อ่านมาหลายกระทู้แล้วนะครับเรื่องการซื้อ iPhone ที่อเมริกา เช่นมีเพื่อนจะมาเมกาจะฝากเค้าซื้อกลับไป หรือไม่ก็มีเพื่อนกำลังจะกลับมาเมืองไทยจะฝากเค้าซื้อ iPhone กลับมา
อยากจะบอกว่าซื้อมือถือที่อเมริกา (ไม่ได้เฉพาะ iPhone) ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ
ก่อนอื่นเลยการจะได้เครื่องในราคาถูกหรือในราคาที่เค้า subsidized แล้วนะ จะต้องเซ็นสัญญากับทาง operator (อย่างของ iPhone ก็คือ AT&T) เป็นเวลา 2 ปี
แต่การจะเซ็นแล้วได้ในราคานั้น เค้าก็จะต้องเช็คเครดิตก่อนด้วยว่ามีเครดิตดีหรือเปล่า ไม่ใช่ใครๆก็ซื้่อได้ อย่างเพื่อนผมทำงานถูกกฏหมายอยู่ที่นี่ กำลังจะกลับเมืองไทย กะว่าจะไปซื้อ iPhone สักหน่อย ปรากฏว่า AT&T เช็คเครดิตแล้วไม่ได้ดีมาก เลยบอกว่าจะต้องเสียค่ามัดจำก่อน $500
หลังจากเซ็นสัญญาได้เครื่องมาอยู่ในการครอบครองแล้ว จะต้องใช้บริการกับทาง operator ไปอย่างน้อย 1 เดือน จึงจะสามารถยกเลิกสัญญาได้ แต่ถ้าใช้ไม่ถึง 1 เดือนก็ต้องคืนเครื่องให้กับทาง operator ซึ่งค่าใช้บริการขั้นต่ำของ iPhone นั้นตกประมาณ $80 ($39.99+data plan $30 + tax&fee)
หลังจากใช้บริการไปเกิน 1 เดือนแล้วจึงจะสามารถไปยกเลิกสัญญาได้ โดยจะต้องเสียค่ายกเลิกสัญญา หรือที่เรียกว่า Early Termination Fee (ETF) โดยของ AT&T จะเสียอยู่ที่ $175 แต่จะลดลงเดือนละ $5 ที่อยู่ในสัญญา
แถมเครื่องที่ซื้อจาก AT&T ก็จะเป็นเครื่อง locked อยู่ด้วย
ถ้าใครที่คิดจะฝากคนซื้อมาจากอเมริกา ลองคิดดูใหม่นะครับ ยิ่งถ้าเพื่อนแค่มาเที่ยวนี่ไม่มีสิทธิ์เลย อยู่ไม่ถึง 1 เดือนแถมไม่มีเครดิตอีกต่างหาก
ยกเว้นอย่างเดียวว่าจะไปยอมซื้อเครื่องเปล่าในราคา $499/$599/$699 แทนนะครับ แต่ก็ยัง locked ให้ใช้กับซิมของ AT&T อยู่ดี
ดังนั้นขั้นตอนขบวนการทั้งหมด มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แถมอาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับเพื่อนเปล่าๆนะครับ
จากคุณ :
xonez
- [
25 มิ.ย. 52 04:13:41
]