ความคิดเห็นที่ 1 ทุกสังคม ทุกสาขาวิชาชีพมีคนดีและคนเลวปะปนกันอยู่ ดังนั้น อย่าใช้การกระทำของคนเพียงไม่กี่คนมาตัดสินทุกคนที่อยู่ในอาชีพนั้นๆ ครับ .. ผมไม่บังคับลูกว่าจะต้องเป็นอะไร ขอให้สิ่งที่ลูกทำเป็นสิ่งที่ลูกรักและทำมันให้เต็มที่ เป็นคนดีของสังคมก็พอแล้ว จากคุณ : zizi lazy - [ วันสิ้นปี 00:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คอยดูกันต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น จากคุณ : Evil_Dog - [ วันสิ้นปี 00:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 "ถ้าผมมีลูก ผมจะพยายามทำทุกอย่างให้แกได้เรียนในสิ่งที่แกอยากเรียนครับ ..." จากคุณ : หนุ่ม No.7 - [ วันสิ้นปี 00:48:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าปั้นได้ก็คงอยากให้เรียนหมอ เพราะยังคิดว่าเป็นอาชีพดี มีเกียรติ และก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ แต่เอาจริงแล้วก็ต้องปล่อยให้เป็นไปอย่างที่เขาอยากจะเป็น ขอให้แต่เป็นคนดี มีอาชีพเลี้ยงตัวรอดได้ ก็บุญแล้ว มันจะได้ไม่มาไถเรา จากคุณ : PatPDX - [ วันสิ้นปี 01:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หวังว่าเจ้าของกระทู้คงไม่ได้เป็นหมอนะ คิดแบบนี้ หมดศรัทธาเลย ...ยังเชื่อว่า หมอดีๆ มีอีกเยอะ จากคุณ : เคน - [ วันสิ้นปี 02:31:10 A:203.156.112.96 X: TicketID:113866 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอ่อ ใจเย็นๆ ครับ จากคุณ : Vancin - [ วันสิ้นปี 04:09:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ครับ เพราะผมเป็นหมอครับ ผมถึงได้คิดและรู้สึกอย่างนี้ ผมเหนื่อยหน่ายและท้อแท้เหลือเกินกับอาชีพนี้ ถึงแม้ตัวเองจะไม่เคยโดนฟ้อง ไม่เคยมีปัญหากับคนไข้ และถึงแม้คนไข้จะเลือกตรวจกับผมมากกว่าหมอท่านอื่นที่อยู่ในโรงบาลเดียวกัน แต่ถ้าคุณตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วมีข่าวทางลบกับหมอ เปิดเน็ทมีแต่คนด่าหมอเกือบทุกวัน ขยันโพสด่ากันเหลือเกิน ถึงแม้จะไม่ได้ด่าเราก็ตาม ผู้ใหญ่ในกระทรวงนอกจากจะไม่ช่วยให้ดีขึ้นกลับทำให้แย่ลง ไปตรวจคนไข้ก็เริ่มระแวงวันนี้จะโดนอะไรไหมเนี่ย แล้วจะเป็นอย่างข่าวหรือเปล่า เรียกร้องความเป็นธรรมก็โดนประนาม ทำอะไรไม่ได้ คุณจะหมดศรัทธากับผม ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ แต่ขอกับผมคนเดียว อย่าไปหมดศรัทธากับหมอดีๆท่านอื่นนะครับ เพราะยังไงผมก็วางแผนจะยุติอาชีพของตัวเองอยู่แล้วครับ ผมเหนื่อยแล้วครับ ไม่ได้เรียกร้องความสนใจอะไรหรอก แต่อยากให้ความเป็นธรรมกับเพื่อนร่วมอาชีพผมด้วย ก่อนตัดสินใจอะไร ก่อนจะด่าขอแค่ใช้วิจารณญานสักนิด บางครั้งหนังสือพิมพ์ลงข่าวกับความจริงที่เป็นไปคนละทาง บรรยายอะไรเกินจริง เพราะเคยเจอกับคนใกล้ตัว การตรวจสอบข้อมูลของสื่อน้อยมากเอาแต่คำพูดของคนไม่กี่คนมาเป็นหัวข้อแล้วคนอ่านข้อมูลแค่นั้นก็ด่ากันสะบั้น แต่ที่แน่ๆ ผมก็ไม่อยากให้คนที่ผมรักต้องมาเป็นแบบผม เพราะผมได้สัมผัสมาแล้วว่าเป็นยังไง อาจจะมีคนมาด่าผมต่อจากนี้ก็ได้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะยังไงก็เข้าใจว่าคนที่ไม่ได้เป็นหมอก็ไม่มีทางเข้าใจในความรู้สึกของหมอ จากคุณ : - (XRT) - [ วันสิ้นปี 04:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ใครเขาจะว่าไง ถ้ามันไม่จริงจะไปโกรธทำไมล่ะคะ ยิ่งข่าวหนังสือพิมพ์ เขาเขียนเพื่อขายข่าว หมออย่าไปสนใจคนที่จ้องจะด่า จ้องจะทำลายความน่าเชื่อถือของวิชาชีพแพทย์เลยค่ะ เวลาเขาป่วย เขาก็ต้องไปหาหมอเหมือนกันแหละ ลองมานึกถึงคนไข้ตาดำๆ คนที่ลำบากยากจน ไม่มีปัญญาจะไปรพ.เอกชนแพงไ บริการดีๆ เหล่านั้นสิคะ เขาไม่ไปหาหมอแล้วจะไปหาใคร อย่าทอดทิ้งอุดมการณ์เลยนะ ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม อุตส่าห์เรียนมาตั้งหลายปี เราชื่นชมคนเป็นหมอนะ พยาบาลเราก็ชอบ เราว่าเขาเสียสละมาก อยู่กับความเจ็บป่วย มันไม่เจริยตาเจริญใจ แต่มันน่าสุขใจนะ เวลาคนไข้หายกลับบ้าน แล้วเขาบอกว่า ขอบคุณครับคุณหมอ จากคุณ : Febie - [ วันสิ้นปี 07:24:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องออกข่าวรายวันโจมตีหมอ เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลครับ สังเกตให้ดี สื่อจะพยายามไม่เล่นข่าวเหตุบ้านการเมือง แต่จะหันมาเน้นข่าวสังคมแทน เช่นเรื่องนางรัตนา นางดลพร ข่าวเรื่องปากท้อง ข่าวชาวบ้าน ข่าวดารา ข่าวกีฬา ข่าวแต่ละเรื่อง เล่นได้เป็นเดือนเป็นปี เพื่อหันเหความสนใจไม่ให้ชาวบ้านสนใจเรื่องการเมือง ไม่ว่าอาชีพไหนๆ ก็มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีทั้งนั้น แต่สัดส่วนเรื่องไม่ดีของหมอ ยังถือว่าน้อย สังคมทุกประเทศ มีปมเกี่ยวกับหมอทุกประเทศครับ ที่คนชอบยกตัวอย่างประเทศอเมริกาว่ามาตรฐานสูงอย่างนั้นอย่างนี้ ความจริงแล้ว ประเทศนี้แหละที่มีปัญหาเรื่องหมอมากที่สุด แล้วก็เป็นเรื่องที่หมอเอาเปรียบคนไข้เสียด้วย ผมไม่ได้เป็นหมอนะครับ แต่ปู่ผมเป็น จากคุณ : คนไทย - [ วันสิ้นปี 07:40:17 A:202.133.176.155 X: TicketID:112015 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมอยากให้ปรับทัศนคติเกี่ยวกับวิชาชีพใหม่ ทั้งหมอ และคนไข้ ให้เข้าใจว่า หมอ เป็นวิชาชีพหนึ่งที่ทำงานด้วยความรู้และจรรยาบรรณ ไม่ต้องมาคาดหวังว่า หมอจะเสียสละ, หมอจะเป็นยอดมนุษย์, หรือ จะเป็นคนดีกว่าคนปรกติ แต่ สามารถคาดหวังได้ว่า หมอทำงานด้วยหลักวิชาการ และหลักจรรญาบรรณ อย่างแท้จริง ไม่ใช่ ทำงานตามโพล เหมือนพวกนักการเมือง หรือทำงานตามอารมณ์เหมือนพวกเครือข่าย จากคุณ : Vancin - [ วันสิ้นปี 08:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ไม่ได้อยู่เมืองไทย ข่าวสารบ้านเมืองก็ไม่ได้ติดตาม เลยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนตัวคิดว่า อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ต้องรับผิดชอบสูง ทำประโยชน์ให้คนได้มาก เพราะต้องทำงานกับภาวะที่ไม่รื่นรมย์ทุกวัน  มีลูกแล้วในใจลึก ๆ ยังอยากให้ลูกเป็นหมอ แต่สุดท้ายก็แล้วแต่เค้าอยากเป็นอะไร แค่อยากให้เค้าเป็นคนที่มีความสุขกับตัวเองพอแล้ว ตอนนี้อยู่ที่อเมริกา สามีเป็นหมอเท่าที่ทราบอาชีพหมอที่นี่เป็นอาชีพที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก เพราะต้องรับผิดชอบการกระทำทุกอย่าง ถ้าผิดพลาดใด ๆ โดยฟ้องได้ง่าย ฉะนั้นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบริษัทประกันจะสูงมาก ๆ ไม่รู้ว่าระบบนี้ที่เมืองไทยเป็นยังไง ส่วนตัวคิดว่ามีทั้งดีและไม่ดี ส่วนที่ดีคือคนไข้ได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างเต็มที่ (เพราะหมอก็ไม่อยากผิดพลาดโดนฟ้องง่าย ๆ )   ส่วนที่ไม่ดีเนื่องจากหมอต้องจ่ายค่าประกันแพง สุดท้ายแล้วคนไข้ก็ต้องรับผิดชอบส่วนนี้จึงทำให้ค่ารักษาพยาบาลที่นี่แพงมากตามไปด้วย ประกันต่างๆ สำคัญมากสำหรับประเทศนี้ การมีชีวิตอยู่โดยไม่มีประกันเสี่ยงมาก  คุณภาพชีวิตที่ดีย่อมมีค่าใช้จ่ายสูง สุดท้ายเป็นกำลังใจให้คุณหมอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คิดว่าคนที่รับสื่อย่อมมีวิจารณญาณแยกแยะค่ะ จากคุณ : sri123 - [ วันสิ้นปี 09:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราชอบหมอนะ อย่าท้อในอาชีพนะคุณ เป็นกำลังใจให้ อาชีพคุณมีเกียรติมากเลยนะคะ สู้ๆ จากคุณ : แฟนนักเรียนแพทย์ - [ วันสิ้นปี 09:22:52 A:203.113.32.14 X: TicketID:054992 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว..... “ชอบว่าหมอเป็นเทวดา แตะต้องไม่ได้ แล้วทุกวันนี้มันคืออะไร เป็นข่าวแทบทุกอาทิตย์ โดนด่าทุกวัน” “ทำดีแค่เสมอตัว ทำดีแล้วผลออกมาไม่ดี คุณโดน ทำพลาดอนาคตดับทันที ไม่คุ้มกับชีวิตที่เกิดมาแค่ครั้งเดียว” รับรู้นะคะว่าคุณหมอสะเทือนใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ อยากจะบอกว่าการอยู่ร่วมกันในสังคม เราไม่สามารถควบคุมความคิดคนอื่นได้ หรือคิดแทนคนอื่นได้ หรอกนะคะ นั่นคือสัจจะธรรม หากเราสามารถทำความเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ต้องเป็นไป รู้เท่าทัน ที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับในสิ่งที่เราเข้าไปแก้ไขไม่ได้ จะทำให้จิตใจดีขึ้นและปลดปล่อยตัวเอง ไม่ให้ถูกกักขังทางความคิด และมีทัศนคติวนเวียนกับเรื่องเดิม ๆ ที่บั่นทอนพลังใจของตัวเองนะคะ คุณหมอก็ทำเฉพาะหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามกำลังความสามารถ  เมื่อทำดีที่สุดแล้วจงภาคภูมิใจกับมัน  อย่างน้อยตัวเราเองที่รู้ในคุณค่าของสิ่งที่ทำ  อย่าให้คนอื่นมาตัดสินเรา หรือต้องมาเจ็บปวดกับคำพิพากษาเหล่านั้นเลยนะคะ  ไม่ได้ให้คุณหมออยู่เหนือคำวิพากษ์วิจารณ์นะคะ แต่อยู่บนพื้นฐานของความจริง  และไม่อยากให้ยึดติดกับตัวกู ของกู หรือ หัวโขนใด ๆ ที่ทำให้คุณหมอต้องท้อแท้ ถดถอยนะคะ พยายามนะคะ ทำความเข้าใจในสิ่งที่ต้องเป็นไป และเอาชนะความรู้สึกแบบนี้ให้ได้เหมือนตอนเรียนที่มุ่งมั่น ทุ่มเท จนจบมาได้ หรือตอนทำงานที่เอาชนะ ต่อสู้จนได้ช่วยอีกหลายชีวิต ให้มีสุขภาพดีขึ้น เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ค่ะ อยากตอบคำถามตรงนี้มาก ๆ  “แล้วคุณเคยรู้ไหม ว่าเราเสียสละมากขนาดไหนแล้ว” สำหรับเราชื่นชมและศรัทธาในอาชีพหมอมาก ๆๆๆๆๆๆ ยกมือไหว้ทุกครั้ง อย่างเต็มใจ ด้วยรู้สึกซาบซึ้งในทุกครั้งที่ไม่สบายแล้ว มีคนมีดูแลทำให้เราดีขึ้น ถึงแม้เราต้องเสียเงินจ่ายค่ารักษา แต่นั่นก็เป็นกลไกของระบบที่ต้องเป็นและคงอยู่ รับรู้นะคะว่าคนที่จะเป็นหมอหรือทำอาชีพหมอ เค้าเหล่านั้นเรียนหนักเพียงใด อ่านหนังสือเล่มหนา ต้องทำความเข้าใจทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์อย่างคร่ำเคร่ง รู้เท่าทันโรค เป็นอาชีพที่เสียสละ ทุ่มเทตัวเองมาก ๆ เป็นบุคคลที่ต้องแบกรับความกดดันได้ดี ในเรื่องของบรรยากาศการทำงาน รวมไปถึงการแบกรับความคาดหวังของคนในสังคม และที่สำคัญคือต้องรับผิดชอบกับความเป็นความตายของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คุณหมอคะ เรารู้ เราเห็นคะ สวรรค์บ้านเรามีตาจริงค่ะ  แต่สวรรค์ที่บ้านเรา มักไม่ค่อยส่งเสียง สรรเสริญเยินยอกัน เป็นสังคมที่เก็บความรู้สึกมากเกินไป นี่คือสัจจะธรรม อีกข้อหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจนะคะ อยากเป็นอีกเสียงหนึ่งที่ชื่นชมและให้กำลังใจนะคะ สู้ๆๆๆๆๆ นะคะ ปล. เคยได้ยินไหมคะ หมากัดคนไม่เป็นข่าว (ยกเว้นในกรณี ไปกัดเจ้าใหญ่นายโต ดาราดัง ๆ นะคะ) แต่ถ้าคนไปกัดหมา เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งเลย เพราะมันเป็นสีสรร เป็นความไม่ปกติในสังคม ข่าวในบ้านเราเน้นเรื่องของการแข่งกับเวลาและความสดใหม่ของข่าวเป็นประเด็นสำคัญ เป็นอันดับต้น ๆ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่า เงื่อนไขของเวลาและความสดของข่าวเป็นปัจจัย ทำให้ข่าวที่เสนอ ขาดการตรวจสอบ  กลั่นกรอง อย่างแท้จริง ผลก็คือก่อให้เกิดการกระทบกับความรู้สึกของคนที่ตกเป็นข่าว ยิ่งถ้าข่าวนั้นถูกบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงเอามาก ๆ สื่อออกมาในเชิงชี้นำความคิด พิพากษาความถูก ผิดลงไปในข่าวแล้ว ย่อมเป็นสิ่งที่สะเทือนใจและยอมรับกันไม่ได้เลย เสียงสะท้อนจึงมีกลับมามากมาย ว่าใครจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมักเป็นคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ ในทันที แต่นี่ก็คือธรรมชาติของสิ่งที่เกิดขึ้นจริง การรับมือ กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่และทำใจยากสักหน่อยนะคะสำหรับคุณหมอนะคะ แต่การนำเสนอข้อมูลความจริงให้ปรากฏเป็นเป็นอีกอาชีพเสริมที่คุณหมอหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ อย่างน้อยก็เพื่อปกป้องเกียรติภูมิของตัวเองนะคะ จากคุณ : abeautifulmind - [ วันสิ้นปี 09:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ามีลูก ดิฉันไม่อยากให้ลูกเป็นหมอค่ะ เป็นอาชีพที่เหนื่อยและเครียด แถมไม่มีเวลาเหมือนชาวบ้านเขา เงินที่ได้ เปรียบเทียบกับกำลังงานที่ต้องใช้ ก็ไม่ได้มากมาย เป็นกำลังใจให้คุณหมอนะคะ คนที่เข้าใจยังมีค่ะ จากคุณ : mrs.night owl - [ วันสิ้นปี 09:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากให้ลูกเป็นหมอ ครับ เพราะ ผม ก็อยากเป็นหมอ แต่ เป็นไม่ได้ มาเป็น ทหารแทน จากคุณ : ทหารบก - [ วันสิ้นปี 11:52:28 A:140.254.217.25 X: TicketID:114049 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นหมอ ก็เหมือนขาข้างหนึ่งเข้าไปในคุกแล้ว จากคุณ : (ก้อนหิน) ละเมอ -_- ..z..z..z - [ วันสิ้นปี 12:28:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบจังกระทู้หมอ ๆ เนี่ย เราไม่รู้หรอกนะว่าคุณหมอทำงานเหนื่อยแค่ไหน แต่เท่าที่เห็น เท่าที่ทราบ ก็รู้ว่าต้องรับผิดชอบสูงมาก แต่ทำไม คนมันถึงอยากเรียนหมอกันนักก็ไม่รู้นะ สอบเข้าก็ยาก เรียนก็ยาก ใช้เวลาเรียนก็เยอะ จบมาทำงานเหนื่อยอีก แต่สิ่งที่เราพอจะเดาได้ว่า ที่คนอยากเป็นหมอกันเยอะ เป็นเพราะหมอมีสิ่งหนึ่ง ที่คนมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่อาจหาซื้อมาได้ นั่นคือ มีเกียรติ มีเมตตาเพราะได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น เราเคยเห็นชาวบ้านตาดำ ๆ ยากจนข้นแค้น ไม่มีแม้แต่ เงินจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลเมื่อยามป่วย พอมี หมออาสามารักษาเค้าฟรี ๆ สายตาเค้าที่มองมาที่หมอ เหมือนกับมองผู้มีพระคุณต่อชีวิตเค้ามาก ๆ มันเป็น อะไรที่น่าอิ่มอกอิ่มใจที่สุด ที่วิชาความรู้ที่เรา ได้เรียนมามีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สำหรับเราแล้ว คุณค่าของการเรียนหมอมันอยู่ ที่ตรงนี้แหละ ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นก็สุดแต่เวร แต่กรรม เฮ้อ ไม่ว่าจะอาชีพไหน มันก็มีปัญหา ด้วยกันทั้งนั้นแหละ จากคุณ : ปากกาสีครีม - [ วันสิ้นปี 13:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หุหุหุ...ปลงๆซะบ้างนะครับคุณหมอ...อย่างอนเลย... ...ไอ้พวกนักร้อง(เรียน)เดี๋ยวนี้มีเยอะแต่สุดท้ายก็ยกฟ้องซะเป็นส่วนใหญ่ล่ะครับ... ...อย่าลืมสิครับว่าหมอชั่วๆก็มีเยอะ... ...ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดเถอะครับ...น่าภูมิใจจะตายที่เคสของคุณหมอไม่เคยมีปัญหาแบบนั้น... จากคุณ : สามเอ็กซ์@ (XIXIX) - [ วันสิ้นปี 13:50:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เกลียดอาชีพหมอนะ ชื่นชม พ่อเราเป็นหมอ หมอบ้านนอกน่ะ จนมาก พ่อมีห้องรักษาพยาบาลเล็กๆที่บ้าน   ไม่ได้เป็นคลีนิคใหญ่โตหรูหราขึ้นป้าย รักษาคนไข้ได้เงินรายละ 20-30 บาท บางคนไม่มีเงินให้พ่อด้วยซ้ำ พ่อก็ไม่เก็บ บางคนเอามะพร้าว ขนุน ฯ หรือแม้แต่พระ(ไม่ใช่ของแพง) มาให้พ่อ แทนค่ารักษา แล้วพ่อก็ออกชนบทด้วย ไปคนเดียว ขี่มอร์เตอร์ไซค์เก่าๆ สีดำ ต๊อกๆ ไปตามหมู่บ้าน ต้มไข่ใส่ร่วมยาไปกินกลางทาง พ่อว่าง่ายดี สะอาด  อิ่ม และไม่กวนชาวบ้าน บางทีกลางดึกมีคนมาตามพ่อไปบ้านเค๊า พ่อก็ไปนะ   ส่วนมากเป็นเรื่องฉุกเฉินของคนบ้านนอก อย่างคลอดลูก   งูกัด  ทำนองนี้ พ่อทำอยู่อย่างนี้จนแถวบ้านเราเจริญ มีสถานีอนามัย พ่อถึงเลิก สำคัญที่สุด พ่อไม่เคยร้องขอ เกียรติ เงิน ความนับถือ จากใครเลย พ่อไม่คิดว่าที่พ่อทำจะเป็นบุญคุณกับใคร แค่ทำหน้าที่ของพ่อ "ช่วยๆกัน" พ่อว่าอย่างนี้ เราไม่รู้หรอกว่าคุณ จขกท เสียสละขนาดไหน คุณไม่ได้บอกเรานี่คะ รู้แค่ว่า คุณกำลังเรียกร้อง ขอความเห็นใจที่คุณต้องทำงานหนัก ใครบังคับคุณล่ะคะ เราไม่เกลียดหมอค่ะ หมอดีๆมีเยอะ แต่เบื่อหมอแบบคุณน่ะค่ะ แก้ไขหลายครั้ง ขอโทษ เขียนผิดมาก หงุดหงิดน่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 48 14:32:58 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 48 14:29:22 จากคุณ : anthurium - [ วันสิ้นปี 14:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ร้องขออะไรมากเลย  ประชาชนขอแค่มาตรฐานขั้นต่ำสุดแห่งวิชาชีพแพทย์  และขอแค่ให้หมอๆทบทวนคำปฏิญาณ ที่ให้ไว้กับพระราชบิดาตอนเป็นนักเรียนแพทย์ไว้ในใจเท่านั้น แต่มีหมอเพียงกระหยิบมือเท่านั้น ที่ให้ประชาชนได้ตามนี้ และมีน้อยยิ่งกว่าผงธุลี ที่ทุ่มเทอุทิศชีวิตตามวิถีแห่งจรรยาแพทย์ที่ดี หมอกลุ่มแรกนี้ ผมไหว้ได้สนิทใจ  หมอกลุ่มหลังนี้ผมกราบได้ยิ่งสนิทใจ แต่กับหมอส่วนใหญ่ ผมยอมรับว่าทำใจแบบนั้นไม่ได้ ในฐานะที่พอรู้จักตื้นลึกหนาบางในวงการแพทย์ ทั้งจากนักศึกษาแพทย์ ตัวแพทย์เอง และอาจารย์แพทย์ บอกได้ว่า ส่วนใหญ่ตกมาตรฐานขั้นต่ำสุดแห่งจรรยาบรรณวิชาชีพครับ ภาพของหมอในสังคมปัจจุบัน เริ่มมีภาพของคนเก่ง ที่รู้จักแต่เอาเปรียบ และเอาประโยชน์ของตัวเป็นที่ตั้ง ถามจริงๆเถอะ ผมว่าหลายคนคงรู้จัก คนที่อยากเป็นหมอเพื่อเงินเท่านั้น ลองนับดูนะว่าเยอะแค่ไหน สังคมแพทย์เริ่มบิดเบี้ยว เราปฎิเสธ คนดีที่เป็นคนเก่ง หรือ เพียงแค่ค่อนข้างเก่ง    แต่เรากลับต้องการคนที่เห็นแก่ตัว คนที่มีโอกาสมากกว่า ที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนเก่งและเก่งมาก   เขาเลยต้องถอนทุนคืนไงครับ อาชีพนี้ไม่มีใครบังคับให้มาเป็น ทุกคนมาด้วยใจและรับรู้ถึงสภาพที่จะตามมา ฝากหมอทุกคน อย่าลืมคำพระราชบิดาที่ได้ฝากไว้ และที่ท่านได้รับปากไว้นะครับ จากคุณ : เทศระวี (เทศระวี) - [ วันสิ้นปี 15:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 หมอมันอ่อนแอแบบนี้เองหรอเนี่ย นึกถึงพวกดาราที่โดนข่าวแรงๆ หรือพวกนักการเมืองที่โดนด่าแทบทุกวัน หมอไม่ติดขี้เล็บคับ แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 48 16:07:03 จากคุณ : flyingmoon - [ วันสิ้นปี 16:01:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นเพราะมีหมอแย่ๆ มากขึ้น คนดีอย่างเจ้าของกระทู้เลยได้รับผลกระทบทางจิตใจไปด้วย ผู้ป่วยเขาไม่เหมารวมทั้งหมดหรอก ถ้าหมอตั้งใจรักษามีหรือคนไข้จะไม่สำนึกในบุญคุณ เวลาไปโรงพยาบาลไม่ว่าหมอจะหน้าตาเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานก็เห็นคนแก่ยกมือไหว้ท่วมหัวทุกที เคยอบรมร่วมกับหมอเพื่อนๆ และวิทยากรก็แสนจะให้เกียรติยกย่อง เปิดหูเปิดตาดูโลกกว้างๆ หน่อยสิ ชีวิตจะได้มีความสุขขึ้น อย่ายึดติดแค่มุมมองเดียวเลย จากคุณ : หมอดียังมีไม่น้อย - [ วันสิ้นปี 19:16:28 A:210.86.214.92 X: TicketID:001064 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อย่าท้อแท้เลยครับคุณหมอเอาใจช่วยครับ เวลาท้อแท้ก็นึกถึงพระราชดำรัสของพระบิดาครับ ผเชื่อมั่นในความดีของแพทย์ทุกท่านครับ จากคุณ : drstit - [ วันสิ้นปี 21:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วแต่คนน่ะค่ะ เด๋วนี้สื่อเยอะด้วย คนยุแยงก็เยอะ นะ ๆๆๆๆ สู้ ๆ  ยังมีชาวบ้านตาสีตาสาที่เค้ารักหมออีกเยอะนะคะ นึกถึงคุณลุงคุณป้าพวกนี้ไว้แล้วจะสบายใจค่ะ จากคุณ : หมอเหมือนกันอ่ะ (MedIEviL) - [ วันสิ้นปี 21:46:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ใจเย็นๆครับน้อง พี่เชื่อว่าน้องเป็นหมอที่ดี ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด บางครั้งเวลาท้อแท้ลองหาเวลานั่งเงียบๆ เอารูปสมเด็จพระราชบิดามาดู นึกถึงคำสอนของท่าน ช่วยได้เยอะครับ   ไม่จำเป็นต้องซ้ำเติมตัวเองด้วยการดูข่าวหรืออ่านหนังสือพิมพ์อีกครับ แค่แต่ละวันที่อาจเจอคนไข้บางคนที่นิสัยแย่ๆที่เราเลือกที่จะไม่รักษาไม่ได้ก็ ทำให้ท้อพอแล้วครับ    ลองนึกถึงตอนปรีคลีนิคสิครับ ขนาดเราเรียนวิชาพื้นฐานทางการแพทย์ แต่ยังไม่เคยเจอคนไข้ สมมุติว่าเรามีความรู้แค่นั้นแล้วบังเอิญได้มาเจอข่าวพวกนี้ เราก็คงไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรเหมือนกับคนทั่วไปเหมือนกัน เราคงไปว่าอะไร พวกเค้าไม่ได้     ก็ได้แต่หวังว่าหมอดีๆคงไม่ท้อกันไปหมด เจอเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เริ่มท้อ ก็ช่วยๆกันปลอบครับ ไม่งั้นคนเก่งคนดีหนีกันไปหมด ผลเสียมันจะไปอยู่ที่ คนไข้ที่เค้ายังศรัทราเราอยู่     เป็นกำลังใจให้ครับ ต้องหัดปิดหูปิดตาบ้างครับเวลาที่จะเสพสื่อ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด     เวลาท้อแท้นึกถึงในหลวง นึกถึงสมเด็จพระราชบิดาไว้ครับ คำสอน ของท่านเทิดไว้เหนือเกล้าเลยครับ จากคุณ : babeheart - [ วันปีใหม่ 02:02:35 ]

ความคิดเห็นที่ 26 หมอดี มีเยอะ  หมอชั่วก็มีไม่น้อย  ทุกอาชีพมีเหมือนกันหมด  แต่หมอเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคน  จึงถูกคาดหวังมาก  ขอให้กำลังใจหมอที่ดี  ยังไงคุณก็รู้ว่าคุณคือลูกหลานของพระราชบิดา   ไม่ต้องไปสนใจพวกนอกคอก ธรรมดาข่าวร้ายไปไว  ข่าวดี ยกย่อง คนไม่สนใจ  ยังไงก็ขอให้หมอดีทุกท่าน  มีความสุข ความเจริญสมกับที่ได้ทำไว้ดีค่ะ จากคุณ : nuch_tiew - [ วันปีใหม่ 06:29:47 ]

ความคิดเห็นที่ 27 พยายามนึกถึงพระราชดำรัสของพระบรมราชชนกอยู่เสมอค่ะ สิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจ คือ การที่ได้รู้สึกว่า เรากำลังทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ให้ชาวบ้านได้รับการรักษาเต็มความสามารถของเรา ให้สุขภาพแข็งแรง หายป่วยไข้ เพื่อจะได้กลับไปอยู่ในสังคม ไปทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง ไปอยู่กับครอบครัว คุณ จขกท อย่าท้อค่ะ เราทำอะไร ใครไม่เห็น อย่างน้อยก็ตัวเราเห็นค่ะ จากคุณ : จีอุน - [ วันปีใหม่ 21:21:14 A:10.67.67.62 X:202.12.97.119 TicketID:053785 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หมอ พระ ตำรวจ.....อาชีพถูกสาป ทำดีเสมอตัว ทำชั่วโดนสุดๆ จากคุณ : jorthos - [ วันปีใหม่ 22:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้ามีลูกเค้าอยากเรียนอะไรก็คงให้เค้าเรียนค่ะ อาชีพหมอ เป็นอาชีพที่เราชื่นชมมากมากเลยนะ เพราะมันเป็นงานที่เหนื่อยมากมาก เมื่อก่อนเราเคยคิดว่าหมอในโรงบาลรัฐนี่ได้เงินเยอะ มารู้ที่หลังว่ามันไม่ได้เยอะอย่างที่คิดก็...อ้าวเหรอ งานหนักขนาดนี้เนี่ยนะ แถวบ้านเกิดเรา ขาดแคลนหมอ คนแถวนั้นก็ไม่ค่อยมีเงิน รักษาโรงบาลรัฐซะส่วนใหญ่ หมอมีไม่กี่คนแต่คนไข้เยอะมากมากมาก  ยังต้องพยายามฟังคนไข้ที่ส่วนใหญ่พูดไทยไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ให้เข้าใจ  ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่สวยงามอีก   เราไปเห็นหมอแถวนั้นแล้วเห็นใจเขามากมาก  ที่บ้านเราแม่อยากให้พี่เราเป็นหมอ และพี่ก็คะแนนถึง พี่เราบอกว่าไม่เอา ไม่ชอบ ตอนนั้นเราก็เสียดายแทนว่าทำไมไม่เลือก ตอนนี้ดีใจเเทนพี่ที่ไม่เลือก  เพราะเป็นอาชีพที่งานหนักมากมาก เหนื่อยมากมาก ต้องรับผิดชอบกับชีวิตคนตั้งเท่าไหร่  เราเห็นญาติญาติเราตั้งแต่คนที่เรียนหมอจนถึงเป็นหมอเเล้วเหนื่อยแทนเลยอ่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะ เราเป็นคนนึงที่ชื่นชมหมอดีดีค่ะ^^ จากคุณ : กอหญ้าพาฝัน - [ 2 ม.ค. 49 00:46:28 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ทุกอาชีพถ้าตั้งใจทำอย่างดีที่สุดก็น่ายกย่องทั้งนั้นล่ะครับ แต่ถามจริงเถอะ คุณเลือกเป็นหมอเพราะอะไรล่ะครับ เพราะได้เงินเยอะ เพราะมีหน้ามีตา เพราะอยากรักษาคน ถ้าคนไม่ได้เลือกมาเป็นหมอเพราะอย่างหลังสุดก็ยอมรับคำวิจารณ์เถอะครับ เพราะ หมอก็ไม่ใช่อาชีพที่น่าเคารพอีกต่อไป แต่ก็เป็นอาชีพที่หาเงินไวอาชีพหนึ่ง จากคุณ : Carroth - [ 2 ม.ค. 49 02:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เอ่อ ออกความเห็นด้วยคนครับ คือ ทำงานเหนื่อยเนี่ยมันไม่เท่าไรหรอกครับ เรื่องรายได้ทำงาน รพ.รัฐอย่างเดียวก้อมีตังค์เก็บบ้างไม่ได้อยากจะหาตังคืให้ได้มากๆๆ เอาแค่เลี้ยงคนในครอบครัวได้ ไม่ให้เคาลำบากกว่าตอนที่เลี้ยงเรามาก้อพแล้วครับ เวลามีข่าวแบบนี้ออกมาลองคิดดูนะครับว่า ถ้าคุณทำงานเต็มที่(เวร 24 ชม.ที่ต้องลงมือตรวจ/ผ่าเอง10-12เวร/เดือน oncall อีก5-6เวร/เดือน เวรพวกนี้มันไม่ได้อยากอยู๋อะนะ แต่จำเป็นต้องอยู่ให้ทุกๆวันมีหมอเวร) ไม่เคยมีเจตนาทำให้ใครตายเลย วินิจฉัยแต่ละอย่างก้อ ตามที่สามารถจะคิดออกได้(ตามที่เล่าเรียนมาน่ะนะ)  พอมีปัญหา ก็มีคนฟันธงให้เสร็จสรรพเลยว่า มันไม่ควรจบมาเป็นหมอเลย ไม่มีจรรยาบรรณ เลยอะไรทำนองนี้ ใครจะไปยอมรับยิ่งเป็นนักการเมืองมาพูดด้วยเนี่ย ความรู้ด้านนี้ก็ไม่มี คนทำงานมันก้อหมดกำลังใจกันมั่งล่ะครับ วันดีคืนดี จะโดนบ้างไหมไม่รู้ ถ้าเรื่องนั้นๆได้รับการสอบสวนแล้ว่าผิดจริงแล้วคนพูดเนี่ย รู้เรื่องนั้นดีพอ ก็พอจะยอมรับได้ ไม่รู้สึกแย่เท่าที่เป็นข่าวกันตอนนี้ เรื่องเกียรติเนี่ยมันมีโดยวิชาชีพและการกระทำอยู๋แล้วล่ะครับ ไม่เคยคิดว่าต้องให้ใครมายกย่อง แต่ถ้าโดนอย่างนี้บ่อยๆเป็นใครก้อหมดแรงทำงานครับ อีกอย่างเดี๋ยวนี้รู้สึกว่าคนไข้กับหมอความสัมพันธ์มันก้อแย่ลง แนะนำอะไรไปเค้าไม่เชื่อเรา หรือไม่ค่อยสนิทใจ ซึ่งคนแนะนำเนี่ย ไม่ได้มีเจตนาอยากหลอกอาตังค์อยากเลี้ยงไข้อะไรตามที่ คนไข้บางคนคิดเล้ยยย เฮ้อ จากคุณ : KZ_ra - [ 4 ม.ค. 49 23:50:04 ]