อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทุกชิ้นไม่ถูกกับน้ำทั้งนั้นแหละครับ
ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ วิทยุ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านก็ตาม
ตกน้ำล่ะก็พังแน่นอน นอกจากเขาจะออกแบบมาเพื่อป้องกัน
น้ำ ฝุ่นละออง หรือการกระแทกโดยเฉพาะ ๆ ไป เช่น
Sportphone เป็นต้น
ซึ่งหายนะ 3 ประการของโทรศัพท์ที่ร้ายแรงที่สุด มีดังต่อไปนี้
(เรียงตามลำดับความรุนแรงจากมากที่สุด ไปยังน้อยที่สุด)
1.การสัมผัสกับน้ำโดยตรง เช่น การทำตกน้ำ
2.การกระแทก เช่น ทำตกพื้น รวมไปถึงการกดทับด้วย
3.ไอน้ำ ฝุ่นละออง และความชื้น เช่น ความชื้นจากเหงื่อ
ของผู้ใช้
สำหรับ ข้อปฏิบัติสำคัญ ที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง !!!!
มีผลต่อความเป็นความตาย ความอยู่รอดของโทรศัพท์กัน
เลยทีเดียว เมื่อโทรศัพท์ตกน้ำเป็นดังนี้
(เรียงลำดับตามความสำคัญมากไปยังน้อย)
1.ถอดแบตออกให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้
ไม่ต้องรอปิดเครื่องก่อน ไม่ต้องรอตั้งสติ ไม่ต้องรอให้
หายตกใจ อย่าตกใจ เมื่อโทรศัพท์ตกน้ำไปแล้ว สติกลับ
มาเมื่อไหร่สิ่งแรกที่ต้องวูบเข้ามาในหัวคุณและต้องกระทำ
โดยทันทีคือการถอดแบตออก เพื่อไม่ให้วงจรเดินครบ
เพราะถ้ามันเดินครบมันจะลัดวงจร เพราะน้ำที่เข้าไปเกาะ
อยู่ตามแผงวงจร สายไฟ หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ในวงจรของ
โทรศัพท์เรียบร้อยหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว ชิ้นส่วนบางชิ้น
สายไฟบางเส้นบางยิ่งกว่าเส้นผมเราเสียอีก ดังนั้นเมื่อมัน
ลัดวงจรจนขาดไปแล้ว ก็คงต้องซ่อมแพงแน่นอน อาจจะ
ต้องเปลี่ยนบอร์ดไปเลยก็ได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ถ้าไม่ได้ถอดแบตออกก่อนแล้วพยายามเปิดเครื่องแล้วล่ะ
ก็ "เจ๊งทุกราย" ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้ ถึงจะเอาไป
ซ่อมมาแล้วก็ตามที โทรศัพท์ยังคงเกิดอาการเอ๋อตามมา
เป็นระยะ ๆ สำหรับเครื่องที่ถอดแบตออกทันทีอย่างรวดเร็ว
พบว่าสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก โดยต้องปฏิบัติตามขั้น
ตอนที่ผม (หรือท่านอื่น ๆ) แนะนำไว้อย่างเคร่งครัด
2.พยายามทำให้น้ำออกจากเครื่องโทรศัพท์มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
!!!!ห้ามใช้ไอความร้อน ในการไล่น้ำออกจากโทรศัพท์โดยเด็ดขาด !!!!
โดนเฉพาะไดร์เป่าผม หรือแหล่งลมร้อนชนิดอื่น ๆ เพราะ
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ชิ้นส่วนบางชิ้น สายไฟบางเส้น เล็ก
ยิ่งกว่าเส้นผมของเราเสียอีก ความร้อนที่ผ่านเข้าไปจะไป
ทำลายส่วนต่าง ๆ เหล่านั้น แทนที่จะกลับมาเป็นปกติกลับ
เป็นการซ้ำเติมโทรศัพท์เราเข้าไปอีก เสมือนกับส่งให้ไป
เกิดใหม่เร็วขึ้น แนะนำให่เขย่า ๆ เบา ๆ เช็ดชิ้นส่วนทุกชิ้น
ภายนอกให้แห้ง (รวมถึงแบตเตอรี่ด้วย) พอเห็นว่าไม่มีน้ำ
หยดออกมาแล้ว ให้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการไล่ความ
ชื้นออกนั่นคือ "หมกไว้ในถังข้าวสาร" เนื่องจากข้าวสาร
เป็นของแห้ง มีความชื้นต่ำทำให้ความชื้นสัมพัทธ์โดยรวม
ของสิ่งแวดล้อม (ภายในถังข้าวสาร) น้อยลง น้ำจึงระเหย
ออกมาได้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องไปเสียดายข้าวสาร หมกไว้
เลย ยอมเสียสละข้าวสารไม่กี่ กก. ยังดีกว่าเสียโทรศัพท์
ราคาเป็นหมื่นใช่มั้ย? แต่ถ้ากล้าเอาข้าวสารนั้นมากินก็ไม่
ว่ากัน o_O! หมกทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน หรือถ้าคุณยังไม่แน่
ใจทิ้งไว้ 5 วันก็ได้ (กี่วันก็ได้ตามที่คุณพอใจ และคิดว่ามัน
น่าจะแห้งแล้ว)
***ถ้าคุณมีซิลิก้าเจล ใช้ซิลิก้าเจลก็ได้ ดีกว่าถังข้าวสารเยอะ***
หลังจากนั้นลองพยายามเปิดเครื่องดู ใส่แบตเข้าไปถ้าเปิด
ติดก็เป็นโชคดีของคุณเอง แต่ถ้าถามผมโทรศัพท์ตกน้ำแล้ว
ถึงจะกลับมาใช้ได้ก็คงไม่เป็นปรกติแน่นอน อาจจะมีอาการ
เอ๋อปรากฏให้เราเห็นบ้างเล็กน้อยเป็นระยะ ๆ แนะนำให้ขาย
ทิ้งทันที ให้คนอื่นรับกรรมแทน ถึงจะชั่วร้ายแต่ก็เพื่อประโยชน์
ของเรานะ เหอๆ
เอามาจากคำตอบที่ผมเคยโพสเมื่อนานมาแล้ว เห็นช่วงนี้
ทำโทรศัพท์ตกน้ำกันเยอะ เลยเอามาให้อ่านกัน ^^//
แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 50 16:49:39
จากคุณ :
axquest
- [
3 เม.ย. 50 16:44:20
]