Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขอเล่าประสบการณ์ตรงที่เจอกับพวกมิจฉาชีพ และขออนุญาตใช้พื้นที่ขอบคุณคนใจดีค่ะ  

ก่อนอื่นขออนุญาตเล่าเหตุการณ์ที่ได้เจอกับตัวเองก่อนนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ หลายๆ คนได้ค่ะ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เราได้ไปออกบูธขายสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแถวรังสิตค่ะ
แล้วก็ตามคาด คือวันจันทร์ด้วยแล้วยิ่งเป็นช่วงกลางเดือนด้วย คนก็เลยน้อยไม่คึกคัก
พ่อค้าแม่ค้านั่งเล่นเกมบ้าง ดูดีวีดีบ้าง ส่วนเราก็เอาเน็ตบุคไปต่ออินเตอร์เน็ตคุยกับเพื่อนแก้เหงา

สักพัก ก็มีคุณป้าคนหนึ่งค่ะ อายุประมาณ 40 อัพ ทำท่าว่าสนใจสินค้าของเรา ก็เข้ามาสอบถาม
อ้างว่ากำลังจะเปิดร้านจิลเวอรี่ และอยากได้สินค้าของเราไปตกแต่งร้าน อยากซื้อเหมาจะได้ราคาเท่าไร
ก็ตกลงราคากันเรียบร้อย ทีนี้ก็ถึงข้ออ้างข้อต่อไป อ้างว่าต้องรอสามีซึ่งไปรับลูกที่โรงเรียน
เพราะจะให้สามีมาช่วยดูด้วย ว่าต้องการสินค้าอะไรในร้านเราอีกหรือเปล่า แล้วก็เข้ามานั่งรอในบูธของเราค่ะ

(หมายเหตุ ปกติทางห้างจะแจกใบปลิวเตือนผู้ออกบูธเกี่ยวกับพฤติกรรมของมิจฉาชีพ
แต่พอดีเราเป็นบูธเสียบ คือเข้าระหว่างงาน เลยไม่ได้รับใบปลิวค่ะ)

ระหว่างนั้น มัน (ขออนุญาตใช้มันค่ะ แอ๊บเรียกคุณป้าต่อไปไม่ไหวแล้ว -"-) ก็เดินไปเดินมาบ้าง
มานั่งพักที่บูธของเราบ้าง ตลอดเวลาที่เดินไปที่อื่นมันจะทิ้งกระเป๋าถือไว้ที่บูธเราตลอด คงเพื่อจะทำให้เราไว้ใจ
ซึ่ง ณ ขณะนั้น บอกตรงๆ ว่าเราไม่ได้เอะใจเลยค่ะ ว่ามันเป็นมิจฉาชีพจริงๆ
แค่คิดในใจว่า เออ ไว้ใจคนง่ายดีนะ ทิ้งกระเป๋าไว้กับเราเนี่ย (ไม่คิดเลยว่าดาบนั้นจะคืนสนอง T^T)

มันเดินหายไปแล้วก็กลับมาพร้อมมะม่วงน้ำปลาหวานหนึ่งแพ็ค และเก้าอี้ตัวเล็กๆ มานั่งรออยู่ในพื้นที่บูธเรา
เอาบัตร OTOP มาโชว์แล้วก็คุยว่าไปออกบูธที่ฮ่องกงงั้นงี้ เอามือถือออกมาโชว์สองเครื่อง
ซึ่งเราก็ยังไม่เอะใจอีกเช่นกัน (คือ จะไม่พูดประโยคนี้แล้วแล้วกันค่ะ เพราะไม่ได้เอะใจจนจบงานนั่นแหละ T^T)
ระหว่างนั้นมันก็ชวนคุยไปเรื่อย เราก็คุยกับมันไปสลับกับแชทกับเพื่อนๆ ไป

มันนั่งตั้งแต่สี่โมงครึ่งยันหกโมงกว่าค่ะ เราก็เลยถามว่า ลูกอยู่โรงเรียนอะไร ก็ได้ความว่าอยู่เซนต์จอห์น
(อย่าคิดว่าจะฉลาดเอะใจค่ะ เปล่า แค่คิดว่ามันรอนานแล้ว อายุก็เยอะ แถมนั่งไม่สบายเดี๋ยวจะแย่
(ยิ่งเขียนยิ่งคิดว่าตัวเองโง้โง่ T^T))

ระหว่างนั้นเราไม่ได้ทิ้งบูธไปไหนค่ะ เพราะปกติ เป็นคนไม่กินข้าวกลางวันอยู่แล้ว
จะกินก็เย็นโน่นเลย พอไม่มีอะไรเข้า มันก็ไม่มีอะไรออก ก็เลยนั่งแช่อยู่ได้ทั้งวัน มันเองก็คงขัดใจเหมือนกันที่ไม่สบโอกาสซักที
แล้วพี่สาวเราก็มาสมทบตอนเกือบๆ จะทุ่มค่ะ พอพี่มาถึง เราก็เลยตัดเน็ตแล้วก็เก็บมือถือลงกระเป๋า

(ต่อไปจะเป็นช่วงเวลาโชว์โง่ของจริงแล้วนะคะ)

พอพี่สาวเรามาได้สักพัก มันก็เริ่มออกอุบายให้เราไปซื้ออะไรมากินกันค่ะ
เราก็เออ คิดว่ามันคงหิวแล้ว เพราะอย่างที่บอกค่ะ มานั่งนานมาก
ก็เลยว่าจะไปซื้ออะไรมาให้กิน มือจะคว้ากระเป๋าถือเพื่อสะพายติดไปด้วยนะคะ
(บอกก่อนว่า กระเป๋าสตางค์และมือถือทั้งสองเครื่อง อยู่ในกระเป๋าถือใบใหญ่อีกทีค่ะ)
แต่มันทำเนียนรีบผลักแขนเราออกบอกว่าไม่ต้อง พี่เลี้ยงเอง แล้วก็ยัดเงินใส่มือเรามาร้อยนึง
เราก็เลยรับมาเพราะคิดว่าซื้อมาก็ซื้อมาให้มันกินแหละค่ะ เราคงไม่กินอยู่แล้ว ก็เดินไปซื้อแล้วก็เดินกลับมา

มันยังอยู่ค่ะ คาดว่าคงยังไม่ได้ของ พอมาอีกรอบ ก็อ้างอีกว่า
เฮีย (อ้างถึงสามี) อยากกินข้าว ไปซื้อให้อีกรอบได้ไหม เราก็ไปให้ (โง่มาก)
พอกลับมาอีกรอบได้เรื่องเลยค่ะ

พอกลับมาอีกรอบ มันไม่อยู่แล้ว ถามพี่สาว พี่สาวก็ไม่รู้เพราะเป็นช่วงชุลมุนลูกค้าเข้าบูธ
(ไม่แน่ใจด้วยว่าเป็นแก๊งมันหรือเปล่านะคะ เพราะได้ยินแว่วๆ ว่ามันคุยโทรศัพท์มีการถามว่าอยู่ไหนแล้ว
แต่เราก็ดันนึกว่าถามสามีมันน่ะค่ะ)
เราเลยเอะใจ เปิดดูใต้บูธ ยิ่งเห็นว่าไม่มีกระเป๋ามันก็ยิ่งเอะใจ เลยควานหากระเป๋าตัวเองมาเปิดดู
กระเป๋าถือใบใหญ่อยู่นะคะ แต่กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือสองเครื่องหายเกลี้ยง

เรามองหน้ากับพี่สาวแป๊บเดียวแล้วก็วิ่งไปที่สถานีตำรวจ ซึ่งใกล้มากค่ะ
ระยะไม่เกินสองร้อยเมตร วิ่งเข้าไปเจอคุณลุงคนหนึ่งนั่งอยู่ ก็บอกเลยค่ะ ว่าโดนฉกของไปที่บูธขายของ


(มีต่อ)

 
 

จากคุณ : สายลมโชยเอื่อย
เขียนเมื่อ : 22 ก.ย. 52 23:29:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com