CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ข่าว "CATขอซื้อโครงข่ายฮัทช์6พันล.พร้อมลุยเอง" มีผลต่อการเปิดเบอร์ Hutch ใหม่ของท่านหรือไม่

      มีผล เพราะยังไม่แน่ใจว่า Hutch จะได้ทำต่อหรือไม่ (4 คน)
      ไม่มีผล เพราะคิดว่ายังไง Hutch ก็ได้ทำต่อแน่นอน (8 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 12 คน

     33.33%
     66.67%


    ลองถามๆดูครับ

    เจรจาฮัทช์ทำตลาดซีดีเอ็มเอทั่วประเทศล้ม บอร์ดมีมติเปลี่ยนรูปแบบเจรจาใหม่ให้ CAT ทำเองทั้งหมด ส่งฝ่ายบริหารเจรจาซื้อโครงข่ายจาก บีเอฟเคที 6,000 ล้านกับฮัทช์ฮ่องกง เสนอผลเจรจา 27 ส.ค.นี้ เผยเป็นเพราะฮัทช์ไม่มีนโยบายพัฒนาซีดีเอ็มเอทั้งที่CATหมายมั่นปั้นมือพัฒนาเทียบชั้น 3G ขณะที่ CAT ได้ฤกษ์ดีปรับภาพลักษณ์ใหม่ ตั้งเป้าหมายครองใจลูกค้าอยู่หมัด สร้างแบรนด์ “CAT” ติดตลาด
         
          พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกคณะกรรมการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 51 มีมติให้ กสท เจรจาซื้อโครงข่ายจากบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด ในราคา 6,000 ล้านบาท โดยได้มอบหมายให้ ฝ่ายบริหารนำเรื่องนี้ไปเจรจากับบริษัท ฮัทชิสัน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน บีเอฟเคที และนำเสนอผลการเจรจาอีกครั้งในวันที่ 27 ส.ค. 51
         
          นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ประธานคณะกรรมการ CAT กล่าวว่าขณะนี้ได้ยกเลิกแนวทางการเจรจาให้ บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวเลส มัลติมีเดีย จำกัด ให้ทำการตลาด CDMA ทั่วประเทศ เนื่องจาก ฮัทช์ไม่มีนโยบาย และจุดมุ่งหมายพัฒนาเทคโนโลยี CDMA ไปมากกว่าปัจจุบัน ซึ่งสวนทางกับนโยบายของ CAT ที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยี CDMA ให้เทียบเท่ากับ 3G
         
          “แนวทางการเจรจาให้ฮัทช์เป็นผู้ทำการตลาด CDMA ทั่วประเทศตอนนี้เป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะแนวความคิดของเราสวนทางกัน CAT  มีเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยี CDMA ให้ดีที่สุดเพราะเล็งเห็นศักยภาพของเทคโนโลยี แต่ฮัทช์กลับไม่ต้องการพัฒนา CDMA อีก”นายสถิตย์ กล่าว
         
          อย่างไรก็ดีหลังจากนี้แนวทางการเจรจาจะเป็นCAT จะเจรจาของ ซื้อฮัทช์ 25 จังหวัดมารวมกับ ซีดีเอ็มเอ 51 จังหวัด และ CAT จะเป็นผู้ทำการตลาดทั่วประเทศเอง ซึ่ง CAT มั่นใจว่าจะมีศักยภาพพอสำหรับการทำการตลาดด้วยตัวเอง  โดยฮัทช์จะหมดสัญญาทำการตลาด 25 จังหวัดในปี 2558
         
          นายสถิตย์ กล่าวต่อว่า CAT ได้ก่อตั้งขึ้นในนาม การสื่อสารแห่งประเทศไทย และเมื่อวันที่ 14 ส.ค.2546 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น CAT โทรคมนาคม และวันนี้ 14 ส.ค 2551 จึงได้ทำการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ เป็น CAT โดยเน้นตัวหนังสือสีส้ม-เทา เพื่อแสดงถึงพลัง สะท้อนให้เห็นถึงการนำเสนอ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้านึกถึงและเลือกใช้บริการเป็นรายแรก บริษัทใช้งบ 7 ล้านบาท โดยการออกแบบของ บริษัท แบรนด์สเคป จำกัด เพื่อออกแบบโลโก้ ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นป้ายชื่อพนักงาน หัวนามบัตร หน้าซองจดหมายของบริษัท และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
         
          ภาพลักษณ์ใหม่ จะเป็นการกระตุ้นเตือนให้ กสท หันมายึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการประกอบธุรกิจ การนำเสนอต้องสอดคล้องกับสัญลักษณ์ ซึ่งการเปลี่ยนชื่ออย่างเดียวไม่สำคัญเท่ากับการเปลี่ยนวิธีคิด และจะเน้นพัฒนาพนักงานภายใน CAT เอง เพื่อการบริการที่ดีกว่าเดิม ให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก และยังสามารถดึงลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการด้วย
         
          นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท โทรคมนาคม เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ครั้งนี้ ซึ่งจะเน้นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ปรับองค์กร รวมถึงการเปลี่ยนวัฒนธรรมภายในองค์กร ซึ่งสีจะอธิบายถึงความทระนง แต่จะเน้นในเรื่องของความดีและความถูกต้อง ซึ่งตรงจุดนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าการตลาดของ CAT ได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง CAT ได้มีการเจรจากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวงเพื่อเตรียมหาพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจ  คาดว่าอีกไม่นานจะมีการร่วมมือกันเพื่อขยายเครือข่ายการบริการให้มากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งจะมีการร่วมมือกับการประปาและพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเป็นการช่วยพัฒนาไอซีทีให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
         
          นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงเน้นรักษาธุรกิจเดิมที่มีอยู่ เช่น โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมธุรกิจใหม่ ซึ่งตรงจุดนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชัดเจนของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. เนื่องจากขณะนี้มีผู้ที่ได้รับใบอนุญาตในการให้บริการด้านการสื่อสารเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงมาก สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ต่อยอดทางธุรกิจคือการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายรายได้ให้กับองค์กร
         
          ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ดีขึ้นหรืออาจทะลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยผลประกอบการตั้งแต่ม.ค.-มิ.ย.51 มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท คาดว่าสิ้นปีรายได้รวมอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซีดีเอ็มเอ ที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับสมาคมเคเบิลทีวี ที่มีผู้ใช้บริการทั่วประเทศหลายล้านราย ซึ่งจุดนี้จะเป็นตัวช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
         
          ด้านนายมารุต บูรณะเศรษฐกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานธุรกิจการตลาด กสท กล่าวว่า เราได้ศึกษาถึงความต้องการของลูกค้า รวมถึงหน่วยงานหรือพันธมิตรที่เราร่วมลงทุน ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นกลยุทธ์ที่จะสามารถตอบสนองให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ซึ่งวันนี้ถือว่าประกาศศักยภาพที่เท่ากับเอกชน วันนี้ CAT สามารถยืนแถวหน้าได้ สีสัน เอกลักษณ์และโลโก้ ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่พนักงานจะเป็นจุดหลอมรวมจุดยืนขององค์กร
         
          ทั้งนี้ CAT จะใช้งบการลงทุนทั้งลิ้น  80 ล้านบาทแยกเป็น 2 เฟต คือ เฟตแรกจะดำเนินงานจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ใช้งบ 20 ล้านบาท และกลางปีหน้าใช้งบประมาณอีก 60 ล้านบาท ในการเสริมสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการโดยการขยายการใช้บริการใน 3 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจบรอดแบนด์ และธุรกิจการหลอมรวมเทคโนโลยี เช่น ไอพี ทีวี มัลติมีเดีย อินเตอร์เน็ตทีวี เป็นต้น ซึ่งเดือนตุลาคมนี้ CAT จะทำการประชาสัมพันธ์องค์กรตามสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆโดยใช้งบเบื้องต้น 16 ล้านบาท นอกจากนี้จะมีการอบรมพนักงานและติดตามวัดผล นอกจากนี้ยังมีงบประมาณสำหรับการปรับปรุงศูนย์บริการจำนวน 240 ล้านบาท โดยในปีนี้จะปรับปรุงจำนวน 8 สาขา ปีหน้า 60 สาขา และครบทุก 120 แห่งในปี 2553

    http://www.manager.co.th/Telecom/ViewNews.aspx?NewsID=9510000096252

    แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 51 09:38:53

    จากคุณ : HSOPA - [ 18 ส.ค. 51 09:38:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com