ง แต่แล้วก็เป็นอีก เมื่อวานเราขอให้เขาเอากล้องดิจิตอลกลับมาจากที่ทำงาน พอกลับมา เขาลืมหยิบกล้องมาด้วย วันนี้เราจะกรอกน้ำดื่ม เขาบอกว่าเราไปอาบน้ำได้เดี๋ยวเขาจะทำให้ พอเราอาบน้ำเสร็จลงไป เขายังไม่ได้ทำ พอเราลงมาเราเห็นว่าน้ำดื่มยังแห้งเหือด เกลี้ยงตู้เหมือนเดิม เราก็จะทำเอง ทีนี้สามีจะรีบขอโทษแล้วมาแย่งเราทำ ซึ่งเราเกลียดมาก มันไม่กุ๊กกิ๊กน่ารักเสียแล้วหลังจากที่เกิดขึ้นเป็นพันๆ ครั้ง ก็็รู้นะว่าเขาเจตนาดี แต่มันก็แค่ลมปาก ุสุดท้ายแล้ว เราก็ต้องแบกทุกอย่างไว้เองคนเดียว จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 8 ธ.ค. 48 05:33:51 A:61.91.251.53 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบคุณ คห 3 คุณแต่งงานหรือยัง? ชีวิตคงสมบูรณ์แบบมากสินะ รักษามันไว้ให้ดีก็แล้วกัน ชีิวิตแต่งงานเราก็เคยสมบูรณ์แบบ ก่อนจะถูกกัดกร่อนด้วยเหตุผลสิ้นคิดอย่างที่คุณว่า จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 8 ธ.ค. 48 05:35:43 A:61.91.251.53 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตั้งแต่รู้สึกเบือเขามากๆ ไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้ว เราก็นอนไม่ค่อยหลับดี รู้สึกเครียด ความเกลียดมันเป็นพิษนะ เราอยากหลับสบายๆ ตลอดคืนอีกจัง ตอนนี้ต้องอาบน้ำไปทำงานแล้ว ค่อยเจอกันจ้า ... จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 8 ธ.ค. 48 05:38:31 A:61.91.251.53 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะ โดยเฉพาะเรื่องตื่นเช้าวันเสาร์อาทิตย์เนี่ย เพราะว่าแฟนก็ตื่นสายเหมือนกัน แต่อิชั้นไม่ค่อยสนใจอะค่ะ คือจะให้นอนไปถึงสักแปดโมง (ซึ่งสายมากแล้วสำหรับรำเพย) แล้วก็ปิดแอร์ไปเลย จะทนนอนร้อนไปได้แค่ไหนกันเชียว ไม่เกรงใจละค่ะ แล้วก็บอกเค้าว่าจะเสียเวลาตอนเช้าๆไปทำไม ที่บ้านรำเพยเช้าๆจะอากาศดี มีนกร้องเพราะว่ามีต้นไม้เยอะมาก ตื่นเช้าๆได้เดินเล่นรอบบ้านฟังเสียงนก รดน้ำต้นไม้ ดีกับสุขภาพกายและจิต เรื่องเล่นเกมส์ ก็ขอไม่ให้แฟนเล่นเพราะว่าคิดว่าถ้ามีลูกเราก็ไม่อยากให้ลูกใช้เวลากับเกมส์ไปมากมาย ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาก็ไม่ให้มีเครื่องเล่นเกมส์อยู่ในบ้านซะหมดเรื่อง อย่างน้อยตอนเด็กๆจะพยายามปลูกฝังนิสัยอ่านหนังสือให้ลูกได้บ้างก็ยังดี ส่วนเรื่องอื่นๆก็คล้ายๆกันกับเจ้าของทู้น่ะค่ะ คือแฟนไม่ค่อยมีระเบียบเรื่องการเงิน แต่รำเพยเป็นคนมีระบบในการเก็บใบเสร็จต่างๆ ทำบัญชีน่ะค่ะ ก็บอกเค้าว่าต้องจัดระบบละ ไม่งั้นมันก็วุ่นวายน่าดู บางทีเรื่องเงิน เรื่องจ่ายเงินนี่น่ะ รำเพยคิดว่าผู้หญิงดูเองจะดีกว่า เพราะว่าเราก็ได้รู้ค่าใช้จ่ายด้วย และก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเค้าจ่ายรึยังหว่า จริงอยู่อาจจะเหนื่อยหน่อย (ตามความคิดของคุณ) แต่ว่ามันก็ทำให้เราสบายใจด้วยว่าบ้านเราไม่ได้ลืมจ่ายอะไร ทำให้เราได้รู้รายรับรายจ่ายของบ้านน่ะค่ะ รำเพยอ่านเท่าที่คุณเขียนมานี่น่ะ คิดว่าไม่ใช่ความเบื่อหรอกค่ะ แต่ว่าเป็นความอึดอัด และไม่สามารถระบายที่ไหนได้ นานวันเข้า....สั่งสมมานานๆ ความรู้สึกอึดอัดก็เลยกลายเป็น เบื่อ หงุดหงิด และ "คิดว่า"ตัวเองหมดรักซะแล้ว ......รำเพยเป็นคนทำอะไรเร็ว คิดเร็ว และ process ความคิดตัวเองค่อนข้างเร็ว บางทีก็รำคาญแฟนเป็นระยะๆ เพราะความเฉื่อยของเค้านี่แหละ แต่คุณคะ.....อย่าเลิกกับเค้าเลยค่ะ คนแบบสามีคุณน่ะหายากนะ คุณลองคิดดูดีๆ คุณต่อว่าเค้า บอกว่าเกลียดเค้า ขอแยกทางแล้ว.....แต่เค้าก็ยังรักคุณเหมือนเดิมไม่ใช่หรือคะ สิ่งที่คุณทำ สิ่งที่คุณแสดงออก ในมุมมองผู้ชายมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีนักหรอก เพราะมันก็ดูถูกเค้ากลายๆนั่นแหละค่ะ....จริงๆแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น ...ส่วนหนึ่งคุณเองเป็นผู้ก่อค่ะ ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ทำไมรำเพยบอกอย่างนั้น ลองมาดูกัน สามี: โดยพื้นฐาน....สามีเป็นคนเฉื่อย คุณ: โดยพื้นฐาน....เป็นคนทำอะไรเร็ว สามีทำอะไรอืดอาด ผลัดวันประกันพรุ่งไม่ใช่จะไม่ทำ เพียงแต่ว่าเค้าทำช้ากว่าที่คุณต้องการให้เค้าทำ หรือช้ากว่าความคาดหวังของคุณเพราะคุณเอามาตรฐานของตัวคุณไปเทียบกับเค้าไงคะ รำเพยเป็นคนทำอะไรเร็วจึงเข้าใจ....เพราะบางทีก็รำคาญแฟนที่ว่าทำไมจะทำอะไรให้เร็วหน่อยไม่ได้หรือไง แต่มาคิดดีๆ ก็เค้าช้าแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ใช่ว่าเราจะไม่รู้ เราจะไปเปลี่ยนนิสัย และความเคยชินของเขาให้เหมือนเราย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณแต่งงานกับเค้าเพราะคาดว่าสักวันเค้าจะเปลี่ยนมาเหมือนคุณได้ ทำอะไรมีความรับผิดชอบ ทำอะไรเร็วขึ้น โอกาสผิดหวังก็ยิ่งสูงซิคะ ....อย่างที่คุณเป็นอยู่นี่ไง ปัญหาอย่างที่สองคือ....คุณเกรงใจไม่ถูกเรื่อง รำเพยเข้าใจค่ะว่าคนนิสัยอย่างรำเพยหรือคุณน่ะ ก็รำคาญว่าทำไมจะต้องบอกซ้ำบอกซาก บอกหนเดียวก็น่าจะจำ สัญญาแล้วทำไมไม่ทำ แต่คุณเองก็รู้ว่าเค้าเฉื่อยแฉะ แต่ไม่ใช่ไม่รักคุณ ไม่ใช่ไม่อยากทำให้ แต่มันขี้เกียจและลืม ซึ่งไอ้ความขี้เกียจและลืมนี่แหละทำให้คุณหงุดหงิด ใช่ไหมล่ะ?...... คุณคะเคยคิดบ้างไหมว่าแฟนคุณเค้าคงหงุดหงิดเหมือนกันแหละค่ะ....ทำไมทำอะไรจะต้องรีบร้อนกันปานนี้ อยากให้เขาทำอะไรวันไหน จ่ายเงินเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกกันวันนั้นล่ะ มา expect ให้เค้าจำได้ ก็มันจำไม่ได้ แล้วทำไมไม่เตือนล่ะ เค้าไปจ่ายเงินให้ได้ แต่ว่าช่วยเตือนกันหน่อยสิ ประมาณนั้นน่ะค่ะ คุณอยากให้เค้าทำอะไรไวเหมือนคุณ มีระบบ ระเบียบเหมือนคุณ แต่คุณไม่หัดให้เค้าทำอย่างที่คุณต้องการ เกรงใจในเรื่องไม่ควรเกรงใจ อย่างเรื่องตื่นเช้านี่น่ะ เค้าไม่เคยก็บังคับสิคะ เค้าจะหงุดหงิดไปได้ทุกสัปดาห์เลยเหรอ คงไม่หรอก ช่วงแรกๆอาจจะหงุดหงิด และค่อยๆมากขึ้น แต่ว่าผ่านไปนานๆ เค้าก็เรียนรู้เองแหละว่าเค้าหงุดหงิดไปคุณก็ปลุกอยู่ดี ส่วนเรื่องจ่ายเงิน...ในเมื่อคุณจำวันได้ดีกว่าเค้า ก็อย่าเปิดโอกาสให้เค้าบอกว่าจัดการเอง คุณเรียงไว้เลยวันไหนต้องจ่าย แล้วพอวันนั้นก็เอาบิลไปวางแหมะตรงหน้า บอกว่า ไปจ่ายวันนี้ ไม่จ่ายไม่ได้ พบกันครึ่งทางไงคะ ที่รำเพยบอกว่าคุณเองเป็นสาเหตุทำให้เค้าเป็นแบบนี้ด้วยน่ะก็เพราะว่า คุณเอาทุกอย่างมาเป็นภาระซะเอง ไม่เปิดโอกาสให้เค้าได้ทำผิด ไม่เปิดโอกาสให้เค้าได้ "หัด" มีระเบืยบ จะหวังให้พฤติกรรมเค้าเปลี่ยน เราก็ต้องปรับด้วยค่ะ ถ้าคุณยังคิดว่าอยากเลิกอยู่ก็ไม่ยากหรอก เซ็นใบหย่า แล้วก็ยื่นให้เค้าพร้อมปากกา เค้าเซ็นให้คุณละค่ะ แต่ถ้าคุณลองคิดให้ดีๆ และอยากลองปรับกันดูสักครั้งก็ไม่น่าเสียหายอะไรนิ จากคุณ : รำเพย - [ 8 ธ.ค. 48 06:45:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ้อ เข้าใจคุณเจ้าของกระทู้แล้ว บังเอิญว่าเกลียดพวกพูดแต่ปาก ทำท่าจะทำแต่สุดท้ายก็ไม่ทำเหมือนกัน แถมคุณก็บอกให้เค้าทำตั้งหลายหนแต่เค้าก็ไม่ทำอยู่ดี เหมือนมันเป็นสันดานที่ขุดออกไม่ได้แล้ว บ่นว่ามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น คิดว่าถ้าอยากเลิกก็เลิกได้นะ เพราะสามีดูเป็นคนไม่น่าศรัทธาจริงๆ หรือถ้าไม่เลิก ก็เป็นคุณนั่นเองที่ต้องปรับตัว แปลงร่างเป็นแม่บ้านญี่ปุ่นที่ทำเองทุกเรื่อง คิดเสียว่าเราเป็นแม่ สามีเป็นลูก จะได้ไม่ต้องคาดหวังว่าเค้าจะมาช่วยอะไรได้ จากคุณ : ก่อนทะเลจะเปลี่ยนสี - [ 8 ธ.ค. 48 07:56:30 A:218.225.176.96 X: TicketID:102916 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เลิกกันมันเป็นทางออกที่ง่ายที่สุดแล้วหละคะ แต่ก็อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดนะคะ ลองคิดอย่างคุณรำเพยดู น่าจะดีนะคะ จากคุณ : เจ้จ๋า - [ 8 ธ.ค. 48 08:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอออกความเห็นหน่อยนะครับ กว่าจะรัก และแต่งงานกันได้ มันไม่ง่ายนะครับ ผมไม่รู้ว่า คุณแต่งงานมาได้กี่ปีแล้ว ขอให้คิดว่านี่เป็นช่วงเบื่อหน้ากันซักพัก เหมือนผู้หญิงหลายๆ คน เวลาเมนส์มา แล้ว มันหงุดหงิดมากกว่าเดิม (ไม่รู้เกี่ยวกันมั้ย ) ผมคิดว่าสามีคุณยังดี( แต่เค้ายังมีความเป็นเด็กในตัวอยู่เช่นกัน) ที่เค้าไม่เที่ยว ไม่มีกิ๊ก ให้ปวดใจ ยังไงมองดูอีกด้านดูนะครับ ช่วงที่เค้านอนตื่นสาย ได้เป็นเวลาของคุณที่ได้อยู่คนเดียวบ้าง ดีออกครับ จากคุณ : อย่าเพิ่งเลิกกันนะครับ (montes) - [ 8 ธ.ค. 48 08:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 21 พอจะเข้าใจคุณอยู่อย่างนึง   " เขายังมีสายตาอ่อนโยน เต็มไปด้วยความห่วงใย ทุกครั้งที่สบตากัน แต่เราเฉยๆ ไม่ซาบซึ้งกับมันเลย " เคยเป็นค่ะ แล้วเราก็เลือกที่จะเดินออกมา จากคุณ : bumbeaubet - [ 8 ธ.ค. 48 09:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มองในด้านดีดีของสามีบ้างสิค่ะแล้วจะรู้ว่าเขายังมีดีเหลืออยู่ พยายามอย่าให้เขาเป็นในสิ่งที่คุณหวัง จริงๆ แล้วสามีส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น เดาว่าคุณยังไม่มีลูก ถ้ามีลูกจะยิ่งรู้สึกเบื่อสามีเข้าไปกันใหญ่ เพราะส่วนใหญ่งานเลี้ยงลูก ก็ผู้หญิงทำทั้งนั้น งานที่คุณบอก เช่นจ่ายบิล จ่ายกับข้าว เราก็ต้องทำเอง ตอนนี้มีลูก ก็ต้องซื้อของใช้ในบ้าน กับของๆ ลูกเอง ทุกอย่างทำเอง แม้ว่าจะมีพี่เลี้ยงช่วย (แต่ไม่ได้พึ่งเงินเดือนสามีเลยนะคะ) แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า สามีไม่มีเวลา เพราะเขาทำงาน วันหยุด เขาก็อยากพักผ่อนบ้าง ไม่มีเมียน้อย ไม่สำมะเลเทเมา ไม่ก่อภาระหนี้ก็ดีมากอยู่แล้ว อย่าไปอิจฉาคนที่ได้สามี Perfect เลย มีอยู่น้อยมากบนโลก ตัวเราเองถ้าดูให้ดียังไม่ Perfect เลย ภรรยาดีดีอีกมากที่ไม่บ่น ไม่เบื่อสามี รักที่จะทำให้เขามีความสุข ฟังๆ ดูเขาก็ยังมีข้อดี เช่น ถ้าคุณช่วยทำสวน เขาก็จะช่วยด้วย (สามีบางคนเขาไม่ช่วยหรอก นะคะ งานในบ้าน) ใจเย็น ๆ เลิกกันไป เราก็ไม่มีอะไรดีขึ้นนี่นา งานที่ว่าก็ต้องทำคนเดียวอยู่ดี แถมเหงาอีกต่างหาก (ถ้าไม่คิดจะมีคนอื่นนะคะ) จากคุณ : ใจเย็นๆ - [ 8 ธ.ค. 48 09:34:19 A:58.8.20.71 X: TicketID:111682 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นเหมือนแฟนเราเลย แต่เราก็ทำแบบคุณรำเพยนะ เราตื่นแล้ว ทำอะไรสักพัก ก็เดินไปปิดแอร์ 5555 นอนได้นอนไป พอเราทำอะไรเรียบร้อย (จัดการต้นไม้ +สัตว์เลี้ยงในบ้าน) ถ้ายังไม่ตื่นก็บอกเขา หิวข้าวแล้ว จะกินด้วยไม๊ เขาก็จะลุกไปอาบน้ำ แล้วมากินข้าวด้วย แล้วนั่งดูทีวี สักพัก เขาก็ขอเข้าไปเล่นคอม เราก็ทำอะไรของเราไปเรื่อยเปื่อยเพราะเขาตื่นแล้ว เสียงดังได้ ^_^ ถ้าจะให้เขาช่วยอะไรก็เดินไปบอก รอบแรก รอบสอง และรอบสาม เรื่องจ่ายค่าอะไรต่างๆ ในบ้านเราก็จ่ายเองนะ นอกจากทีไปห้างด้วยกัน ก็จะถามเขา จ่ายค่ามือถือเขาหรือยัง ไปจ่ายค่าเนทกัน ไปซื้อของอันนี้กัน ปัญหาของคุณ ก็อย่างที่คุณรำเพยว่า ต้องลองปรับ อยากได้อะไรให้เขาทำอะไรก็บอก เตือนเขาสักหน่อย เราก็โทรเตือนแฟนเราบ่อยๆ เรื่องต่างๆ ลองค่อยๆ ปรับนะคะ แฟนคุณเขายังรักคุณ ดีออกนอนขี้เกียจอยู่บ้าน ไม่ขยันออกไปหากิ๊กนอกบ้าน จากคุณ : lemonsmile - [ 8 ธ.ค. 48 09:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แง แง เราเป็นเหมือนสามีคุณเลยอ่ะ จากคุณ : รักแฟน - [ 8 ธ.ค. 48 10:27:35 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าคิดว่าปรับตัวไม่ได้ก็แยกกันอยู่สักพักสิ อาจจะรู้ใจตัวเองมากขึ้น จากคุณ : sonia3691 (sonia3691) - [ 8 ธ.ค. 48 10:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านแล้วเข้าใจค่ะ คงได้แต่บอกว่าใจเย็นๆก่อน ลองเคลียร์กันให้เข้าใจ คุยกันถึงจุดบกพร่อง จุดไหน ที่คุณไม่ชอบ จุดไหนที่คุณอยากให้ปรับปรุง แต่อย่าลืมว่า...คนแต่ละคน เกิดมามีชีวิตไม่เหมือกัน ผู้ชาย มักจะนิสัยแตกต่างจากผู้หญิง...หยาบ ในที่นี้ หมายถึง ไม่ละเอียดอ่อน ไม่คำนึงถึงจิตใจผู้อื่น และเราคงขอให้เค้าเป็นเหมือนทุกอย่างที่เราต้องการไม่ได้เสมอไปค่ะ จากคุณ : ใช้หนีราชการเท่านั้น - [ 8 ธ.ค. 48 10:41:55 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อืม  เห็นใจ  จขกท นะ  น้องชายเราก็เป็นแบบเนี้ยอ่ะ  เหตุผลส่วนนึงคือถูกเลี้ยงดูมาแบบสบายเกินไป  แม่เราเอาใจสารพัด ในมุมมองของเรานะ ต้องมีวิธีที่ใช้ดัดนิสัยเขาแบบเนียนๆ น่ะค่ะ  เช่น  ให้เขาไปจ่ายบิลบัตรเครดิตของเขาเอง ถ้าจ่ายเลทก็โดนดอกเบี้ยเฉพาะของเขา  หรือ ให้เขาซักเสื้อผ้าเอง  ถ้าไม่ซักก็จะไม่มีเสื้อผ้าใส่ไปทำงาน  เป็นต้น ฯลฯ ลองพยายามดูก่อนที่จะเลิกกัน  มันท้าทายดีนะ  การที่เราจะทำให้ผู้ชายคนนึงที่ไม่เอาไหน  กลายเป็นคนที่มีความรับผิดชอบขึ้นมาได้..... จากคุณ : ไม้ร่ม - [ 8 ธ.ค. 48 10:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เราแต่งมา 10 ปีแล้ว ท้าหย่ากันมาประมาณ 3 ครั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะหย่าจริงหรอก แต่ใช้เป็นคำพูดแรง ๆ เพื่อเคาะกระโหลกอีกฝ่ายเท่านั้น  เพราะนานวันเข้า การใส่ใจความรู้สึกกันและกัน ให้เกียรติ  รับฟังความเห็น ก็น้อยลงตามลำดับ ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่มันกลายเป็นความเคยชิน คิดเอาเองว่าอีกฝ่ายหนึ่งคงเข้าใจ  คิดว่าคู่ของคุณเป็นเช่นเดียวกัน  การทะเลาะกันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นขั้นตอนหนึ่งของการปรับความเข้าใจ นี่เพิ่งทะเลาครั้งใหญ่ไปเมื่อวันก่อน  คาดว่า อีก 3 ปีคงมีอีก อ้อ ของเรา สามีขยันทำงานบ้านมาก แต่ทำไปบ่นไปจนเมียเบื่อสุด ๆ  แปลกดีมั้ย จากคุณ : แม่น้องหยง (แม่น้องหยง) - [ 8 ธ.ค. 48 11:22:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านแล้ว เห็นด้วยกับคุณรำเพยค่ะ... ใจเขาใจเรา.. ลองนั่งนึกเป็นตัวเขาดูบ้างค่ะ ว่า คนเฉยๆ หนืดๆ ขี้ลืมเนี่ย เป็นอย่างไร.. ยิ้มหวานยอมรับนะคะ ว่าเป็นคนขี้ลืมมาก ต้องเขียนโน๊ตแปะที่โต๊ะ ว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นก็ลืม.. บางที ก็อาจะเผลอไปทำให้หวานใจเคือง เพราะความขี้ลืมเนี่ยแหละค่ะ เช่น.. เค้าไปทำอะไรซักอย่าง ซึ่งเรารู้ และอยากจะถามไถ่ แต่ลืมถาม..เลยมาสองสามวัน เพิ่งนึกออก พอไปถาม มันก็ดูเป็นเราไม่ใส่ใจ เพิ่งถาม... แต่จริงๆแล้ว เราใส่ใจและรักเค้า แต่มันลืม.. ซึ่งความรัก ไม่ได้ช่วยให้เราความจำดีขึ้นเลย.. เศร้า... มองในมุมเค้าบ้างค่ะ คนเราจะหาคนที่ดีเลิศ ได้ดั่งใจเราไปทุกๆด้าน เท่าตัวเราเอง ไม่มีหรอกค่ะ.. มันอยู่ที่ว่าคุณยอม อะลุ่มอะล่วยให้เค้าได้แค่ไหน... จากคุณ : ยิ้มหวานตาโต (joyaccy) - [ 8 ธ.ค. 48 11:44:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พิมคิดว่าพิมเข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะ  เพราะแฟนพิมเขาก็เป็นเหมือนกัน  เป็นแทบจะเหมือนสามีคุณเจ้าของกระทู้ทุกประการ   และก็เป็นมานานพอควร ตั้งแต่คบกันมาจนถึงแต่งงานจนถึงวันนี้ ดังนั้นเมื่อก่อนนี้พิมเลยตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างที่คิดว่าตัวเองทำได้ คนเดียวมาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องงานบ้าน งานครัว ซักผ้า รีดผ้า จ่ายค่าโน่นนี่ ไปซื้อของ ซื้อเสื้อผ้า จัดการนิติกรรม ธุรกรรมอะไร ตัดหญ้า ปลูกต้นไม้ จัดบ้าน ยกตู้ ดูแลบ้าน ดูแลตัวเอง ดูแลเขา ดูแลคนรอบข้าง  ฯลฯ  ... พยายามจะทำเองคนเดียวหมด ไม่วานใคร ไม่ใช้ใครอ่าค่ะ เพราะเป็นประเภทรอไม่ได้ และก็ไม่ชอบคำว่า "เดี๋ยวนะ เดี๋ยวค่อยทำ" เอามากๆ นะค่ะ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปนานเข้า .... พิมก็คิดว่า ถ้าให้พิมเหมาหมดทุกอย่าง อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ มันก็ไม่ไหวหรอกค่ะ พิมก็เลยจับเข่าคุยกับเขา 4-5 ครั้งแรก ไม่ได้ผลค่ะ ยอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยนะ  เหนื่อยงานแล้วยังต้องมาเหนื่อยเรื่องนี้อีก แต่ถ้าพิมไม่ฝึก ไม่บังคับเขา มันก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ  แล้วสักวัน มันก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราต้องเลิกกันก็ได้ พิมก็เลยพยายามที่จะอดทน และก็พยายามสอนให้เขาทำโน่นทำนี่ พยายามจะชวนเขามานั่งจับเข่าคุยกันบ่อย ๆ ในที่สุด หลังจากผ่านมาครึ่งค่อนปี เขาก็เริ่มจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอ่าค่ะ  แค่เขาเริ่มหัดช่วยดูดฝุ่น ปัดฝุ่นแค่ตรงบริเวณของเขา  ช่วยรดน้ำต้นไม้นาน ๆ ที  หัดทำกับข้าวอย่างที่เขาชอบ ๆ แค่นี้พิมก็ดีใจมากแล้วค่ะ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี  เพราะจริงๆ  พิมเองก็หวังไว้ประมาณนี้ค่ะ หากมีการเริ่มต้น ก็ย่อมไม่ยากที่จะหัดอะไรต่อไป ยังไงคุณเจ้าของกระทู้ใจเย็น ๆ นะคะ ..... อดทนอีกสักนิด พยายามสอน พยายามคุย อันไหนบังคับได้ ก็บังคับค่ะ อดทนอีกสักนิด และลองทำอย่างที่คุณรำเพยบอก พิมว่าอะไร ๆ น่าจะดีขึ้นนะคะ จากคุณ : @ - ENYA - @ - [ 8 ธ.ค. 48 11:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกคุณจขกท. เลยนะคะ เพราะคุณเป็นคนคล้ายๆ เรา คือ มีความรับผิดชอบค่อนข้างสูง และละเอียดลออกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ขอแนะนำให้คุณลองทำแบบนี้ก่อนมั้ยคะ 1. บิลต่างๆ ของเค้า พยายามตัดบัญชีซะให้หมด จะได้ไม่ต้องคอยจำวันจ่าย   2. post-it note ค่ะ ซื้อมาเยอะๆ เลย แล้วเขียนทุกอย่างที่คุณต้องการให้เค้าทำ แปะไว้ตามที่ต่างๆ ทั่วบ้าน   3. ตั้งเตือนที่มือถือเค้าเลย สำหรับเรื่องที่ไม่สามารถใช้ post-it ได้ หรือบิลที่ไม่สามารถตัดบัญชีได้ 4. จำกัดเวลาเล่นเกมส์เค้าค่ะ จากคุณ : ประตูเลื่อน - [ 8 ธ.ค. 48 12:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับคุณรำเพยนะคะ ความจริงเราเป็นผู้หญิง แต่อาจจะกลับกันกับคู่ของคุณเจ้าของกระทู้ เราเองที่ตื่นสาย เหอ เหอ แล้วเราก็เป็นคนขี้ลืมอย่างมาก คนขี้ลืมเนี่ย มันลืมจริงๆนะคะ ไม่ใช่ว่าคิดแต่ว่ารับปากไปวันวัน ตอนรับปากเนี่ย ตั้งใจจริงๆค่ะ แต่ผ่านไม่นานก็ลืมซะแล้ว ... แฟนเคยฝากซื้อของที่ซุปเปอร์เหมือนกันค่ะ แต่ แหะ แหะ กลับบ้านมาเพิ่งนึกได้ว่าไม่ได้ซื้อมาให้คุณแฟน . ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆนะคะ ยืนยันเลยค่ะ แต่ยังไงก็รักเธอ ... จากคุณ : jarnsee (JarnSee) - [ 8 ธ.ค. 48 13:18:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าสามีมีกิ๊ก สักหน่อย เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องขี้ประติ๋วเลย ไม่ได้หาเรื่องให้ถูกด่า ปัญหา เจอ ปัญหาใหญ่ เจอปัญหาใหญ่กว่า เจอ ปัญหาใหญ่ที่สุด เจอ ไม่มีปัญหา จากคุณ : พ่อไม้ - [ 8 ธ.ค. 48 13:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สู้..สู้..จ้า..ช่วยกัน..คุยกัน..ทำความเข้าใจกัน.. เรากับแฟนไม่มีปัญหาเรื่องนี้เพราะผลัดกันขยันผลัดกันขี้ เกียจจ้า..ชีวิตช้ามั่ง..เร็วมั่ง..แต่เค้าก็รักเรา..ไม่ใช่เหรอค่ะ ผู้หญิงบางคนที่ทุกข์เพราะผู้ชายมีคนอื่นในชีวิต..ต้องอด ทนกว่าเยอะเลยน่ะค่ะ.. ..เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ค่ะ.. จากคุณ : ไอติมรสส้ม - [ 8 ธ.ค. 48 14:01:12 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถ้าไม่ดี ก็เลิกคะ อะไรที่คิดว่าถูกต้องแล้ว ให้ทำไปเลย มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ แต่....เราต้องไม่เสียใจทีหลังนะ จากคุณ : เปรี้ยวใจ - [ 8 ธ.ค. 48 15:49:46 A:58.11.33.154 X: TicketID:077447 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าไม่อยากอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเหตุผลไหน ถ้าคุณจะเลิกซะอย่าง ใครจะฉุดรั้งได้ค่ะ แต่ควรทบทวนให้ดีที่สุดนะคะ คนเราเวลารัก มักใช้เวลายาวนานพิสูจน์ แต่บทหมดรัก เสี้ยววินาทีก็ตัดสินใจได้ จากคุณ : มามี๊วินนิ่ง - [ 8 ธ.ค. 48 16:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แฟนเราก็เฉื่อยค่ะ ตอนคบกันแรกๆน่ะ ไม่รู้หรอกว่าจะขนาดไหน แต่พอลองมาอยู่ด้วยกันมากขึ้นก็เริ่มรู้ค่ะ เฉื่อยและค่อนข้างซกมกด้วย (แต่อาบน้ำทุกวันนะ เราเองกลับไม่ชอบอาบอ่ะ) ทีนี้ มาถึงจุดๆหนึ่ง เราเริ่มเหนื่อยกับการคาดหวังให้เค้าทำอ่ะค่ะ เลยทำเอง พอทำเองก็เหนื่อย โกรธ โมโห และพาล เค้าก็ยังไม่รู้ตัว เพราะเราก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้จริงๆจังๆ พอเราคุยกันแบบเปิดอก เราร้องไห้เลยค่ะ เพราะเราคิดถึงอนาคตที่เราต้องอยู่ด้วยกันมากกว่านี้ ถ้าต้องให้เราจำจี้จ้ำไชตลอดจะทำยังไง เพราะเราเป็นคนทำอะไรเร็ว มีแผนตลอด เค้าก็ปรับตัวนะคะ อาจเพราะเค้ายังรักเรามาก แฟนคุณก็รักคุณมากเลยนะคะ ไม่งั้นเค้าไม่มาช่วยทำหรอก แต่ของอย่างนี้ปรับกันได้ค่ะ ดัดนิสัยแบบจริงจังอ่ะค่ะ ของเราเค้าพอดีแพ้น้ำตา แล้วก็เราพูดตรงๆด้วยล่ะ เลยปรับกันได้ ที่แน่ๆ ถ้ามีแมลงสาปในบ้านเนี่ย หน้าที่เค้าแน่ๆ แต่ปัญหาคือ เค้ามองไม่เห็นนี่สิ (สายตาสั้น) เฮ้อ................ อย่าเพิ่งหย่าเลยนะคะ คุยกันจริงจัง ยื่นคำขาดไปก่อนดีมั้ย? จากคุณ : pompoko - [ 8 ธ.ค. 48 16:48:57 ]

ความคิดเห็นที่ 38 แสดงว่าสามีประเภทเดียวกับจขกท.มีมากจนน่าใจหาย.... สามีก็เป็นแบบนั้น ทุกวันนี้แยกกันอยู่ เพราะเขาขอเลิกเรื่องที่เราทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เก็บโต๊ะ(เขาเป็นประเภทเขาบ้านทำอะไรก็กองไว้อย่างนั้น) เราเองขอเลิกเป็นร้อย มีครั้งนี้แหละที่เขาจัดให้ เรื่องของเราแย่กว่าตรงที่มี ดช. วัย 9 เดือนมาเอี่ยวด้วย เราก็เป็นนะที่พยายามจะคุยให้ขยันหน่อย เป็นบิดาคนแล้ว เลิกเล่นเถอะเกมส์นะ เดี๋ยวลูกโตจะสอนลูกยังไง สามีเราดูทีวีเป็นวันๆได้โดยไม่มีอาการจะเสียสติ หรือ ดูจนเหนื่อย แต่ถ้าให้ทำงานนะจะชอบวิ่งผลัด แบบหลายไม้ด้วย เราเลิกนะเพราะสุดๆ ไม่ใช่ทนไม่ได้ แต่มันหมดนะ มันเป็นทุกวัน เบื่อกับเหนื่อยในใจ หลายคนอาจคิดว่าแต่นี้เหรอ เลิกกัน ต้องเลิกค่ะ เพื่อลูก 1. มีพ่อที่น่ารักมากๆๆๆเป็นแบบอย่างในชีวิต 2. ทะเลาะกันให้ลูดดู คิดว่าไม่สวย 3. ชีวิตเราจะต้องดีขึ้น(คิดไว้ทุกวัน) จากคุณ : ngaw&titan - [ 8 ธ.ค. 48 16:49:59 A:58.10.204.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ จขกท คะ ที่คุณพูดบ่นมาทั้งหมดเนี่ย เหมือนสามีของกระบุงค่ะ  พ่อเจ้าประคุณท่านไม่หยิบอะไรทั้งนั้น วันหยุดก็นอนต่อเนื่องจนบ่ายถ้าไม่เรียกมีถึงเย็นค่ะ เมื่อก่อนก็เครียด คิดเหมือน จขกท ว่าอยากเลิก  อดทนอยู่ อดทนทำ แต่ก็รักสามีนะคะ แต่มันเกิดความน้อยใจ ว่าทำไม เอาตรูมาเป็นคนใช้อะ ตรูอยู่ของตรูดีๆ  อดทนทำ จนกลายเป็นความเคยชิน จนตอนนี้ 15 ปีผ่านไป กระบุงไม่เครียดแล้วเพราะชิน หิวเมื่อไหร่กระบุงไม่รอ ในเมื่อเรียกแล้วไม่ยอมลุก กระบุงดูดฝุ่นเช็ดกระจกเอง ปลูกต้นไม้ดอกไม้เอง ทำเองทุกอย่างเพราะรำคาณค่ะ จนเดี๋ยวนี้ สามีกระบุงก็ลุกขึ้นมาช่วยทำนู่นนี่ แต่กระบุงมีหน้าที่เก็บค่ะ เค้ามีหน้าที่รื้อหา บางครั้งของวางอยู่ตรงหน้าแท้ๆยังหาไม่เจอ แก้วกาแฟในห้องน้ำต้องคอยเก็บค่ะ เพราะเธอกินด้วยทำธุระด้วย อะไรในบ้านแม้กระทั่งกระดาษทิชชูถ้าหมดก็ต้องเรียกหา เอาให้หน่อย ดูทีวีก็ทะเลาะกันนะคะ ท่านจะดูเรื่องหมอๆ กระบุงจะดูตลก กระบุงจะดูหนังแผ่นท่านจะดูหนังทีวี  เฮ้อ เลยซื้อมันซะอีกเครื่องค่ะ แยกกันดู แยกกันฮาขำกลิ้งไปคนละห้อง แต่ถ้าเกิดดูรายการเดียวกันก็เข้ามาดูด้วยกัน แม้กระทั่งซื้อเสื้อผ้า ถ้าไปด้วยกันต้องมีโกรธค่ะ ท่านว่ากระบุงใส่ตัวนี้ไม่สวย กระบุงก็ว่าเชิ๊ตตัวนี้สวยคุณใส่สวยนะ ท่านก็ว่าไม่สวยไม่ชอบ สารพัดค่ะ เรื่อซื้อของใช้เข้าบ้านก็กระบุงค่ะ ซื้อคนเดียวเลือกคนเดียวสบายใจค่ะ เหตุผลเพราะกว่าจะตื่นก็สายโด่ไม่มีเวลาแล้ว กระบุงก็จัดกานเรียบ อาหารคนอาหารแมว  จนชินไปแล้ว ตอนนี้ไปก็ซื้อด้วยกันค่ะแต่แยกกันคนละแผนก ต่างคนต่างไปซื้อแล้วมาเจอกันตรงแคชเชียร์ แต่เค้าไม่เคยตบตีกระบุง ไม่เคยว่ากระบุง เงินทองข้าวของของกินอยากซื้ออยากทำอะไรเค้าไม่เคยว่า  จะไปช้อบอะไรก็ตามใจ  เพราะฉะนั้น ในเมื่อมันมีข้อเสียแค่นิดเดียวจะเอามาใส่ใจทำไมคะ  ตอนนี้ เสา- อาทิต กระบุงไปฟิตเนตค่ะ เพราะอยู่บ้านตอนเช้าสามียังไม่ตื่น ไปเต้นแอโรบิกดีกว่า บางทีลงไปปลูกต้นไม้ชมสวนอยู่คนเดียว  กระบุงก็เริ่มชิน สามีก็เริ่มช่วยงาน ถ้อยทีถ้อยอาศัยนะ กระบุงก็มีงานทำประจำเหมือนคนอื่นเค้าแต่ถ้าเราเครียดเราก็ไม่มีความสุข ไม่มีใครในโลกดีหมดทุกคนนะคะ แต่ละคนมีทั้งดีและไม่ดีนะ   เห็นมั้ย ยังมีกระบุงอีกคนนะ ที่มีสามีนิสัยคล้ายคุณ จขกท หาอะไรทำให้สบาย เกรงใจเป็นบางเรื่องค่ะ นะ   กว่าจะรักกันแต่งงานกันมาได้ใช้เวลานานมากๆ เสียดายเวลาค่ะ ในเมื่อเราเลือกแล้วว่าคนนี้คือคนที่จะเดินไปกับเรา  เดินเบี้ยวบ้างตรงบ้าง มันก็ยังดีกว่าที่เค้าจะเดินนำเราอย่างเดียวใช่มั้ย  ค่อยๆปรับตัวเองลงมานะคะ ค่อยๆใช้ใจคิด ค่อยๆปล่อยวาง ตึงมากไปก็ขาดนะคะ  เชื่อเถอะค่ะ ไม่มีใครในโลกเพอร์เฟกเหมือนในนิยายรักเลิฟสตอเบอรี่แน่นอน มีแต่ในหนังสือค่ะ  ลองอีกซักตั้งนะคะ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 48 17:13:49 แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 48 17:09:32 จากคุณ : กระบุงกระหนุงกระหนิง - [ 8 ธ.ค. 48 17:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อืม...เราเข้าใจเจ้าของกระทู้เลย (เรานิสัยคล้ายสามีคุณ จขกท) เราชอบทำงาน (ที่ไม่ใช้งานบ้าน) อ่านหนังสือ หรือ กิจกรรมเพื่อความบันเทิงของเรา เช่น ถ้าจัดบ้านก็ต้องจัดเพราะเราชอบ มีของแต่งบ้าน ไม่ใช่เพราะมันรกแล้วจึงมาจัด ถูบ้าน+ดูดฝุ่น+ซักผ้า+รีดผ้า ไม่ชอบทำเป็นอย่างยิ่ง (แต่ถ้าอนาตคต้องทำก็ได้นะ ฝืนๆ) เราถึงตั้งใจว่า ถ้ามีปัญญาแต่งงานก็ต้องมีปัญญาหาคนใช้ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี เรายอมเสียเงิน ดีกว่าต้องมาทะเลาะกับสามี อย่างกรณีคุณ จขกท นะ ถ้ามีคนใช้สักคนนะ ทุกอย่างก็โอเค จากคุณ : ~Nk~ - [ 8 ธ.ค. 48 17:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านที่คุณอธิบายมา ถ้าคุณทนไม่ไหวแล้วก็เลิกไปเหอะครับ เลิกๆไปเลย แล้วก็หาคนที่ สามีคุณทำไม่ได้นั่นแหล่ะครับ ง่ายดี จะได้สบายใจ จะได้ไม่ต้องมานั่งจิตตกครับ เสียสุขภาพกายกะใจเปล่า ๆ จากคุณ : mrsuthin - [ 8 ธ.ค. 48 17:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 จะเลิกก้อเลิกไปเถอะค่ะ รู้สึกว่าคุณหยิบยกเหตุผล มาเยอะเหลือเกิน แต่.. สงสัยอยู่อย่างค่ะ ว่าตอนเป็นแฟนกันไม่รู้เลยเหรอคะ ว่าเค้านิสัย แบบนี้ แล้วตัดสินใจแต่งงานกับเค้าทำไมคะ ทำไมไม่คิดดีดีก่อน จากคุณ : คือว่ามันสงสัยอ่ะค่ะ (รักนะ...มากด้วย) - [ 8 ธ.ค. 48 18:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โหอยากจะบอกเจ้าของกระทู้ว่าประสบปัญหาเดี่ยวกัน สามีตื่นสาย เพราะเล่นเกมส์ แล้วเล่นแบบไม่ลืมหูลืมตา เล่นจนไม่กินข้าวปลาแถมไม่มีเวลาให้เรา มีคนเคย บอกว่า ผู้ชายเหมือนเด็กได้เกมส์ใหม่ก็เหอ ให้เวลาเขาเหอ หน่อย เราให้เวลามาครึ่งปีสามีเราก็เหอเหมือนเดิมทุกวัน เราก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านเพราะทำงานแล้วก็ เรียนด้วย เราออกจากบ้าน 8 โมง กลับ บ้าน 3 ทุ่ม เราเคยขอเวลา สามี เราแค่ 3 ชั่วโมงต่อวัน ระหว่าง 3 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน ไม่ให้เขาเล่นเกมส์ แค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น นะจะลงแดงตายให้ได้เลย เพราะเกมส์ทำให้เขานอนดึกตื่นสาย เข้านอนก็เกือบเช้า ตื่นก็เที่ยงกว่า บ้างที่ บ่ายด้วย  เราเบื่อมากเพราะวันหยุดไม่ได้อยากจะนั่งดูหน้า แฟนหลับ เราอยากจะออกไปเที่ยวทำกิจกรรมแบบคู่รักทั่วไป แต่อย่างว่าแหละกว่าจะ เปิดลูกตา (ไม่ได้ตื่น) ทำอารมณ์ให้ตื่นอีก โน่นปาไป บ่าย 3 บ่าย 4 ไม่ต้อง ปง ไป มันแล้วข้างนอก พอเราพูดก็หาว่าเราขี้บ่น เรื่องความรับผิดชอบอีก หาไม่ได้เลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตอนคบกันตั้งหลายปี ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย แต่งได้ครึ่งปีเท่านั้นแหละลายออกซะ น่าเบื่อ เแก้ว จาน ช้อน ของที่ใช้แล้ว ว่าเกลื่อนเต็มบ้านไปหมด แล้ววันหนี่งใช้ไม่ต่ำกว่า 5 ใบ กินอะไรก็หนักหนา หลังๆเราไม่ล้างให้ ใครกินใครล้างแล้วกัน เชื่อไหมค่ะ 1 อาทิตย์ แก้ว30 กว่า ใบ แก้วไวน์ แก้ว เตกีล่า หมดตู้เลย จานชามไม่ต้องพูดถึง หมดตู้ หม้อ เหมอ ใช้เกลี้ยงแต่ไม่ล้าง เรานะเห็นแล้วแบบเหนื่อยแล้วก็เบื่อ พอบอกให้ล้าง สามีเรา บอกว่ารอก่อน มีอารมณ์แล้วจะล้าง ( เออไม่มีจานจะกินข้าวแล้วโว้ย)  สุดท้ายก็เป็นเราที่ล้างอีก แล้วเรื่องบิลเรื่องอะไรอีก ก็ต้องเป็นวินาทีสุดท้าย ทุกอย่างวินาทีสุดท้าย อย่างเช่น แบงค์ จะปิดอีก 10 นาทีมาถามเราว่า บิลค่าโทรศัทพ์ค่า โน้น ค่านี่อยู่ไหน แล้ววันนี้ก็วันสุดท้ายด้วย เซ้ง ๆ ๆ  เคยไปคืนหนังสือช้า โดนปรับไปซะ 2100 บาท ไม่เข็ด แล้วคนไปคืนก็ดิฉันนี่  สาระพัดอีกเยอะไม่อยากสาธยาย อยากจะบอกคุณว่าไม่ใช่สามีคุณคนเดียวที่เป็นแบบนี้ เราคุยกันประมาณ ร้อยรอบได้ว่าอยากให้รับผิดชอบมากกว่าเดิม แล้วก็เหมือนเดิม ตอนนี้เราก็คิดหาวีธีของเรา มันก็ช่วยได้บ้างเช่น ตอนเขาหลับระหว่างวัน ถ้าเรา ตื่นแล้วเราจะทำอะไรก็ทำ เช่นทำความสะอาด (ถ้าตื่นมาโวยจะโดนตุ๊บแน่ๆ)  ดูดฝุ่นแน่นอนเขาหลับไม่ได้เขาต้องตื่นมาโวยวาย เราบอกเขาเลยว่าไม่ใช่ความผิด ของเราที่เขาเล่นเกมส์ยันเช้า หน้าหงิกกลับไปนอนเหมือนเดิม( แต่เขาจะจำแล้วว่าเราจะทำความสะอาดทุกเช้าวันเสาร์ เย็นวันศุกร์เขาจะนอนเร็วกว่าเดิม) , เขียนใส่ Post it   ไว้เลยว่า เราอยากให้เขาทำอะไร เช่นใช้จานช้อนส้อมแล้วไม่ต้องก็ได้ล้างแต่ ต้องเอาไปไว้ที่ อ่างล้างจาน แช่น้ำไว้รอเรากลับไปล้าง เขียนไว้ว่าวันนี้เขา ต้องทิ้งขยะ เขียนไปสัก 5 ข้อ เขาทำแค่ 2 หรือ 3 ข้อ ก็ดีใจแล้ว อ้ออย่าลืมขอบคุณเขาด้วยนะคะให้กำลังใจเขาหน่อย เราบอกเขาเลยว่าถ้าไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำแต่ถ้าอยากให้เราทำ ต้องทำตามกฏของเรา ถ้าจะให้เราซักผ้า ต้องเอาผ้าใส่ตะกร้า ถ้าเอากองเอาไว้เราก็ให้เราใส่อีกที่ บ้างวันใส่เสื้อผ้าเก่าไปทำงาน เหม็นอายเพื่อน แล้วเขาก็จะจำ ว่าถ้ากองเอาไว้เมียสุดที่รักจะแกล้งแขวนให้เขาใส่ต่อ เรื่องพลัดวันประกันพรุ่ง ก็เป็นคะ เหมือนกัน ถ้าเราสั่งเขาให้ทำอะไรสักอย่าง ไม่เคยได้ เดี๋ยวนี้เราจะสั่งเขาก่อนออกจากบ้านเช่น วันนี้โทรไปถามข้อมูลให้ด้วยนะ แล้วตอนกลางวันโทรไปหาอีกที่ถามเขาว่า โทรไปแล้วหรือยัง ถ้าเป็นสิ่งของจะโทรไปก่อนกลับบ้านคะ ว่าเอาของมาด้วยหรือเปล่า ถ้าเขาเอากลับมาก็ขอบคุณชม เขาด้วยนะคะ ผู้ชายก็เหมือนเด็ก ชอบให้คนรักเอาใจใส่และพูดจาดีๆ   เออเจ้าของกระทู้อย่าพูดเรื่องเลิกหรือว่า แยกทางบ่อยเลยคะ ถ้าอยากแยกทางด้วยเรื่องพวกนี้จริงๆ เราว่าคนต่อไปก็คงเป็นเหมือนกัน เพราะดูแล้ว เหมือนกับว่าเป็นนิสัยของผู้ชายส่วนใหญ่ เจ้าของกระทู้เคยมองว่าตัวเองก็เปลี่ยนไปบ้างไหมคะ เราไม่สามารถคาดหวังให้ใครเป็นไปอย่างที่เราตังใจได้ หรอกคะ เพราะว่ามันไม่ใช่ตัวเราแม้แต่ตัวเราเองยังคาดหวังให้เราเป็นแบบที่เราต้องการไม่ได้เลย คุณควรที่จะให้โอกาศสามีอีกครั้ง คราวนี้ช่วยกันคะ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างที่คุณต้องการ แต่ทุกอย่างควรที่จะเป็นไปอย่างคุณ 2 คนต้องการ คุณ 2 คน ยังรักกันแต่แค่เหนื่อยกับพฤติกรรมของทั้งคู่มากกว่า เราเองก็เหนื่อยเราเองก็เกรงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้างที่ รู้ว่ายากแต่ถ้ามานั่งคิดจุกคิดจิก เราจะเป็นคนที่ปวดหัวคะ เราพูดจากใจจริงว่าตอนนี้เราปลงเยอะกะสามีเราแล้ว โอ้ไม่น่าเชื่อจะบ่นยาวขนาดนี้ จากคุณ : หรือว่าเพียง..ใบไผ่กะยอดกอหญ้า - [ 8 ธ.ค. 48 18:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 44 โหว อยากบอกว่าเข้าใจมากเลยค่ะ จขกท อดีดเเฟนเเมร่งเป็นคนชอบผัดวันประกันพรุ่งสัญญาอะไรไม่เคยทำได้เลย เลิกกันไปแล้วพอดีคนใหม่ ตรงกันข้าทุกอย่าง สัญญาอะไรไว้ ไม่เคยผิดสัญญาเลย จากคุณ : เปียโนสีเเดง - [ 8 ธ.ค. 48 20:55:43 ]

ความคิดเห็นที่ 45 จขกท กลับมาอ่านแล้วซึ้งน้ำใจเพื่อนๆ สมาชิกมากๆ เลย โดยเฉพาะคุณรำเพย คุณรำเพยเขียนได้ดีมากๆ เลย ให้ข้อคิดกับผู้อ่านทุกคนที่ผ่านมาได้มากมาย แน่นอน แต่เรา .. สงสัยเราจะต้องกลับไปเรียนเรื่องการสื่อสารใหม่ เพราะสงสัยว่าเราจะสื่อปัญหาของเราผิดประเด็นไป ข้อ 1 เราไม่ได้มีปัญหาที่ต้องทำงานคนเดียวทุกอย่าง- ทั้งงานในบ้านนอกบ้านเลย เราทำได้ ก่อนแต่งงานก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นยังไง ปัญหาของเราคือ สามีชอบอาสาทำนี่ทำโน่น แล้วก็ไม่ทำตาม ที่อาสาไว้ต่างหาก พอเขาไม่ทำเรื่องง่ายๆ ขี้ปะติ๋วที่เขาสัญญาไว้ ซึ่งบางทีมันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา เราก็เลยโกรธ แล้วเวลาที่เราโกรธ (เราว่าผู้หญิงทุกคนก็คงเป็น มันน่าจะเป็นธรรมชาติของสตรีเพศ) เรื่องเก่าๆ ที่เขาเคยทำผิดไว้ มันจะกลับมา replay อยู่ในสมองเราแบบ fast forward คือเร็ว มากๆ แล้วที่นี้อะไรๆ มันก็แย่ ... ขอยกตัวอย่างเรื่องที่เขาผิดต่อเรามากๆ จนเราลืมไม่ลงก็เช่น เมื่อหลายปีก่อนเราสองคนย้ายจากบ้านเช่าที่ต่างจังหวัด มาอยู่บ้านที่เราซื้อเองในกรุงเทพฯ เราจ้างบริษัทฯ มาบ้าน ก็คือว่าเราสองคนไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ทำเครื่องหมายว่า ของชิ้นไหนที่ต้องย้าย เพราะเป็นของเรา และอะไรบ้างที่ ไม่ต้องย้ายเพราะเป็นของเจ้าของบ้าน บางอันมันก็เป็นชิ้น เล็กๆ เช่แจกันดอกไม้ กระถางต้นไม้ ฯลฯ ปรากฎว่าก่อนวันย้าย 1 วัน สามีเราไปรับนัดกินเลี้ยงอำลาของเพื่อนเขา (เพื่อนๆ เราเชิญเราไปทานข้างที่บ้านเขาทีละบ้าน) ซึ่งเราจะไม่ไปด้วยเพราะรู้ว่ามีงานต้องทำ พวกเครื่องหมายข้าวของเฟอร์นิเจอร์ แต่สามีเราขอให้เราไป และ บอกว่ากลับมาแล้วช่วยกันทำ ก็ได้ เป๊ปเดียวก็เสร็จ เราก็หลงเชื่อเขา .... มาถึงตอนนี้ขอให้ทุกท่านนึกตามว่า ในตอนนั้น เรายังไม่มีปัญหานี้ เพราะว่าตั้งแต่แต่งงานมาเราทำทุกอย่างคนเดียวด้วยตัวเอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้เราทำของเราเองสบายใจกว่า .. ในช่วงเวลานั้นสามีไม่ได้ทำอะไรเลย เราก็เลยลืมความไม่รับผิดชอบของเขาไปเพราะเขาไม่มีโอกาสแสดงมันออกมา จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 9 ธ.ค. 48 11:38:06 A:61.19.155.86 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ปรากฎว่างานที่บ้านเพื่อนสนุกมาก เพราะมีสามีภรรยาคู่อื่นมาแจมอีกสามคู่ ทั้งหมดคุยสนุก เจ้าบ้านก็เตรียมงานอย่างดี อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ เครื่องดื่มมากมายให้เลือก สามีไม่ยอมกลับจนเที่ยงคืน และ แน่นอนว่าเราเป็นคนขับรถ พอกลับมาสามีบอกว่าเหนื่อย นอนก่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้รีบตื่นแต่เช้ามาทำงานที่ต้องทำกัน เรานัดบริษัทย้ายไว้ที่ 8 โมงเช้า เพราะว่าของเยอะมาก ประกอบกับต้องขับรถทางไกล เราตั้งใจจะตื่น 7 โมง เพื่อมาทำเครื่องหมาย ปรากฎว่า วันรุ่งขึ้นเราตื่น 7 โมงเช้า ตื่นแล้วก็รีบลุกขึ้นมาทำงาน สามีเรายังไม่ยอมตื่นทันที เราก็ไม่ว่าอะไร ปรากฎว่า บริษัทย้ายมาก่อนเวลา คือ มาตอนเราตื่นพอดี เราก็เลยต้องไปลากสามีลงมาแล้วก็บอกให้ช่วยกันดูว่า บริษัทย้ายไม่แพ็คของของเจ้าของบ้านไป ปรากฎว่า .. สามีเราไม่ได้รับรู้สถานการณ์ฉุกเฉิน ณ ขณะนั้น เขาบอกว่า เขาต้องดื่มกาแฟก่อน แล้วเขาก็นั่งลงดื่มกาแฟของเขา ..... คุณนึกภาพออกมั๊ยว่า เจ้าหน้าที่จากบริษัทย้านของ 8 คน เข้ามาในบ้านเราแล้ว แล้วก็ระดมกำลังกันเริ่มแพ็คทันที โดยทุกคนพยายาม ตะโกนถามเจ้าของบ้านว่า พี่ พี่ อันนี้แพ็คได้มั๊ย อันนี้เอา ไปด้วยม๊ย? เราก็วิ่งขึ้นวิ่งลง วิ่งไปวิ่งมาตอบคำถามคน เหล่านั้น ขณะที่สามีนั่งเฉยๆ ดื่มกาแฟ จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 9 ธ.ค. 48 11:41:21 A:61.19.155.86 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ตอนนั้นมันยุ่งมาก จนเราไม่ทันนึกอะไรอื่นนอกจาก พยายามให้คนงานไม่หยิบชิ้นที่ไม่ควรหยิบ สักพักหนึ่งเราก็รู้สึกว่าไม่มีแรง หน้ามืด และต้องนั่งลงแผละอยู่กับพื้น .. คงเพราะเครียดแล้วก็นอนน้อยด้วย เราก็เลยเริ่มร้องไห้ แล้วก็พยายามคลานลงมาหาสามี (บ้านนั้นเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ) ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอายหรือคิดอะไรอื่นเลย .. มันเป็น the heat of the moment น่ะ .. เราขอให้สามีหยุดกินกาแฟ แล้วช่วยกันก่อนได้ไหม ไม่เห็นหรือไงว่าคนงานแพ็คของกันเร็วขนาดไหน แล้วเราไม่ได้ทำเครื่องหมายไว้ เราดูคนเดียวไม่ไหวนะ เราจะเป็นลมอยู่แล้ว สามีก็รีบลุกขึ้นมา แทนที่จะไปดูคนงาน เขารีบมาประคองเรา เป็นห่วงเป็นใยรักเราขึ้นมาเชียว เราก็ไล่เขาให้ไปดูคนงานแพ็คของ เขาก็ไม่ไป เขาบอกว่าเราไม่สบายเขาจะดูเรา เราก็บอกเขาว่า เราไม่ต้องการขนของกลับมาคืนเจ้าของบ้านอีก และอย่าบอกอีกเลยว่าเขาจะทำเอง เพราะเขาได้แสดงให้เห็นอีกแล้วว่าเขาเหลวไหลแค่ไหน เพราะเขาแท้ๆ ที่เราต้องยุ่งจนถึงกับเป็นลมอย่างนี้ .. เขาก็ผละไปจากเราโดยดี แต่เพราะเขาเป็นคนเฉื่อยๆ เขาไม่สามารถ respond กับเสียงเรียกรอบทิศทางอย่างเราได้ คนงานของบริษัทฯ ก็ตั้งหน้าตั้งตาแพ็คทุกอย่าง เราก็ต้องคอยตะกายๆ ไปบอกว่าอันนี้ไม่ต้อง อันนั้นไม่ต้อง เมื่อมาถึงบ้านใหม่ โชคดีที่เราถึงก่อนรถขนของ เราจึงติดเบอร์ไว้ทุกๆ พื้นที่ พอรถมาถึง เราสามารถให้แปลนบ้านเขา พร้อมกับหมายเลขที่กำหนดไว้แล้ว แล้วก็นั่งเฝ้าอยู่หน้าบ้าน พร้อมกับบอกเขาว่าเฟอร์แต่ละชิ้นต้องนำไปวางที่เบอร์ไหน .. ก็อีกแหละ .. สามีไม่ได้ช่วยอะไร นั่งสูบบุหรี่อยู่เฉยๆ เราพยายามไล่ให้เขาไปเดินดูว่า คนงานวางของไว้ในจุดที่เหมาะสม อย่างเช่น ตู้เย็นต้องวางห่างจากผนังเท่าไร ฯลฯ เขาก็ค่อยๆ ลุกไป เราไม่ไว้ใจเราก็ต้องตามไปดู ปรากฎว่าสามีไม่ค่อยใส่ใจ สุดท้ายเราต้องไปกำกับอีกทีอยู่ดี เมื่อคนงานไปกันหมดแล้วเราก็นั่งร้องไห้อีกเป็นชั่วโมงๆ เราบอกเขาตรงๆเลยว่าความผิดที่เขาไม่ช่วยเราในครั้งนี้ เราคงลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต เราไม่รู้ว่าเราจะร่วมชีวิตกับคนที่ทำอย่างนี้กับเราได้อย่างไร และเราไม่รู้จริงๆ ว่า ความรักของเราที่มีต่อเขา จะทำให้เราให้อภัยเขาได้อีกกี่ครั้ง ... แต่ตอนนั้นเรายังรักเขาอยู่ เขาเข้ามาทำหน้าสำนึกผิด เราก็สงสาร แม้ว่าจะไม่ลืม แต่เราได้ต่อความยาวสาวความยืดให้มันรุนแรงไปกว่านั้น เราแค่นั่งร้องไห้จนสาแก่ใจแล้วเราก็ลุกขึ้น เริ่มจัดของเข้าที่ แต่ความทรงจำเรื่องการย้ายบ้านที่เลวร้าย ได้ตามมาหลอนเราไม่จบสิ้น ประมาณว่า พอสามีไม่ได้ทำอะไรที่เขาสัญญาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน เราก็จะนึกถึงเรื่องนี้อีกทุกที จากคุณ : สายป่านเส้นบางๆ - [ 9 ธ.ค. 48 11:45:44 A:61.19.155.86 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เรื่องย้ายบ้านเป็นเรื่องแรกที่ ...จุดชนวน "ความเกลียด" ไว้ในใจเรา เป็นเรื่องที่ตอกย้ำความเฉื่อยของเขา อย่างที่บอกแหละ เราลืมมันม่ได้ จริงๆ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรา "เคย" ให้อภัยหรือเปล่า จากคุณ : จขกท - [ 9 ธ.ค. 48 11:48:05 A:61.19.155.86 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เรื่องสุดท้ายที่เป็นเรื่องใหญ่ของเรา เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสองเดือนก่อน เราไปทำกิจกรรมกับบริษัทของเรา และ เรารับหน้าที่ถ่ายรูปพร้อมกับ เขียนบทความลงนิตยสารบริษัทฯ พร้อมกับต้องนำรูปมาต่อกันเป็นวีดีโอพร้อมเสียงประกอบ กิจกรรมใช้เวลา 2 วัน 1 คืน กว่าเราจะกลับถึงบ้านวันอาทิตย์ก็มืดค่ำแล้ว พอถึงบ้านปุ๊บเราก็ตรงไปที่คอมพิวเตอร์ เพื่อคัดลอกรูปทั้งหมดลงแผ่น ปรากฎว่าสามีมาแย่งไปจากมือ ขอย้ำ แย่งไปจากมือ แล้วบอกว่าเราไปอาบน้ำนอนได้ เขาจะทำให้ เราบอกให้เขาใส่แผ่นดีวีดีลงในกระเป๋าเราเลยนะ วันรุ่งขึ้นเราออกจากบ้านแต่เช้าเขายังไม่ตื่น เราไม่เห็น แผ่นดีวีดี เราก็เลยคว้ากล้องดิจิตอล แล้วก็สาย usb มา พอมาถึงที่ทำงานเสียบดูปรากฎว่า เขาลบรูปของเราออกหมดแล้ว เหลือไว้แต่รูปของเขาที่เขาถ่ายค้างไว้ ขอบอกว่าเราซื้อแผ่นเก็บข้อมูลใหม่ขนาด 1 กิ๊ก ซึ่งเก็บรูปได้เยอะมาก ขนาดเราถ่ายไป 600 กว่ารูป บวกวีดีโอ ก็ยังมีที่เหลือ แต่เขาลบรูปของเราออกหมด เราโกรธมากๆ หลงเชื่อเขากับเรื่องสำคัญของเราอีกแล้ว ณ ตอนนั้น (และยังรู้สึกอย่างนั้นมาถึงวันนี้) ก็คือว่า เราอยากให้เขาออกไปจากชีวิตของเราเสีย ไปให้พ้น เราอยากมีชีวิตของเราเอง ไม่ต้องมาสะดุด เพราะหลงเชื่อคำพูดของเขาอีก .. จากคุณ : จขกท - [ 9 ธ.ค. 48 11:59:38 A:61.19.155.86 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ยินดีรับฟังนะครับ บางทีการได้เล่าเรื่องอะไรที่คุณรู้สึกว่ามันกดดันคุณมานานให้คนอื่นได้ฟังบ้าง ถึงแม้จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาของคุณได้ แต่อาจจะช่วยให้คุณสบายใจขึ้นได้บ้าง แล้วจะมาฟังคุณต่อนะ จากคุณ : ฝรั่งดอง - [ 9 ธ.ค. 48 15:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เฮ้อ...กลับมาอ่านอีกที เห็นใจค่ะ เพราะเราก็เคยมีแฟนเป็นงี้ แล้วส่วนตัวก็เป็นคนเจ้าระเบียบ ถ้าไม่เป็นอย่างที่วางแผนไว้ จะเซ็ง+หงุดหงิด มากๆๆ มันเสียสุขภาพจิตจริงไม๊คะ การที่เค้ารับปากแล้วไม่ทำ เนี่ยเราพยายามทำเองทุกอย่างเพื่อความสบายใจ มันก้ช่วยได้บ้าง พอทนไมไหวแล้ว ก้เลยเลิกไปแล้วอะคะ เพราะยังไม่แต่ง มันดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่เหมือนมีกิ๊ก หรือว่าอะไรอื่นๆ แต่สำหรับเรา เราว่าสำคัญกว่ามีกิ๊ก อะค่ะ คุณแต่งงานแล้วอยู่ด้วยกันทุกวัน เนี่ยเสี่ยงต่อโรคเครียดมากๆๆเลย ใจเย็นๆๆนะคะ ถ้าจะเลิกจริงๆก็คิดเยอะๆค่ะ จากคุณ : ซ - [ วันรัฐธรรมนูญ 08:30:31 A:58.10.169.100 X: TicketID:094094 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เข้ามานั่งข้างๆ เป็นเพื่อนคุณ จขกท มายกมือด้วยอีก 1 เสียง ว่า สามีเราก็เป็นอย่างเนี้ย ดูท่าทางผู้ชายจะเป็นอย่างนี้เยอะจริงๆ ไอ้คำว่า เดี๋ยวทำให้นี่ฟังจนหูชาไปเลย สุดท้ายไม่เคยทำ เฉื่อยๆๆๆๆๆๆ ตื่นยากมากๆๆๆๆๆ งานทุกอย่างสุดท้ายเราก็ต้องทำ ธุรกิจส่วนตัว(ของตัวเองแท้ๆ) ยังไม่เคยสนใจช่วยอะไร เราทำบริหารอยู่คนเดียว สามีเอาแต่เล่นคอมแล้วก็นอน เป็นคนที่ต้องนอนเยอะๆ 10 ชม ขึ้น (เพราะโหมเล่นคอม มานาน บางทีทั้งวัน 24 ชม ไม่ได้นอน เราเคยขอแยกทาง (คุยดีๆ คิดแล้ว คิดอีก) รักเค้านะ แต่มันเสียสุขภาพจิตอย่างแรง พฤติกรรมเค้า ทำให้เรากลายเป็นคนจิตตก อยู่ 3 เดือน ก็เลยตัดสินใจขอแยกทาง ดีกว่า เค้าร้องไห้ ขอเวลาปรับปรุงตัว เค้าบอกทั้งชีวิตเค้าอยากอยู่กับเราแล้วก็ลูก(ดช.4เดือน) ไปตลอดชีวิต... แต่......สุดท้ายก็เป็นอย่างเดิมอีกนั่นแหล่ะ คราวนี้เรากลับมามองที่ตัวเองนะ เพราะรู้สึกปัญหามันเริ่มที่ใจของเราเองน่ะ เราไม่ชอบเห็นบ้านรก เราไม่ชอบที่เค้าไม่เป็นระเบียบถอดตรงไหนทิ้งตรงนั้น เราไม่ชอบที่เห็นเค้าเล่นคอมทั้งวัน เราไม่ชอบที่เค้าไม่เคยไปดูแลธุรกิจของตัวเองเลย ลูกน้องจะเกเรยังไง ก็ทิ้งให้เราไปจัดการอยู่คนเดียว ติดต่อธุรกิจก็ต้องเราอีก ทั้งๆที่เราอยากอยู่กับลูก เล่นกับลูกนานๆมากกว่า สุดท้ายเราก็ต้องทำ เพราะเค้าบอกเหตุผลว่า ไม่ถนัด พูดไม่เก่ง เราเก่งกว่า แล้วก็อีกหลายอย่างงานนอกบ้าน ที่เค้าบอกไม่ชอบ ไม่ถนัด ให้เราทำ ทุกวันนี้ทำใจนะ เพราะเค้าเองก็มีข้อดี ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่ติดเพื่อน ไม่มีกิ๊ก ไปไหนถ้าลูกเมียไม่ไปด้วยก็จะไม่ไป เป็นผู้ชายประหยัดมาก ไม่เคยเรียกร้อง อยากได้อะไร เงินทุกบาทที่หาได้เก็บหมด ทุกวันนี้ใจเย็นขึ้นเยอะ ธุรกิจเป็นหลัก งานบ้านเป็นรอง มีเวลาทำ ไม่มีก็ไม่ทำ อยากเล่นกับลูกก็ไปเล่นก่อน ถ้าเหนื่อย ก็นอนพัก (เป็นเมื่อก่อนนะ งานไม่เสร็จเราจะไม่นอนเลย) ที่สำคัญเราเองก็มีข้อเสีย เค้าไม่ชอบที่เรา จู้จี้ขี้บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ระเบียบจัด(ชอบเรียกเราเจ๊เบียบๆ) เค้าว่าเรา fix กับทุกอย่างเกินไป มาตรฐานสูง เฮ้อ ยังไงก็เข้าใจ จขกท นะ อะไรที่ไม่ชอบ แล้วเจอบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เนี่ย มันบั่นทอน สุดๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : เคยเป็น...และ...อาจเป็นอยู่ - [ วันรัฐธรรมนูญ 09:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้าใจ จขกท แล้วค่ะ ถ้าแบบนี้นะ  เอ้า เลิกไปเลยค่ะ ไม่ไว้ ทำไม พูดไรไม่เคยทำล่ะ ผู้ชายแบบนี้จะมีครอบครัวได้ยังไง ไม่ไหว ๆ  น่าเบื่อจริง ๆ ด้วย บางครั้งบางที ไม่เท่าไหร่ นี่เหมือนจะไม่สนใจ สิ่งที่ตัวเองพูดเลย บอกได้คำเดียว คนแบบนี้นะ ถ้าคบแบบเฮียจ๋านะ รับรอง  ตายแน่ ๆ ขานั่นนะ จำได้หมดตัวเองพูดไร ทำให้เราต้องเป็นแบบนั้นด้วย แกบอกว่ ถ้าทำไม่ได้ ไมต้องพูดออกมาเลย คนเรามันต่างจากสัตว์ ตรงที่ พูดแล้วทำให้ได้ ทำอะไร คิดอะไร ควรระวัง แกชอบบอกว่า ถ้าหลับตาข้ามถนนได้ ค่อยมาบอกเฮียว่า จะใช้ชีวิตแบบทำไรก็ได้ โดยเฉพาะผู้ชาย ดูจะมักง่ายกับการใช้ชีวิตจังเลย อย่าละเลย กับสิ่งที่ตัวเองพูดค่ะ เพราะมันจะไม่มีค่าเลย ถ้าพูดออกมาแล้วมันเชื่อถือ หรือ สร้างความศัทธาให้ใครไม่ได้ อยู่ข้าง จขกท อีก 1 คนค่ะ จากคุณ : อยากน่ารักน้อยลง - [ วันรัฐธรรมนูญ 12:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ...ปลง จากคุณ : Mr.Vop - [ วันรัฐธรรมนูญ 13:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ท่าทางจะเลิกใช่มะคะ  ไปเซ็นใบหย่าแล้วกัน แล้วก็เอามาให้เค้าเซ็นให้เรียบร้อย จัดการเรื่องทรัพย์สินให้เสร็จสรรพ ปิดประเด็นไปเลยหมดเรื่องค่ะ จากคุณ : รำเพย - [ วันรัฐธรรมนูญ 14:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 56 แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 48 21:25:34 จากคุณ : Iko Iko - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอระบายต่ออีกหน่อยนะ หลังจากเรื่องรูปกิจกรรมบริษัทฯ แล้ว เราก็หมดใจกับเขา หมดศรัทธาด้วย แต่สามีพยายามขอโอกาสทำโน่นทำนี่ ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไร มีแต่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองทำพลาดมากขึ้น ใบหย่าเรามีอยู่ที่บ้านแล้ว รอให้เขาเซ็นต์เท่านั้น ทันทีที่เขาเซ็นต์ เราจะไปซื้อคอนโด เราดูไว้แล้ว จะได้แบ่งข้าวของ แบ่งสมบัติพัสถาน ทุกวันนี้เราไม่อยากกลับบ้านเลย ไม่อยากเห็นเขา แต่เราก็กลับมาทุกวัน ไม่อยากมีข้อครหาใดๆ จากคุณ : จขกท - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:42:51 A:61.91.250.34 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ระบายหมดแล้ว ตอนนี้ขอตอบคุณคุณรำเพยนะคะ “แต่คุณคะ.....อย่าเลิกกับเค้าเลยค่ะ คนแบบสามีคุณน่ะหายากนะ” ด้วยความเคารพนะคะคุณรำเพย เราศรัทธาในความคิดความอ่านและคำแนะนำของคุณมากๆ เลย แต่เราขอแย้งนิดหนึ่งว่า การที่ผู้ชายคนหนึ่ง รักผู้หญิงคนหนึ่ง และยังคงรักเธออยู่แม้ว่าเธอจะหมดรักเขาแล้ว ทำไมกลายเป็นความดีของฝ่ายชายไปเสียทั้งหมดอย่างนี้? การที่เขารักเรา มันน่าจะเป็นเพราะว่าเราดูแลเขาดี ดูแลอย่างไร? ก็เช่น เล็บมือเล็บเท้าของเขาเราตัดให้ตลอด ตัดผม กับ ขนจมูกให้ตลอดด้วย เสื้อผ้าอาภารณ์ ทั้งชุดทำงาน ชุดอยู่บ้าน เราดูแลซักรีด เก็บเข้าตู้ให้อย่างดี เปิดเมื่อไรก็มีใช้เสมอ สามีเราน้ำเหลืองไม่ดี เป็นสิวที่หลังตลอด เราต้องคอยใส่ยาให้เขา ก็รักษากันมาจนเดี๋ยวนี้หลังเขาเกลี้ยงสวย เหมือนไม่เคยเป็นอะไร เรารู้ใจเขาตลอด จะไปเที่ยวที่ไหน หรือ ไปทานอาหาร เราจะรู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เขาจะไม่เห็นอะไรที่ขัดใจเลยถ้ามีเราอยู่ใกล้ๆ คอยเลือกคอยจัดการให้ ที่เขาชอบมากคือนอนแช่น้ำอุ่นที่เราผสมให้ พร้อมกับจุดน้ำมันหอมระเหย .. ...... เราว่าเขาก็ต้องรักเรานะ ......... (คุณรำเพยคงว่าเรา spoil สามีเราแน่ๆ เลย ทำยังไงได้ล่ะ คนมันรัก – แต่ตอนนี้ไม่รักแล้ว ไม่มีกะใจจะทำให้เขา เขาต้องดูแลตัวเอง) จากคุณ : จขกท - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:29:28 A:61.91.250.34 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ยังคงตอบคุณรำเพยนะคะ “ปัญหาที่หนึ่งเรื่อง ความคาดหวังและ ปัญหาอย่างที่สองคือ....คุณเกรงใจไม่ถูกเรื่อง” ด้วยความเคารพอีกครั้งนะคะ มันไม่ใช่ความคาดหวัง และ ก็ไม่ใช่ความเกรงใจแน่นอน เราไม่เคยคิดจะเปลี่ยนสามีเลย เขาเป็นยังไงเรารู้ดี เราก็ปล่อยให้เขาเป็นยังงั้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่เคยเสียเวลาไปจำจี้จำไชให้เขาเปลี่ยนเลย เราว่ามันเปลืองอารมณ์ แล้วที่สุดแล้ว เขาก็คงไม่เปลี่ยนหรอก เราก็จัดการทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจัดการได้ไป ถ้าหามีอะไรที่เราต้องให้เขาช่วย เราจะเลือกเวลาเหมาะๆ แล้วก็ถามเขาสวีทๆ ว่า ช่วยทำอันนี้หน่อยได้ไหม (เช่นต่อก็อกน้ำ หรือ เปลี่ยนหลอดไฟ ฯลฯ) เขาก็จะทำให้ทันที เพราะว่าเขากำลังอารมย์ดีอยู่ แต่เรื่องที่เขาอาสาไปทำเอง มันต่างกัน เขาอาสาแล้ว เราจะไม่คิดถึงเรื่องนั้นอีก ถ้าเรานึกได้ในระหว่างวันเราก็เตือนเขานะ ส่งข้อความไปเตือน แต่เราเองก็ทำงานยุ่งมากๆ ถ้าจะให้เราคอยเตือนเขา เราเอามาทำเองดีกว่า แม้ว่าเรานำบิลมาจ่ายเอง ก็มีหลายครั้งที่เรายุ่งมากจน ไปตอนพักลางวันไม่ได้ ทำให้เราต้องไปตอนเย็น ตามธนาคารที่ยังเปิดถึง1 ทุ่ม แล้วก็กลับบ้านช้า แล้วสามีก็มาทำหน้าเป็นห่วง อาสา (อีกแล้ว) ว่าคราวหน้าให้เขาทำให้ .. แล้วก็กลับมาสู่วงจรมรณะอีก จากคุณ : จขกท - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:31:22 A:61.91.250.34 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 60 สำหรับเรา เราสองคนตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานว่า เราจะไม่โกรธกันด้วยเรื่องเล็กน้อย เช่น หารีโมทไม่เจอ ฯลฯ เราจะทำให้มันเป็นเรื่องขำขัน แล้วเราก็ทำตามนั้น เราไม่เคยจู้จี้จุกจิกกับเขา เพราะว่าเราเองก็ไม่ชอบให้เขามาจู้จี้จุกจิกกับเรา (เราโตมากับพ่อที่จุกจิกจู้จี้กับเรามาก เราสาบานไว้แล้วว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นกับใคร) เราไม่บ่นไม่ว่าเขาด้วย มีอะไรที่เราไม่ชอบ เราจะพูดกับเขาตรงๆ และพูดดีๆ เช่น ถ้าเขาทิ้งขยะไม่ลงถัง เราจะรอจังหวะที่เขาเดินมาใกล้ๆ ถังขยะนั้น แล้วก็ชี้ให้เขาดูว่าเขาทิ้งขยะไม่ลงถังอีกแล้ว เขาก็จะบอกขอโทษแล้วเก็บขึ้นมาทิ้งใหม่เอง ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เราอารมย์ดี เราก็เก็บทิ้งให้ใหม่เลยไม่ต้องเรื่องมาก จากคุณ : จขกท - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:31:58 A:61.91.250.34 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 61 แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เราโกรธมากๆ เราก็พูดกับเขาตอนที่รู้สึกใจเย็นลง นิสัยของเขาที่เราต้องอดทน หรือนิสัยของเราที่เขาต้องอดทน เราก็คุยกันเสมอเมื่อมีโอกาส บางเรื่องเราก็ให้น้ำหนักมาก บางเรื่องเราก็ให้น้ำหนักกับมันน้อยหน่อย อย่างเรื่องที่เขาขี้เกียจ เราก็ เราบอกเขาเสมอว่าเขาขี้เกียจได้ในเรื่องของตัวเอง แต่เมื่อไรที่มันทำร้ายเรา เมื่อไรที่เราต้องใช้ความอดทนกับเขา ... ก็ต้องมาคุยกันอีก ... เมื่อไรที่เราโกรธ เราจะนิ่งก่อน เราจะแยกตัวไป หาอะไรทำ นอนแช่น้ำอุ่น ว่ายน้ำ ไปตลาด ฯลฯ ให้ตัวเองใจเย็นลงแล้วค่อยมาคุย ระหว่างที่เราหายไป สามีเราจะสูบบุหรี่รอ ประมาณว่ารอฟังอย่างจดจ่อว่าเราจะพูดอะไรบ้าง เราก็กลับมาพูดธรรมดาๆ ว่า สิ่งที่เขาทำเราไม่ชอบเลย เพราะอะไร ..... แต่แต่งงานกันมาแล้วสิบปีแบบคู่ของเรานี้ นานๆ ไปมันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วนะ มันเดิมๆ น่ะ เราก็ไม่รู้จะโวยวายไปทำไม ยังทนได้ก็ทน ถ้าไม่อยากทนแล้ว เราก็ไม่ควรจะต้องทนแล้วนี่นา สิ่งที่เราไม่เข้าใจก็คือ อยู่กันมานานขนาดนี้ พูดเรื่องเดิมมาซ้ำซากขนาดนี้ เขายังคงปล่อยให้มันเกิดขึ้นซ้ำซากอยู่ได้ยังไง?? จากคุณ : จขกท - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:34:39 A:61.91.250.34 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เราก็คิดแบบที่เราคิดล่ะนะ ว่าถ้าเขาแคร์เรามากพอ รักเราจริงๆ อย่างที่พูดก็พยายามรับผิดชอบในสิ่งที่อาสาหน่อยสิ มันจะยากอะไรขนาดนั้น อะไรอย่างอื่นในชีวิตเราก็ทำให้ทุกอย่างหมดแล้ว เรื่องทำความสะอาดบ้าน เราจ้างมาจากข้างนอกตลอดเลยค่ะ แนะนำได้เลยว่าบริการดี www.happycleaning.net เบาแรง เบาใจไปได้เยอะ ไม่ต้องมานั่งอารมย์เสียใส่กันเพราะงานบ้าน .... เฮ้อ .. ถือว่ามาระบายเฉยๆ ละกันนะ อย่างน้อย เราก็ไม่ีต้องเก็บมันไว้ในอกคนเดียว ตอนนี้พ่อแม่เราก็ยังไม่รู้ ยังคาราคาซัง เราไม่อยากให้ท่านต้องมาทุกข์ด้วย .... ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่รับฟังและกรุณาให้ความคิดเห็นดีๆ อบอุ่นมากๆ เลยค่ะ (ถ้าเขาเช็นต์ใบหย่าเมื่อไร เราจะมาโพสบอกอีกทีนะคะ เอาใจช่วยเราด้วย) จากคุณ : จขกท - [ วันรัฐธรรมนูญ 22:39:16 A:61.91.250.34 X: TicketID:112889 ]

ความคิดเห็นที่ 63 //เพราะเขายังไม่เห็นใบหย่าของคุณน่ะสิคะ เขาเลยยังเห็นคุณเป็นของตาย ทนฟังคุณบ่นๆไป แล้วก็เข้าสู่วงจรเดิม// คุณใช้เวลา10ปี มันนานพอที่จะเรียนรู้ได้ว่า บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพียงแต่ ถ้าคุณก้าวออกมาจากการมีชีวิตครอบครัวแล้ว ในวันนี้ คุณคงเลยวัยสาวไปแล้ว คุณต้องทำใจให้เข้มแข็งมากๆ เรายังไม่ได้แต่งงาน แต่ชีวิตที่ผ่านมาก็รู้จักผู้ชายมามากเพราะเราเรียนรวมกับผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เราว่า ผู้หญิงจะเสียเปรียบก็ตรงนี้ ตอนคบกันอาจจะไม่ได้เห็นนิสัยส่วนตัวเขาเวลาอยู่บ้าน อยู่เป็นตัวของตัวเอง สนับสนุนให้ยื่นใบหย่าให้เขาดูค่ะ หรือไม่ก็ลาพักร้อน ลองไปเที่ยวคนเดียวดู แล้วทิ้งใบหย่าไว้บนเตียง บนจอโทรทัศน์ที่เขาเล่นเกมส์  กลับมา ดูสิ ว่าเขาจะเป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 48 21:02:18 จากคุณ : มินเอง - [ 12 ธ.ค. 48 21:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เอาใจช่วยครับ แต่ไม่ใช่เอาใจช่วยให้หย่านะครับ เอาใจช่วยให้มีความเข้าใจในปัญหาและหาทางออกที่ดีให้ได้นะครับ เมื่อผมอ่านข้อความของคุณแล้วกลับมามองตนเองก็ยอมรับเลยว่าผมก็เหมือนสามีของคุณเลยนะครับ และเพื่อนของผมทุกคนก็เหมือนสามีของคุณเลยนะครับ แถมบางคนยังแย่กว่าด้วยที่ไม่ยอมทำงานหารายได้อะไรด้วยเลยครับ บางคนก็มีลูกและก็ไม่ดูแลลูกอีกด้วย เรียกว่าภรรยาเขารับไปเต็มๆและมีภาระมากกว่าคุณมากเลยนะ ตอนนี้ได้ระบายออกมาแล้ว ได้รับความอบอุ่นและกำลังใจจากเพื่อนๆในที่นี้แล้ว น่าจะทำให้คุณสบายใจขึ้นมาได้บ้าง ลองลืมปัญหานี้ไปอีกสักพัก อย่าไปสนใจว่ามันเป็นปัญหา ยอมรับปัญหานี้ไปสักระยะแล้วค่อยกลับมามองปัญหานี้ใหม่ แล้วตั้งหลักใหม่ หาทางแก้ไขใหม่ วิธีการแก้ปัญหาอาจเปลี่ยนไปจากเดิมและผลที่ออกมาอาจเป็นไปอย่างที่ทำให้คุณมีความสุขมากกว่านี้ก็ได้นะครับ วิธีการจัดการคน(สามี)ให้สามารถทำในสิ่งที่เราต้องการได้มีหลายวิธีนะครับ ต้องพยายามและอดทนในการค้นหามันนะ ปัญหามีไว้ให้เราแก้ไขนะครับ เอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : ฝรั่งดอง - [ 12 ธ.ค. 48 22:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สรุปว่าคุณคงจะหย่าแน่แล้วใช่มั้ยคะ แหม ดิฉันพึ่งมาแนะนำช้าไปหน่อยค่ะ ดิฉันอยากจะบอกคุณว่า หากเขาไม่ใช่คู่แล้วแล้ว อยู่ไปก็มีแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้เราซะเปล่าๆค่ะ ยิ่งถ้าคุณยังไม่ได้แต่งงานมีลูกมีเต้ากัน เลิกได้ก็เลิกไปเลยค่ะ ดิฉันเคยมีแฟนมาก่อนนะคะ ทุกคนล้วนเป็นคนดี มีจิตใจเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ค่ะ แต่สาเหตุที่เลิกกัน ก็เป็นนิสัยสันดานส่วนตัวที่เขาชอบทำบ่อยๆ จนเป็นนิสัยที่แย่ๆค่ะ และที่สำคัญมันทำให้เราเดือดร้อนเสมอๆ เช่น เขาขี้โอ่ ชอบคุยทับคนอื่น เห็นแก่ตัวบ่อยๆ อีกคนที่เลิกก็เพราะขี้เกียจ พูดอะไรก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรา แล้วผลเป็นไงล่ะ แบบนี้ทุกที นี่ก็เลิกกันไปเลยค่ะ อย่าปล่อยไว้นานค่ะ อีกคนก็จอมโกหก หลอกลวง ชอบวางกล้ามเป็นนักเลงโต ขี้โกงชาวบ้านเขาไปทั่ว แถมยังมีแฟนอยู่แล้ว จะมาหลอกฟันเราฟรี เราสืบได้เลยโทรไปเล่าให้แฟนมันฟังซะ เลิกไปเลยค่ะ เอาให้เด็ดขาด แบบเขาไม่ต้องกลับมาง้อเราได้อีกค่ะ ทุกวันนี้ดิฉันมีความสุขในชีวิต กับคนที่เราว่าใช่แล้วคนนี้ ถึงดิฉันจะไม่ได้รักเขามากมาย แต่เขากลับรักดิฉันมาก เป็นคนดี ไว้ใจได้ ไม่มีนิสัยแบบแฟนเก่าๆที่เราเคยขยาด  และก็มีลูกสาวน่ารัก 1 คน นิสัยบางอย่างของเขาเหมือนแฟนของคุณ แต่ดิฉันรับได้ เพราะดิฉันตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะเป็นแม่บ้านที่ดี จะทำหน้าที่ทุกอย่าง เป็นเหมือนเลขาของเขา เขาแค่ทำงาน make money อย่างเดียวก็พอ เรื่องจุกจิก เล็กๆน้อยๆ อะไรเราทำได้ก็ทำไป อย่าไปคิดว่านี่เธอทำบ้างสิ  ถ้าเราทำไมไหวจริงๆ ก็เรียกเขาดังๆ ให้เขามาช่วยงาน ย้ำว่า ใช้เสียงดังๆ แบบเจ้าแม่สั่ง อะไรแบบนั้น เขาจะรีบมาทำให้ภายใน 5 นาที อะไรก็ตามที่เรารู้สึก ว่านี่คือใช่ มันก็คือใช่ ถ้าคุณคิดว่าคนนี้ไม่ใช่ มันก็ไม่ใช่น่ะค่ะ อยากเลิกก็เลิกไปเลย จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 27 ธ.ค. 48 10:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ยังมีต่ออีกนิดค่ะ ว่าเวลาที่ดิฉันไม่สบาย เขาจะทำให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเอาข้าวมาป้อนที่ปากดิฉัน แต่เวลาที่ฉันสบายดี ดิฉันก็สามารถทำงานทุกอย่างได้ แม้กระทั่งซักกางเกงในให้เขา ดิฉันมองข้ามนิสัยเสีย แต่ไม่ถึงกับแย่มาก จนรับไม่ได้ของเขา เช่น -เขาจะไม่ค่อยอาบน้ำก่อนนอน กรนดังมาก อันนี้ก็แก้โดยห้องใครห้องมัน แยกกันนอน -มีเท้าเหม็นด้วย อันนี้ก็แก้โดยโล๊ะถุงเท้าทุกคู่แช่น้ำส้มสายชู ซักเครื่องแบบเข้มข้น เดือนละครั้ง - บีบยาสีฟันกลางหลอด จนหลอดเบี้ยว อันนี้ก็แก้โดยใช้ยาสีฟันคนละอัน ในแบบที่เราชอบๆ -ขี้ลืมงานที่เราบอกให้ทำ เช่นล้างเครื่องกรองน้ำ เติมลมยางรถยนต์ เราคอยจดใส่กระดาษไว้เตือนตัวเอง พอเรานึกได้ก็เตือนเขาอีกที ดิฉันและสามีได้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน จนมาถึงวันนี้ก็สิบปีค่ะ และเราสองคนยังรักกันหวานชื่นดีอยู่ค่ะ ทั้งดิฉันและลูกสามารถที่จะวิ่งไปกอดสามีกลมดิ๊กทั้งสามคน ด้วยความคิดถึง เมื่อเขากลับมาจากการทำงานค่ะ อยากให้คุณและสามีได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ค่ะ ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจ ของคุณคนเดียวค่ะ จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 27 ธ.ค. 48 10:58:45 ]