จากถ้อยแถลงของคุณธนาเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิในการเลือกตั้งของผู้ที่ไม่จบปริญญาตรี
สร้างความเจ็บปวดให้กับผมซึ่งกำลังเรียนอยู่ในระดับปริญญาตรียิ่งนัก รวมไปถึงบรรดาเหล่าญาติๆ
และผู้คนทั้งหลายที่ล้วนแต่ประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่ได้มีวุฒิทางการศึกษา แต่มี
วุฒิภาวะทางความคิดที่มากพอ แต่กลับไม่มีสิทธิในการเลือกตั้ง
ความรู้ของคนไม่ได้เป็นสิ่งชี้วัดวุฒิภาวะทางสังคมอย่างที่คุณธนาอาจจะเข้าใจ
ไม่อย่างนั้นแล้วคนจบปริญญาตรีทุกคนคงร่ำรวย ไม่โดนหลอก
หรือไม่ตกงานกันเป็นว่าเล่นก็เป็นได้
คุณธนาครับผมเสียใจอย่างยิ่งที่ความคิดของผู้บริหารอย่างคุณได้ดูถูก(โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันอยู่ภายในลึกๆ)
กับคนกลุ่มนี้ ซึ่งหลายต่อหลายคนมั่นใจว่าน่าจะเป็นลูกค้าดีแทค และที่สำคัญ
อาจจะเลือกใช้ดีแทคด้วยวุฒิภาวะอย่างใดอย่างหนึ่ง
การนำเสนอความคิดนี้ออกในที่สาธารณะจากบุคคลผู้กำหนดนโยบายองค์กร
จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง แม้จะไม่ได้พูดดูถูกแต่ก็เป็นการดูแคลน
การที่กลุ่มคนที่จบปริญญาตรีซึ่งอาจจะไม่ได้มีมากมายนักในประเทศไทยเมื่อเทียบกับรากหญ้าจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของคนอื่นๆ
ทั้งประเทศ โดยที่พวกเขามีเพียงสิทธิในการอาศัย
แต่ไม่มีสิทธิในการกำหนดควบคุมหรือเลือกผู้แทนของตัวเอง
ถ้าอย่างนั้นจะเรียก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างไร
หรือคนเหล่านั้นไม่ใช่ราษฎร เป็นทาส ทาสี ที่ไม่มีสิทธิเสียงอะไรเลยงั้นหรือ
แล้วมันคือประชาธิปไตยตรงไหน
ถ้ามันไม่ใช่การปกครองที่เลือกตัวแทนโดยคนประชาชน หรือ เราไม่ใช่ประชาชน
ในขณะที่คนหลายคนอ้างว่าเป็นผู้ทำงานเสียภาษี ในขณะที่หลายต่อหลายคน มีรายได้ไม่ถึงขั้นเสียภาษี
คนเสียภาษีก็คิดจะลิดรอนเอาสิทธิหาว่าเราไม่ได้เสียเงินเช่าประเทศอยู่... แล้วในขณะที่หมายเลขโทรศัพท์ของผมถูกกำกับค่าโทรศัพท์ไว้ว่า
"ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม" งั้นเงินจำนวนนี้ของผมไปอยู่ที่ใด ไม่ใช่ภาษีที่ผมต้องจ่ายงั้นหรือ
แล้วข้าวของเครื่องใช้ที่ผมต้องซื้อต้องจ่าย ไม่มีภาษีหรอกหรือ หรือมันเป็นเพียงข้อความโก้เก๋ไว้เฉยๆ จริงๆ แล้วพวกเรามิได้เสียภาษีหรือไร
สำหรับการขอโทษขอโพยจากคุณธนานั้น มันไม่สามารถลบความเจ็บปวดในใจของผมออกไปได้เลยแม้แต่น้อย
เพราะแม้แต่คำชี้แจงหลังบทสัมภาษณ์ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผมเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
การโยนหินถามทางแบบนี้ แล้วบอกว่าคุณเองก็เจ็บจากการโยนหินนี้ไปไม่น้อย
เพราะหินก้อนที่คุณโยนออกไปทั้งสองก้อนนั้นมันดันระเบิดออกไปกระทบกับบุคคลหลายต่อหลายคน เขาก็โยนหินกลับมาหาคุณบ้างจะเป็นไร
ผมเองก็ขอโยนกลับมาบ้าง เพราะแน่นอนว่าที่บ้านผมทั้งบ้านก็คงจะเจ็บปวดไม่แพ้กัน
ในฐานะตัวแทนนักศึกษาที่เกือบจะมีวุฒิภาวะพอจะได้เลือกตั้งกับเขาบ้าง
ผมยินดีรับคำขอโทษจากคุณธนา และไม่ถือโทษโกรธกันอีก ถือเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากคนที่คุณดูถูก
ผมเป็นลูกค้าจดทะเบียนของทางดีแทคได้ไม่นาน แต่ก่อนหน้านั้นก็ใช้แฮปปี้มาตลอด
ยอดใช้ของผมอาจจะไม่มากมายนักเพราะยังเป็นนักศึกษาไม่ได้ทำธุรกิจอะไร
แต่ชื่นชมในความเป็นกันเองของทางดีแทคที่แก้ปัญหาต่างๆ ให้กับผมได้รวดเร็วเสมอ
ผมยังคงจะสนับสนุนดีแทคต่อไป แต่แค่อยากให้คุณธนาได้รู้เอาไว้ว่ายังมีน้ำใจเล็กๆ จากกลุ่มคนที่คุณดูถูกไปแล้วไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ปัจฉิมลิขิต จดหมายฉบับนี้เขียนหลังจากคำขอโทษครั้งที่สองจากคุณธนา
และยังยืนยันที่จะประกาศ จดหมายฉบับนี้เพื่อเป็นการเตือนใจถึงบุคคลอื่นๆ ที่คิดจะลิดรอนสิทธิของผมและครอบครัว
จากคุณ :
กระต๊อบน้อย
- [
10 ก.ย. 51 01:27:54
]