ความคิดเห็นที่ 1 แล้วจะมาตั้งทำไมตั้ง 3 กระทู้ จากคุณ : NaMusSaTae เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 16:10:09

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีแก้มันต้องเพิ่มรายได้ประชากร ไม่ใช่ไปลดราคาสินค้า เพราะยิ่งลดราคาสินค้า คนก็ยิ่งใช้มากขึ้น ไม่ต้องคิดอะไรมา เมื่อก่อนค่าโทร นาทีละ 5 บาท จะใช้โทรทีคิดแล้วคิดอีก คุยธุระเสร็จต้องรีบวาง ประเทศที่ค่าโทรต่อรายได้ต่ำ ก็เป็นเพราะรายได้ประชาชนเขาสูง ไม่ใช่ค่าครองชีพเขาต่ำ จากคุณ : delight เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 16:36:08

ความคิดเห็นที่ 3 *1 คงอยากตั้งในหัวข้อทุกเครือข่ายน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 16:38:29 จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 16:37:16

ความคิดเห็นที่ 4 กทช ทำได้จริงป่าวครับ ผมอยากรู้ พิสูจน์ให้ผมดูหน่อยดิครับ ผมเห็นหลายเรื่องแล้วครับ ไม่สำเร็จซะที จากคุณ : nutow เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 16:54:44

ความคิดเห็นที่ 5 ขอดูผลงาน กทช สักชิ้นซิ จากคุณ : M-AgrO เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 17:20:50

ความคิดเห็นที่ 6 ประเทศอื่นเค้าโทรน้อยรึป่าว 1%ของเงินเดือนบางคนอาจจะจริง อย่างเพื่อนเราแค่สมัยเรียนมันก็ใช้2000-3000บาทต่อเดือนแล้ว จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 17:24:04

ความคิดเห็นที่ 7 - ไปประท้วงรัฐบาลให้ลดค่า License จิ - ไปประท้วงรัฐบาลให้วางโครงข่าย Internet ให้ครอบคลุมจิ - ไปอบรมลูกหลานไม่ให้เดินข้ามถนนไปเล่น BB ไปจิ - Etc. จะแก้ก็ต้องแก้ทั้งระบบ ทั้งรัฐบาล, ผู้ใช้งาน, ผู้ประกอบการ ผลักภาระให้ผู้ประกอบการอย่างเดียวก็ไม่ถูก จากคุณ : Shinobi เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 17:27:08

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าหลายคนหลงประเด็นกันอยู่นะ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเราโดนผู้ให้บริการเอาเปรียบหรือเปล่า? เรื่องอื่นๆมันก็อีกเรื่องนึงนะครับ จากคุณ : pongchay เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 17:40:34

ความคิดเห็นที่ 9 ก็บอกแล้วว่า   บริษัทมือถือ ทำการค้า  ก็เพื่อหากำไร ไม่ใช่ มูลนิธิการกุศล จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 17:58:53

ความคิดเห็นที่ 10 จะคิดราคานี้ก็ไม่ว่า แต่น่าจะคิดเป็นวินาที ตามที่ใช้จริง ถึงจะถูกต้องนะคะ จากคุณ : แทบง เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 18:07:29

ความคิดเห็นที่ 11 ฮะ วันก่อนไป ThaiPBS เหนตัวจริงของท่าน ผอ แล้ว ท่านเปนคนที่น่ารักมากเลยหละครับ 55 ภายนอกอาจจะดูดุๆ (คุณพิธีกรยังแซวเลย ว่าท่านเหมือนดุๆ) แต่ตัวจริงเปนกันเองและคุยดีครับ ยังไงก้ขอให้ สบท สร้างงานที่เชิดหน้าชูตาแก่องค์กร และประเทศชาติ เพื่อลบข้อครรหาจากประชาชนต่อองค์กรรุ่นพี่อย่าง กทช นะครับ อิอิ ... จากคุณ : Nanoดะ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 18:13:25

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นด้วย กะ  ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : แมวรักแมว เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 18:53:24

ความคิดเห็นที่ 13 เสริมท่าน คห.8 จะว่าผมหลงประเด็นก็ได้ครับ คือจริง ๆ แล้วผมอยากให้พิจารณามิติอื่นด้วยหน่ะ เพราะผมว่ามันค่อนข้างหยาบไปที่จะสรุปว่าเรากำลังโดนเอาเปรียบจาก Operator ทั้งหลายในไทย  เพราะงานวิจัยของ ITU ชิ้นนี้เป็นการเปรียบเทียบระหว่างประเทศซึ่งค่อนข้างหยาบ โดยสมมติว่าแต่ละคนในทุกประเทศมีการโทร 25 ครั้งใน 1 เดือน (โทรครั้งละกี่นาทีไม่ได้แจ้งไว้) ซึ่งในทางปฏิบัติจริงแล้่ว จำนวนครั้ง และเวลาที่ใช้ในการโทรจะมีผลอย่างมากกับเม็ดเงินที่เกิดขึ้นในระบบ ซึ่งถ้าคิดตามจริงแล้วตัวเลข Ranking ที่ออกมาอาจจะเป็นคนละเรื่องกับที่ปรากฎใน ITU ก็ได้ และที่สำคัญมีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่สะท้อนออกมาในราคาค่าโทร เช่น สภาพปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานทางระบบโทรคมนาคม สภาพเศรษฐกิจ ค่าเงิน ค่าครองชีพ รวมถึงลักษณะสัญญาสัมปทานที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้รัฐ (ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งในแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ไม่ต้องไปเปรียบเทียบระหว่างประเทศหรอกครับ แค่ในประเทศไทยยังไม่เหมือนกันเลย)  ดังที่เรียนมาแล้วข้างต้น ถ้าสมมติว่าคนไทย และฮ่องกงจ่ายค่ีารายเดือน 500 เท่ากัน  ถ้าดูจาก ITU แล้ว Ranking ควรจะเท่ากัน แต่ความเป็นจริงไม่ควรจะใช่ เพราะไทยมีรายได้ประชากรต่ำกว่าฮ่องกง นั่นคือคนไทยจ่ายแพงกว่า  นี่แค่ยกตัวอย่างมิติรายได้ประชากรอย่างเดียวนะครับ ซึ่งความจริงต้องพิจารณาหลายมุมกว่านี้เยอะ ดูค่าโทรอย่างเดียวไม่น่าจะพอ ป.ล. ผมไม่ได้สรุปนะว่าผู้ประกอบการมือถือในไทยไม่ได้เอาเปรียบพวกเรา เรื่องที่ผมรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบก็มี เช่น จำนวนวันเหลือที่ต้องเติมเงินเรื่อย ๆ เพื่อรักษาวัน แต่เรื่องราคาไม่กล้าฟันธงครับ ต้องพิจารณาข้อมูลมากกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 19:29:11 จากคุณ : Shinobi เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 19:27:34

ความคิดเห็นที่ 14   ดูแล้วเป็นการเทียบร้อยละต่อรายได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรายได้ต่อหัวของประเทศนั้นๆด้วย หากค่าบริการไกล้เคียงกันประเทศที่มีรายได้ต่อหัวมากกว่าย่อมมีเปอร์เซ็นต่ำกว่า และดูแล้วประเทศส่วนใหญ่ที่ว่านี้ก็มีรายได้ต่อหัวมากกว่าไทยทั้งสิ้น ส่วนพม่าย่อมสูงริบเป็นธรรมดา น่าจะมีการเทียบอัตราค่าบริการด้วยนะ จากคุณ : sweety home เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 19:34:32

ความคิดเห็นที่ 15   อัตราค่าแรงงานขั้นต่ำ ในแต่ละจังหวัดของไทย ยังไม่เท่ากันเลยครับ มันขึ้นกับระบบเศรษฐกิจด้วยแหละ จากคุณ : srk26s เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 19:49:45

ความคิดเห็นที่ 16 แต่เราว่าเมืองไทยค่าโทรถูกนะคะ เมื่อเทียบกับอเมริกาหรืออสเตรเลีย จากคุณ : topika เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 19:54:10

ความคิดเห็นที่ 17 ค่าโืืทรพอรับได้ แต่อยากให้คิดเป็นวินาทีเหมือนแต่ก่อน จากคุณ : jungrai เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 20:45:58

ความคิดเห็นที่ 18 ค่าโืืทรพอรับได้ แต่อยากให้คิดเป็นวินาทีเหมือนแต่ก่อน จากคุณ : jungrai เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 20:46:12

ความคิดเห็นที่ 19 คงต้อง ให้ประกาศ กทช เรื่อง ราคาเดียว ทุกเครือข่ายออกมาก่อน รวมทั้ง interconnection charge ต้องถูกกว่านี้ เพื่อให้ บริษัทใหม่อยู่ได้ แข่งขันได้ ไม่เจ๊งเหมือน hutch จากคุณ : omm_jaa เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 20:46:45

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่แพงมากเหมือนเมื่อก่อนแล้วนิ่ สมัยก่อน หลักพันเป็นอย่างต่ำ จากคุณ : Samong2 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 20:47:08

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 16     "แต่เราว่าเมืองไทยค่าโทรถูกนะคะ เมื่อเทียบกับอเมริกาหรืออสเตรเลีย" แล้วที่โน่นค่าแรงเท่าไหร่ครับ ดูความเป็นจริงด้วย ผมยอมจ่ายค่าโทรแพงแต่ขอเงินเดือนเท่ากับทำงานในอเมริกาครับ จากคุณ : pop35 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 21:36:16

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 20 ค่าโทรในปี 49 ถูกกว่าตอนนี้ครับ แต่โทรไม่ออก ต่อมาค่ายมือถือมีการตกลงใช้ค่า IC ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ปัญหาค่าโทรที่แพงขึ้นนั้น เกิดจากการคำนวนค่า IC ที่สูงกว่าความเป็นจริงครับ จากคุณ : pop35 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 21:44:02

ความคิดเห็นที่ 23 ก็เป็นเรื่องที่น่าโหวตนะครับ แต่ทำไมกระทู้เนื้อหาเดียวกันถึงขึ้นแนะนำมาตั้ง 2 กระทู้ครับ ทีมงานพันทิพย์ไม่กรองกันเลยหรอครับ จากคุณ : SigNus เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 22:16:51

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่าค่าโทรนี่โคตรจะถูกแล้วนะครับ ที่บ้านผมเคยใช้มือถือตั้งแต่สมัย โทรนาทีละ 18 บาท เลยครับ nokia ยังไม่เข้ามาในไทยมั้งตอนนั้น ต่อมาค่าโทรก็ลดลงเหลือ นาทีละ 5 บาท แบบเติมเงิน หลังจากนั้นก็ลดลงมาเหลือ นาทีละบาท นาทีละ 50 สต. โทรฟรีเครือข่ายเดียวกัน (ปัจจุบันนี่แหละ) ผมไม่รู้ว่า ต้องให้เหลือสักเท่าไหร่ พวกคุณถึงจะพอ สงสัยต้องให้โทรฟรีตลอดชีพเลยล่ะมั้ง ถึงจะพอใจกัน บริษัทธุรกิจเค้าก็ต้องหวังกำไรอยู่แล้ว ไม่ได้ทำมาเพื่อการกุศลซะหน่อย จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 22:38:32

ความคิดเห็นที่ 25 ผมคิดว่าสิ่งที่เทียบกันได้คือ ค่าใช้จ่าย/นาที หรือเงื่อนไขการให้บริการ เช่นจำนวนวันที่ใช้งานได้เป็นต้น แต่จะเทียบกันยังมีเงื่อนไขว่าต้องลงไปดูว่าต้นทุนการให้บริการเป็นอย่างไร เงินลงทุนกิจการที่ลงไป  ค่าสัมปทาน / ภาษี / อื่นๆ ซึ่งแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน หรือแม้กระทั่งต้องเทียบถึงช่วงชีวิตของธุรกิจ ปีแรกๆของการลงทุนให้บริการจะแพงกว่า ปีหลังๆ แต่ละประเทศก็อยู่ในช่วงการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ไม่เท่ากัน ในแง่ของตลาด ยังต้อง pricing ตามกำลังซื้อของคนใช้ สภาพตลาด การแข่งขัน ถ้านโยบายรัฐเปิดเสรีมากๆ  การแข่งขันสูง ราคาก็จะต่ำลงมาอีก ประเทศไหนที่ยังไม่มีการแข่งขัน ราคาก็จะยังคงสูงอยู่ ดังนั้นจะเห็นว่าตัววัดบางอย่างยังหยาบเกินกว่าจะไปตัดสินได้ แต่ข้อเท็จจริงอย่างเช่น คิดเป็นวินาที กับคิดเป็นนาที หรือเติมเงินแล้วใช้ได้ 30 วัน กับใช้ได้ 120 วัน แบบนี้เป็นรูปธรรมมากๆ ที่เปรียบเทียบแล้วเห็นได้ชัดว่าใครดีกว่าแย่กว่า การคิดราคาในมุมของผู้บริโภค ถ้าจะสุดขั้วคิดไปคิดมาก็คือต้องให้ถูกที่สุด ถ้าต้องลดราคามาเรื่อยๆจนเข้าสุ่คำว่า "ฟรี" (ยังไม่ถึงฟรี แต่เข้าใกล้) ซึ่งถ้าในมุมของผู้บริโภคแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นเพราะไม่มีอุปทานไหนมารองรับ สิ่งที่รัฐต้องเข้ามาดูแลไม่ใช่ราคาที่ถูก แต่สิ่งที่ต้องเข้ามาดูแลคือสมดุลของตลาด ให้มีการแข่งขัน ไม่ฮั้ว ไม่ผูกขาด ให้มีความถูกต้อง โปร่งใส ของการทำธุรกิจ ถ้าเป็นได้อย่านั้นเรื่องราคาค่าบริการ กลไกตลาดจะเป็นตัวควบคุมเอง จากคุณ : วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 22:54:25

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ได้แพงไปหรอกครับ แต่ก่อนไม่มีค่า IC ค่าโทรในพื้นที่เดียวกัน 5 บาท พื้นที่ิติดกัน 8 บาท  ต่างพื้นที่ 12 หรือ 16 บาทหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ ทุกวันนี้มีค่า IC เข้ามาเกี่ยวข้องค่าโทรเลยดูแพงเป็นธรรมดาครับ จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 22:57:19

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ คุณคิดว่าค่าโทรถูกหรอ ลองเทียบ รายได้ต่อหัวแล้วค่าใช้จ่ายทุกวันนี้สิ คนไทย ต้องจ่ายแพงกว่า หลายๆประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อซื้อของคุณภาพเท่ากัน กว่า หลายเท่า ทั้งๆที่รายได้ต่อหัว น้อยกว่า เกือบ 10 เท่าไม่เข้าใจ ลองเทียบดู คิดง่ายๆนะ รองเท้าหนัง 1 คู่ คุณไปอเมริกา เผลอๆตอนลด ได้ ALDO 1 คู่  แล้วลองมาดูเมืองไทย 1000ได้รองเท้าคุณภาพเทียบ ALDO รึเปล่า ทั้งๆที่ค่าแรงกถูกกว่ามาก ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแพง นี้แค่รองเท้า ไม่รวมถึงอีกกว่าสารพัด อยากรู้คนไทยรวยมากหรือ ถึงต้องซื้อ หลายอย่างจำนวนมากกก แพงกว่าคนอเมริกา นี้ไม่ได้เป้นการเทียบ ราคาต่อรายได้ แต่เป็นราคาดิบๆ ยิ่งพวก อาหารนี้ไม่ต้องคิดเลย ราคาอาหารโดยเฉลี่ยต่อรายได้ เทียบกับอเมริกาแล้วไม่อยากจะคิด  แทบอาหารถูกๆในไทย ราคาก็ เฉลี่ย 30 บาทต่อมื้อ อเมริกาอาหารถูกๆ ก็ประมาณ 100บาทต่อมื้อ นี้ยังไท่เทียบปริมาณนะ ว่า อาหารถูกๆ อมริกา 1 มื้อคนไทยกินได้ 2 คน รายได้เฉลี่ย ต่อหัวเมืองไทยอยู่ที่ประมาณ 4000$ต่อปี แต่อเมริกา 45000$  เทียบน้อย อเมริกาอาหารแพงกว่า ประมาณ 2-3 เท่า แต่รายได้ต่อหัวสุงกว่าเรา 10 เท่า ต้องบอกว่า คนไทยรวยจริง ค่าครองชีพแพงขนาดนี้ เมื่อเทียบกับรายได้ ยังมีปัญญาซื้อของแบรนด์เนม ของแพงๆ หิ้วกันหร่า นับถือ ไม่แปลกทำไมขึ้นราคาอาหารนิดหน่อยคนด่ากันทั้งเมือง ก็แพงแบบไร้เหตุผลทุกอย่างในประเทศนี้ จากคุณ : Anqueetas เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 22:58:26

ความคิดเห็นที่ 28   รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี ปี 2550 (ใน กทม) 11284 บาท 1% = 113 บาท http://www.m-society.go.th/document/statistic/statistic_2941.pdf รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี SGQ2/10 S$3800 (87400 บาท) 0.14% = 123 บาท http://www.singstat.gov.sg/stats/latestdata.html จากคุณ : โจ้ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 23:35:02 A:110.168.11.145 X: TicketID:121725

ความคิดเห็นที่ 29 เทียบกับรายได้ผมว่ามันง่ายไปหน่อยนะ ไม่มองหน่อยหรือว่าเทคโนโลยีพวกนี้เราคิดได้เองหรือต้องซื้อเขามา ถ้าต้องซื้อเขามา ถามว่าต้นทุนการวางเครือข่ายแต่ละประเทศมันจะขึ้นอยู่กับรายได้ของผู้ใช้งานอีกหรือเปล่าครับ มันต้องสัมพันธ์กันด้วยหรือ ? นี่เอาแค่ปัจจัยเดียว ยังไม่ลงไปถึงส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องให้รัฐ หรือค่า license อีกนะ เป็นถึงนักวิชาการ เรื่องแค่นี้น่าจะคิดต่อออกนะว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ประชาชนเขาไม่โง่นะครับ ถ้าจะเอาค่าโทรถูกแบบ กทช. จะจัดให้ แบบโทรทุกเครือข่ายต้องราคาเท่ากัน ผมขอจ่ายแพงแบบเดิมอย่างโทรในเครือข่ายเดียวกัยนาทีละ 25 สตางค์หรือโทรฟรีในเครือข่ายดีกว่า จากคุณ : silver seraph เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 23:39:32

ความคิดเห็นที่ 30 #27 ค่าครองชีพบ้านเราเท่าอเมริการหรือครับ ประเทศเราพัฒนาเท่าอเมริกาเปล่าครับ   ถามจริงๆ คุณเคยใช้โทรมือถือนาทีละ 18 บาทไหมครับ รับสายเสียค่ารับสายอีกต่างหาก แต่ก่อน ข้าวแกงจานละ 10 บาท ค่าโทรมือถือ นาทีละ 5 - 18 บาท ทุกวันนี้  ข้าวแกงจานละเท่าไรครับ แล้วค่าโทรมือถือ นาทีละ 1-2 บาท มาบ่นว่าแพง เพิ่มเติม แต่ก่อนค่ารถเมล์แดง 2 บาท ขอโทษทุกวันนี้ 2 บาทเข้าห้องน้ำสาธารณะยังไม่ได้เลยคุ๊ณ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 53 23:52:09 จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 23:48:16

ความคิดเห็นที่ 31   รายได้ต่อหัว 45000 ที่ คห.27 เอามา น่าจะเฉพาะกลุ่มมั้งครับ อาจจะเป็นกลุ่มเพื่อน ๆ คุณ หรือคนรอบข้างคุณหรือเปล่า California USA กว่า 50% มีรายได้ $46,325 ต่อปี ต่อครอบครัว (http://fedupusa.org) In 2007, the "real" (adjusted for inflation) median annual household income rose 1.3% to $50,233.00 according to the Census Bureau. (http://en.wikipedia.org/wiki/Household_income_in_the_United_States) จากคุณ : โจ้ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 00:11:32 A:110.168.11.145 X: TicketID:121725

ความคิดเห็นที่ 32   อ้อ คุณ คห.27 ครับ อาหารถูก ๆ เมกา เนี่ย อาหารอะไรเหรอครับที่ว่า $US3.12 แบบว่าอยากรู้อะครับ ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่ china town ร้านถูก ๆ เนี่ย ก็ 7-8 เหรียน ส่วนถ้าซื้อแฮมเบอร์เกอร์ที่ชิ้นละ 3 เหรียน (แถวคอนโดผมมี) กินไป ไม่ถึงสองคำก็หมด นึกไม่ออกจริง ๆ สิ่งที่คุณว่า จ่าย 100บาท เท่ากับคนกินสองคนเนี่ยมันอยู่ตรงไหน เมือง ๆ นึง จะมีสักกี่ที่ ที่สามารถหาซื้อได้ (limited offering) โดยทั่ว ๆ ไป ผมเห็นก็ไม่ต่ำกว่า 7-12 เหรียน (general availability) ถ้าเข้าร้านอาหารไทยแบบไม่หรู ก็ไม่ต่ำกว่า 12 เหรียน หรือ DON ญี่ปุ่นแถวคอนโดผม ให้แยะมาก คนเดียวกินแทบไม่หมด แต่ก็เกือบ 10 เหรียน ส่วนไทยเนี่ย 30 บาท ใช่อาจจะน้อย แต่ก็ต้องดูว่าคุณไปกินที่ไหน ถ้าไปกินตามฟูตคอร์ตห้างหรูกลางกรุง ใช่แน่นอน ไม่พอกินแน่ ๆ แต่ 30-40 ที่มากขนาดสองคนกิน มันก็มีครับ แล้วก็ไม่ใช่ limited offering ด้วย วันก่อนผมไปกิน food center big c แถวบ้าน จานละ 35 ผมนึกว่าน่าจะน้อย สั่งมาสองอย่าง (ข้าวมันไก่ + กระเพาะปลา) บอกได้เลยว่า กินไม่หมด ... นี่ในฟูต นะครับ ส่วนร้านข้าวตามสั่งข้างนอก ในกรุงเทพ ผมก็กินทั่ว ๆ ไป จานนึง พูนจนล้นก็มี 40 บาท กินไม่หมด เสียดายของ อาจจะไม่ general availability แต่ก็ไม่ถึงกับ limited offering ครับ ของแบบนี้ ถ้าจะเปรียบเทียบ เอาของที่ limited offer มาเทียบกับ general availability ไม่ได้ครับ มันผิดหลักสถิติ แล้วก็ผิด common sense ครับ (เข้าใจครับ ว่าคุณอาจจะอยู่ที่โน่น แล้วก็เห็นในสิ่งที่คุณเห็น แต่ มันไม่ใช่ครับ เพราะผมก็อยู่โน่นตั้งแต่เด็ก limited ยังไงก็ไม่เท่ากับ general ครับ) จากคุณ : โจ้ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 00:20:15 A:110.168.11.145 X: TicketID:121725

ความคิดเห็นที่ 33 อยากเห็นถูกที่สุดของโลกแฮะ จากคุณ : CaminoReal เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 00:35:48

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่เห็นจำเป็นต้องถูกที่สุดในโลก หรือถูกไปกว่านี้เลย ใครมีปัญญาใช้ก็ใช้ไปสิ ทุกวันนี้ผมจ่ายเดือนละ 300 บาทเอง ไม่เห็นเดือดร้อน คนที่ใช้มือถือแล้ว % มากเมื่อเทียบกับรายได้ แสดงว่าไม่รู้จักเจียมตัว ช่วยไม่ได้ จากคุณ : วี เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 04:07:56

ความคิดเห็นที่ 35 คห.35 โดนใจผมเลยแฮะ จากคุณ : SigNus เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 06:24:34

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าผมจำไม่ผิดสมัยก่อนค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงสุดแค่ 12 บาทเองไม่ใช่เหรอครับ ถ้า 18 บาทจะเป็นอัตราค่าโทรสูงสุดของโทรศัพท์พื้นฐานครับ เพียงแต่ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกหมายเลขในสมัยนั้นจะต้องมีค่าบริการรายเดือนแบบจ่ายกินเปล่า 500 บาทด้วย ด้วยค่าครองชีพในสมัยนั้น อย่าว่าแต่วัยรุ่นเลย นักธุรกิจใช้เพจเจอร์รายเดือน 450 ยังปาดเหงื่อเลยครับ วัยรุ่นไทยเริ่มนิยมมาใช้เพจเจอร์ก่อนที่มันจะออกจาตลาดไปเพียงไม่กี่ปีเองครับ สมัยก่อนจะซื้อมือถือทีต้องซื้อเครื่องพร้อมเบอร์เท่านั้น เครื่องเปล่า เบอร์เฉยๆ ก็ไม่ขาย เพราะทุกเครื่องจะมีเบอร์โทรติดไว้ที่กล่องเลย ค่าเครื่องโนเกียรุ่นกิ๊กก๊อกราคาไม่ต่ำกว่าสองหมื่น ค่าโทรถึงจะมีโปรโมชั่นดีๆ ก็จ่ายไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อเดือนครับ แถมพอหมดโปรโมชั่นก็ต้องกลับมาใช้ัอัตราปกติ ลูกค้าไม่มีสิทธิ์ขู่ยกเลิกบริการ เพราะผู้ให้บริการรู้ดีว่า ลูกค้าไม่สามารถจะเปลี่ยนไปใช้ค่ายอื่นได้ ถ้าจะเปลี่ยนจะต้องทิ้งมือถือเครื่องเดิม แ้ล้วไปซื้อเครื่องใหม่เบอร์ใหม่แทน ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่าสองหมื่นเลยทีเดียว การมีมือถือดูอัลแบรนด์ การปลดอีมี่ และการปลดซิมล็อค และการขายเครื่องแยกเบอร์ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการแข่งขันที่มีรากฐานจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะใช้มือถือที่ชอบกับค่ายทีี่ใช่สำหรับตัวเองได้ครับ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 53 08:28:51 จากคุณ : KenshiroJr. เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 08:09:23

ความคิดเห็นที่ 37 คห ที่ 2 ตรงประเด็นที่สุดแล้วครับ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 08:17:47

ความคิดเห็นที่ 38 ตรรกะประหลาดๆ เอาง่ายๆ ถ้าคุณอยากได้มือถือซักเครื่อง สมมติใน hongkong ขายเครื่องละ 5000 บาท สมมติต่อว่า ค่าครองชีพเมืองไทยถูกกว่า hongkong 5 เท่า คุณจะไปบอกให้ผู้ผลิตขายมือถือเครื่องเดียวกันในเมืองไทย 1000 บาทเหรอ ถ้าเขาขาย 4000 บาทถือว่าเอาเปรียบ? อุปกรณ์โครงข่าย ระบบ billing ต่างๆ ต้อง import ทั้งนั้น ตันทุนในแง่ที่ไม่ใช่ค่าแรง ค่าสัมปทาน ค่า license มันเท่ากันทั่วโลก แต่คิดราคาต้องอิงกับค่าครองชีพ (ซึ่งอิงกับค่าแรงอย่างสูง) เท่านั้น? จากคุณ : Pseudonoise เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 08:38:05

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้ใช้โทรศัพท์คิดเป็น 1% ของเงินเดือนก็รับได้นะครับ ไม่ได้เอาค่าอินเตอร์เน็ทรวมนะ ก็รับได้นะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร 1% เอง แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 53 16:05:07 จากคุณ : เหล้าขาวผสมน้ำแดง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 08:46:30

ความคิดเห็นที่ 40 #36 ขอบคุณที่ทักท้วงครับ นาทีละ 18 บาทที่ผมเจอเป็นตั้งโต๊ะครับ โทรกลับกรุงเทพจากหาดใหญ่ครับ ส่วนเรทราคาน่าจะประมาณนี้ ถ้าผิดพลาดยังไง ทักท้วงด้วยนะครับ (อ้างอิงจาก ระบบ Prompt 1800 ก่อนจะมาเป็น Dprompt และ Happy ตอนนี้) 1.โทรในพื้นที่เดียวกัน นาทีละ 5 บาท 2.โทรในพื้นที่ติดกัน นาทีละ 8 บาท 3.โทรต่างพื้นที่ นาทีละ 12 บาท หลังจากนั้นก็มีการคิดค่าโทรอัตราเดียวทั่วประเทศครับ จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:01:03

ความคิดเห็นที่ 41 2 จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:01:27

ความคิดเห็นที่ 42 3 จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:02:06

ความคิดเห็นที่ 43 4 จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:02:43

ความคิดเห็นที่ 44 5 จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:03:07

ความคิดเห็นที่ 45 6 จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:03:57

ความคิดเห็นที่ 46 ข้อมูลทั้งหมดจากเวปนี้ครับ http://mobileplanet.tripod.com/promotion/promotions.html จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:05:00

ความคิดเห็นที่ 47 ที่พม่าเค้าแพงไม่ใช่เพราะรายได้เค้าต่ำนะครับ แพงเพราะแพงเทพจริงๆ เปิดเบอร์ซิมนึงนี่จ่ายหลายหมื่นบาท จากคุณ : k3v1n เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 10:10:15

ความคิดเห็นที่ 48 คุณหัวหมอครับ ไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาวครับ สรุปง่ายๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะค่า IC ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทำให้ค่าโทรข้ามเครือข่ายแพงเกินจริง เท่านั้น ไม่ต้องมายกตัวอย่างอะไรยืดยาวครับ แล้วไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับเรื่องเงินเฟ้อนะครับ คนละเรื่องกันครับ ผมเคยใช้มือถือนาทีละ 12 บาทมาแล้วครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เมื่อปี 2547ผมจ่ายค่าเน็ตไฮสปีดความเร็ว 256K ในราคาเดือนละ 590บาท ตอนนี้จ่ายค่าเน็ตเดือนละ 590 บาท ได้ใช้เน็ตความเร็วเท่าไหรครับ คนที่ออกมาบอกว่าค่าโทรตอนนี้ถูกแล้วนี่ รับฟังไว้ด้วยครับ จากคุณ : pop35 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 12:25:39

ความคิดเห็นที่ 49 คุณโจ้ คุณ Anqueestas บอกว่า"อเมริกาอาหารถูกๆ ก็ประมาณ 100บาท" ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง  เน้นที่คำว่า"ถูก"นะ เพราะตาม fast food restaurants ก็หาอาหารราคาไม่ถึง 100 บาทก็มี E.g. think about McDonald's value menus or even a 1-dollar pizza slice-not that easy to find, but it does exist. (พวก fast food restaurants กับ frozen meals พอนับเป็น general availability ได้หรือเปล่า?) ส่วนเรื่องรายได้ "per capita" ปี 2009, ของ United States คือ  US$46,381 และ ของ Thailand คือ US$3,940 (stat from IMF).   รู้สึกว่าของในเมืองไทยหลายอย่างแพงมากไปจริงๆ (เทียบกับรายได้เฉลี่ยของคนไทย)  ห้องไกลบ้านก็บ่นหลายคนเหมือนกัน ลองอ่านกระทู้นี้ดู http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H9632531/H9632531.html แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 53 13:17:21 จากคุณ : ZT1260 เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 13:00:31

ความคิดเห็นที่ 51 เทียบกับรายได้ต่อเดือน...ผลมันก็ออกมาแบบนี้แหละครับ ไปดูรายได้ต่อเดือนของแต่ละประเทศสิครับ โอ้โห...ขี้ๆ เดือนนึงก็ 4-5 หมื่นแล้ว ค่าโทรศัพท์มือถือมันเลยกลายเป็นสัดส่วนที่น้อยลง เพราะตัวหารมันมากขึ้น แต่... อะไรๆ อย่างอื่นในประเทศเค้าแพงหมดนะคร๊าบ... งานวิจัยนี้ไม่ผิด เพราะก็บอกตั้งแต่แรกแล้วเทียบค่าโทรศัพท์กับเงินเดือน แต่หลายๆ คนโทษโน่น โทษนี่ โทษนั่น กันทำไมก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากจ่ายน้อย...คงต้องประหยัดกันเองล่ะครับ! จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 15:58:24

ความคิดเห็นที่ 52 ... ตาม คห.2 ว่ามาอ่ะครับ  ถูกต้องสุดแล้ว จากคุณ : ดาราวิปลาส เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 16:54:39

ความคิดเห็นที่ 53 คห.51  อะไรๆ ที่เมืองนอกเขาไม่ได้ แพงหมด อาหารการกินหลายอย่าง เครื่องอุปโภคบริโภคที่อังกฤษถูกกว่าไทยยังมี เยอะแยะ จากคุณ : Anqueetas เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 19:04:57

ความคิดเห็นที่ 54 "แต่เราว่าเมืองไทยค่าโทรถูกนะคะ เมื่อเทียบกับอเมริกาหรืออสเตรเลีย" เอ่อ ผมอยู่อเมริกามา 4 ปีครับ ขนาดค่าแรงพวกผิด กม อย่างเด็กไทยที่ไปเสริฟ fulltime เก็บได้เดือนละ 2000-3000usd เกือบแสนบาทครับ พวกอาชีพล่างๆอย่างช่างประปานี่ผมเคยเห็น slip เงินเดือนเค้า 5000usd ครับ เกือบสองแสนต่อเดือนครับ ไม่แปลกถ้าเค้าจะจ่ายค่ามือถือเดือนละ 40-80usd ต่อเดือนได้ แต่โปรที่เมกาส่วนใหญ่โทรฟรี weekend และหลัง 6 นะครับ คุยกระจายเหมือนกัน ไม่วางสายเลย แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 53 19:25:05 จากคุณ : Next LifE เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 19:16:53

ความคิดเห็นที่ 55 อ้อ คุณโจ้ อาหารจานละ 3-5usd แบบไม่ต้อง tip มีครับ ใน berkeley ที่ผมเคยอยู่ก็มีร้านจีนตักๆบนถนน shattuck st. ตัก side ราด 3-4 อย่างบนข้าวหรือบะหมี่จีน 3-5usd กินได้สองมื้อครับ เยอะมากๆ มันก็พอมีอยู่บ้างครับ จากคุณ : Next LifE เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 19:23:10

ความคิดเห็นที่ 56   ยังไงกัน ก็ไหนว่า เพื่อความเป็นธรรม ไม่ผูกขาด ต้องนาทีละ 1 บาท แล้ว ค่าโทร 1.21 บาท มันแพงไปต้องลดลง จากคุณ : ตะอีโม่ง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 20:21:59 A:112.142.110.64 X: TicketID:160546

ความคิดเห็นที่ 57 ผมว่าค่าโทรมือถือก้อยังถูกกว่าโทรศัพท์บ้านนะครับ จะไปว่าแต่เอกชนเค้าอย่างเดียวก้อไม่ถูกนัก เรื่องค่าโทรเมื่อก่อนที่ว่าแพง ก้อเพราะสเกลคนใช้งานยังน้อยอยู่ การที่จะมีกำไรให้คุ้มกับการลงทุนราคาต่อหน่วยต่อหัวมันก้อต้องสูงเป็นธรรมดาครับ ส่วนค่าบริการรายเดือนโทรศัพท์บ้านก้อยังต้องเีสียกันเดือนละร้อยอยู่เลย การบริการก้อห่วยแตกได้ใจจริงๆ ผมว่าที่ออกมาพูดกันแบบนี้มันมีอะไรแหม่งๆอยู่นะครับ ดูเหมือนอยากได้อะไรกันซักอย่าง พูดแต่ด้านลบกันด้านเดียวเลย ส่วนไหนที่เราดีกว่าก้อดันไม่พูด จากคุณ : แมวผจญภัย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 21:12:52

ความคิดเห็นที่ 58 คิดจะเอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว อนาจใจ จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 21:27:26

ความคิดเห็นที่ 59   เขาคงต้องการสื่อว่าค่าโทรศัพท์มีกำไรสูงเกินไปมั้งครับ ต้องถูกบังคับเติมเงินจากวันใช้งานที่จำกัด ค่าโทรเศษของนาทีปัดเป็นนาที เมื่อก่อนค่าโทรแพงเพราะคนใช้น้อย แต่ก็ทำให้ถึงจุดคุ้มทุนเร็ว ปัจจุบันค่าโทรก็แพงเพราะคำนวณค่า IC สูงกว่าความเป็นจริง จากคุณ : Axl เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 07:00:51 A:117.47.68.164 X: TicketID:140031

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่พอใจเมืองไทยก็ไปอยู่เมืองนอกสิจ๊ะ...ทนอยู่กันทำไมล่ะ? เอะอะก็ว่าที่โน่นดีกว่า ที่นั่นดีกว่า แล้วมานั่งอยู่ "ที่นี่" ทำไมล่ะ? จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:35:00

ความคิดเห็นที่ 61   คห. 60 คุณใช้ไรคิด แทนที่จะพัฒนาและปรับปรุงให้ประเทศเรามีความก้าวหน้าไม่โดนเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ กับไล่คนไปอยู่ต่างประเทศสะงั้น ไร้สาระ จากคุณ : kiyokuka เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 11:12:18

ความคิดเห็นที่ 62 กะแล้ววว ต้องมีคนมาแบบ คห.60 ประเทศนี้นี่ ซาบซึ้งได้อย่างเดียวจริงๆ ตำหนิ ติเตียน จับผิด บอกให้พัฒนาอะไรไม่ได้เล้ย บ่นนิดหน่อย  จะไล่ออกนอกประเทศอย่างเดียว จากคุณ : ceobank เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 12:13:02

ความคิดเห็นที่ 63   >>>ถูกใจ<<< @kiyokuka @ceobank จากคุณ : monetoo เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:17:11

ความคิดเห็นที่ 64 ผมคิดว่าค่าโทรศัพท์ที่แพงกว่าประเทศอื่นเขา สาเหตุหนึงก็มาจากรัฐบาลนี่แหล่ะครับ จากคุณ : April Slowly เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:22:30

ความคิดเห็นที่ 65 ค่าโทรที่สิงคโปร์ถูกจริงๆ ซื้อซิม 18 เหรียญสิงคโปร์ ใช้โทรกลับเมืองไทยได้  4  ชั่วโมง โอ้วววววว อะเมซิงมากๆ ฮา จากคุณ : ชอนซาเลดี้ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:58:19

ความคิดเห็นที่ 66 คห 60 สิ้นคิดมาก ถ้าคนไม่เถียงกันด้วยเหตุผล แล้วมันจะเจอทางออกมั้ยครับ จากคุณ : โซเซ (hiparkcool) เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 18:10:45

ความคิดเห็นที่ 67 ที่ออสฯนาทีละ 1 ดอลล์ จะบ้า!!!! นาทีละ 28 บาท (มือถือ-มือถือ-ต่างข่าย ถ้าข่ายเดียวกันส่วนใหญ่ฟรี) โทรสาธารณะไปยังเบอร์บ้าน ครั้งละ 50 เซนต์ คุยนานตราบเท่าที่ขายังไม่เมื่อย ครั้งละ 14 บาท อยากมาอยู่มั้ยค่ะ? จากคุณ : แม่นางหลิว เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 19:28:01

ความคิดเห็นที่ 68 เอางี้แล้วกัน ผมอยู่โคราช ตอนอายุ 17 โทรไปจีบสาวที่ กทม เสียค่าโทรนาทีละ 12 บาท แป๊บๆ 500 บาทหมด ตอนนี้ อายุ 27 โทรไปเถอะ ... กว่าจะหมด 500 คุยกันจนเสียงแหบ จากคุณ : Gunz_za เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 20:38:12

ความคิดเห็นที่ 69   ธุรกิจน่ะคับ เงินมาก่อน จากคุณ : genius math เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 20:54:35

ความคิดเห็นที่ 70 คุณแม่นางหลิว - จริงค่ะ โดยเฉพาะ optus pre-paid มันจะแพงไปไหน ถึงแม้ออสเตรเลียจะเป็นประเทศที่รวยก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็นับว่าแพงนะคะ จากคุณ : topika เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 22:15:00

ความคิดเห็นที่ 71 บ้านผมไม่ได้พิมพ์แบงค์เอง ก่อนจะจ่ายอะไรก็ต้องคิดดีๆ ใครว่าค่าโทรถูกก็แล้วแต่คุณนะครับ ...รายได้ต่อหัวคนไทยเท่าไหร่... ค่าโทรศัพท์เท่าไหร่... ก็ลองคิดดู ว่าถูกหรือแพง จากคุณ : Bazophil เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 23:13:39

ความคิดเห็นที่ 72 กระทู้แนะนำแฝด จากคุณ : chongkho เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 10:40:29

ความคิดเห็นที่ 73 #67 #70 Optus มีโปร turbo cap ครับ น่าจะคุ้มกว่า แต่สัญญาณห่วย จากคุณ : ราชันย์แห่งรัตติกาล (Shadowlord) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:51:44

ความคิดเห็นที่ 74 จากผลสำรวจผมกลับมองว่า ประเทศไทยมีการใช้โทรศัพท์มากเกินไปมากกว่าครับ ค่าโทรไม่ได้แพง แต่โทรกระจาย โทรกันแทบไม่วางสายเลย ไม่รู้จะคุยไรกันนักหนา ผมลองมาคิดการใช้ของผม 0.2% ของรายได้เองครับ -.- จากคุณ : ooO JoEy Ooo เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 11:55:56

ความคิดเห็นที่ 75 ประเทศไทยรายได้ต่อหัวน้อย เลยต้องลดค่าโทรศัพท์ให้มากกว่านี้อีก อย่างงี้คนในประเทศเอธิโอเปีย ไม่ต้องโทฟรีกันทั้งประเทศหรอกเหรอ ผมว่าตอนนี้ค้าโทรก็ไม่ได้แพงมากเลยนะ ที่บอกว่าแพงผมว่าโทรคุยไร้สาระมากกว่ามันถึงแพง โทรแต่พอดีโทรแต่จำเป็นมันก็เสียไม่มากหรอก ในเมื่ออยากที่จะคุยไร้สาระก็ต้องยอมรับค่าใช้จ่ายเพิ่มสิไม่ใช่มาเรียกร้องให้ลดค่าโทรศัพท์ จากคุณ : ก็แค่ลูกกลมกลม เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 20:25:20

ความคิดเห็นที่ 76   ไร้สาระน่า... นักวิชาการ กะรัฐบาลชอบทำตัวงี่เง่า ราคาสินค้า คุณว่าจริงๆมันขึ้นอยู่กับอะไรหรอครับ ต้นทุนสินค้าใช่รึเปล่า ราคาจะเท่าไรมันก็ต้องดูที่ Demand กับ Supply เป็นหลัก ถ้าความต้องการใช้มันมาก ของมันมีน้อย ราคาก็สูงเป็นธรรมดา ถ้าบริษัทมือถือเค้าสามารถลดต้นทุนได้ เช่นเค้าเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ส่วนต่างระหว่างราคากับต้นทุนใหม่ ก็ควรต้องเป็นกำไรของเค้าสิครับ จำเป็นรึเปล่า ที่เค้าจะต้องเอามาลดให้คุณ ทางออกคือ คุณต้องไปส่งเสริมให้เค้าแข่งขันกันมากๆ รัฐต้องป้องกันไม่ให้มันเกิดการผูกขาด ราคามันจะได้ถูกลง ผู้บริโภคก็จะได้รับประโยชน์ ไม่ใช่ไปกดราคาเค้า จากคุณ : 30Seconds2Dreams เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 00:05:07

ความคิดเห็นที่ 77 * *ฮ่องกง หากเติมเงิน 50 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 205 บาท จะใช้งานได้นานถึง 180 วัน ส่วนสิงคโปร์ หากเติมเงินประมาณ 233 บาท สามารถใช้งานได้นานถึง 90 วัน ถ้าเปรียบเทียบกับอินเดียยิ่งน่าอิจฉา อาบังแค่เติมเงิน 200 รูปี หรือ 118 บาท ทุกๆ 6 เดือนก็สามารถใช้บริการได้ตลอดไป ส่วนคนไทยถูกบีบบังคับให้เติมอย่างน้อย 300 บาท และใช้ได้แค่ 30 วัน ู^ ็Happy กับ TrueMove แค่ 3 บาท ก็ซื้อได้ 30 วันละครับ จากคุณ : ไม่บังเอิญ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 00:46:59

ความคิดเห็นที่ 78 เฮ้อ ขอให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่จะได้ไหม จากคุณ : qerlic เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 07:57:33

ความคิดเห็นที่ 79 แหม๋ๆๆๆ เห็นหลายกระทู้เชียร์+แก้ข่าวให้ค่ายโทรศัพท์กันจังนะ ไม่ทราบว่ารับเงินกันมาเท่าไหร่ครับ ผมอยากไปสมัครงานแบบนี้ด้วย เห็นค่าโทรถูกๆไม่ชอบ ชอบของแพง ว่างๆขอเงินด้วยนะครับ อยากได้เงินไปเติมค่ามือถือบ้าง จากคุณ : mahnoinarak เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 11:25:45

ความคิดเห็นที่ 80 พวกที่คิดว่าค่าโทรมันถูกนี่ เขาบ้านรวยจังเลยเนอะ....... แปลก จากคุณ : Akij เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 11:39:29

ความคิดเห็นที่ 81 ไอ้เครื่องการบริโภคของแพงเกินไปเนี่ย... ผมเห็นด้วยนะ ที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ช่วยเอาพลังงานไปใช้กับสิ่งจำเป็นมากกว่าการโทรศัพท์ได้ไหมครับ ... (วันๆ คุณจะใช้คุยธุระ ที่เป็นธุระจริงๆ สักกี่นาทีกันเชียว) ... ค่าของกิน ค่าเดินทาง ค่าโน้น ค่านี่ มันจำเป็นกว่าตั้งแยะ ... จากคุณ : dafty เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 12:02:19

ความคิดเห็นที่ 82 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 12:33:49

ความคิดเห็นที่ 83 อยากให้ขี้นราคาค่าโทรด้วยซ้ำครับ จะได้เจอเกรียนน้อยลง พูดคุยกันแต่เรื่องไร้สาระ และไม่มีมารยาท ดันมาพูดในที่สาธารณะ รถไฟฟ้า โรงหนัง จากคุณ : พันละที เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 84 ตั้งกระทู้ว่าอยากใช้ฟรีก็จบ ตรงประเด็น จากคุณ : MIIEQUEEn เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 13:46:05

ความคิดเห็นที่ 85 ผมว่ามันไม่ค่อยถูกหรอก แต่กลัวแก้กันไปแก้กันมา มันจะแพงขึ้น ความรู้สึกเลยอยากให้มันหยุดนิ่ง จากคุณ : atheist เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 21:46:35

ความคิดเห็นที่ 86 พอรู้อย่างนี้แล้วก็อยากให้มันถูกลงอีกจริงๆนะแหละครับ มีใครไม่ชอบบ้างครับ ถึงถูกลงก็ไม่ได้หมายความต้องใช้มากขึ้นนี่นา แต่ถ้าถูกลงได้จริงมันจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วไปสบายมากขึ้นครับ อย่างพวกคนบนดอยหรือพวกคนแถวชนบทหรือคนกรุงเทพเองบางที่ก็ไม่มีโทรศัพท์บ้านนะครับ เค้าก็ต้องใช้มือถือคุยกัน แล้วคนพวกนี้บางทีก็ไม่ค่อยมีเงินหรอกครับ ดังนั้นถ้าถูกลงได้จริงคนกลุ่มล่างก็ได้ประโยชน์ครับ พวกเราคนกลุ่มกลาง-บนค่ามือถือจ่ายสบายอยู่แล้ว ค่าเนตยังแพงกว่าอีกเดือนนึงถ้ามี BB ด้วยก็เกือบพันแล้ว นี่แค่ขั้นต่ำนะ ก็ขอให้ กทช.ควบคุมได้จริงเถอะครับ จะแฮปปี้มากเลย จากคุณ : AKEz 99.99 Ghz เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 53 22:51:22

ความคิดเห็นที่ 87 แพงกว่าหรือไม่ผมไม่รู้ แต่ผมก็พอใจกับค่าโทรตอนนี้นะ   " ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย และค่ารับสายเรียกเข้า รวมที่จ่ายต่อปีแล้วทำกำไรให้บริษัท 3 ค่ายมือถือประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท ค่ายเอไอเอสฟันไปเต็มๆ 1.5 หมื่นล้านบาท ดีแทคอันดับ 2 ได้ 5 พันล้านบาท ส่วนทรูมูฟน้องใหม่ได้ไป 1 พันล้านบาท " คนที่เขารู้คือ 3 เจ้านี้ครับ ว่าเขาควรจะทำราคาหรือทำยังไงให้ได้กำไรเยอะ โทรถูกกำไรเยอะหรือโทรแพงกำไรน้อย จากคุณ : jonenike เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 22:15:48

ความคิดเห็นที่ 88 แหม๋ๆๆๆ เห็น คห. 79 ประชดเหน็บแนมดูถูกความคิดคนอื่นว่ารับเงินมาแบบนี้ ไม่ทราบว่ารับเงิน สบท. มาเท่าไหร่ครับ !!! คุณพอใจหรือเปล่าที่มีคนมาดูถูกคุณ แบบที่คุณกล่าวหาคนอื่นว่าเห็นแก่เงิน ? กรุณาให้เกียรติความคิดเห็นของคนอื่นด้วยครับ จากคุณ : Shinobi เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 53 23:13:51

ความคิดเห็นที่ 89 เอ่อ คห.ผมถูกลบ??? เพราะอะไร เพราะพูดถึงคนเป็นที่รัก(ของเวบนี้ โดยเฉพาะห้องราชดำเนิน) ที่อยู่เมืองนอก กลับไทยไม่ได้หรอ ถ้าพูดเรื่องจริงแล้วโดนลบ ก็.... จากคุณ : tancub เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 13:35:41

ความคิดเห็นที่ 90 555 ออกมาแล้ว คห.60 ไล่คนให้ออกจากบ้านอีกแล้ว ที่บ้านมีรูปพี่อ๊อฟติดผนังป่าวเนี่ย 555 จากคุณ : กระต่ายน้อยเล่นโยคะ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 21:32:51

ความคิดเห็นที่ 91 ^ ^ ^ จะลากการเมืองมาทำไม ? เดี๋ยวก็ออกทะเลกันหรอก จากคุณ : ตัวตลกจมูกแดง เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 02:04:29