ชีวิตผมจะ review อะไรกับเค้าได้ มันก็มีเรื่องเสียงนี่แหละครับที่พอจะมา review ให้ชาวบ้านชาวช่องเค้าอ่านกันได้บ้าง ถ้าไป review มือถือล้วนๆ ผมคงไม่มีปัญญาครับ เพราะมีโอกาสได้จับน้อยรุ่นมากๆ เต็มที่ก็เครื่องที่ผมซื้อนี่แหละ ไม่มีทางได้ไปลองตามร้านกับเค้าหรอก 555 Credit ยังไม่พอ
เอ้า มาว่ากันเรื่องที่ผมจะพูดถึงดีกว่า.... มันก็คือ "หูฟังBluetooth" ครับ แหม แต่ผมไม่มานั่ง review หูฟัง Bluetooth ทั่วๆไปให้มันเสียเวล่ำเวลาหรอกครับ เพราะเดี๋ยวนี้เห็นใช้กันเกร่อแล้ว คงเพราะมันเท่ห์ และสะดวกในการใช้งานมากกว่าแต่ก่อนเยอะครับ ราคาก็ไม่สูงเว่อร์เหมือนแต่ก่อนแล้ว รุ่นก็มีให้เลือกตั้งเยอะตั้งแยะ... ชักจะเกริ่นยาวแล้ววุ๊ย....
น้ำชักเยอะ 555 เข้าเรื่องกันดีกว่า หูฟังที่ผมจะมา review มันก็คือ หูฟัง Bluetooth ระบบ Stereo ครับ :) เอ่อ อย่าเพิ่งเมินครับ มันไม่ใช่หูฟังอย่าง Jabra BT620S หรือ Moto HT820 หรอกครับ นั่นเพราะมันค่อนข้างใช้ได้เฉพาะบางครับสำหรับหูฟังแบบนั้น เนื่องจากความที่มันวัยรุ่นจัดจ้าน คนสูงวัยหน่อยก็ไม่กล้าใส่เดินออกข้างนอกล่ะครับ โดยเฉพาะ BT620S ใส่เดินทีนี่แพรวพราวอย่างกะดิสโก้เทค ลองนึกภาพคนอายุ 40 ใส่สูทแล้วใส่ BT620S เดินสิครับ แหม เท่ห์ไม่หยอก :D
ที่ผมจะมา review ( ก๊ากๆกว่าจะเริ่ม มาย่อหน้าที่ 3 แล้ว ) ณ เวลานี้ คือ Bluetooth ที่สามารถต่อหูฟังของตัวเองได้ ตามใจชอบครับ ใครมี UM2, E500 , E5C , Super.Fi pro , HD650 ( เอ่อ อันนี้ไม่ไหวมั้ง ) etc. ก็สามารถต่อได้ตามสบายครับ เรียกได้ว่า สามารถเลือกหูฟังที่ใส่แล้วดูไม่เหมือนมนุษย์ต่างดาวได้สบายๆ แถมได้ฟังเพลงโปรดกับหูฟังส่วนตัวด้วยครับ :) เริ่มสนใจยังครับ...
สาเหตุจากการได้หูฟัง Bluetooth ตัวนี้ เนื่องจาก ผมรำคาญเหลือเกินเวลาคนโทรศัพท์มาระหว่างฟังเพลง มันทำให้ผมต้องคอยถอด jack ออกจาก iPOD แล้วมาเสียบเข้ากับ handfree ของ SE ซึ่งสายมันเกะกะวุ่นวายมาก บางทีคนโทรมาต่อเนื่องมาหยุด เดี๋ยวก็เสียบ iPOD เดี๋ยวก็เสียบหูฟัง สลับไปสลับมา รถจะชนกันตาย :D ก็เลยตัดสินใจหา Bluetooth ใช้ ตอนแรกผมก็ตั้งใจจะซื้ Bt620S นี่แหละครับ แต่ติดตรงมันไม่สะดวกพกพา ครั้นจะซื้อหูฟัง Bluetooth ธรรมดา ก็ขี้เกียจถอดเข้าถอดออกอีก ลำบากเปล่าๆ ก็เลยพยายามหา Bluetooth แบบที่ผมใช้หูฟังของตัวเองได้ จนในที่สุด ก็ได้เจอครับ... มันคือ R35 :D ( ขอปิดยี่ห้อครับ เดี๋ยวหาว่าโฆษณาขายสินค้า โดนบ่อยแล้วเบื่อครับ )
คุณสมบัติสำหรับ R35 คือ มันสามารถให้เสียง Bluetooth ในแบบ Stereo ได้ ( แหงจิ ) และสามารถถอดเอาหูฟังอะไรก็ได้ที่เป็น jack แบบ 3.5mm มาใส่ โดยที่ตัว Bluetooth จะเป็นไมค์ในตัว และยังสามารถหนีบเข้ากับทุกส่วนของเสื้อผ้าได้ แถมมีสายห้อยมาให้กรณีไม่อยากหนีบ หรือกลัวหล่นหายด้วย :D ซึ่ง หูฟังที่เอามาเสียบ สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบบ Stereo หรือ mono ก็ได้ ( ในชุดจะมีแถมหูฟังทั้ง 2 แบบครับ ) ซึ่งก็ถูกใจผมสุดๆ เลยตัดสินใจไปซื้อมาลองซะชุดนึง
จริงๆหูฟังแบบที่เปลี่ยนหูฟังได้ยี่ห้อนี้จะมีสองรุ่นครับ แบบแรกทำได้แค่เพิ่มเสียงลดเสียง แต่ผมกระแดะ เล่นรุ่นที่เป็น remote ในตัวด้วยครับ สามารถเลื่อน track ขึ้นหน้าหรือถอยหลังได้ กด pause หรือ play ก็ได้ ( แต่ไม่เห็นมันทำงานเลยวุ๊ย pause เนี่ย ) ซึ่งเป้าหมายก็เพื่อเอามาใช้กับ iPOD เพื่อเลื่อนเพลงไปมาได้ แต่... มันดันใช้กับ iPOD ไม่ได้ 5555 ( แต่คนขายบอกว่าได้ ก๊ำ กำ... ) ก็ช่างมันครับสำหรับตรงจุดนี้ เดี๋ยวผมค่อยวิเคราะห์สาเหตุให้ฟังในทีหลังสำหรับเรื่องนี้ ว่าทำไมมันมีปัญหากับ iPOD
ตาม SPEC ตัว Bluetooth ตัวนี้ สามารถใช้ได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง.. ( เห็นคนขายบอกว่าถ้าไม่กดไรมันเล่นมาก ก็อยู่ได้ประมาณนั้น แต่ถ้ากดลดเสียงเร่งเสียง เลื่อน track ไปมา ก็อยู่ที่ 5 ชั่วโมง ) แต่ถ้าเปิด standby เฉยๆ ได้ 120 ชั่วโมงครับ เวลาชาร์ตต่อครั้งอยู่ที่ 3 ชั่วโมงครับ การใช้งานก็ถือว่าโอเคครับ ไม่ดีไม่แย่ อย่างน้อยผมก็ฟังไม่ถึง 6 ชั่วโมงอยู่แล้ว :D อีกอย่างมันสามารถชาร์ตผ่านปลั๊กธรรมดา หรือ USB ก็ได้ อันนี้ สะดวกมากสำหรับผมเลย ถ้าปัญหามากก็จับยัด USB ของ notebook ซะ :D
มาว่ากันเรื่องเสียงครับ.. :) หึหึหึ พอดีผมลอง test กับ iPOD ก่อนเพื่อน แต่ การจะใช้ได้กับ iPOD นั้น จำเป็นต้องบริจาคเงินให้ทางร้านเพิ่มอีก 1,XXX ครับ เพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมที่ใช้สำหรับส่งสัญญาน Bluetooth ซึ่งจะต่อผ่านช่อง jack 3.5mm ของ iPOD นั่นแหละครับ ( ไม่บอกยี่ห้อเช่นเคย แต่ยี่ห้อเดียวกับชุด bluetooth ผมน่านแหละ ว่าแต่... ทำไมมันไม่แถมมาฟะ )
หลังจากชาร์ตแล้วกด pair กันแล้ว ผมก็ลองเปิดเพลงจาก iPOD ครับ... ปรากฏว่า !! มีเสียงเข้าหูฟังผมครับ :D ( แหงจิ ) ผมใช้หูฟัง Ultimate Ear Super.Fi Pro5 เพื่อทดสอบคุณภาพเสียงครับ ( อันนี้บอกยี่ห้อได้ ไม่มีตัวแทนจำหน่าย หุหุ ) จริงๆผมได้ลองที่ร้านทีนึงแล้ว มีเสียงซ่าด้วย แต่ที่ร้านแกบอกว่า ถ้าชาร์ตไม่เต็มที่มันจะมีเสียงกวน ผมก็เห็นว่าจริง ผมตอนนั้นชาร์ตแป๊ปเดียว แบบว่า แค่พอลองดูว่ามันเป็นยังไงแค่นั้น แต่เท่าที่ลองที่ร้าน ผมรู้สึกว่า เสียงมัน drop ลงครับ ก็คิดว่าน่าจะเป็นผลจากการที่พลังงานมันไม่เต็มที่ เลยตัดสินใจเอามาลองที่บ้านอีกที โดยชาร์ตให้มันเต็มๆ แล้วก็ทำ test
ผลปรากฏว่า มันก็ยังมีเสียงซ่านิดๆอยู่ดี แถมเสียงก็ drop ลงมา กลายเป็นว่า เสียงกลางที่มีความกังวานและใส มันลดลงมานิดนึง และเสียงโทนต่ำมันเพิ่มขึ้น เบสฟุ้งขึ้น ไม่กระชับเหมือนต่อตรงๆกับ iPOD ผมก็เริ่มเหงื่อแตกแล้ว อุตส่าห์ซื้อมาจะเอามาใช้กับ iPOD ดันเป็นซะแบบนี้ ก็เลยลองเอาไป test เสียงกับทาง K790i บ้าง ( อ๊ะ.. ลืมบอกว่าผมใช้ K790i เป็นตัว test :D )
โชคดีที่ K790i support AD2P ก็เลยสามารถส่งสัญญานเสียงแบบ Stereo ได้สบายๆ ซึ่งก็ถูกใจผมยิ่งนัก :) ผมก็เลยจับเอาเพลงยัดลง K790i แล้วเริ่มลอง test เสียงดู โดยเทียบเสียงกับการต่อผ่าน Handfree ของ SE ผลปรากฏว่า เสียงดีครับ มีอาการ drop ของเสียงบ้าง แต่เล็กน้อยมาก น้อยกว่าฟังผ่านตัวแปลงด้วยซ้ำ แถมไม่มีเสียงซ่ารบกวนด้วย ก็เลยสงสัยว่าปัญหาต่างๆน่าจะเกิดจากตัวแปลงสัญญาน bluetooth ยังทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ข้อเสียสำหรับ R35 คือ ปุ่ม Pause ใช้ไม่ได้ ( หรือเป็นเฉพาะของผมเนี่ย ) และมีการสะดุดของสัญญานเป็นพักๆ ทั้งๆที่โดยรอบที่ผมใช้มันไม่มีสัญญานอื่นใดรบกวน แถมตัวbluetoothเอง ก็ pair กันแค่ 2 ตัวเท่านั้น อีกอย่างคือ การใช้งานร่วมกับตัวแปลงสัญญาน bluetooth ของยี่ห้อตัวเองแท้ๆ แต่ดันใช้ฟังก์ชั่นได้ไม่ครบ คือ ไม่สามารถเลื่อนเพลงไปมาได้ ไม่แน่ใจว่ากับ iPOD VDO จะมีปัญหาแบบนี้ไม๊ (พอดีผมใช้ Photo ) ถ้ายังไงจะลองขโมยของน้องมาแล้วลอง test เรื่องนี้อีกครั้งครับ อีกอย่างคือ เวลาเปลี่ยนเพลงนี่ ถ้าฟังกับ K790i มันจะมีการ fade ครับ คือ เวลาเปลี่ยนเพลงปั๊บ เสียงมันจะเบา จากนั้นก็ไล่มาเรื่อยๆจนดังเป็นปรกติครับ จะเป็นทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนเพลง ไม่ว่าจะกดเปลี่ยนเอง หรือ มันเปลี่ยนให้ (ตลกดีใช้กะ SE เปลี่ยนเพลงได้ แต่ตัวแปลง bluetooth ของตัวเองแท้ๆ ไม่ทำให้ iPOD เปลี่ยนเพลงได้ ) ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นที่อะไร เพราะกับ iPOD มันไม่เป็นครับ และข้อเสียอีกอย่างคือ ถ้าใช้กับ K790i จะฟังวิทยุไม่ได้ครับ เพราะวิทยุต้องใช้เสาที่อยู่ร่วมกับ handfree ครับ พอเสียบ handfree มันก็ตัดเข้า mode สำหรับ handfree ทันทีครับ -_-' จะทำเสาในตัวก็ไม่ได้คนเรา
ข้อดีคือ ถ้าต่อกับเครื่องที่มีระบบ AD2P จะให้คุณภาพเสียงที่ดี ใกล้เคียงกับการต่อตรงๆเลยทีเดียว อีกทั้งสะดวกในการใช้งานด้วยครับ คือเวลาฟังเพลงอยู่ แล้วบังเอิญมีสายเรียกเข้า หรือเรากดโทรออก มันก็ตัดให้ครับ ถึงแม้จะกำลังฟังเพลงผ่านตัวแปลงสัญญานที่ต่อกับ iPOD ก็ตาม มันก็ตัดให้เช่นกันครับ ( แต่น่าจะ pause ให้ด้วยนะเฟ้ย... ดันตัดเฉยๆ ) ส่วนคุณภาพเสียงในการพูดคุยก็อยู่ในที่ดีทีเดียวครับ ถ้าตัวแปลงสัญญานดีกว่านี้ก็จะ work มากเลยครับ
สรุปแล้ว สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกในการพกพาอุปกรณ์ต่างๆโดยเบื่อสายที่มันเกะกะจนจะพันคอเราตาย ตัวนี้ก็น่าสนใจทีเดียวครับ ยี่ห้ออื่นเองก็น่าจะมีนะครับ แต่ผมยังไม่เห็นเลย เห็นแต่ของเจ้านี้เจ้าเดียวเอง เรื่องยี่ห้อใครสนใจก็หลังไมค์เอาแล้วกันครับผม
ให้ดูรูปแทนละกันครับ :D พอดีผมขโมยรูปเค้ามา เลยต้องแถม credit เค้าในไว้ในรูปเค้าด้วยครับ ไม่อยากไปเอาออก
แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 49 04:27:37
จากคุณ :
G-7
- [
13 ส.ค. 49 04:20:43
]