ความคิดเห็นที่ 6
แบตโทรศัพท์ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องชาร์ตเป็นสิบๆ ชั่วโมงเพื่อกระตุ้นแบตอีกต่อไป ความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการชาร์ตแบตเป็นสิบๆ ชั่วโมงนี้ เกิดมาจากว่าโทรศัพท์ในสมัยก่อนเมื่อประมาณ 10 ปี มาได้แล้ว ใช้แบตประเภท Ni-MH (nickel metal hydride, นิกเกิลแมทเธิลไฮดราย) กับ Ni-Cd (นิกเกิลแคดเมียม, Ni-Cd) ซึ่งเป็นแบตแบบที่ต้องมีการชาร์ตเพื่อกระตุ้นแบตในการใช้ครั้งแรกเป็น เวลานานประมาณ 12 - 15 ชั่วโมงและสำหรับแบตแบบเก่านี้ จำเป็นที่จะต้องทำการคายประจุให้ หมดเสียก่อน หรือปล่อย หรือใช้ ให้แบตนั้นหมดไปเกลี้ยงก่อนแล้วถึงจะค่อยทำการชาร์ตเพื่อรักษา อายุของแบต
แต่สำหรับโทรศัพท์ในปัจจุบัน ได้ทำการเปลี่ยนมาใช้แบตแบบ Li-ion (ลิเทียมไอออน, Lithium-ion) กับ Li-polymer, Li-ion Polymer (ลิเทียมโพลิเมอร์, Lithium Polymer, Lithium Ion Polymer) ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการชาร์ตเพื่อกระตุ้นแบบเป็นสิบๆ ชั่วโมงอีกต่อไป อีกทั้ง ยังไม่ต้องปล่อยให้แบตคายประจุออกให้หมดเสียก่อนด้วย การใช้แบตแบบนี้ให้ถูกต้องคือ ชาร์ตเมื่อไหร่ ก็ชาร์ตได้ ชาร์ตไม่เต็มก็เอาออกได้ แบตไม่หมดก็ชาร์ตได้ พยายามทำให้แบตเต็มอยู่เสมอ และ ห้ามให้แบตหมดเกลี้ยงเลยโดยเด็ดขาด เพื่อรักษาอายุการใช้งานของแบตให้มีอายุยาวนานขึ้น
ดังนั้นความเข้าใจของคุณ จขกท ที่มีต่อการชาร์ตโทรศัพท์ Nokia N73 จึงเป็นความเข้าใจที่ผิด ซึ่งเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับแบตที่เลิกใช้ในโทรศัพท์มาประมาณ 10 ปีได้แล้ว โทรศัพท์ในปัจจุบัน นั้นจะตัดไฟเมื่อเต็ม และจะไม่จ่ายไฟเข้าไปในแบตเตอรี่อีก การเสียบแบตทิ้งไว้เป็นสิบๆ ชั่วโมง นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดแล้ว ยังอาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงขั้นอัคคีภัยได้ เพราะ ถ้าหากตัวตัดไฟมันไม่ทำงาน แล้วเกิดการจ่ายกระแสเข้าสู่แบตเตอรี่มากจนเกินไป ทำให้แบตระเบิด แล้วเกิดไฟไหม้บ้านได้
จากคุณ :
axquest
- [
28 ก.ค. 50 20:31:54
]
|
|
|