ท่ามกลางช่วงรอยต่อของบอร์ดชุดใหม่ในสองวิสาหกิจทีโอที กสท และท่ามกลางการลำดับวาระสำคัญต่างๆของ ว่าการกระทรวงไอซีที คนใหม่ หลังเปิดสภาไปยกแรก
วันนี้เรื่องราวของความอยู่รอดของการทำธุรกิจและ บริการใหม่ 3G หรือ wireless broadband ได้ถูกขับเคลื่อนมาเป็นระยะ จากส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และผ่านทางกลไกคนการเมือง หรือผู้ตัดสินใจ อย่างที่เชื่อว่าจะอำนวยความราบรื่นออกมาให้เป็นผล
แผนงานที่ว่าเดินโดย กสท หวังพัฒนาบริการใหม่ออกมาในห้วงสุญญากาศใบอนุญาต ที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะเกิดหน่วยงานตัดสินใจความถี่ใหม่ ด้วยความถี่เดิมที่มีอยู่และเทคโนโลยีHSDPA ผ่านโมเดลการร่วมทุน 3 กลุ่ม และการแปลงสัมปทานเดิมเป็นสัญญาเช่า
เรื่องที่มีมิติหลายชั้นแบบนี้ จะผ่านออกมาได้อย่างมีประสิทธิผลและไม่เกิดความเสียหายซ้ำซ้อนอีกหรือ
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท กสทโทรคมนาคม รายหนึ่งเปิดเผย Telecom Journal ว่า กลุ่มผู้บริหารของ กสท และโอเปอเรเตอร์หลายราย ได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่งแล้ว และมีข้อเสนอที่ทำเป็นกรอบปฏิบัติเพื่อเตรียมนำเสนอ บอร์ดชุดใหม่ ในเรื่องของการแก้ปัญหาของ กสท โทรคมนาคม และยังเป็นการแก้ปัญหาการให้บริการ wireless broadband ที่ความเร็วในการส่งข้อมูลยุค 3G ได้ด้วย
แนวทางที่ได้จัดทำนี้ คือ กสทได้มีแผนที่ต้องการหยุดการให้บริการระบบCDMA แม้ว่าปัจจุบันการให้บริการยังดำเนินไปอยู่โดยในภาคกลาง 25 จังหวัด ดำเนินการตลาดโดย Hutchison CAT Wireless Multimedia หรือ HUTCH และใน 51 จังหวัดที่เหลือทั่วประเทศ ได้มีการติดตั้งโครงข่ายลุล่วงไปแล้วโดย Huawei Technology ซึ่งปัจจุบัน ยังมีการรอพิจารณาจาก กฤษฎีกาเรื่องที่ Huawei ส่งมอบงานในเฟสที่สองช้ากว่ากำหนดอยู่
ผู้บริหารกสท กล่าวว่า การเลิกบริการ CDMA เพราะเห็นว่าหากทำต่อไป จะมีความเสียหายอย่างต่อเนื่อง เพราะสายการพัฒนาเทคโนโลยี ได้เปลี่ยนไปเดินที่ทางของ GSM หมดแล้ว จึงเกิดทางตันหากจะให้บริการในสายCDMA ต่อไป ทำให้ตกขบวนวิวัฒนาการของเทคโนโลยีได้
นอกจากนี้การที่จะทำการตลาด CDMA อย่างเป็นทางการ ยิ่งเร็วก็ยิ่งเจ็บตัว เพราะกลุ่มผู้ใช้บริการ CDMA ในปัจจุบันมีเพียง 7 แสนคนเท่านั้น ถือว่าเป็นกลุ่มที่เล็กที่สุดในตลาดมือถือ
ดังนั้นหากเปิดบริการทั้งระบบเมื่อใด ก็จะเข้าเนื้อทันที เพราะปัจจุบันระบบ Interconnection charge แล้ว เมื่อลูกค้า CDMA โทรออกไปที่เลขหมายมือถือในระบบอื่น ทางผู้ให้บริการ CDMA ก็จะกลายเป็น net payer ทันที เนื่องจากจำนวนลุกค้าที่โทรเข้ามาที่เบอร์ CDMA จะเทียบไม่ได้กับการโทรจากเบอร์ CDMA ไปที่ระบบ GSM ของโอเปอเรเตอร์รายอื่น
เราได้หารือกับทาง Hutchison แล้ว และเขาก็เห็นด้วยว่า ไม่ควรเดินหน้าต่อบริการCDMA เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นได้ แต่ควรทำระบบใหม่ขึ้นมานั้นในช่วงที่สุญญากาศของ ไลเซนต์ 3G ยังมีอยู่ เพราะไม่รู้ว่า กทช.จะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่คลื่นความถี่เดิมของกสท และทีโอที สามารถทำบริการ 3G ได้
เขาอธิบายว่า รัฐบาลสามารถเพิ่ม Internet Penetration Rate ให้กับประเทศได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 6-12 เดือน โดยการนำเอาเทคโนโลยี HSPA (HSDPA หรือ HSUPA) มาพัฒนา Wireless Broadband และ 3G ร่วมกับทรัพยากรที่มีอยู่แล้วของประเทศให้มีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ของประเทศ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศคือ
คลื่นความถี่ย่าน 800/900/1900 MHz เดิมที่ กสท และ ทีโอที ได้รับจัดสรร และได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบัน กสท และ ทีโอที ได้ให้สิทธิแก่บริษัทสัมปทานในการใช้คลื่นความถี่นี้เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาสัมปทาน
โครงข่ายที่บริษัทสัมปทานได้โอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ กสท และ ทีโอที แล้ว
โครงข่าย และทรัพยากรอื่นๆของ กสท และ ทีโอที
ดังนั้นหมายความว่า คลื่นความถี่ย่าน 800 MHz เดิม 2 DTAC ในการใช้คลื่นความถี่นี้ 1 ช่วง เพื่อให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาสัมปทาน DTAC
และกสท ได้ใช้คลื่นความถี่นี้อีก 1 ช่วง เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาทำการตลาด CDMA ภายใต้แบรนด์ Hutch และ CAT CDMA
รวมไปถึงโครงข่ายที่บริษัท DTAC/True Move ได้โอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ กสท แล้ว และโครงข่าย และทรัพยากรอื่นๆของ กสท เช่น International Internet Gateway, ระบบ Transmission, โครงข่าย CDMA
ทางออกในการทำ HSDPA มาพัฒนาบริการ wireless broadband และ3G ด้วยรูปแบบคือ
1.การร่วมทุนระหว่างกสท กับ DTAC โดยใช้คลื่นความถี่ 850 Mhz ที่ DTAC ใช้อยู่ เพื่อให้บริการ Wireless Broadband และแปลงสัญญาสัมปทานเดิมของ DTAC ให้เป็นสัญญาเช่า และร่วมใช้โครงข่ายที่ DTAC ได้โอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ กสท แล้ว
2.การร่วมทุนระหว่าง True Move และ Hutch โดยใช้คลื่นความถี่ 850 Mhz ที่ กสท และ Hutch ใช้อยู่ เพื่อให้บริการ Wireless Broadband และแปลงสัญญาสัมปทานเดิมของ True Move เป็นสัญญาเช่า
ขณะเดียวกันก็ ยกเลิกสัญญาทำการตลาดกับ Hutch ยกเลิกการดำเนินการ CAT CDMA และร่วมใช้โครงข่ายที่ True Move/Hutch ได้ และจะได้โอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ กสท ในอนาคต
3. ร่วมทุนระหว่าง ทีโอที กับ AIS โดยใช้คลื่นความถี่ 1900 Mhz ที่ Thai Mobile ใช้อยู่ เพื่อให้บริการ Wireless Broadband และใช้คลื่นความถี่ 900 Mhz ที่ AIS ใช้อยู่ เพื่อให้บริการ Wireless Broadband (เทคโนโลยีอยู่ระหว่างการนำมาใช้งานเชิง Commercial)
นอกจากนี้ควรแปลงสัญญาสัมปทานเดิมของ AIS พร้อมร่วมใช้โครงข่ายที่ AIS/ACT Mobile ได้ และจะได้โอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ ทีโอที และร่วมใช้โครงข่ายที่ ACT Mobile จะโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ ทีโอที
ทั้งนี้ ทีโอที มีคลื่นความถี่ย่าน 900/1900 Mhz เดิม 2 ช่วง ที่ ทีโอที ได้รับจัดสรร และได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ดังกล่าว ซึ่งในปัจจุบันทีโอที ได้ให้สิทธิแก่บริษัท AIS ในการใช้คลื่นความถี่ช่วง 900 Mhz เพื่อให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาสัมปทาน AIS
และ ทีโอที ได้ใช้คลื่นความถี่ช่วง 1900 Mhz เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ Thai Mobile
นอกจากนี้ ทีโอที ยังมีโครงข่าย และทรัพยากรอื่นๆของ ทีโอที เช่น International Internet Gateway, ระบบ Transmission
การร่วมลงทุนจะใช้เงินไม่มากนัก เพราะอุปกรณ์ด้านโครงข่ายเดิมสามารถประยุกต์ใช้ได้ เพียงเปลี่ยน platform ใหม่เท่านั้น และในส่วนของกสท ในช่วงแรก อาจจะไม่ใช้เงินลงทุน เพราะกสท ให้คลื่นความถี่ในการร่วมพัฒนาบริการนี้ ผู้บริหารกสท กล่าว
สำหรับเหตุผลที่ต้องใช้ HSPA นั้นเพราะ HSDPA เป็นหนึ่งใน GSM Family (GSM, EDGE, WCDMA, HSDPA, HSUPA) นอกจากนี้กว่า 86% ของ Mobile Market Share ของโลกอยู่ใน GSM Family
โดย 316 GSM-Family Networks ใน 147 ประเทศ และ 190 Networks ใน 83 ประเทศเป็น WCDMA ส่วน 154 Networks ใน 71 ประเทศเป็น HSDPA
เทคโนโลยี HSDPA ยังหมายถึง ประโยชน์ในด้าน โรมมิ่ง และประหยัดจาก Economy of Scale: Wide Spread Availability & Variety of Handsets, Data Cards, Embedded PCs, Electronic Devices นอกจากนี้ HSDPA สามารถให้บริการได้ในย่านความถี่ 850/900/1900/2100 MHz และสามารถให้บริการในย่านความถี่ 1800 MHz ได้เช่นกัน แต่เทคโนโลยียังตามหลังอยู่อย่างน้อย 12-24 เดือน
Hutchison และDTAC ก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงได้พยายามนำเสนอและล็อบบี้ ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วทั้งกระทรวงการคลังและไอซีที และเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบสนองที่ดี เนื่องจากเป็นความจำเป็นจากสิ่งแวดล้อมทั้งหมด
ผู้บริหารกสท ระบุว่า การดำเนินการตามแนวทางนี้จะ สร้างผลตอบแทน และกลยุทธ์ทางธุรกิจในระยะยาวของ กสท และ ทีโอที และสร้าง Competitive Advantage ทางธุรกิจให้แก่ กสท และ ทีโอที และลดความเสี่ยงจากการที่บริษัทสัมปทานจะขอใบอนุญาต 3G ใหม่จาก กทช.
นอกจากนี้ยังปกป้องลูกค้า Subscriber จำนวนกว่า 16 ล้านคน ของ DTAC และกว่า 12 ล้านคน ของ True Move ให้อยู่ในค่าย กสท ขณะเดียวกันก็ปกป้องลูกค้า จำนวนกว่า 24 ล้านคน ของ AIS ให้อยู่ในค่าย ทีโอที
ที่สำคัญคือหยุดการขาดทุนของเทคโนโลยี CDMA
สำหรับในภาพใหญ่ระดับประเทศนั้นจะเพิ่ม Internet Penetration Rate ให้กับประเทศได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บรรลุการเป้าหมายการพัฒนาของประเทศในแทบทุกยุทธศาสตร์ ได้อย่างรวดเร็ว ลดช่องว่าง และความด้อยโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยี และข้อมูล ข่าวสาร ของคนไทยยกระดับทางเทคโนโลยีของประเทศไทย สร้างการแข่งขันที่เสรี และทัดเทียมกัน ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ สร้างทางเลือกในการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพ ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อนของประเทศ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ
---TELECOM JOURNAL---
http://www.sewu-cat.com/infowebboard/read.php?id=02604
จากคุณ :
TUM CDMA 
- [
28 ก.พ. 51 10:55:11
]
กสท เตรียมแผนเลิกCDMA
