พา GM730 อาการตกน้ำ ไปซ่อมที่ศูนย์ LG ตึกริชมอนด์
|
|
ขอโพสท์เล่าไว้ที่นี่อีกที่นะครับ
.....เหตุจากเมื่อเย็นวันก่อน (18 พค) ลืม GM730 ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วนำกางเกงไปซักกว่าจะนึกขึ้นได้น้ำท่วมจอ ดับสนิท เซ็งตัวเองอย่างแรง
หลังจากนั้นพยายามทำทุกอย่างเท่าที่เคยรู้ว่าควรทำอย่างไรกับเครื่องที่ตกน้ำ จนคิดว่าเครื่องแห้งดีแล้ว รวมทั้งไขน็อตแกะฝาหลังเพื่อซับน้ำและเป่าลม
ที่กล้าไขน็อตแกะฝาหลังเพราะคิดว่ายังไงซะเครื่องตกน้ำก็หมดประกันไปโดยปริยายอยู่แล้ว กะว่ารอสถานการณ์สงบ ศูนย์เปิดบริการก็จะเอาเข้าไปซ่อม
ระหว่างรอวันก็เลยทดสอบเองซะก่อนด้วยการใส่แบตและลองเปิดเครื่องแต่ไม่ติด ก็ลองชาร์จดูเครื่องมีตอบสนองหน้าจอแสดงสัญลักษณ์กำลังชาร์จ
แต่ไม่กี่วินาทีก็เปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ชาร์จแบตเตอรีเต็มแล้ว ลองเปิดเครื่องดูก็ขึ้นได้แค่หน้า logo LG กับหน้าที่กำลังจะ boot เข้าวินโดวส์
แล้วเครื่องก็ดับกลับมาแสดงสัญลักษณ์กำลังชาร์จและเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ชาร์จแบตเตอรีเต็มแล้ว วนไปวนมาอยู่หลายรอบ
จากอาการผมประมาณเอาเองว่า แบตเตอรี่คงลัดวงจรและเสื่อมสภาพไปแล้วคงต้องเปลี่ยน ส่วนรายการถัดมาน่าจะเป็นหน้าจอเพราะเกิดคราบน้ำข้างใน
ส่วนอื่น ๆ ผมก็คิดว่ารอให้ช่างที่ศูนย์ LG เช็คให้ว่าต้องซ่อมต้องเปลี่ยนอะไหล่เพื่อให้เครื่องกลับมาใช้งานได้
.....สาย ๆ วันศุกร์ (21 พค) คิดว่าเหตุการณ์คงสงบไม่มีอะไรแล้ว โทรเช็คกับศูนย์บริการที่ตากสินว่าเปิดให้บริการตามปกติ รวมถึงสอบถามเส้นทางด้วย
แต่คิดไปคิดมาถ้าเดินทางจากบ้านผมแถวสำโรงไปที่ศูนย์บริการตึกริชมอนด์ น่าจะสะดวกกว่า ก็เลยตัดสินใจไปที่ตึกริชมอนด์แทน
ไปถึงก็ติดต่อเคาน์เตอร์ออกใบงานแล้วได้พบกับช่างที่รับงาน ผมก็แจ้งรายละเอียดตามข้างต้นไปก่อน
ซึ่งช่างเขาก็เช็คให้และบอกว่าเครื่องที่ตกน้ำมาส่วนใหญ่พอซ่อมแล้วมักจะรวนแก้ไม่หาย เขาไม่แน่ใจว่าซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่แล้วจะใช้ได้เหมือนเดิม
มันมีปัญหาและอาการอื่น ๆ ตามมาเรื่อย ๆ ไม่เหมือนเครื่องปกติที่ไม่เคยตกน้ำ (ช่างเขาพูดซ้ำ ย้ำเรื่องนี้อยู่เรื่อย ๆ)
แต่เท่าที่ดูบนบอร์ดของเครื่องผม ช่างบอกว่ายังไม่มีคราบที่ทำให้เกิดปัญหาหรือรอยไหม้จากการลัดวงจร
และลองเสียบสาย Power supply แทนการใช้แบต เครื่องก็เปิดติดเข้าวินโดวส์ได้จนขึ้นหน้าจอปกติพร้อมใช้
ส่วนอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนแน่ ๆ เท่าที่ช่างเขาดูคือจอเพราะมีคราบน้ำอยู่ข้างใน และ แบตเตอรี่ ตามอาการที่ผมแจ้ง
ผมก็เลยให้เขาเช็คราคาทั้งจอและแบตเตอรี่รวมค่าแรงเป็นเงิน 1860 บาท ผมก็ตกลงเปลี่ยน เพราะคิดว่ายังไงก็เก็บไว้เป็นเครื่องสำรองได้
จากนั้นก็นั่งดูช่างเขาถอดเครื่อง ค่อย ๆ แกะไปเรื่อยเพื่อจะเปลี่ยนจอ บางทีผมก็หันไปดูโทรทัศน์บ้าง เพราะกลัวว่าเหมือนไปนั่งกดดันเขา
แล้วเขาก็พลาดงัดขอบตรงบอดี้ที่เป็นสีเงินเป็นรอยเผยอออกมา เขาหันขึ้นมามองแต่ผมก็แกล้งทำเป็นหันไปทางอื่น เพราะอยากรู้ว่าเขาจะว่ายังไง
แต่เงียบ เขาก็แกะเครื่องต่อไป แต่ในใจผมก็ไม่ปลื้มแล้วละ คิดว่าคงได้แผลนั้นกลับบ้านไปด้วยคงไม่เปลี่ยนบอดี้ให้
จนเปลี่ยนจอเสร็จ ช่างเขาก็ลองปิดเปิดเครื่อง ลองเข้าเมนู ลองหน้าจอ ลองโทรเข้าโทรออก เสร็จแล้วส่งมาให้ผมลอง (ยังพูดย้ำเรื่องเครื่องรวนที่เขาไม่อาจจะรับประกันได้)
ผมลองเล่น ลองเช็ค มีปัญหาตรง ปุ่มสัมผัส โทรออก กับ วางสาย มันใช้ไม่ได้มันไม่ตอบสนอง กดแล้วมัน
ปุ่มโทรออก กดแล้ว KeyPad ไม่ขึ้น ใช้กดโทรออกไม่ได้ ต้องเข้าที่เมนู เพื่อเรียกการใช้งานโทรศัพท์
ปุ่มวางสาย กดแล้วไม่ตัดสาย กดแล้วไม่กลับมาหน้า Home ถ้าอยู่หน้าโปรแกรมใด ๆ ช่างก็บอกมาอย่างเดิมว่าเครื่องมันรวนจากการตกน้ำแก้ไม่หาย
ผมก็ได้แต่เซ็งในใจ ทั้งรอยที่บอดี้ เสียเงินเปลี่ยนจอ แต่ปุ่มสำคัญที่ใช้บ่อยกลับยังใช้งานไม่ได้
พอออกมาจากศูนย์บริการก็เลยโทรคุยปน ๆ บ่น กับน้องคนนึงที่เคยเข้าศูนย์ซ่อม น้องเขาก็บอกว่าให้ลองกลับไปถามช่างดูว่าเปลี่ยนอะไหล่ตัวอื่นมันจะแก้ได้หรือเปล่า
เพราะไหน ๆ ก็มาแล้วทำให้เสร็จ ๆ จบ ๆ ไปเลยทีเดียว ผมก็เลยย้อนกลับไปอีกรอบ ช่างเขาก็แนะนำว่าคงต้องเปลี่ยน ทัชสกรีน ประมาณ 900กว่าบาท ผมก็ตกลงเปลี่ยน
แต่ช่างเขาจะลองอัพเดทซอฟท์แวร์ (ผมอัพเป็น 6.5แล้วตั้งแต่ก่อนตกน้ำ)กับ ยืมเมนบอร์ดจากห้องอะไหล่มาลองเปลี่ยนดูก่อน ถ้าไม่หายก็คงเป็นที่ทัชสกรีน ( ถ้าทดลองตั้งแต่รอบแรกจะดีกว่ามั้ย ? )
พอลองอัพเดทซอฟท์แวร์ กับลองเปลี่ยนเมนบอร์ด ปุ่มโทรเข้า โทรออกก็ยังใช้ไม่ได้ ก็จบลงที่เปลี่ยนทัชสกรีน
ผมก็เลยบอกให้เขาเปลี่ยนกรอบบอดี้ที่เขางัดเป็นรอยด้วย เขาก็เช็คราคาให้และแจ้งว่า 400กว่าบาท แล้วเอาตัวอย่างมาให้ดู
ช่างก็เลยบอกว่าไม่ต้องเปิดใบงาน จะได้ไม่ต้องเสียค่าแรง (ชดเชยที่ทำบอดี้เป็นรอยมั้ง แต่มันก็ไม่คุ้มนะ)แต่ให้ไปจ่ายเงินค่าอะไหล่ที่ห้องอะไหล่โดยตรง (กรอบบอดี้+ทัชสกรีน1356บาท)
เปลี่ยนเสร็จช่างเขาก็ทดสอบปุ่มโทรออกใช้ได้กดแล้ว Keypad ขึ้น แต่ปุ่มวางสายใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม ผมก็เห็นเขาออกจะอึ้ง ๆ อยู่ผมก็เลยหันไปทางอื่นพักนึง
เขาก็ยังลอง ๆ กด ๆ ดูอยู่ พอผมหันกลับมาเขาก็ส่งเครื่องให้ผมบอกว่าเรียบร้อย ผมก็รับเครื่องกลับมาโดยไม่อยากจะพูดอะไร เพราะสุดจะเซ็ง
ก็เลยมานั่งพิมพ์ให้คนที่ใช้ LG ในนี้อ่านครับ
บอกได้แค่ว่า เครื่องตกน้ำก็ว่าเซ็งแล้ว เสียเงินค่าซ่อม 3216 บาทแล้วได้ผลที่ไม่น่าปลื้ม เซ็งและเครียดยิ่งกว่า
จากคุณ |
:
I-Kay
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ค. 53 12:37:29
|
|
|
|