 |
5 เหตุผลที่ไม่ควรซื้อ BlackBerry จาก DTAC
|
|
5 เหตุผลที่ไม่ควรซื้อ BlackBerry จาก DTAC
1.ไม่มีศูนย์ซ่อมในไทย ถ้าเครื่องมีปัญหาต้องส่งไปเมืองนอกสถานเดียว 2.รอเครื่องซ่อมนานมาก อย่างต่ำ 45-60 วัน แล้วแต่อาการ 3.ไม่มีเครื่องให้ใช้ระหว่างซ่อม 4.โทรเข้ายากเพราะช่องสัญญาณ EDGE กับช่องสัญญาณการสื่อสารชนกันบ่อยๆ ต้องโทรหลายทีหน่อยกว่าจะติด (EDGE ชอบรั่ว) 5.พนักงานจริงใจ (เกินไป) แนะนำให้ไปซ่อมที่ตู้ข้างนอก (ohhh GOD!!!)
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนครับว่าที่จริงแล้วเครื่อง BlackBerry ก็ไม่ค่อยมีปัญหากันท่าไหร่หรอก แต่พอดีเครื่องของผมมันดั้นนนน มีปัญหาเรื่องลำโพงหน้าไม่ดังขึ้นมาซะงั้น จะคุยกับใครทีก็ต้องใช้วิธีเปิด Speaker Phone คุยเอา ลำโพงที่ใช้สนทนาปกติมันเสียหลังจากซื้อมาใช้ได้แค่ 18 วันเองครับ สงสัยจะเป็น 1 ใน 100 ละมั้ง กึ้มเลยอ่ะ แฮ่!!!
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่ากับปัญหาที่ผมไม่ค่อยจะประทับใจเท่าไหร่ของศูนย์ DTAC (ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมชอบบริการเค้ามากนะ) คือว่าพอผมพบว่าชีวิตเริ่มจะมีปัญหากับ BB เจ้ากรรม ผมก็โทรหา DTAC 1678 ทันที บอกว่าอยากจะเอาเครื่องไปให้เค้าซ่อมให้ ทาง Call Center ก็บอกให้เอาเข้าไปได้เลยที่ศูนย์จามจุรีแสควร์ แต่ต้องเข้าไปพร้อมกับใบรับประกันนะซึ่งของผมหายไปแล้ว ก็เลยถามว่าหายแล้วทำไงอ่ะ เจ้าหน้าที่ก็บอกไม่ได้ต้องหาให้เจอ ผมก้องงว่าเค้าไม่มี Record เก็บไว้ให้หรอไงว้า 555 แต่มันก็ความผิดผมเองแหละโทษเค้าไม่ได้หรอก ผมก้อใช้เวลาอยู่ทั้งวันในการหาไอ้เจ้าใบรับประกันนี้ ในที่สุดก็เจอ (ถอนหายใจเฮือกใหญ่..เกือบซวยแล้วมั๊ยละตู)
เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็รีบเอาไปให้ศูนย์เลย พอยื่นเครื่องเท่านั้นแหละ เจ้าพนักงานบอกว่าโอเคจะรับเครื่องไว้ให้ ผมก็ถามว่าแล้วรอรับได้เลยมั๊ย อาการมันแค่ลำโพงเสียเองหนิเปลี่ยนให้เลยได้เป่า เค้าก็บอกว่า ทางเรามี Contract กับทางต้นทางที่เอาเครื่องมาว่าห้ามแกะเครื่องออก ห้ามรื้อ ห้ามทำไรเอง จะต้องส่งกลับไปให้ศูนย์ ให้ที่นั่นเค้าเช็คให้ ซึ่งต้นทางที่ว่านี่ก็คือต่างประเทศอันไกลโพ้นทะเล ประเทศไรบอกไม่ได้เพราะว่าเอามาจากหลายที่ เอาละสิ งานเข้าเลยตู ยังไม่ทันจะหายอึ้งทึ่งเสียว พนักงานก็บอกต่อว่า ต้องรอเครื่องซ่อมประมาณ 45-60 วันนะจ๊ะ \(T^T)/ อารายกานฟะเนี่ยยยยยย ได้ใช้เครื่องมาแค่ 18 วัน (ยังไม่ทันจะใช้เป็นเล้ยยย) ต้องมารอเครื่องซ่อมอีก 2 เดือน บรรยากาศตอนนั้นเหมือนยืนอยู่ในทุ่งกว้าง ลมพัดผ่านมาวูบนึง พร้อมใบไม้ซัก 2-3 ใบ (จินตนาการให้เป็นภาพสีซีเปียด้วยนะ) ฟิ้วววววว....
เอาละทำไงได้ ผมก็บอกเค้าไปว่า ก็ต้องตามนั้นแหละ ผมพลาดไปแล้วหนิ อยากใช้ของไฮเทคก็ต้องทำใจเรื่องซ่อมด้วย ก้อเลยขอเครื่องสำรองจะเอามาใช้แทน ปรากฎว่ายังมีเรื่องให้ต้องอึ้งกันต่อ ต้องขออภัยครับ ทางเราไม่มีเครื่องให้ใช้งานระหว่างซ่อมนะครับ ท่านลูกค้าจะต้องจัดหาเครื่องมาเองครับ แล้วตูจะไปหาเครื่องที่ไหนมาละทีนี้ ต้องซื้อจากมันใหม่อีกมั๊ยๆๆๆๆๆ (เสียง Echo วังเวงแบบค่อยๆเบาลง) แล้วเรื่องบริการรายเดือน ที่เดือนละ 650 บาทล่ะยกเลิกไปก่อนได้มั๊ยผมถาม ไม่ได้ครับเพราะเครื่องของคุณเป็น promotion ใช้ฟรีเดือนแรก เดือนที่สองต้องสมัคร Package 650 บาท เลยสามารถซื้อเครื่องได้ถูกลง 1,xxx บาท (ผมจำราคาที่แน่นอนไม่ได้) ในตอนที่ซื้อ อ้าวเวรซะแล้วเครื่องไม่มีให้ใช้แถมยังต้องจ่ายมันอีก 650 บาทต่อเดือนไปฟรีๆ for nothing. แต่ตอนหลังมีเจ้าหน้าที่อีกคนมาบอกว่าสามรถยกเลิกได้ค่ะ เป็นพนักงานผู้หญิงอีกท่าน ก็ค่อยโล่งใจไปได้หน่อย (หน่อยเดียว) แต่ที่ผมต้องการจะสื่อคือ ทำไมเจ้าหน้าที่เค้าไม่ฝึกมาให้มีข้อมูลที่ดีที่แน่นกว่านี้หน่อยนะ งงจิงๆ
ผมก็บอกเจ้าหน้าที่ไปว่า ซ่อมเร็วกว่านี้ไม่ได้หรอ ผมมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมาก รอไม่ไหวหรอก นานขนาดนั้นอ่ะ พนักงานคนเดิมบอก เอาไปซ่อมตู้ข้างนอกตามห้างก็ได้ครับ รอรับได้เลย เออความคิดดี แล้วค่าใช้จ่ายในการซ่อมล่ะ ผมต้องออกเองใช่มั๊ย ใช่ครับ ตอบแบบหน้าชื่นตาบานเหมือนกับผมได้ยินแล้วจะดีใจ เหมือนการช่วยเหลือของพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ได้บรรลุโดยได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าแล้ว T^T เอาล่ะซ่อมเองก็ได้ฟะ มันจะซักกี่ตังค์กันเชียว อะโด่ ผมก็โทรไปถามร้านโทรศัพท์ที่ประกาศใน thaibbclub.com ปรากฎว่าลำโพงหน้าเสียเป็นกันหลายคนครับ (บางคนเป็นลำโพงหลัง) ค่าซ่อมเปลี่ยนลำโพงรวมแล้ว 900 บาท รอรับได้เลย มีของเลยด้วยเหอะ แหมดีจริงๆ แต่หลังจากนั้นก็มีเสียงพนักงานดังมาอีกระลอกหนึ่งว่า แต่ถ้าพี่แกะเครื่อง การรับประกันจะหมดอายุลงในทันทีนะครับ อ้าวเวร แล้วมาแนะนำให้ตูเอาไปซ่อมข้างนอกทำไมเนี่ย ตังค์ก็ต้องเสียเองแล้วยังจะต้องหมดประกันกับทาง DTAC อีก ตอนนี้มีคำถามผุดขึ้นมาในหัวผมอัตโนมัติ แล้วตูจะซื้อเครื่องศูนย์จาก DTAC มาทำเหมียวทำไมเนี่ย เครื่องแพงกว่าตู้ 3,xxx -4,xxx บาท แล้วยังต้องเอามาซ่อมเองเสียตังค์เอง เหมือนไม่มีประกันอีก สรุปคือ ก็ผมดันรอไม่ได้เองใช่มั๊ย กับการซ่อมแค่ 45-60 วันเอง (แล้วแต่อาการด้วยนะ ถ้าเป็นมาก อาจนานกว่านี้) ซึ่งทาง DTAC เค้าก็ offer จะซ่อมให้ฟรีอยู่แล้วแท้ๆ แหม
ที่ผมซื้อเครื่อง BB นี้มาจาก DTAC ก็เพราะความไม่รู้ว่ามันไม่มีศูนย์ซ่อมนะเนี่ย แล้วก็อยากได้ความอุ่นใจ ถ้ารู้อย่างงี้ไม่ซื้อแน่ๆ อุตส่าทุบกระปุกหมูเอาเงินมาซื้อ 555 แพงกว่าข้างนอกตั้งเยอะแยะเหอะ หลังจากคิดไปคิดมาซักครึ่งวัน ผมก็ติดต่อไปที่ Call Center อีกทีเพื่อจะขอเปลี่ยนเครื่องใหม่เลยไม่ซ่งไม่ซ่อมมันและ ยังไงผมก็ยืนยันที่จะเปลี่ยนให้ได้ แต่ทางศูนย์บอกว่าเครื่องใช้เกิน 7 วันแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ผมก็ถามว่าจะร้องเรียนได้ยังไงมั่ง เค้าก็บอกไม่มีทางเพราะตามหลักการณ์แล้วเครื่องมันเกินกำหนดไปแล้ว เจ้าหน้าที่ก็มาอ้างหลักเกณฑ์หลักการณ์กับผมตลอด ไม่เข้าใจมั่งเลยว่าผมรู้อยู่แล้ววววว แต่อยากจะร้องเรียนเท่านั้นเอง สรุปก็คือผมต้องทำใจอย่างเดียวเท่านั้นครับ ห้ามคิดอย่างอื่นเด๋วน้ำตาลจะขึ้น T^T รับสภาพไป เข้าใจมั๊ย
ใครที่กำลังจะซื้อเครื่อง BlackBerry จาก DTAC ระวังให้ดีนะครับ เด๋วจะโดนอย่างผม ชีช้ำกะหล่ำปลีมั่กๆๆ อุตส่าเป็นลูกค้า DTAC มา 15 ปีไม่เคยเปลี่ยนใจเปลี่ยนเบอร์เลย ใช้บริการตั้งแต่ยังเป็น World Phone 1800 จนมาเป็น TAC จน DTAC อย่างทุกวันนี้ แล้วยังมาทำกับผมด้ายยยยยย ผมว่าตอนนี้อาจจะยังบริการไม่ดีเพราะของมันใหม่มาก คงต้องรออีกซัก 1-2 ปีกว่าจะเข้าที่เข้าทางและมีศูนย์ซ่อมเป็นของตัวเองซะก่อน ถึงตอนนั้นแล้วค่อยซื้อเครื่องศูนย์เพื่อความอุ่นใจ ไม่ใช่ซื้อมาแล้วจ่ายแพงกว่าแล้วยังต้องมานั่งกลุ้มใจอย่างงี้
ถึงตอนนี้เครื่องผมก็ยังไม่ได้ซ่อมนะ เพราะผมกลัวว่ามันจะไม่ได้เป็นลำโพงอย่างเดียวอะสิ ถ้าเกิดเป็นที่ Main Board ด้วยล่ะ ถ้าเกิดข้างนอกซ่อมแล้วไม่หาย จะทำยังไง เครื่องก็ต้องหมดประกันไปแล้วด้วยถ้าแกะ ตอนนี้เลยต้องเปิด Speaker ตอนคุยกับคนที่โทรเข้ามาตลอด ความล้งความลับนี่พูดไม่ได้เล้ยยย เด๋วคนอื่นได้ยิน กิ๊กกั๊กหดหาย 555 (พูดเล่น) ทำไมชีวิตมันลำบากอย่างนี้นะ เฮ้อออออออ นี่แหละเหตุผลที่ ทำไม? ต้องไม่ BlackBerry จาก DTAC
The END.
จากคุณ |
:
60mania
|
เขียนเมื่อ |
:
22 เม.ย. 53 23:14:41
|
|
|
|  |