ผู้อ่านข่าว 454 คน วันที่ 13 มิถุนายน 2551 - เวลา 17:09:18 น.
จับตา'ไอโฟน 3 จี' 199$ เขย่าตลาดมือถือ-พีดีเอโฟน ผู้ค้าในไทยเชื่อมือถือทุกแบรนด์เจอผลกระทบถ้วนหน้า ด้าน'HTC'วางแผนตั้งรับ ดีแทค-AISลุ้นสิทธิขายในไทย
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ ประชาชาติธุรกิจ ว่า จากที่แอปเปิลเปิดตัวไอโฟน 3 จี ในราคา 199 เหรียญ พร้อมปรับโมเดลการทำธุรกิจกับผู้ให้บริการมือถือในแต่ละประเทศใหม่ จะทำให้การทำข้อตกลงกับโอเปอเรเตอร์ มือถือง่ายขึ้น และอาจทำให้การตกลงทำธุรกิจกับผู้ให้บริการมือถือแต่ละประเทศเปิดกว้างให้กับหลายๆ ราย แต่ก็ยังมีปัญหาที่ต้องคิดต่อว่าถ้าโอเปอเรเตอร์รับซับซิไดซ์ราคาเครื่องไอโฟนมาแล้ว การที่จะทำราคาค่าบริการสูงขึ้นเหมือนเอทีแอนด์ทีในสหรัฐอเมริกาคงลำบาก และการที่จะผูกมัดให้ลูกค้าใช้บริการของบริษัท 2 ปี โดยที่ไม่เปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น ก็คงต้องหาวิธีการมาจัดการด้วย ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาว่า ลูกค้าซื้อเครื่องถูกแล้วเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น
โดยที่ผ่านมา ดีแทคก็ได้มีการติดต่อขอเจรจาเพื่อเป็นตัวแทนทำตลาดเครื่องไอโฟนในประเทศไทยเช่นกัน โดยเป็นการผนึกรวมกับกลุ่มเทเลนอร์ ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับแจ้งจากแอปเปิลว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการทำตลาดเมืองไทยในช่วงปลายปีนี้
นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐ กุล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากไอโฟนเข้ามาทำตลาดเมืองไทยในราคา 6,600 บาท ตามที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าจะตีตลาดมือถือแบรนด์อื่นๆ กระจายแน่นอน ส่วนที่แอปเปิลมีโมเดลให้โอเปอเรเตอร์ซับซิไดซ์ราคาเครื่องนั้นยังไม่มีข้อมูลชัดเจน คงไม่สามารถตอบอะไรได้ แต่เอไอเอสก็คาดหวังว่าหลังจากที่สิงเทลได้สิทธิ์ในการทำตลาดไอโฟน ในส่วนของเอไอเอสก็หวังว่าจะได้รับสิทธิ์ในการทำตลาดเร็วๆ นี้เช่นกัน
ขณะที่นายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีจี โฟน จำกัด แสดงความเห็นว่าที่ผ่านมาตลาดโทรศัพท์มือถือยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากไอโฟน เพราะเครื่องเวอร์ชั่นแรกที่เข้ามาทำตลาดเป็นเกรย์มาร์เก็ตคือหิ้วเข้ามาขาย ถ้าจะกระทบบ้างจะเป็นในกลุ่มพีดีเอโฟน หรือ โนเกีย เอ็นซีรีส์ เช่น N 95 N 82 หรือ N 78 เพราะไอโฟนใช้งานง่าย รูปลักษณ์สวย ได้ทั้งกลุ่มใหม่และกลุ่มคนใช้ไอพอดเดิมด้วย
สมาร์ทโฟนเดิมที่เป็นวินโดวส์ แอปพลิเคชั่นใช้ค่อนข้างยาก เมื่อมีไอโฟนจึงเป็นการสร้างตลาดใหม่ ในกลุ่มดารา ไฮโซ วัยรุ่น หรือผู้หญิง เพราะต่อเน็ตง่าย แต่ถามว่ากระทบเยอะไหมยังเห็นไม่ชัดนัก ในแง่ผู้ผลิตเครื่องที่เห็นปรับตัวมากเป็นพีดีเอโฟน อย่าง HTC ลงราคาเหลือ 9,900 บาท เชื่อว่าไอโฟนจะทำให้ตลาดโตขึ้น
อย่างไรก็ตามไอโฟนจะมีผลต่อตลาดโดยรวมต่อเมื่อมีการเข้ามาทำตลาดเป็นทางการ เช่นเดียวกับแบรนด์เนมอื่นๆ ไม่ใช่นำเข้าในลักษณะเกรย์มาร์เก็ตเช่นทุกวันนี้ ถึงขณะนั้นจะมองเห็นผลกระทบได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ด้วยว่าโมเดลธุรกิจของ ไอโฟนจะเป็นอย่างไรด้วย เช่น รุ่นใหม่ 3 จี ที่เปิดตัวราคา 199 เหรียญสหรัฐ ถ้าเป็นราคาเฉพาะเครื่องและมีการนำเข้ามาขายในเมืองไทย น่าจะส่งผลกระทบต่อแบรนด์ อื่นๆ อย่างมาก แต่หากราคาดังกล่าวเป็นการ ซับซิไดซ์โดยโอเปอเรเตอร์ก็ไม่น่ากลัว
สำหรับในเมืองไทยคงต้องรออีก 3 เดือนหลังเปิดตัวในอเมริกาแล้วถึงรู้ว่าจะ เอฟเฟ็กต์กับบ้านเราแค่ไหน อยู่ที่แต่ละยี่ห้อจะวางโปรดักต์ใหม่มาสู้ทันไหม แต่สู้ที่ราคาคงลำบากเพราะแบรนด์อื่นมีโปรดักต์ไลน์เยอะ ถ้าลดราคารุ่นใดรุ่นหนึ่งก็จะกระทบรุ่นอื่นในภาพรวม
นายวรมันต์ งามประสิทธิ์ ผู้จัดการช่องทางการขาย บริษัท เอชทีซี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากไอโฟน 3 จี เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบทุกแบรนด์ โดยเฉพาะมือถือระดับกลางขึ้นไป รวมถึงกลุ่มสินค้าของเอชทีซีในระดับราคา 9,900-15,000 บาท ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานพีดีเอโฟนครั้งแรกอาจจะเปลี่ยนใจ แต่เชื่อว่าผู้ที่ใช้พีดีเอโฟนอยู่เดิมหากไปซื้อไอโฟนมาลองใช้ สุดท้ายจะเปลี่ยนมาซื้อพีดีเอโฟนเหมือนเดิม แต่ตลาดที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงคือโทรศัพท์มือถืออย่าง โนเกีย, ซัมซุง ,โซนี่ อีริคสัน ที่มีสินค้ากลุ่มมัลติมีเดียโฟน เพราะมีคุณสมบัติใกล้กัน
ในส่วนของเอชทีซีได้เตรียมแผนรับมือการเข้ามาของไอโฟน 3 G เช่นกันโดยบริษัท แม่ได้ให้ทีมด้านผลิตภัณฑ์ศึกษาฟีเจอร์ของไอโฟน 3 G ว่ามีจุดไหนเด่น จุดไหนด้อย เพื่อวางแผนรับมือคู่แข่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ด้านนายสรัณย์ ธีรวชิรกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์พีดีเอโฟน มิโอ้ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งโนเกีย เอชทีซี มิโอ้ ต่างจะได้รับผลกระทบแน่นอน แต่จากข้อมูลพบว่าคนที่ใช้ไอโฟนกับคนที่ใช้พีดีเอโฟนเป็นคนละกลุ่ม เพราะไอโฟนเป็นลักษณะแฟชั่นโฟนมากกว่า ดังนั้นแบรนด์ที่มีฟีเจอร์และโพซิชันนิ่งที่แตกต่างและชัดเจนจะได้รับผลกระทบไม่มาก
ทั้งนี้ ประชาชาติธุรกิจ ได้สำรวจตลาดไอโฟนที่ห้างมาบุญครอง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2551 หลังจากสตีป จ็อปส์ ได้เปิดตัวไอโฟน 3 จี 1 วัน พบว่าระดับราคาไอโฟนรุ่นเดิมก็ยังมีระดับราคาสูงขึ้น โดย 2-3 เดือนที่ผ่านมา ราคาไอโฟนที่มาบุญครองได้มีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่น 8 G จากเมื่อต้นปีอยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ระดับราคาอยู่ที่ 19,000 บาท และจากการสำรวจล่าสุด ระดับราคาอยู่ที่ประมาณ 20,500-21,000 บาท เนื่องจากความต้องการในตลาดเมืองไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่การนำเครื่องเข้ามาทำตลาดได้ยากขึ้น เพราะแอปเปิลกำลังจะเปิดตัวรุ่นใหม่ ทำให้คนกลางในมาบุญครองมีการปรับขึ้นราคาตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าในเร็วๆนี้ราคาไอโฟนรุ่นเก่าในมาบุญครองจะต้องปรับลงแน่นอน รวมทั้งจะเห็นเครื่องมือสองในตลาดมากขึ้น
- - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ไอโฟน เอฟเฟกต์
หลังจาก 'สตีฟ จ็อปส์' เปิดตัวไอโฟนเจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยคุณสมบัติรองรับระบบ 3 จี และระบบจีพีเอส ด้วยราคาพิเศษสุดเพียง 199 เหรียญ สำหรับเวอร์ชั่น 8 GB และ 299 เหรียญสำหรับ 16 GB ถือว่าเป็นการหั่นราคาลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับไอโฟนรุ่นแรก พร้อมประกาศจะวางขายตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค ใน 22 ประเทศ และ 2-3 เดือนจากนั้นจะขยายตลาดให้ครอบคลุม 70 ประเทศทั่วโลก เป็นการปลุกสงครามตลาดโทรศัพท์มือถือครั้งใหม่
คุณสมบัติใหม่ของไอโฟน 3 จี จะมีความสามารถดาวน์โหลดอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น 36% และฟีเจอร์ที่สนับสนุนรับการใช้งานทางธุรกิจ เช่น การอ่านเอกสารจากโปรแกรมไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ เป็นต้น
รายงานข่าวจากบิสซิเนส วีก ระบุว่า นักวิเคราะห์หลายรายต่างมองว่า ราคาของไอโฟน 3 จี ที่ทำให้ผู้บริโภคหาซื้อได้มากขึ้นนั้นจะสร้างความลำบากให้กับคู่แข่ง เช่น โนเกีย, แบล็กเบอร์รี่ และผู้ผลิตสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนแบรนด์ดัง สเวนที่ แอปเปิลสามารถลดราคาลดลงได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะแอปเปิลได้มีการปรับโมเดลในการทำตลาดไอโฟนใหม่
จากเดิมที่แอปเปิลจะขอส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการรายเดือน จากผู้ให้บริการมือถือ ที่ได้รับสิทธิทำตลาดไอโฟน แต่โมเดลใหม่นั้นจะให้ผู้ให้บริการมือถือเป็นผู้ซับซิไดซ์ราคาเครื่องไอโฟน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเท่าไหร่
โดยคาดการณ์กันว่า จากที่ สตีป จ็อปส์ประกาศราคาผู้บริโภค 199 เหรียญ แต่ผู้ให้บริการมือถือที่จะ
ทำตลาดไอโฟนอาจจะต้องซับซิไดซ์ราคาเครื่องให้กับแอปเปิล 200-400 เหรียญ ซึ่งในสหรัฐอเมริกา 'เอทีแอนด์ที' ได้ยอมรับข้อตกลงใหม่แล้ว
โดยเอทีแอนด์ทีนอกจากมีข้อผูกมัดว่า ผู้ซื้อไอโฟน 3 จี ต้องทำสัญญาใช้บริการ 2 ปี ก็มีการปรับขึ้นค่าใช้บริการ ตั้งแต่ดาต้าแบบไม่จำกัด 30 เหรียญต่อเดือน และหากใช้งานแบบนักธุรกิจ เสียค่าบริการดาต้า 45 เหรียญต่อเดือน และค่าบริการวอยซ์เดือนละ 39.99 เหรียญ
ขณะเดียวกัน ไอโฟน 3 จี ยังถูกมองว่าจะเป็นกุญแจสำคัญของแอปเปิลในการสร้างส่วนแบ่งตลาดในเอเชียและยุโรป ที่ซึ่งมีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตมาก และไอโฟน 3 จี ยังรองรับซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับใช้งานทางธุรกิจที่แอปเปิลหวังว่าจะช่วยสร้างยอดขายในกลุ่มลูกค้าองค์กรที่แอปเปิลกำลังอ่อนแออยู่ หรือแม้แต่สามารถแย่งแชร์จากแบล็กเบอร์รี่ หรือโนเกียได้
นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังมองว่า ไอโฟน 3 จี จะเป็นตัวกระตุ้นสงครามตลาดโทรศัพท์มือถือให้เข้มข้นขึ้น โดยนักวิเคราะห์จากบริษัท 'คาแนคคอต อดัมส์' ระบุว่า ตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ จะได้รับความกดดันอย่างหนักจากไอโฟน 3 จี โดยผู้ผลิตมือถืออย่างโนเกีย โมโตโรล่า อาจจะกลายเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากกรณีนี้
ขณะที่รายงานจากบริษัทวิจัยไอดีซีระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ทั้งโมโตโรล่า ปาล์ม และเอชทีซี ต่างมีส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบมาจากไอโฟน ขณะที่โนเกียกำลังพยายามจะสร้างกระแสการใช้สินค้า โดยการเสนอรุ่นเอ็น ซีรีส์ สู่ตลาดในระดับระดับกลางถึงบนมากขึ้น
ข้อมูลจาก http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=1235&catid=1
จากคุณ :
kobu
- [
14 มิ.ย. 51 07:13:38
]