ความคิดเห็นที่ 9
- ต้องอธิบายก่อนว่า คลื่นทีถูกเอาไปใช้สำหรับโทรศัพท์มือถือ มีการจัดระเบียบสำหรับการใช้งาน (ACCESS) ที่ต่างกันออกไป
- FDMA(คือการแบ่งการใช้คลื่นโดยแยกช่วงความถี่) ,TDMA(คือการแบ่งใช้คลื่นโดยช่วงเวลา), CDMA(คือการแบ่งใช้คลื่นด้วยการเข้ารหัส)
- ถ้ายังอ่านไม่เข้าใจ จะอธิบายเพิ่มเติมดังนี้ครับ FDMA คือการที่เราซอยความถี่ออกเป็นช่วงต่างๆ เพื่อแบ่งให้ user แต่ละคนใช้, TDMA คือการที่เราเอาความถี่แต่ละอัน มาแบ่งเป็นช่วงเวลา สมมติว่าเวลาเป็น 5 slot ในความถี่นั้น จะมี user ได้ 5 คน คือ a, b, c, d, e สลับกันใช้
- เมื่อถึงยุตโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบDigital(2G) ที่มีการรวมทั้ง FDMA และ TDMA เข้าด้วยกัน หน่วยงาน International Telecommunication Union ซึ่งเกิดขึ้นในยุโรป ได้กำนดมาตรฐานนี้ว่า GSM
- พอมาถึงยุค3G ที่ความสามารถของระบบเดิม คือ FDMA + TDMA ไม่สามารถตอบสนองการได้เพียงพอ ด้วยข้อจำกัดทางด้านการใช้งานหลายด้าน ทั้ง Capacity ที่ล้น และการที่ไม่สามารถเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลได้อีก จึงได้มีการหันมาใช้ระบบ WCDMA หรือ CDMA แบบ Wide band(แต่ละ channel ใช้ 5 MHz, CDMA ธรรมดาใช้แค่1.25, GSM เดิมใช้200 kHz) ซึ่งหลักการทำงานคร่าวๆ คือจากเดิมที่ต้องแบ่งคลื่น แบ่ง time slot ให้ User แต่ละคน ก็กลายเป็น ทุกคนสามารถใช้งานได้พร้อมกันหมด เพราะถึงแม้จะใช้คลื่นเดียวกัน แต่ code ที่ส่งไปให้ network ไม่เหมือนกัน จึงรองรับการใช้งานจะนวนมาก พร้อมๆกัน + การที่มีBandwidth ต่อ channel มากขึ้น ทำให้การรับส่งข้อมูล ทำได้เร็วขึ้นอีกด้วย
- มาตรฐานที่ใช้ระบบ WCDMA นี้ ถูกบัญญัติขึ้นใหม่โดย ITU เจ้าเดิม โดยใช้ชื่อว่า UMTS ซึ่งต่อมา พัฒนากลายเป็น HSPA ที่รับส้งข้อมูลได้มากขึ้น
- ดังนั้น - FDM, TDM, CDM คือวิธีการจัดแบ่งคลื่น (Multiplexing) - FDMA, TDMA, CDMA คือการบริหารการใช้งาน (Access) - GSM, UMTS, HSPA คือชื่อ ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็น standard
จากคุณ :
Yushun
- [
10 เม.ย. 51 08:43:24
]
|
|
|