ความคิดเห็นที่ 1 ตัวผมเอง อยากให้มีการประมูล 3G และ พร้อมๆกับ CAT/TOT ให้ผู้ได้รับสัมปทาน ทำระบบ 3G และขยายอายุสัมปทานครับ ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จะทำได้หรือไม่ได้เป็นเรื่องข้อกฏหมายครับ จากคุณ : หัวหมอ เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 01:25:25

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าหากต้องการได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับประชาชน ราคาขายปลีกของทั้ง 3 Operator จะต้องถูกลงให้มาก ให้ประชาชนเข้าถึงได้ในราคาที่ถูก แต่ดูแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเรื่องของ 3G จะออกไปทางไหน ก็จะเป็นการตัดสินใจที่ให้เกิดขอพิพาทโดยตลอด และข้อพิพาทอาจจะไม่มีวันจบสิ้นเลยก็เป็นได้ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่น ผู้ให้บริการมือถืออันดับ 1 อย่าง NTT DoCoMo เป็นผู้ให้บริการที่มีผู้ถือหุ้นเป็นรัฐบาล แต่ทำได้ถึงขั้นเป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ดังนั้น ถ้าหาก TOT และ CAT ที่มีเทคโนโลยีอยู่ในมือ จะทำ 3G แข่งกับเจ้าอื่นๆที่จะประมูล ผมว่าทำได้แน่นอน แต่จะต้องขยันให้มากๆ และขยันหลายๆเท่า แต่ TOT และ CAT จะต้องเป็นระบบบริษัท แบบอีก 3 เจ้าก่อน คือ ไม่ต้องรอการอนุมัติจาก ครม ตัดสินใจทำได้เลย มีการบริการที่อิสระจากการเมือง จากคุณ : ohm.udomvanich@gmail.com (OFDMA) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 01:35:21

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่แน่ใจว่าเจ้าของกระทู้มี hidden agenda อะไรแอบแฝงหรือเปล่า เพราะที่ยกมาทั้ง 2 กรณี คือทั้งคุ้มครองและไม่คุ้มครอง ก็มีความรู้สึกว่าเจ้าของกระทู้มี bias อยู่แล้ว (แต่ถ้า code คำพูดจากที่อื่นมาก็ต้องขออภัย) มีประเด็นที่เห็นด้วยและเห็นแย้งกับเจ้าของกระทู้อยู่บ้าง  แต่คิดว่าคงมีท่านอื่นคงหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอย่างแน่นอน  ก็เลยจะขอสงวนความคิดเห็นไว้ก่อน  ขอตามอ่านกระทู้ไปสักระยะหนึ่งก่อนครับ จากคุณ : อินทกริต เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 01:44:50

ความคิดเห็นที่ 4 ตอบ #1 CAT/TOT มีคลื่นที่จะสามารถทำ 3G ได้อยู่แล้วครับ TOT มี 1900/2100 อยู่เพื่อทำ UMTS ส่วน CAT มี 800 ที่สามารถทำ CDMA กับ HSPA ได้อยู่แล้วครับ แต่ที่ดีที่สุดก็คือ ต้องเอา 3G ของ 800 มา roaming กับ 3G ของ 2100 เพื่อใช้ 800 ยิงไกลๆในต่างจังหวัด ส่วนในเมืองก็ต้องใช้ 2100 เพราะระยะสั้นแต่ทะลุทะลวงดีครับ ดังนั้น ทั้ง CAT และ TOT ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังถึงจะร่วมกันใช้คลื่นที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด แต่จะระบบไหนก็ตามทั้งหมดจะไปจบรวมกันที่ LTE ของ 4G ในอนาคตครับ สำหรับเรื่องสัมประทานต้องมีครับ เพราะเป็นประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนที่รัฐจะต้องมีส่วนในการใช้ทรัพยากรสาธารณะ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 01:47:00

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ #2 ราคาขายปลีกไม่มีทางถูกหรอกครับ เสรียังไงก็ไม่ถูก เพราะ เจ้าของค่ายมือถือ ก็ต้องการกำไรให้มากที่สุดเป็นปกติของพ่อค้า ส่วนเรื่องส่วนแบ่งให้กับรัฐมีได้หลายรูปแบบอย่างเช่นต่างประเทศ DoCoMo ของญี่ปุ่นก็ต้องจ่ายให้รัฐเหมือนกัน แต่ไม่ได้จ่ายในรูปของสัมปทาน แต่เป็นการจ่ายในรูปของการที่ต้องแบ่งให้รัฐเป็นหุ้นในกิจการด้วย คล้ายๆ กันแต่คนละรูปแบบกับที่ True และ Dtac ต้องจ่ายส่วนแบ่ง ผ่าน CAT ให้กับคลัง และ AIS ต้องจ่ายส่วนแบ่ง ผ่าน TOT ให้กับคลัง แต่รัฐบาลไทยฉลาดกว่าที่เราคิดเป็นค่าสัมปทานโดยรับเงินเป็น % จากยอดขาย แต่ DoCoMo รัฐบาลญี่ปุ่นรับเป็น % จากยอดกำไร (ซึ่งต้องหักค่าใช้จ่ายก่อนจะได้ประโยชน์น้อยกว่าประเทศไทย) CAT กับ TOT ต้องขยันเป็นหลายสิบหรือเ็ป็นร้อยเท่าครับ หลายเท่าไม่พอแน่ๆ ก็คอยดูครับ ถ้าไม่ปรับตัวอย่างแรงๆ ก็มีสิทธิยุบองค์กรครับ เพราะทำแบบนี้ไปไม่รอดแน่เมื่อสัมปทานหมดอายุครับ ส่วนการเป็นบริษัทเต็มรูปแบบมากเกินไปก็อันตรายจากการคอรับชั่นครับ เพราะ เจ้าหน้าที่ CAT หรือ TOT ก็ไม่ธรรมดาครับ ต้องสร้างระบบควบคุมให้ดีหว่านี้ ถึงจะสามารถปล่อยออกจากรัฐได้ครับ (คำว่ารัฐ หมายถึง สำนักงบ สำนักงานตรวจงานแผ่นดิน สำนักบริหารรัฐวิสาหกิจ สภาพัฒน์ ฯลฯ) แต่ที่แน่ๆ ถ้าการเมืองไม่มาเกี่ยวในรูปของผลประโยชน์ก็คงจะทำอะไรได้ดีกว่านี้เยอะ ซึ่งถ้าได้นักการเมืองดีๆ ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาบริหาร ก็จะทำให้ CAT และ TOT แข็งแรงพอที่จะสู้กับเอกชนได้แน่ครับ จากคุณ : TRMM เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 02:05:25

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบ #3 ไม่มี  hidden agenda อะไรแอบแฝงครับ เพราะก็บอกที่หัวกระทู้แล้วว่ามาให้ความกระจ่างครับ ผมรู้อะไรก็บอกไปอย่างนั้น รับรองว่า มีข้อมูลอีกเยอะที่หลายๆ คนยังไม่รู้ครับ ถ้าถามมา ก็จะอธิบายให้ฟังครับ ที่ยกมาทั้ง 2 กรณี คือทั้งคุ้มครองและไม่คุ้มครอง ชัวร์อยู่แล้วครับว่า ผม bias อยู่แล้ว เพราะมันเป็น fact ครับ ซึ่งเรื่องที่อธิบายไป เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้ครับ และไม่ได้ "QUOTE" คำพูดใครครับ คำพูดผมเอง 100% แต่อาจเป็นเรื่องระดับบริหารที่ไม่ค่อยมีใครเข้าถึงข้อมูลครับ มีประเด็นที่เห็นด้วยก็ข้ามเลยครับ แต่มีอะไรที่เห็นแย้งอยู่บ้าง ก็อภิปรายด้วยเหตุผลและข้อมูลได้ครับ ยินดีอย่างยิ่งที่จะพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผลครับ เพราะผมก็บอกแต่ต้นแล้วว่า ผมมาเพื่อให้ความกระจ่างครับ ติดใจสงสัย หรือมีข้อมูลอื่นก็คุยกันครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 53 02:19:29 จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 02:14:49

ความคิดเห็นที่ 7 เหตุผลเรื่องรัฐเสียรายได้ที่เป็นงบประมาณแผ่นดิน ทำไมถึงพึ่งมาฟ้องตอนนี้หละ แล้วกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ไม่เห็นออกมาพูดหรือกล่าวเกี่ยวกับการประมูล3จี อยากรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่แคทฟ้องศาลคืออะไร รัฐบาลสนับสนุนการประมูลในครั้งนี้จริงหรือเปล่า จากคุณ : princeanchy เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 03:15:23

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่ให้ความกระจ่างตรงไปตรงมาดี กระทู้นี้คึกคักน้อยกว่าที่คาดแฮะ  อาจเป็นเพราะกระทู้มาช่วงดึกมากมั้ง แวะเอา link ของโพสต์ทูเดย์ที่กล่าวถึง ประเด็นสำคัญที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กสท ยื่นฟ้อง กทช. ให้เพิกถอนการเปิดประมูล 3 จี มาฝาก  เพื่อประกอบในการเสวนากับเจ้าของกระทู้ครับ http://ไม่ใช่ลิขวิดครับ/dt101h แล้ววันพรุ่งนี้จะขอเข้ามาพูดคุยในมุมมองของผู้บริโภคคนหนึ่งด้วยครับ จากคุณ : อินทกริต เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 04:03:27

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ เง้อ!  ไหง link เป็นอย่างงี้หว่า??? งั้นลองไปหาอ่านกันเองก่อนก็แล้วกันนะครับ คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ก่อนครับ จากคุณ : อินทกริต เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 04:06:49

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบ #7 มีการทำประชาพิจารณ์หลายครั้ง ทุกครั้งมีการพูดถึงอำนาจในการจัดประมูลและเรื่องการเสียรายได้ของรัฐ ซึ่งก็ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดตลอด แต่ ผู้ที่ต้องการรีบจัดประมูลไม่สนใจจะฟัง หรือฟังแล้วก็ไม่ยอมแก้ไขและปรับเงื่อนไขในการประมูล กระทรวงการคลังโดย สคร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรัฐวิสาหกิจ ก็ท้วงเรื่องนี้มาตลอด แต่ราชการไม่สามารถทำอะไรได้มากเพราะ กทช คิดว่าเป็นอำนาาจของ กทช ในการจัดการทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้แต่พยายามอธิบายทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งขอความเห็นใจจากผู้จัดการประมูล แต่ผลสุดท้ายก็ได้เงื่อนไขที่รัฐต้องเสียประโยชน์มหาศาล และถามว่าทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนนี้ ก็เพราะ รัฐบาลก็เหมือนกับทุกๆ คนที่อยากเห็นการประมูล 3G แต่เงื่อนไขได้เพิ่งถูกประกาศโดน กทช เพียงไม่นาน ลองไปตรวจข่าวดู จะเห็นว่าประมาณ 1 มิถุนายน 2553 กทช เพิ่งจะประกาศมูลค่าไว้ที่ 10000 ล้านบาท ซึ่งก็ได้มีการท้วงกันเยอะ ดังนั้นตอนแรกก็รอดูอยู่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินที่ได้เงินเข้ารัฐให้เหมาะสมขึ้นมั้ย แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะราคาที่กำหนดออกมาใหม่เมื่อประมาณ วันที่ 7 กรกฏาคม 2553 ก็คือสองเดือนที่แล้ว อยู่ที่ 12800 ล้านบาท ต่อระยะเวลา 15ปี ทั้งๆที ต่อปี รัฐก็ได้รายได้จาก 3 ค่ายนี้มากกว่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นตั้งแต่กรกฏาทั้งเดือน ทุกฝ่ายพยายามที่จะคุยกับ กทช เื่พื่อแก้ปัญหา แต่ ผู้จัดประมูล ยังยืนยันว่าเป็นอำนาจในการจัดการประมูล พอช่วงเดือนสิงหาคม พนักงานทีโอที ก็ยื่นฟ้อง กทช ต่อศาลปกครอง ในวันที่ 10 สิงหาคม แต่ศาลไม่รับฟ้องเพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย http://www.its.in.th/index.php/component/content/article/1-latest-news/4859-39--tot-- ในระหว่างนั้นก็ได้มีการพยายามต่อรองตลอดเวลาว่าการประมูลไม่ใช่อำนาจที่ถูกต้องของ กทช แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับปลายทาง จนมาถึง เื่มื่อ 9 กันยายน ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กสท ก็ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางอีกเป็นรายที่สอง และศาลก็ไม่รับฟัองเช่นกัน เนื่องจากศาลเห็นว่าสหภาพแรงงานฯ ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงอีกเช่นกัน http://www.ryt9.com/s/iq05/980496 ดังนั้น จึงเป็นที่มาที่ต้องให้ผู้เสียหายโดยตรง ซึ่งก็คือ CAT หรือ TOT ต้องเป็นผู้ฟ้องเองโดยหัวหน้าส่วนราชการเพราะเป็นผู้เสียหายโดยตรงเมื่อวันที่ 13 กันยายน จึงมีผลออกมาอย่างที่เห็นว่า ศาลรับไว้พิจารณา และคุ้มครองฉุกเฉินให้หยุดการประมูลไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำพิพากษา ไม่นานเกินรอ รัฐบาลก็ต้องเร่งให้เกิดการประมูล 3G อยู่แล้วเพราะจะเป็นผลงานของรัฐ แต่ทั้งนี้ต้องไม่อยู่บนความเสียหายของประเทศชาติ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 04:37:20

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบ #8 ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ คุณ อินทกริต เพราะหลากหลายมุมมองจะช่วยให้เรื่องนี้จบลงด้วยประโยชน์ที่ควรจะตกกับประชาชนที่เป็นเจ้าของคลื่นสาธารณะตัวจริง เสียดายอยู่อย่างเดียวที่กระทู้อาจจะตกเร็ว ทั้งๆที่เป็นกระทู้ที่น่าจะมีสาระและเหตุผลให้กับคนที่กำลังอินกับเหตุการณ์ เพราะปกติผมก็นานๆ จะว่างเข้ามาอ่านพันทิพย์ แต่โดยปกติจะแค่เข้ามาอ่านอย่างเดียวมานานแล้ว คราวนี้เพิ่งจะตั้งกระทู้เพราะว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับข้อมูลในการติดตามเรื่องโดยที่มองดูข้อเท็จจริงที่ไม่ได้อิงกระแส ยังไงผมจะพยายามเสวนากับทุกท่านที่ให้เกียรติแวะเข้ามานะครับ จากคุณ : TRMM เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 04:49:43

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ TRMM บอกความจริงไม่หมดครับ เลือกพูดเฉพาะด้านที่ตัวเองได้ประโยชน์ รายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท ที่ถูกต้องเป็น รายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท โดยหักค่าใช้จ่าย แล้วมันเหลือเท่าไหร่ละครับ เงินที่ควรจะส่งเข้ารัฐเพื่อเป็นรายได้สำหรับประเทศ กลับต้องรั่วไหลให้กับ ขาใหญ่ และ เสือนอนกิน ช่องทางการนำเงินเข้ารัฐไม่ควรผ่านตัวกลางแต่ควรจะเข้ารัฐตรงๆ ทางที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนจากสัมปทานผ่าน CAT และ TOT เป็นการเรียกเก็บภาษีเพิ่มแทน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ผลักดัน ผมเคยเป็นเด็กฝึกงานของ CAT มาเมื่อหลายปีก่อน ตั้งแต่เข้าไปวันแรกผมมั่นใจเลยว่าองกรณ์นี้ไม่มีอนาคตแน่นอน จากคุณ : DuAliN เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 08:23:04

ความคิดเห็นที่ 13 ผมอยากทราบว่าทำไมต้องมาฟ้องตอนนี้ แล้วทำไมเมื่อก่อนไม่รีบตั้ง กสทช. ครับ ติดขัดอะไรหรือเปล่าครับ จากคุณ : bacus เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 08:23:18

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับ 12 ครับ ค่าสัมปทานเอาไปปู้ยี่ปู้ยำ เงินเดือนแพง โบนัสเพียบ เหลือเข้ารัฐกี่บาท ที่ผ่านมาคลังต้องทวงแล้วทวงอีก เคยมีคนเห็นการณ์ไกล ว่าอีกหน่อยระบบค่าสัมปทานต้องเลิก เลยคิดเอาระบบภาษีสรรพสามิตมาใช้ แต่ก็โดนโจมตีว่าเอื้อประโยชน์ ขายชาติ พอรัฐประหารเสร็จก็บ้าจี้ยกเลิกโดยไม่ได้ศึกษาให้ละเอียด ตอนนั้น ทีโอที แคท ตีปีก เพราะได้ค่าสัมปทานกลับมาถลุงเหมือนเดิม ถึงตอนนี้จะกลับไปใช้ภาษีสรรพสามิตก็ไม่ได้แล้ว เพราะด่าเค้าไว้เยอะ ก็อยู่กันไปแบบพอเพียงอย่างนี้ละครับ ประเทศไทย ปล.ไม่อยากยุ่งกับประเด็นการเมืองนะ แต่มันพันกันจนแยกไม่ออกหรอก จากคุณ : ธุดงค์ผ่านมา เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 09:02:46

ความคิดเห็นที่ 15 ผมฮามากรายได้เข้ารัฐ แต่ที่ CAT ประกาศผลประกอบการ รายได้จากสัญญาร่วม(สัมปทาน ประมาณ 50%)ถูกนำไปรวมในรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย ออกมาเป็นกำไรปันผลเสร็จสรรพแล้วจึงส่งเข้ารัฐ http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T9696135/T9696135.html ตั้งแต่ #14-16 ครับ คุณจะอธิบายส่วนนี้ว่ายังไงครับ จริงผมเป็นห่วงนะเพราะถ้า CAT ขาดรายได้จากสัมปทาน ปีล่ะเกือบ 30,000ล้าน องค์กรก็จะขาดทุนรัฐต้องเข้าไปอุ้มอีก แต่ไม่คิดจะพัฒนาให้ องค์กรอยู่ได้ด้วยตัวเองเลยเหรอถึงต้องพึ่งแต่กฏหมาย เพื่อกีดกันการแข่งขัน แล้วถ้าไม่แข่งขันเมื่อไร่มันจะพัฒนา จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 09:13:12

ความคิดเห็นที่ 16 แปลกใจว่าทำไมทั้งทีโอทีและกสท. ถึงให้พนักงานกับสหภาพมาฟ้องละครับ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่ยอมปกป้องผลประโยชน์ซะตั้งแต่แรกหรือไง พนักงานทีโอทีฟ้องครั้งแรกก็โดนศาลเด้งออกมาแทนที่จะแก้ไขกสท. ก็ทำในรูปแบบเดิมอีก  มีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือเปล่าครับ       และคำแก้ตัวของทั้ง 2 องค์กรนั้นก็หาคำบรรยายยากเหลือเกิน ราวกับว่าไม่เคยมีเครื่อง3จีอยู่ในประเทศไทยมาก่อน     ทางค่ายต่างๆเขาต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด และต้องแบกความเสี่ยงจากจำนวนผู้ใช้งาน ดังนั้นผลตอบแทนแบบคงที่หลักหมื่นล้านก็น่าจะมีความเหมาะสมอยู่นะครับ และก็ไม่รู้ว่าจะใช้ได้นานแค่ไหน เพราะเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลวิ่งเร็วมาก แถม 12เปอร์เซนต์จากรายได้นี่ก็ไม่น้อยนะครับ สิ่งสำคัญคือกทช. ควรกำหนดเพดานราคาสูงสุดให้ชัดเจน ไปเลย (หรือมีอยู่แล้วแต่ผมไม่รู้หว่า)     ที่แน่ๆประชาชนรู้ข้อมูลข้อตกลงน้อยมากจนกว่าข่าวจะเอามาเล่น อันนี้รวมทั้งเรื่องอื่นด้วย เช่น ค่าทางด่วน  มาบตาพุต  รธน.   ....  ต้องให้มีเรื่องก่อนถึงฟาดงวงฟาดงากันแล้วบอกว่ามันมีในข้อตกลง บทบัญญัติอยู่แล้ว ไม่เคยได้รับการเตือนล่วงหน้าเลย จากคุณ : TierraMan เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 10:02:43

ความคิดเห็นที่ 17 เก็บ VAT จากการใช้บริการ 3G รัฐก็ได้เงินจากตรงนี้ด้วย ยิ่งคนได้ใช้เร็วก็ได้เงินเร็ว ยิ่งคนใช้เยอะก็ได้เงินเยอะ ไม่ใช่หรือ จากคุณ : DellL เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 10:20:04

ความคิดเห็นที่ 18 ที่จ่ายครั้งเดียว เพราะคิดว่าราคาประมูลจะสูงไงครับ วิธีการประมูลออกแบบมาให้แข่งขัน (แต่ไม่รู้นะ ทฤษฎีเกม มันพลิกไปพลิกมาได้) เรื่องราคา ผมว่ามันน่าจะถูก นะครับ เพราะต้นทุนแน่นอนแล้ว สามารถแข่งขันเรื่องราคาได้เต็มที่เลย (แม้จะมีสามเจ้าเข้าประมูล แต่สัญญาบอกให้เปิดให้เช่าไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบ) น่าจะมีผู้ให้บริการหลายเจ้าอยู่นะครับ voice กับ data น่าจะราคาเท่ากัน หรือรวมกันเลย ไม่งั้น ถ้า voice แพงคนจะแห่ไปใช้ voip ที่เป็นดาต้าหมด ที่เป็นห่วง คือค่าโรมมิ่ง voice ไปคลื่น 2G มากกว่าครับ ปล. ที่มันขึ้นว่า "ไม่ใช่ลิควิดครับ" เพราะ สมัยก่อน ผมใช้ บล็อกสป็อต ซึ่งเป็นคำต้องห้าม ลบข้อความที่ไม่ต้องการออกบ่อยๆ ครับ เขาเลยประชดว่า คำๆ นี้ไม่ใช่ลิควิดนะครับ จากคุณ : กระต๊อบน้อย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 10:39:05

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท ตกเรื่องภาษีไปครับ ยังมี VAT ที่เข้ารัฐทุกครั้งที่ใช้ แล้ว USO เป็นเงินที่เอาไว้พัฒนาการสื่อสารในที่ห่างไกลครับ ถ้าคุณอยู่ในที่ห่างไกลมันสำคัญมากนะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 53 10:43:27 จากคุณ : หมูแจ๊ค เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 10:42:54

ความคิดเห็นที่ 20 เสริมคห.19 มีเรื่อง VAT พวกอุปกรณ์ด้วยครับ ยังมีเรื่องประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากบริการเหล่านี้อีกมากมาย ทำให้เกิดการพัฒนา content ของคนไทยมากขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงานขึ้นอีก จากคุณ : Buddykung เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 11:09:48

ความคิดเห็นที่ 21 ปัญหา 3G เกิดจากรัฐธรรมนูญ ทำไมเราไม่ไปดูว่า กสทช.เกิดมาจากอะไร ในขั้นการร่างรัฐธรรมนูญของสภานิติบัญญํติ ใครเป็นคนเสนอเรื่องนี้ พวกที่เสนอเรื่องนี้ มาจาก ประชาชน หรือ พวก อำมาตย? จากคุณ : ceebee50 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 11:57:13

ความคิดเห็นที่ 22 เกิดมาจาก รัฐธรรมนูญ 40 มาตรา 40 ให้ กทช. ดูแลความถี่ แต่มันมี กสช. มาดูแลสื่อ และ content บางประการ อำนาจมันเกยกัน ฉบับ 50 เขาเลยให้ยุบ มารวมเป็น กสทช. และระหว่างนี้ ให้ กทช. รักษาการ มีอำนาจสั่งการแทน ไม่ใช่มาจาก คมช. อำมาตย์ ที่นี่ไม่ใช่ราชดำเนินครับ ตัวเองมี CDMA โดยเทคโนโลยี มันดีกว่า GSM ปัจจุบันด้วยซ้ำ แต่ทำงานกันเป็นไหมละนั่น จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 12:06:44

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คคหที่ 4 อันนี้ผมทราบดีครับว่า TOT และ CAT มีทั้ง HSPA2100  และ CDMA/HSPA 850 ที่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ แต่ผมว่า ความขยันของ CAT ที่จะทำ HSPA850 น่าจะน้อยเกินไป เพราะว่าตอน Refarming จาก CDMA ไปเป็น HSPA น่าจะวุ่นวายพอสมควรถ้าหาก Network ที่มีอยู่แล้วต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถใช้ทั้ง 2 แบบได้ไปพร้อมๆ จากคุณ : ohm.udomvanich@gmail.com (OFDMA) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 12:07:28

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ #12 - #17 อยากจะตอบให้ตอนนี้ แต่พอดีเวลาไม่มี ขอเป็น ดึกๆ จะเข้ามาตอบให้นะครับ คอยหน่อยละกัน จากคุณ : TRMM เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 12:31:01

ความคิดเห็นที่ 25   2g ที่มีอยู่ก็ใช้ได้แถมครอบคลุมทั่วประเทศแต่อยากได้3gเพราะมันเร็วกว่าใช่ปะหล่ะ... จากคุณ : soong26 (soong26) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 12:44:20

ความคิดเห็นที่ 26 แวะเข้ามาเอาสรุปคำสั่งศาลปกครองมาแปะไว้ก่อนครับ ******************************************************** เปิด 8 ประเด็นสำคัญที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กสท ยื่นฟ้อง กทช. ให้เพิกถอนการเปิดประมูล 3 จี... ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 16 ก.ย. กรณีบริษัทกสท โทรคมนาคม ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือกทช. และคณะกรรมการ กทช.ทั้ง 7 คน ให้เพิกถอนประกาศการเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการ หรือไลเซนส์ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ โดยมีประเด็นสำคัญในคำสั่งดังกล่าวดังนี้ 1.ผู้ฟ้องคดีได้มีคำร้อง ขอให้ศาลส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา วินิจฉัยว่า มาตรา 46 มาตรา 51 และมาตร 63 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลชื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติในมาตรา 47 วรรคสอง ประกอบมาตรา 305 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่ โดยที่มาตรา 211 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บัญญัติว่า “ในการที่ศาลจะใช้บทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับคดีใด ถ้าศาลเห็นเองหรือคู่ความโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติแห่งกฏหมายนั้น ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 6และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินั้น ให้ศาลส่งความเห็นเช่นว่านั้นตามทางการเพื่อศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณา วินิจฉัย ในระหว่างนั้นให้ศาลดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ แต่ให้รอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” เมื่อศาลจะต้องใช้บทบัญญัติดังกล่าวในการบังคับแก่คดีเพื่อวินิจฉัยถึง การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ศาลจึงต้องส่งความเห็นดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ดังนั้น คำฟ้องคดีนี้จึงมีมูลที่จะพิจารณาต่อไป โดยมีปัญหาข้อกฎหมายสำคัญว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2มีอำนาจตามกฎหมายในการจัดสรรคลื่นความถี่ในย่าน 2.1GHz รวมทั้งมีอำนาจในการออกประกาศที่พิพาทหรือไม่ 2.หากให้มีการประมูลตามกำหนดเดิมของผู้ถูกฟ้องคดีต่อไป ก็จะทำให้มีผู้ชนะการประมูล และให้ดำเนินการล่วงเลยไปจนถึงขั้นตอนการออกใบอนุญาตให้ผู้ชนะการประมูล 3.หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า มาตรา 46 มาตรา 51 และมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก็ดี หรือศาลมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ดี ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายที่มากกว่าและยากกว่าในการเยียวยาแก้ไขภายหลัง โดยอาจเกิดกรณีฟ้องร้องเกี่ยวกับผลการประมูล ซึ่งย่อมทำให้เกิดปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนยิ่งขึ้น 4.หากศาลไม่ระงับการประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวไว้ก่อน และต่อมาผลคดีออกมาในทางที่ไม่เป็นคุณแก่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ความเสียหายที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมย่อมมีมากเพราะการเปิดให้ บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT หรือ 3G เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจและสังคมของประเทศมีการพัฒนาและเจริญเติบโต คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ(GDP)ทั้งทางตรงและทางอ้อมจะสูงขึ้นถึง ประมาณ 240,000 ล้านบาท ถึง 480,000 ล้านบาท อีกทั้งจะมีการระดมเงินทุนเทคโนโลยีและความรู้ต่าง ๆ ทั้งจากภายในปละภายนอกประเทศเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมและวาง ระบบเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT 5.นอกจากนี้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ชี้แจงไว้ ด้วยว่าในการเปลี่ยนจากการใช้บริการคลื่นความถี่เดิมที่เป็นระบบ 2G ไปสู่คลื่นความถี่ 3G นั้น ประชาชนผู้ประสงค์จะใช้คลื่นความถี่ในระบบใหม่จะต้องซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ ใหม่ที่สามารถรองรับการใช้งานในระบบ 3G ซึ่งเมื่อคำนึงถึงจำนวนของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันตามคำ ชี้แจงของผู้ฟ้องคดีว่า เฉพาะในส่วนที่เป็นลูกค้าของผู้ฟ้องคดีและลูกค้าในบริษัทที่อยู่ในระบบ สัมปทานของผู้ฟ้องคดีมีจำนวนกว่า 30 ล้านเลขหมาย และหากนับรวมเอาผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดย่อมมีจำนวนสูงมาก จึงมีข้อที่ต้องคำนึงประกอบในส่วนของความเสียหายที่จะเกิดขึ้นด้วยว่า หากศาลไม่มีคำสั่งให้ระงับการประมูลคลื่นความถี่ระบบ 3G ไว้ก่อน อาจส่งผลให้ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คาดคิดไปเองว่า การดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองในการจัดสรรและออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ ในระบบ 3G ดังกล่าวไม่มีข้อบกพร่องและอาจตัดสินใจซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อรองรับ ระบบใหม่ ด้วยคาดหวังว่าจะมีการให้บริการ 3G จากการประมูลที่จะมีขึ้นอย่างแน่นอน หากศาลวินิจฉัยว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่มีอำนาจจัดสรรและออกใบอนุญาต การเยียวยาต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากย่อมทำได้ยาก 6.ปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาต 3G อยู่แล้ว 2 ราย คือ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับใบอนุญาตในย่านความถี่ 2,100 MHz และผู้ฟ้องคดีที่ได้รับใบอนุญาตโครงข่าย CDMA จึงเป็นกรณีที่มีผู้ให้บริการในระบบ 3G อยู่แล้วแต่เดิม รวมทั้งปรากฏตามคำชี้แจงของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ว่า โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายเดิม (ที่เป็นระบบ 2G)มีพื้นที่และขอบเขตในการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศอยู่แล้ว จึงเห็นได้ว่าการระงับการประมูลในระบบ 3 จี ชั่วคราวไม่กระทบต่อการดำเนินงานของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองและการบริการ สาธารณะ 7.หากให้มีการดำเนินการประมูลต่อไปโดย ไม่มีคำสั่งระงับจนมีผู้ชนะการประมูล โดยที่หลักเกณฑ์ตามประกาศที่พิพาทกำหนดให้ผู้ชนะการประมูลต้องชำระค่า ธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ ค่าตอบแทนการใช้คลื่นความถี่ ร่วมถึงค่าธรรมเนียมอื่นๆ ซึ่งคาดหมายได้ว่าจะมีจำนวนสูงเนื่องจากมูลค่าขั้นต่ำของการประมูลเริ่มต้น ที่ 12,800 ล้านบาท และผู้ได้รับใบอนุญาตต้องลงทุนสร้างโครงข่ายเพื่อให้บริการตามหลักเกณฑ์และ เงื่อนไขตามประกาศที่พิพาท ผลกระทบต่อผู้ชนะการประมูล ที่ต่อมาภายหลังการประมูลถูกเพิกถอนซึ่งเป็นภาระความรับผิดชอบของผู้ถูก ฟ้องคดีทั้งสองที่ต้องเยียวยาแก้ไข กลับจะเป็นปัญหาอุปสรรคใหญ่ต่อการบริหารงานของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเอง 8.มาตรา 305(1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 บัญญัติว่า "มิให้นำบทบัญญัติมาตรา 47 วรรคสอง มาใช้บังคับจนกว่าจะมีมาตรากฎหมายตามมาตรา 47 จัดตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่จัดสรรความถี่และกำกับดูแลการประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมซึ่งต้องไม่เกินร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่แถลงนโยบายต่อ รัฐสภา..."นั้น ปรากฎตรงกันตามคำชี้แจงของคู่กรณีว่า บทกฎหมายดังกล่าว ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.... ดังนั้นเมื่อยังไม่มีการตรากฎหมายขึ้นใหม่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ความล่าช้าของการออกใบอนุญาต 3G ย่อมมีสาเหตุมาจากการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตาม มาตรา 305(1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ทั้งนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า กฎหมายใหม่ดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเมื่อกฎหมายดังกล่าวออก ใช้บังคับย่อมทำให้เกิดองค์กรใหม่ในการดูแลการจัดสรรคลื่นความพี่ในภาพรวม ทั้งคลื่นความถี่เพื่อกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และคลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคม การดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การจัดตั้ง องค์กรกำกับดูแลคลื่นความถี่องค์กรใหม่ นอกจากมีประเด็นในเรื่องของอำนาจของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองแล้วยังอาจเป็น ปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินงานขององค์กรกำกับดูแลคลื่นความถี่ที่จะจัดตั้ง ขึ้นตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ด้วย จึงมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้ม ครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนพิพากษา โดยให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองระงับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความมถี่เพื่อการ ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1GHzและการดำเนินการต่อไปตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการประกอบกิจการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT ย่าน 2.1 GHz ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่งเป็นต้นไป ******************************************************** ที่มาจากโพสต์ทูเดย์|วิเคราะห์ จากคุณ : อินทกริต เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 13:58:59

ความคิดเห็นที่ 27 โดยรวมแล้วทำเร็วผมว่าดี แต่ถ้าสมมุติว่าเจ้าที่มันแรงขนาดนี้ ควรแบ่งทำกันเป็นเฟสๆ อย่าให้ไปทีเดียวหมด ทำเฟสทดลองเหมือนให้ผ่านโปร แล้วก็คิดค่าเสียหายภาครัฐตามกระแส คือเบื้องต้นเก็บหนักก่อน หลังๆเก็บลดลง เนื่องจากการแข่งขันมันจะสูงขึ้น แต่โดยหลักการ รัฐควรได้ประโยชน์มากกว่าเอกชน และผู้ที่ออกแบบระบบควรมีความชัดเจนไปเลยว่าใครเป็นผู้บริหารจัดการ รายได้จะใช้ไปในทางไหน ไม่ใช่ไม่บอกอะไร เขียนไว้กว้างๆ เงินไม่ได้เข้ารัฐเท่าไหร่แบบนี้แย่ครับ โดยเทคโนโลยีตัวนี้ผมว่าเดี๋ยวนี้ระบบในประเทศเราก็รองรับกันจะหมดแล้ว หาซื้ออุปกรณ์พวก network connector ระดับ 2.1ghz ได้ดาษดื่น ไม่น่าจะยากน่าจะทำได้ทุกราย แต่ใครทำแล้วให้ผลประโยชน์กับรัฐมากที่สุดเท่านั้นแหละก็ให้มันไป หรือถ้าทำไม่ได้รัฐก็กระตือรือร้นทำเองไปเลยครับ แต่กลัวว่าข้างหลังบ้านรัฐจะจับมือกับเอกชนบางฝ่ายเหมือนที่มีข้อสงสัยกันน่ะสิ รีบทำๆให้จบๆ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ตอจะได้ผุด ขอบอก จากคุณ : นักเขียนกรุงเก่า เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 14:05:07

ความคิดเห็นที่ 28 มีกระทู้ที่เกี่ยวกับ Game theory ที่ กทช.เอารูปแแบมาใช้ในการประมูลครั้งนี้ที่คุณ house (panote_saechiew) อภิปรายไว้ในห้องหว้ากอ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9685433/X9685433.html ผมก็ว่าน่าสนใจดีครับ  เพราะตัวเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเกื่อบหมดแล้ว อยากให้ช่วยกันสังเคราะห์หน่อยครับ เพื่อที่จะสามารถเสวนาได้อย่างมีเหตุมีผลครับ จากคุณ : อินทกริต เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 14:07:55

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ต้องไปมีหรอกครับ ประมูลทีทะเลาะกันที อยู่แบบนี้กันก็พอละมั้ง ตามหลังเพื่อนบ้านกันต่อไป จากคุณ : tanix เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 14:11:43

ความคิดเห็นที่ 30 ต้องเคารพศาลครับ ปัญหาตอนนี้คือเราไม่สามารถคาดหวังใดๆได้จากฝ่ายบริหาร เรามีฝ่ายบริการที่ไม่สามารถใช้อำนาจได้เต็มที่ ไม่สามารถพลักดันและขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัญหาภายในของเราเอง "ผมอยากเห็น สนับสนุน เห็นด้วย แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้" แบบนี้จบ ป4 ก็ทำได้ครับ การปฏิรูปธุรกิจคมนาคมต้องเกิดครับ มันจะเริ่มได้ต้องเริ่มจากรัฐบาลผู้มีอำนาจ และคนในชาติต้องเห็นไปทางเดียวกันด้วย สุดท้าย ผมอยากทราบว่าการที่ศาลบอกว่าการที่ต้องเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ในตอนแรกจึงจะยื่นฟ้องได้นั้น นอกจาก CAT และ TOT ยังมีใครที่เป็นผู้เสียผลประโยชน์อีก ถ้าสมมตินะครับว่า CAT และ TOT ออกมาบอกว่า จะไม่ยืนฟ้องเพราะยอมรับได้ที่เสียผลประโยชน์ การให้บริการ 3G จะสะดุดได้เพราะเหตุใดอีก จากคุณ : DuAliN เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 14:30:29

ความคิดเห็นที่ 31 ผมขอออกความเห็นในฐานะชาวบ้านว่า ทำไม CAT และ TOT ไม่เห็นลดราคาค่าใช้ internet ในราคาถูกกว่าจ้าวอื่น ๆ เลย ประสิทธิภาพก็ด้อยกว่าเขา ในราคาพอ ๆ กัน แล้วที่บอกว่าทำเพื่อชาติ ประชาชน มันจริงเท็จแค่ไหน ดูที่ราคารายเดือนก็รู้แล้ว จากคุณ : อั๋น (Captain_Unn) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 15:23:08

ความคิดเห็นที่ 32 ไปไหนมา สามวาสองศอก จากคุณ : ParisHolic เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 15:37:32

ความคิดเห็นที่ 33   ประชาชนชาวไทยผู้โหยหา 3G ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำมันคืออะไร จะมีคนรู้จริงสักกี่คน การประมูลนั้นเขาจะประมูลคลื่นความถี่ ย่าน 2.1 GHz มีความกว้างหรือ Bandwidth 15 MHz 3 block หรือ 3 ใบอนุญาตนั่นเอง เนื่องจากว่ามีผู้ยื่น 3 เจ้าเลยให้ประมูล 2 ใบ กฎ n-1 ตบตูดอีก 1 ใบหลังจากนั้น ก็เป็น 3 ใบอยู่ดี เปรียบเหมือน กทช ขายที่ดิน คุณซื้อที่ดินตรงนี้ แต่ว่าจะสร้างบ้านไม้ หรือตึกสิบชั้นก็แล้วแต่จะสร้าง (เงินคุณลงทุน) นั่นก็คือเทคโนโลยีที่ใช้นั่นเอง 1G 2G 3G หรือ 4G (ปัจจุบัน ITU ยังไม่กำหนด ดังนั้นแปลว่าที่สุดก็ไม่เกิน 4G จึงเป็นที่มาของ 3.9G ที่เมืองไทยเรียกขานกัน) ITU (International Telecommunication Union) องค์กรระหว่างประเทศด้านโทรคมนาคมในนามสหประชาชาติ กำหนดข้อตกลงกันทั่วโลกไว้ว่าย่าน 2.1GHz นี้ ให้ใช้เทคโนโลยีขั้นที่ 3 หรือ 3G นั่นเอง (ผู้ผลิตอุปกรณ์ก็จะผลิตให้รองรับย่านนี้ทั่วโลก) ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คนไทยไม่ได้ใช้ 3G เพราะทุกวันนี้ สามเจ้ายักษ์ใหญ่ ก็เปิดในเชิงทดลองให้ใช้กันอยู่แล้วในบางพื้นที่ แต่อยู่ที่ว่า ชอบต่อกฎหมายหรือไม่ต่างหาก สำหรับอำนาจ ของ กทช ในขณะนี้ เนื่องจากมีการพิจารณาบางมาตราว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 และ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ พ.ศ.2535 หรือไม่ และผลประโยชน์ที่เป็นรายได้เข้า กระทรวงการคลัง และ รัฐ ต่างหาก ผ่าน รัฐวิสาหกิจ 2  องค์กร ซึ่งจะสูญเสียระหว่างทาง 2 หน่วยงานนี้เท่าไร ? ทำใม.... จึงร้อนรนในการต้องเปิดประมูล 3G ให้ได้ ทั้งที่รู้ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐ ธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศที่ปกครองระบบนิติรัฐ...แต่ก็ยังร้อนรนในการ จะต้องเปิดประมูล 3G ให้ได้สาเหตุจะมาจากสิ่งเหล่านี้หรือไม่... 1. คณะกรรมการชุดนี้กำลังจะหมดอำนาจถ้ามี กสทช.ตามรัฐธรรมนูญ 2. การเดินสาย โรดโชว์ ไปยังต่างประเทศ หลายสิบล้านบาท ได้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างไรบ้าง 3. การเร่งประมูลเพราะ ทั้งที่ยังมีคำถามเชิงสงสัยต่อข้อกฎหมายและทำหน่วยงานรัฐเสียหาย สุดท้ายก็ประเทศนั่นแหล่ะเสียหาย รัฐไม่ได้อะไรเพิ่มเพียงแต่เปลี่ยนรายได้จากระบบ 2G ไปสู่รายได้จากระบบ 3G เพราะเป็นรายเดิมทั้งหมด เป็นการเอื้อเอกชนให้จ่ายเงินให้รัฐน้อยลง       3G มีประโยชน์กับทุกคนอย่างเร่งด่วนจริงหรือ รอบบ้านเราเขาใช้กันประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว การให้ข้อมูลต่อประชาชนมีแค่ด้านเดียว แต่สร้างความชวนเชื่อเสียมากกว่า จริงไม่มีใครออกมามองความถูกต้อง  ลาว กับ กัมพูชา เพิ่งลงทุนโทรศัพท์มือถือ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ จึงลงทุนได้ในคราเดียวกัน และ ส่วนใหญ่ทั่วโลกก็ยังเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ 2G มากกว่า 3G อย่างว่า "ผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์" แต่ก็นะเคยได้ยินไหม ชนะศึกแต่แพ้สงคราม กทช อำนาจขนาดนี้ กสทช จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน มิพักจะเอ่ยถึงผลประโยชน์เหลือคณานับที่ข้าพเจ้าก็มิอาจล่วงรู้ แล้วใครเล่าจะรู้? ไม่ใช่ไม่อยากใช้ แต่อยากใช้ บนความถูกต้อง เห็นชอบด้วยครรลอง และ ไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด คือ ประชาชนคนไทย จากคุณ : Delanmarley (delanmarley) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 16:01:00

ความคิดเห็นที่ 34 ผมไม่ได้อยากจะรีบใช้3G อะไรนักหนา แต่อยากให้มีการประมูลเสีย เพราะดูแล้ว ประเทศไทยมีคนที่อาจจะได้ใช้ประโยชน์ได้ เพิ่มช่องทางทำมาหากิน และอีกประการนึง ผมอยากให้พวกเสือนอนกินที่มันขี่คอค่าโทรพวกผมอยู่ทุกวันนี้ ล้มหายตายจากไปเสียทีครับ จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 16:49:51

ความคิดเห็นที่ 35   เอ้อ กำของคนไทย 3g ไปไม่ถึงดวงดาวซะแล้ว ไปท่านๆทั้งหลายช่วยกันไปหาอะไรเทียมเกวียน แมวหรือ ? แพ้ประเทศล้าหลังซะแล้ว กำของใคร? ใครได้ใครเสียผลประโยชน์ เราๆ ท่านๆ รู้อยู่แก่ใจ จากคุณ : หาอะไรเทียมเกวียนดี แมว หรือ ? เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 19:35:23 A:180.210.216.131 X: TicketID:287498

ความคิดเห็นที่ 36 โครงการ ใดที่เป็นที่ต้องอย่างกับประชาชน มักมีปัญหา เรื่องผลประโยชน์ หน่วบงานราชการ นักการเมือง จงตระหนัก คุณเป็น ข้ารับใช้ประชาชน โปรดนึกถึง ผลประโยชน์ประชาชน ให้มากกว่าประโยชน์ เพียงหมู่คณะ หรือ ใครบางคน เราเป็นคนเหมือน อย่าได้คิดว่าคุณมีอำนาจ วาสนา บารมี มากกว่าประชาชน หรือกลัวว่าคนจะหูตาสว่างมากขึ้น จนคุณหมดหนทางที่จะ:-)ใครกินได้ ศาลปกครอง กรุณาทำหน้าที่ เพื่อประชาชน อย่าเห็นแก่ผู้ใด กลุ่มใด ประชาชนเองก็จำไว้ ว่าใครทำอะไร อย่าเป็นผู้ถูกกระทำจนชาชิน จำให้ได้ การนิ่งเฉยให้คนทำ:-) เท่ากับ ตัวเรา เห็นด้วยกับความ:-)นั้น จากคุณ : g@e (g@e) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:01:04

ความคิดเห็นที่ 37   ต่อให้เอาไปรษณีย์ หรือ ยกพนักงาน บ.ที่คุณคิดว่ามีคุณภาพ มาทั้งบริษัท มาทำ ถ้ามันมีการเมืองก้อเจ๊งครับ ไปรษณีย์โชคดีเพราะเค้าไม่มีผลประโยชน์มหาศาล อย่างสายสื่อสาร ลองคิด หวยออนไลน์ ลงทุนโครงข่ายสนองนโยบายรัฐ เปลี่ยนรัฐบาล ยกเลิกซะ แคทไปเรียกจากใครได้ ถ่ายทอดสด วีดีโอลิ้งจากเมืองนอก ฟรี จะไปเีรียกจากใครได้ USO ลงทุนข่ายสายตามชนบท ธุรกันดาร ให้สถานีอนามัย ถามว่า เอไอเอส ดีแทค เค้าจะลงทุนทำไหม จะไปเรียกจากใครได้ ท่านผู้ยิ่งใหญ่บุคคลวีไอพี นักการเมืองทั้งหลาย พอลงจากตำแหน่ง เบอร์โทรต่างประเทศวีไอพี ใช้โทรฟรี ไม่ยอมคืนตามไปด้วย จะไปเรียกจากใครได้ ลงทุนทำแล้ว เอกชนผุ้ถือหุ้นใหญ่ในรัฐบาล เสียผลประโยชน์ งั้นผู้ยิ่งใหญ่สั่งยกเลิกซะ จะไปเรียกจากใครได้ หลายคนมีลูกเมียต้องเลี้ยง ประท้วงไปก็หายสาบสูญ ตกงาน ขนาด 91 ศพ ยังเป็นผู้ก่อการร้าย แล้วจะไปเรียกจากใครได้ เปลี่ยนรัฐมนตรี รื้อโปรเจคใหม่ ของดีๆๆมีคุณภาพไม่เอาจ่ายให้ข้าพเจ้าน้อย งั้นเอาถูกๆๆ ห่วยๆมาทำตลาดดีกว่า เอื้อกระเป๋าอั๊ว (ขอนะ 20%) แถม นายทุน พรรคที่เป็น บ คู่แข่งก็พอใจ อีก แล้ว กสท จะไปเรียกจากใครได้ ผมพนักงานคนนึง มีพ่อแม่ลูกเมียที่ต้องเลี้ยง อยู่ๆๆร้องเรียนแล้วหายสาปสูญลูกเมียจะไปเรียกจากใครได้ จากคุณ : วิศวกรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:20:58 A:10.32.3.120 X:202.6.107.73 TicketID:241623

ความคิดเห็นที่ 38 ดูถูกครูที่เคยสอนไม่เจริญครับ การฝึกงานเหมือนการเรียน ผู้ผึกสอนงานก็เปรียบเหมือนดั่งครูคนหนึ่งครับ จากคุณ : singtel (peyak) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:31:17

ความคิดเห็นที่ 39   ประเด็นรัฐได้ค่าตอบแทนน้อยลง ค่าสัมปทานเดิมที่จ่ายผ่าน กสท ทศท เหลือเข้ารัฐจริงๆกี่เปอร์เซนต์ เข้าคลังแล้ว เอามาจัดสรรงบประมาณถึงมือประชาชนจริงๆกี่เปอร์เซนต์ ถ้าเทียบกับแบบที่ กทช กำหนดให้จ่าย 4%USO จะแตกต่างกันมากน้อยเท่าไหร่ อีกอย่าง ค่าสัมปทานที่บริษัทต้องจ่าย ก็ถูกโยนภาระให้ประชาชนอยู่ดีในรูปของค่าบริการราคาแพง เท่ากับประชาชนจ่ายผ่านบริษัทมือถือ ผ่านบริษัทให้สัมปทาน ผ่านกระทรวงฯ เข้าคลัง หายหกตกล่นไปเท่าไหร่ ความจริงควรจะมีค่าสัมปทานในธุรกิจนี้หรือไม่ ซึ่งจะต่างจากค่าสัมปทานอื่น เช่น ดีบุก ซึ่งส่งออก คนที่จ่ายจริงๆคือต่างชาติ แต่กรณีมือถือคนที่จ่ายจริงๆคือประชาชนที่เป็นลูกค้า แล้วหายไประหว่างทางเท่าไหร่ ย้อนกลับมาถึงประชาชนเท่าไหร่ ทำไมต้องทำให้มันอ้อมไปไกลเพื่อให้กลับมาที่เดิม จากคุณ : OTO เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:35:40 A:124.121.234.133 X: TicketID:124468

ความคิดเห็นที่ 40 รู้ตั้งแต่เข้าไปวันแรกก็มั่นใจเลยว่าองกรณ์นี้ไม่มีอนาคตแน่นอน  รู้ขนาดนี้แล้วยังทนโง่ฝึกงานจนจบหลักสูตรอีกนะครับ ฉลาดมากจริงๆเลยครับ ผมนับถือท่าน ความเห็นที่12 จริงๆอยากมอบนกเอี้ยงให้ไปคอยดูแลท่านจริงๆ(เอ หรือว่าทานโง่จริงๆถึงดูถูกครูผู้ประสาทวิชาให้ท่านได้ลงคอ) ทำงานที่ไหนคงมิวายดูถูกบริษัทของตัวเองอยู่เป็นนิจกระมัง จากคุณ : singtel (peyak) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:42:22

ความคิดเห็นที่ 41   เสียหายไม่เสียหาย มันคำนวณได้นะครับ ทำซิมูเรเตอร์ก็รู้แล้ว มองเรื่องที่รัฐจะได้มาก หรือ ได้มากขึ้นไปอีก จะดีกว่า แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ประชาชนต้องได้ใช้ประโยชน์ และพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ไม่ใช่ตั้ง กทช ขึ้นมา เพื่อทำให้ค่าโทรแพงขึ้น เหมือนใน ปัจจุบัน แค่เรื่องนี้ก็ขำกลิ้งลิงกับหมาแล้ว จากคุณ : ขำดีประเทศไทย เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:42:46 A:110.49.193.237 X: TicketID:038237

ความคิดเห็นที่ 42 น้องฝึกงานแผนกผม  ผมสอนทุกอย่าง ขนาด หลักสูตรอบรม ที่จัดให้เฉพาะพนักงาน ซึ่งถ้าไปอบรมข้างนอกเหยียบแสน ก็ ให้น้องไปนั่งฟัง ทั้งพาไปดูงาน ศรีราชา บางรัก ให้ช่วยงานทั้งๆๆถ้าเราทำเอง งานเราก็เสร็จเร็ว แต่เราอยากให้น้องเค้าเป็น น้องเค้ารู้ สิ่งต่างๆเหล่านี้หาไม่ได้ตาม บ.เอกชนหรอกครับ ด้วยหวังว่าน้องฝึกงานเหล่านี้เมื่อฝึกเสร็จ จะมีทัศนคติที่ดีกับองค์กร แล้วอยากมาร่วมงาน เฮ้อ อย่างนี้คงต้องงดรับน้องฝึกงานละครับ จากคุณ : singtel (peyak) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:50:04

ความคิดเห็นที่ 43   ความคิดเห็นที่ 12 ครับ ณ ตั้งแต่ผมเข้ามาเป็น วิศวกร ที่แคท ถ้าน้องฝึกงานถ้ามาฝึกที่แผนกผม (แผนกอื่นๆผมก็ว่าวิศวกร หรือ พี่นายช่าง เค้าก็ดูแลน้องฝึกงานดีไม่ต่างจากผม) ผมสอนทุกอย่าง ขนาด หลักสูตรอบรม ที่จัดให้เฉพาะพนักงาน ซึ่งถ้าไปอบรมข้างนอกราคาเหยียบแสน ก็ ให้น้องไปนั่งฟัง พาไปทำแลป ทั้งพาไปดูงาน ไซด์ศรีราชา บางรัก หลายๆคนที่มาฝึกงาน ความรู้พื้นฐานบอกตรงๆครับเด็กสมัยนี้พื้นฐานทางวิชาชีพแทบไม่มี ทั้งๆที่อีกไม่กี่เดือนก็จบเป็นบัณฑิต แต่พวกผมก็มานั่งสอน ตั้งแต่พื้นฐาน ไม่เคยบ่นหรือว่าทั้งๆที่ถ้าจะมาฝึกงาน ควรต้องรู้เนื้องานที่จะมาฝึกสัก 50 % ก็ยังดี ให้ช่วยงาน ทั้งๆๆถ้าเราทำเอง งานเราก็เสร็จเร็ว แต่เราอยากให้น้องเค้าเป็น น้องเค้ารู้ เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ สิ่งต่างๆเหล่านี้หาไม่ได้ตาม บ.เอกชนใหญ่ๆ หรอกครับ เค้าไม่รับเด็กมาฝึกงานมาดูไซด์งานหรอก ความลับเขา งานก็จะเสียหาย ด้วยหวังว่าน้องฝึกงานเหล่านี้เมื่อฝึกเสร็จ จะมีทัศนคติที่ดีกับองค์กร แล้วอยากมาร่วมงาน เฮ้อ อย่างนี้คงต้องงดรับน้องฝึกงานละครับ งัย คุณเจ้าของความคิดเห็นที่ 12 ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับที่คุณฝึกสายงานอะไร ฝ่ายไหน ส่วนอะไร ฝึก ปี พศ.ไหน ช่วงเดือนไหน ผมจะได้ ไปตรวจสอบเพื่อไม่ให้รุ่นน้องสถาบันคุณ ไม่ต้อง มาฝึกงานสถานที่แย่ๆๆไม่มีอนาคต อย่างที่รุ่นพี่เช่นคุณบอก ครับ จากคุณ : วิศวกรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 20:56:43 A:10.32.3.120 X:202.6.107.73 TicketID:241623

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่ากทชก็ยื่นเรื่องผลักดันให้มีการประมูลอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่สุดแล้วนะ ส่วนเรื่องที่จะมีนอกมีในนั้น มันก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะถ้ามองเผินๆ ก็เหมือนดูจะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนอยู่  แต่หากลองมองในมุม กทช ถ้าไม่ทำอย่างนั้น การประมูลก็จะไม่เกิดขึ้น และ กทช ก็จะหมดวาระ ส่วน 3G ก็ต้องรอไปอีก 2 ปี ( จุดประสงค์ของ กทช คือ เร่งจัดผลักดันให้มีการประมูลเกิดขึ้น ส่วนเบื้องหลังนั้นทำเพื่ออะไร ก็ต้องดูรายละเอียดในเชิงลึก ) // ไม่ว่าจะมองมุมไหน คนที่เสียประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่รัฐ หากแต่เป็นหน่วยงานภาครัฐ คือ กสท และ ทีโอที เองที่จะเสียรายได้มหาศาล เมื่อเทียบกับที่รัฐต้องเสีย ( เพราะยังไง รัฐก็มีวิธีบีบหาเงินจากเอกชนอยู่แล้ว ) แต่ทั้งนี้ ผลประโยชน์มหาศาลที่ กสท และ ทีโอที จะเสีย คือ การต้องลงมาแข่งขันกับพ่อค้า หากมีการประมูลเกิดขึ้น เพราะไม่ว่าอย่างไร เอกชนที่มีใบอนุญาตก็จะไม่ต้องเพิ่งพา สัมปทานของ กสท และ ทีโอที ที่ได้มาจากภาครัฐอีกต่อไป ส่วนหนึ่ง มองว่ากลไกการตลาดมันสามารถผลักดันไปได้หลายวิธี เช่น ถ้ากสท และ ทีโอที บริหารจัดการเครือข่ายของตัวเองให้ดี ก็จะแข่งขันกับเอกชนสามรายได้ไม่ยาก ( ไม่ต้องพึ่งพารายได้จากสัมปทาน ไม่ต้องรอให้เอกชนมาดำเนินงาน) ซึ่งทุกวันนี้ ทีโอที และ กสท เอง ต่างก็พัฒนาระบบเครือข่ายที่ตัวเองทำอยู่แล้วเพียงแต่ว่า ยังติดปัญหาอยู่ ซึ่งสรุปแล้วผลการดำเนินการมันล่าช้ากว่าเอกชน แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเราไม่มองเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง 3G ได้เกิดแน่ๆ แต่อยู่ ที่เมื่อไหร่? เพราะถ้าเรามัวแต่อ้างโน่น อ้างนี่ มันก็ไม่เกิดสักที เพราะมัวเอาประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก มากกว่าที่จะมองไปข้างหน้า การหารายได้จาก 3G มันมีอยู่แล้วครับ อย่างที่บอก ถ้าหน่วยงานรัฐเจ๋งจริง การจะลงมาแข่งขันกับเอกชนได้ไม่ใช่เรื่องยาก [[[ ผมมองว่า ไม่ว่าอย่างไร ดูจากสถานะปัจจุบัน กสท และ ทีโอที ก็ยังสู้เอกชนไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าถ่วงเวลาไปปีหน้า กสท และ ทีโอที ก็อาจจะแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับพ่อค้าเอกชนได้ ]]] ผมเห็นด้วยว่าเรื่องครั้งนี้เป็นแค่การถ่วงเวลาเท่านั้น ยังไง3G ต้องเกิด แต่เกิดโดยใคร?  แล้วสุดท้ายทำไปเพื่ออะไรต้องดูว่า ใครได้ประโยชน์ เพราะถ้าการประมูลระงับ รัฐก็ยังเห็นว่า ปชช ยังมี 3G ให้ใช้  ( 3G จึงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร สำหรับรัฐฯ แต่หากเป็นเรื่องเร่งด่วนของประชาชนที่รอการบริการซึ่งกว่าที่มันจะครอบคลุม ประเทศอื่นๆเขาอาจจะได้ 4G กันไปแล้ว และเราอาจจะต้องหยุด 3G เพื่อก้าวข้ามไปสู่ 4G ให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งมันจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยครับกับ 3G ในประเทศไทย ที่gikจะไม่ได้ใช้ประโยชน์มันอย่างเต็มที่ ) หวังว่า การผลักดันให้นำ 3G มาใช้ให้เกิดประโยช์ในครั้งต่อไปควรคำนึงปชช.และประเทศชาติให้มากกว่านี้ ลดความ หกต. ของทุก(บาง)ฝ่ายลงสักนิด มันจะไม่มีทางที่จะโปร่งใสร้อยเปอร์เซ็นต์ไปได้ เพราะการดำเนินงานของ CAT และ TOT มันก็ไม่ได้โปร่งใสดีไปกว่าการดำเนินงานของเอกชน แต่ก็หวังว่าเม็ดเงินนั่นจะไม่ควรถูกแบ่งไปเข้ากระเป๋าใคร โดยที่ประเทศไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย สรุปง่ายๆเลยละกัน ทุกวันนี้ ถ้ารัฐวิสาหกิจ ทำดีแล้ว เราไม่ต้องพึ่งพาเอกชนที่แสวงหาแต่ผลกำไรหรอกครับ ปัญหามันอยู่ที่สหภาพรัฐวิสาหกิจเองที่ผลักดันพัฒนาให้มากขึ้นกว่าเดิมไม่ได้     นั่นจึงเป็นเหตุที่ว่า ทำไม คนส่วนใหญ่ จึงสนับสนุนให้กทช เปิดประมูลใบอนุญาตให้แก่เอกชน เพื่อผลักดันให้ 3G เกิดขึ้นในประเทศ ( ทั้งๆที่บางคนเองก็รู้ว่า ผลประโยชน์ส่วนใหญ่มันอาจจะตกไปอยู่กับพ่อค้าครับ ) แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 53 12:03:02 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 53 23:04:25 จากคุณ : Cho_shang เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 22:52:25

ความคิดเห็นที่ 45 ลองอ่าน คห 37 นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ CAT ไร้อนาคต การเมืองเต็มบริษัท(จากปากคนในเองเลยนะเนี่ย) กรุณาอย่าเบี่ยงเบนประเด็นครับ จะด่าผมก็ด่าไปเหอะครับ แต่ขอให้ตอบคำถามด้วย (หรือว่าตอบไม่ได้) หัวกระทู้ก็บอกอยู่แล้วว่างดใช้อารมณ์ (อ่านออกไหม) ผมเข้าใจครับว่าชีวิตพวกคุณรันทดแค่ไหน (ได้ยินมาจนเบื่อ) จากคุณ : DuAliN เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:12:57

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 12 คุณ TRMM บอกความจริงไม่หมดครับ เลือกพูดเฉพาะด้านที่ตัวเองได้ประโยชน์ รายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท ที่ถูกต้องเป็น รายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท โดยหักค่าใช้จ่าย <<< เอ่อ บริษัทนะครับ ต่อให้มูลนิธิ ก็ต้องหักค่าใช้จ่าย จากคุณ : somkiat_kk (somkiat_kk) เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:17:09

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 13     ผมอยากทราบว่าทำไมต้องมาฟ้องตอนนี้ <<< ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้แค่ขู่ว่าจะเปิดประมูล ก็ไม่ฟอ้ง แต่พอประมูลจริงก็ต้องฟ้องสิครับ จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:19:18

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 19     จขกท ตกเรื่องภาษีไปครับ ยังมี VAT ที่เข้ารัฐทุกครั้งที่ใช้ แล้ว USO เป็นเงินที่เอาไว้พัฒนาการสื่อสารในที่ห่างไกลครับ ถ้าคุณอยู่ในที่ห่างไกลมันสำคัญมากนะครับ ^ ^ ^ ทุกวันนี้ยังไม่มี 3g ก็มี uso อยู่นี่ครับ แล้ว แคทกับ ทีโอที ก็ทำไปได้เยอะแล้วด้วย ในขณะที่เจ้าอื่นอาจจะใช้การจ่ายเงินเข้า uso แล้วไม่ทำ (ก็ยังดีนะ) จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:26:41

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 20     เสริมคห.19 มีเรื่อง VAT พวกอุปกรณ์ด้วยครับ ยังมีเรื่องประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากบริการเหล่านี้อีกมากมาย ทำให้เกิดการพัฒนา content ของคนไทยมากขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงานขึ้นอีก ^ ^ ^ มีคนกลุ่มหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้ content และยังมีอีกมากที่ใช้แค่โทรศัพท์พูดคุยปกติ ถ้าต้องการใช้ content จริง ไม่พิจารณาคู่กับการทำ wi-max ไปเลยล่ะครับ ในเมื่อเทคโนโลยีมันคอนเวอร์เจ้นท์ ทำไมต้องมาเร่งแต่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ มีวาระอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ถ้าพิจาณาร่วมกับ wi-max ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์มากกว่านี้หรือไม่ สมัยที่ พ.อ. ดร.นที เป็นบอร์ดอยู่ใน ทศท ก็มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเปิดประมูลของ กทช แต่พอได้เป็นบอร์ด กทช เปลี่ยนไปเสียสิ้น ปานฟ้ากับเหว หุหุ จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:30:52

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 22     เกิดมาจาก รัฐธรรมนูญ 40 มาตรา 40 ให้ กทช. ดูแลความถี่ แต่มันมี กสช. มาดูแลสื่อ และ content บางประการ อำนาจมันเกยกัน ฉบับ 50 เขาเลยให้ยุบ มารวมเป็น กสทช. และระหว่างนี้ ให้ กทช. รักษาการ มีอำนาจสั่งการแทน <<< งั้นก็รอศาลตัดสินเนาะพี่น้อง ไม่ใช่มาจาก คมช. อำมาตย์ ที่นี่ไม่ใช่ราชดำเนินครับ ตัวเองมี CDMA โดยเทคโนโลยี มันดีกว่า GSM ปัจจุบันด้วยซ้ำ แต่ทำงานกันเป็นไหมละนั่น <<< สองหน่วยงานนี้ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลังร้อยเปอร์เซ็นต์ การทำโปรเจ็คท์อะไร วงเงินมากๆ ติดระเบียบข้อบังคับ ขั้นตอน ต้องผ่านมติบอร์ด โดนบอร์ดล้วงลูก ไม่สามารถทำธุรกิจได้คล่องตัวเหมือนเอกชน มีข่าวรั่ว ติดระเบียบราชการมากมาย จึงดูเหมือนทำอะไรเชื่องช้า จนแทนจะไม่ทันกินแล้ว จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:35:16

ความคิดเห็นที่ 51 ูคห 50 แล้วทำไมพวกคุณจึงคัดค้านการแปรรูปละครับ จากคุณ : DuAliN เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:39:23

ความคิดเห็นที่ 52 ความคิดเห็นที่ 39     ประเด็นรัฐได้ค่าตอบแทนน้อยลง ค่าสัมปทานเดิมที่จ่ายผ่าน กสท ทศท เหลือเข้ารัฐจริงๆกี่เปอร์เซนต์ เข้าคลังแล้ว เอามาจัดสรรงบประมาณถึงมือประชาชนจริงๆกี่เปอร์เซนต์ ถ้าเทียบกับแบบที่ กทช กำหนดให้จ่าย 4%USO จะแตกต่างกันมากน้อยเท่าไหร่ ^ ^ ^ เมื่อปีสองปีที่ผ่านมา(ปีไหนจำไม่ได้ชัดเจน) กทช มีรายได้ 8000 ล้าน ส่งกระทรวงการคลัง 400 ล้าน เหอะๆ จ้างที่ปรึกษามาเขียนแผนงานให้ตัวเอง (ดีเนาะไม่ต้องคิดเอง จะทำงานก็จ้างคนมาคิดให้) โบนัสบอร์ดหลักล้าน มีบีเอ็มซี่รี่เจ็ดให้นั่งนุ่มก้น จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:40:29

ความคิดเห็นที่ 53 ทายเล่นๆ ถ้าเปิดประมูลได้ บริษัที่ชนะได้แก่ ais, true ลองดู จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:41:22

ความคิดเห็นที่ 54 เหอะ เหอะ เรื่องเด็กฝึกงานเอาข้อมูลบางอย่างมาพูด แล้วยังรับกันไม่ได้ (แถมผูกใจอาฆาต) แค่นี้ก็บ่งบอกถึงความคิดของคนในองค์กรแล้วครับ จากคุณ : tull142 เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:41:27

ความคิดเห็นที่ 55 คคห.54 บอร์ดสำหรับแสดงความคิดเห็น จะเอาอะไรมาก คนทั้งองค์กรตั้งห้าหกพันคน ครอบครัวอีก ก็คงมีคนเดือดร้อนแทนบ้าง จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:44:20

ความคิดเห็นที่ 56 คคห.51 ไม่ได้คัดค้านการแปรรูปเลยครับ เตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว จดทะเบียนเป็น มหาชนแล้วครับ แต่ ทศท กำลังจะจดทะเบียนกลับเป็นแค่ บจก. เพราะ บมจ.เสียภาษีแพงกว่า (แต่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป เช่น การไฟฟ้าที่เคยจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่คุณรสนา ยื่นเรื่องต่อศาล จำกันได้ไหมครับ) จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:48:14

ความคิดเห็นที่ 57 ตอนนี้สิ่งที่คนในแคทมองคือเราอยากทำได้อย่าง ปตท.ครับ แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่าคือปราศจากการเมืองมาแทรกแซง แผนธุรกิจแคทใครเป็นบอร์ดนี่จะรู้รายละเอียดทุกเม็ด แทบจะไปทำธุรกิจได้เลยล่ะครับ จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:51:16

ความคิดเห็นที่ 58   เป็นเพราะคนไทยทุกคน ไม่เคยรักชาติตัวเองเลย เลยปล่อยให้พวก นักการเมือง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ผลาญเงินภาษีประชาชนมาตลอดไง จากคุณ : ่jimara เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:51:35 A:111.84.52.56 X: TicketID:259944

ความคิดเห็นที่ 59 ความคิดเห็นที่ 45     ลองอ่าน คห 37 นั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ CAT ไร้อนาคต การเมืองเต็มบริษัท(จากปากคนในเองเลยนะเนี่ย) กรุณาอย่าเบี่ยงเบนประเด็นครับ <<< เบี่ยงเบนตรงไหนหรือครับ พอดีอ่านไม่ทัน ไม่ชอบอ่านอะไรหน้าเว็บเดียวยาวๆ ยังชอบปริ้นท์มาอ่านมากกว่าด้วยซ้ำ ช่วยแตกคำถามมานี้ดนุง จะด่าผมก็ด่าไปเหอะครับ แต่ขอให้ตอบคำถามด้วย (หรือว่าตอบไม่ได้) หัวกระทู้ก็บอกอยู่แล้วว่างดใช้อารมณ์ (อ่านออกไหม) ผมเข้าใจครับว่าชีวิตพวกคุณรันทดแค่ไหน (ได้ยินมาจนเบื่อ) จากคุณ : DuAliN จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 17 ก.ย. 53 23:59:12

ความคิดเห็นที่ 60 ความคิดเห็นที่ 46 ผมขอให้ มูลนิธิ กสท. เอ้ย บมจ.กสท เลิกทำหน้าที่เป็นตัวกลางเก็บเงินเพราะพวกคุณทำหน้าที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพและทำให้ รายได้ของรัฐลดลง จากความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานครับ จากคุณ : DuAliN เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:00:37

ความคิดเห็นที่ 61 ความคิดเห็นที่ 12     คุณ TRMM บอกความจริงไม่หมดครับ เลือกพูดเฉพาะด้านที่ตัวเองได้ประโยชน์ รายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท ที่ถูกต้องเป็น รายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท โดยหักค่าใช้จ่าย แล้วมันเหลือเท่าไหร่ละครับ เงินที่ควรจะส่งเข้ารัฐเพื่อเป็นรายได้สำหรับประเทศ กลับต้องรั่วไหลให้กับ ขาใหญ่ และ เสือนอนกิน <<< นอนกินยังไงหรือครับ อยู่ๆก็มีเคเบิ้ลใต้น้ำเกิดขึ้นเองหรือครับ อยู่ก็ไปเอาดาวเทียมมาใช้งานได้เลยหรือครับ ฟรีหมดเลยงั้นเหรือ ไม่ต้องลงทุนเลยเหรือ ไม่มีความเสี่ยงทางธุรกิจเลยหรือ ไฟเบอร์ริมถนน โดนปืนยิงใส่ โดนไฟเผานาเผาไหม้ ขาดไปห่างไปสองร้อยกิโล ก็ต้องไปซ่อม ช่องทางการนำเงินเข้ารัฐไม่ควรผ่านตัวกลางแต่ควรจะเข้ารัฐตรงๆ ทางที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนจากสัมปทานผ่าน CAT และ TOT เป็นการเรียกเก็บภาษีเพิ่มแทน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ผลักดัน <<< จริงๆผมก็อยากให้เค้ายุบๆสองหน่วยงานนี้ไปเลยเหมือนกันนะครับ จะได้มาดูกันว่ามีบริษัทไหนทำได้ขนาดนี้ ที่จะต้องมีชุมสายเกือบจะทุกอำเภอในประเทศไทย ผมเคยเป็นเด็กฝึกงานของ CAT มาเมื่อหลายปีก่อน ตั้งแต่เข้าไปวันแรกผมมั่นใจเลยว่าองกรณ์นี้ไม่มีอนาคตแน่นอน จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:06:30

ความคิดเห็นที่ 62 ความคิดเห็นที่ 60 <<< แหม๋ มี operator เจ้าอื่นให้เลือกเยอะแยะนี่ครับ อันนี้ไม่ต้องไปใช้แคทเขาก็ได้ 0050, 006, อีกสารพัดเสริชกูเกิ้ลก็เจอ จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:09:15

ความคิดเห็นที่ 63 เลิกทำหน้าที่เป็นตัวกลางเก็บเงินเพราะพวกคุณทำหน้าที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพ <<< อันนี้รอ กสทช เกิดละกันครับ และทำให้ รายได้ของรัฐลดลง จากความไร้ประสิทธิภาพในการดำเนินงานครับ <<< ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นล่ะครับ รสพ. ขสมก. รฟท. แคท กำลังขยับตามไป ฮ่าๆ จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:12:43

ความคิดเห็นที่ 64 แหม๋ ฝังใจกับแคทเหมือนกันนะคุณ dual in จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:15:42

ความคิดเห็นที่ 65 ความคิดเห็นที่ 46 ผมขอให้ มูลนิธิ กสท. เอ้ย บมจ.กสท เลิกทำหน้าที่เป็นตัวกลางเก็บเงินเพราะพวกคุณทำหน้าที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพ <<< สคร.ไปจัดให้แคทอยู่ในกลุ่มรัฐวิสาหกิจชั้นดีไงเนี่ย ล่าสุดก็ให้รางวัลนี้อีก 5.รางวัลการให้บริการดีเด่น (จำนวน 2 รางวัล)    • บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)    • บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด http://www.sepo.go.th/news.html?menu=32&id=399 จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:22:02

ความคิดเห็นที่ 66 ผม งง กับการตอบกระทู้ของคุณ somkiat_kk จริงๆ คุณไม่ได้อ่านทั้งหมดอย่างที่คุณบอก คำตอบคุณมันดูขัดแย้งกัน ชวนมึนงงเป็นอย่างยิ่ง เหมือนไม่ได้อ่านไม่ได้เรียบเรียงก่อนตอบ ผมต้องไปแล้วครับ ฝากต้ม ม่าม่า ให้ซักซองนะครับ จากคุณ : DuAliN เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:36:10

ความคิดเห็นที่ 67   ยังไง 3g ต้องเกิดแน่ ๆ เพราิะไม่เหมือนหวยบนดิน อิ อิ อิ จากคุณ : ่jimara เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:40:37 A:115.67.19.194 X: TicketID:259944

ความคิดเห็นที่ 68 เกิดแน่แต่ช้าหน่อย จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:45:32

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าอ่านของผมอย่าเน้นสาระมาก เอาฮาดีกว่าครับ จากคุณ : somkiat_kk เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:46:28

ความคิดเห็นที่ 70   รอนิดน่ะพี่น้องคนไทย รอแบ่งเค้กเสร็จ เดี๋ยวให้ จากคุณ : ่jimara เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:49:01 A:115.67.19.194 X: TicketID:259944

ความคิดเห็นที่ 71   ตอนนี้ห้องสินธร มองว่า รอเก็บของครบก่อนพี่น้องคนไทย เดี๋ยวให้ เพราะที่นี่คือประเทศไทยไง 55555 จากคุณ : jim เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 53 00:51:28 A:115.67.19.194 X: TicketID:259944

ความคิดเห็นที่ 72 ตอบ #12 คุณ DuAliN บอกว่า ผมบอกความจริงไม่หมด เลือกพูดเฉพาะด้านที่ตัวเองได้ประโยชน์ ซึ่งผมเข้าใจว่า คุณเป็นเด็กฝึกงานก็เลยอาจจะไม่รู้อะไรในเชิงลึกจริงๆ ดังนั้น ผมถึงตั้งกระทู้เพื่อไขข้อสงสัยและใหความกระจ่างจากข้อมูลที่คุณไม่สามารถเข้าถึง เพราะฉะนั้น ถามมาครับ จะตอบให้ แต่อย่าคิดว่าความจริงที่คุณทราบจะเป็นความจริงทั้งหมด เกริ่นซะนาน ผมจะตอบให้นะครับว่า ที่ผมบอกว่ารายได้จากสัมปทานจะถูกนำส่งเข้ารัฐโดย กสท และ ทศท นั้นถูกต้องแล้ว ไม่มีการหักค่าใช้จ่าย แต่เป็นการนำเงินเข้าระบบในรูปของบริษัทก่อนแล้วจึงนำส่งรัฐ ไม่ได้เกี่ยวกับการหักค่าใช้จ่าย ตอนนี้มาถึงเรื่องแล้วจะเข้าเท่าไหร่ อันนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังที่เป็นผู้ถือหุ้น 100% จะเป็นผู้กำหนดครับ ซึ่งโดยทางปฏิบัติที่ทราบกันในระดับผู้บริหารก็คือ กระทรวงการคลังจะคิดรวมในเรื่องต่างๆ ต่อปี แล้วก็จะเรียกคืนเงินกลับคลังในภาพของผู้ถือหุ้น เช่น รับค่าสัมปทานมา 25% กระทรวงการคลังก็จะเรียกกลับ 13-18% + 2% ภาษีสรรพสามิต + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เป็นปกติในวงรอบปี และ จะมีการเรียกเพิ่มเติมในระยะทุกๆ กลางปี ตามแต่กระทรวงการคลังต้องการ เพื่อให้ครอบคลุมค่าสัมปทานที่เก็บมาได้เกือบทั้งหมด แล้วจะเหลือทิ้งไว้เป็นงบที่บวกลบเล็กน้อย ซึ่งจะต้องมีเหลือไว้เป็นทุนในการพัฒนาโครงสร้างของประเทศต่อไป เช่น การวางเครือข่ายไฟเบอร์ใต้น้ำของ CAT ซึ่งเป็น Network หลักของประเทศ หรือการสร้างโทรศัพท์สาธารณะ ทั้งๆ ที่คนไม่ใช้กันแล้วเพราะใช้โทรศัพท์มือถือกันหมด แต่ TOT ก็ต้องทำเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่ไม่มีโทรศํพท์มือถือหรือคนในเขตชนบทจริงๆ แล้วมันเหลือเท่าไหร่ละครับ ก็เป็นคำถามที่คุณ DuAliN น่าจะรู้เพราะการเป็นเด็กฝึกงานที่ CAT ก็น่าจะพอเห็นภาพของการใช่้งบประมาณจริงๆ ของ CAT ที่ต้องตั้งเป็นโครงการและก็ต้องผ่านสำนักงบประมาณ ถ้าเป็นโครงการที่ใช้งบเยอะก็ต้องผ่าน มติครม. รวมทั้งต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒน์ ในกรณีที่คุณ DuAliN ต้องการให้นำเงินเข้ารัฐตรงๆ นั้น ก็ได้ครับ ไม่มีใครว่าอะไร เพราะปัจจุบัน เงินส่วนใหญ่ก็กลับเข้ารัฐโดยตรงอยู่แล้ว จะเหลือแค่เพียงบางส่วนที่เก็บไว้ทำโครงการตามนโยบายในการพัฒนาประเทศเท่านั้น ซึ่งคุณก็บอกเองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้ผลักดัน อันนี้ ผมว่า เรื่องนี้คงไม่ใช่คุณรู้อยู่คนเดียวแน่นอน รัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ก็เห็นอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาโง่พอที่จะทิ้งเงินหลายหมื่นล้านไว้ให้ CAT และ TOT เป็นเสือนอนกินอย่างที่คุณว่า รัฐบาลทุกรัฐบาลก็คงโง่มากครับที่ไม่ได้รู้อะไรอย่างที่คุณ DuAliN รู้ การเป็นเด็กฝึกงานของ CAT มาเมื่อหลายปีก่อน อาจจะทำให้คุณมีความรู้ในเรื่องไอทีอยู่บ้าง แต่ ผมเชื่อว่าคุณ DuAliN คงไม่ได้รู้อะไรไปหมดทุกเรื่องนะครับ ปล. สำหรับความเห็นที่เหลือ ผมจะทยอยตอบให้นะครับตามแต่เวลาที่มี แต่รับรองว่า ข้อมูลที่ผมมีให้ มากกว่าระดับเด็กฝึกงานเยอะครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 01:04:26

ความคิดเห็นที่ 73 ตอบ #13 สาเหตุที่ต้องมาฟ้องตอนนี้ ก็เพราะ มีสาเหตุ มีขั้นมีตอน มีการพัฒนาของเรื่องราวพอสมควร รบกวนอ่านรายละเอียดในความเห็นที่ 10 ที่ผมได้ตอบไว้แล้วนะครับ ถ้ายังไม่ละเอียดแล้วยังมีข้อสงสัยก็ถามต่อได้ครับ ส่วนที่ว่าทำไมเมื่อก่อนไม่รีบตั้ง กสทช. ครับ ติดขัดอะไรหรือเปล่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนและวุฒิสภาครับ ติดขัดอะไรมั้ย ผมว่าตอนนี้ก็อยู่ในขั้นวาระ 2 ที่วุฒิสภามมีการขอการแก้ไขในรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญอยู่ ก็ต้องรอกลับเข้ามาที่สภาผู้แทนอีกรอบว่าจะชี้ขาดอย่างไร จะร่างใหม่หรือตั้งกรรมาธิการร่วมก็ต้องรอดูครับ อาจจะช้าหน่อยแต่ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนเพื่อความสมบูรณ์ของกฏหมายที่อยู่ในระหว่างการร่างอยู่ครับ ก็ต้องเข้าใจสภาด้วย เพราะมีกฏหมายที่รอเข้าอยู่เยอะมาก ทุกเรื่องก็สำคัญเหมือนกันหมด ส่วนวุฒิสภาที่ต้องการแก้ก็ต้องเคารพความเห็นของวุฒิที่ต้องการให้ พรบ กสทช ออกมาดีที่สุด เพราะถ้าจะให้ผ่านเพราะเพียงกระแสประชาชนต้องการ 3G มันก็ไม่ถูกเพราะ ประเทศต้องยืนอยู่บนหลักการครับไม่ใช่อยู่บนกระแส จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 01:17:05

ความคิดเห็นที่ 74 ตอบ #14 ศึกษาเรื่องการเปลี่ยนเป็นภาษีสรรพสามิตให้แน่ใจก่อนนะครับว่า คุณเข้าใจในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด ที่ควรอ่านก็น่าจะเป็นคำตัดสินของศาลในเรื่องนี้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์เอกชนและทำให้รัฐสูญเสียรายได้เพียงใด เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้เรื่องนี้ก็ตั้งกระทู้ใหม่นะครับ ถ้ามีเวลาจะเข้าไปอธิบายให้ฟังในเรื่องนั้น จะได้ไม่ปนกันกับเรื่อง 3G จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 05:54:49

ความคิดเห็นที่ 75 ตอบ #15 กรุณาอย่า "ฮา" มากจนไม่ได้อ่านที่ผมตอบในความเห็นที่ 72 นะครับ เพราะคุณจะได้ทราบข้อมูลที่คุณอาจจะยังไม่รู้ แต่ผมก็เข้าใจในความฮาของคุณครับ เพราะในความเป็นจริงแล้ว ข้อมูลระดับนี้จะไม่ค่อยมีใครมาบอกคุณ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 05:58:41

ความคิดเห็นที่ 76 ตอบ #16 อย่าแปลกใจไปเลยครับว่าทำไมทั้งทีโอทีและกสท. ถึงให้พนักงานกับสหภาพมาฟ้อง สาเหตุก็เพราะว่า ไม่มีใครใช้ให้ใครมาฟ้องครับ แต่จะมีการพูดคุยในระดับผู้บริหารจากทั้งสามองค์กรเพื่อทำความเข้าใจถึงอำนาจของ กทช แต่ไม่สามารถทำให้ กทช เปลี่ยนความคิดได้ ซึ่งในระหว่างนั้น ทั้งพนักงานและสหภาพก็เลยทำการฟ้องเพื่อให้ทางศาลทำการวินิจฉัยด้วยความคิดของทางพนักงานและสหภาพที่มีความเชื่อมั่นว่า กทช ไม่มีอำนาจครับ ก็เข้าใจครับว่าทางค่ายต่างๆเขาก็ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด และต้องแบกความเสี่ยงจากจำนวนผู้ใช้งาน แต่ผลตอบแทนแบบคงที่หลักหมื่นล้านก็คงจะถูกมากครับสำหรับ การใช้คลื่น 2100 ระยะเวลา 15 ปี แทนที่จะออกเงื่อนไขที่รัฐไม่เสียประโยชน์ให้เอกชนขนาดนี้ เพราะ TDRI ก็คำนวนออกมาแล้วว่า รัฐต้องสูญเสียรายได้ที่เอกชน 3 ค่ายต้องจ่ายให้รัฐ โดยควรจะมีมูลค่าประมาณ ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาทสำหรับ 15 ปีครับ กลับไปอ่านในความเห็นของผมในหัวข้อกระทู้นะครับ 6% ครับ ไม่ใช่ 12% และ ใน 6% จะจ่ายเป็นค่าต๋งให้กทช 2% หักเป็นค่า USO หรือโครงการที่ กทชจะอนุมัติให้ทำเพื่อช่วยพัฒนาประเทศอีก 4% สิ่งสำคัญไม่ใช่กทช. ควรกำหนดเพดานราคาสูงสุดให้ชัดเจน แต่ควรกำหนดขั้นต่ำให้ชัดเจนกว่านี้โดยที่ขั้ยต่ำรัฐต้องไม่เสียเปรียบเอกชนขนาดนี้ อันนี้เรื่องจริงครับ ที่ประชาชนรู้ข้อมูลข้อตกลงน้อยมากจนกว่าข่าวจะเอามาเล่น อันนี้รวมทั้งเรื่องอื่นด้วย เช่น ค่าทางด่วน  มาบตาพุต  รธน.   .... ซึ่งเรื่องนี้ส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของประชาชนทุกคนด้วยที่จะติดตามข่าวสาร เพราะที่ผมให้ข้อมูลมาก็เป็นข้อมูลในทางสาธารณะ แต่อาจจะต้องติดตามอย่างจริงจังเท่านั้นจึงจะทราบเรื่อง ส่วนการเตือนล่วงหน้านั้น ได้มีการเตือน การถาม กทช ทุกครั้งที่มีการประชาพิจารณ์ในเรื่อง 3G แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากฟมายเลขปลายทางที่ท่านเรียกครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 06:20:59

ความคิดเห็นที่ 77   คุณ TRMM ครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แต่ผมถูกใจคุณเป็นอย่างมากครับ คุณให้ความรู้และความกระจ่างในเชิงลึกอีกด้าน ที่หลายๆคนยังไม่รู้ และไม่คิดจะรับรู้ครับ ขอบคุณมากครับ กระทู้มีประโยชน์แบบนี้ น่าจะถูกโหวตนะครับ แต่คนห้องนี้คงจะไม่โหวตให้ เพราะรับความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ค่อยได้ครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ จากคุณ : ชาวไร่ใส่หมวกคาวบอย เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 14:31:53 A:10.0.2.241 X:27.130.82.66 TicketID:154440

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านทุกความเห็นของคุณ TRMM แล้ว...รู้สึกขอบคุณมากค่ะ อธิบายได้ละเอียด แล้วตรงประเด็นมากๆ...ดิฉันอยากให้กระทู้นี้ได้เป็นกระทู้แนะนำมากๆ... แต่ก็คงทำได้ เป็น 1 โหวต เล็กๆที่กดไป เพื่อหวังว่าทุกคนจะได้รับข้อมูลทั้งสองด้าน ไม่ใช่การโจมตีอย่างเดียว //ปรบมือ จากคุณ : ฟาโรห์_ฟาโรห์ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 16:13:39

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณคุณ TRMM มากค่ะที่ให้คำแนะนำดีๆ ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ จากคุณ : พระจันทร์ยิ้ม 2009 (พระจันทร์ยิ้ม 2009) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 16:44:47

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณคุณ TRMM มากค่ะที่ให้คำแนะนำดีๆ ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ จากคุณ : พระจันทร์ยิ้ม 2009 (พระจันทร์ยิ้ม 2009) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 16:45:23

ความคิดเห็นที่ 81 หน้าเดิมๆ และมุขเดิมๆ จากคุณ : mintkung เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:31:54

ความคิดเห็นที่ 82 หน้าม้า หน้าแมว ก๊วนเดิม (มีไม่กี่คน) ออกทำงานอย่างแข็งขันอีกแล้ว จากคุณ : [-KUNG-] เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 17:53:44

ความคิดเห็นที่ 83 ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศไทยจริง ๆ มีแต่พวกถ่วงความเจริญ จากคุณ : นูเบ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 19:04:05

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณคุณ TRMM มากครับที่ช่วยอธิบายบางเรื่องที่ผมยังไม่รู้ได้กระจ่าง ส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยค่อนข้างมากแต่ก็ยังขัดแย้งในบางประการ ผมจึงขอรับข้อมูลจากหลายด้านก่อนนะครับ แล้วผมค่อยมาถามในประเด็นที่ยังไม่เข้าใจในทีหลัง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนถ้าพลาดไปแล้วยากที่จะแก้ไขครับ จึงขอเชื่อในคำสั่งศาลที่ยับยั้งการประมูลไว้ก่อน การสนองสิ่งที่ประชาชนต้องการ แต่ต้องกรีดเฉือนเนื้อตัวเองให้ก็ไม่สมควรใช่มั้ยล่ะครับ ปล. ผมก็อยากให้มี 3G ใช้ไวๆเหมือนกันครับ จากคุณ : สีข้างเสริมใยเหล็ก เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 19:08:24

ความคิดเห็นที่ 85 กระทู้นี้เค้ามาปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองกันน่ะเอง ไปดีกว่า จากคุณ : มดทอง เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 19:58:05

ความคิดเห็นที่ 86 ตอบ #85 ขออนุญาตตอบ คุณมดทองก่อนนะครับ เพราะเดี๋ยวคนที่มีความตั้งใจมาอ่านกระทู้นี้อาจจะเข้าใจผิด คุณ มดทองครับ คุณพูดถูกครับ เพราะจริงๆ ผมก็เข้ามาอธิบายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ได้เป็นพนักงานของทั้ง CAT และ TOT ดังนั้น ผลประโยชน์ที่ผมปกป้องไม่ใช่ผลประโยชน์ของ CAT และ TOT แน่นอนครับ แต่เป็นผลประโยชน์ของผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ไม่ได้เชื่อตามกระแสแต่มีการหาข้อมูลและติดตามเรื่องนี้มาอย่างตลอด แม้กระทั่งการประชาพิจารณของ กทช ผมก็ยังไปฟังเลยครับ เพราะ ผมคิดว่า มันเป็น "ผลประโยชน์ของตัวเอง" ก็อย่างที่บอกครับ สังคมไทยควรเป็นสังคมของข้อมูลข่าวสารที่คนรับต้องมีวิจารณญาณเพียงพอที่จะตัดสินใจที่จะเชื่อตามข้อมูลและตรรกะที่ถูกต้อง ไม่ใช่อยู่กันในกระอสสังคมอย่างเดียว ผมเองก็จะพยายามมาไล่ตอบข้อสงสัยในกระทู้ทุกความเห็นนะครับตามเวลาที่มี  และสุดท้าย ไม่ต้องสงสัยผมว่าผมเป็นหน้าม้านะครับ ลองเอาเมาท์จิ้มที่อมยิ้มผมจะเห็นได้ว่าผมเป็นสมาชิก Pantip มาก็น่าจะ 15 ปี แล้ว ดังนั้นไม่ใช่หน้าม้าของใครแน่นอนครับ สบายใจได้ ถ้ามีเวลาก็ลองอ่านให้เข้าใจนะครับ ถ้าสงสัยก็ถามมา จะตอบให้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 20:10:56

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านแล้วจะอ้วก .... จุดประสงค์ที่ฟ้องเด็กอมมือที่ไหนมันก็รู้ว่าก็แค่กลัวตัวเองจะเสียผลประโยชน์ค่าสัมปทาน อ้าปากก็เห็นทะลุไปถึงลำไส้เล็กแล้ว ไม่ต้องมาแถไปประเด็นนู้นประเด็นนี้ให้เสียเวลาหรอก ผมไม่แคร์ว่าคุณจะเป็นรัฐวิสาหกิจ มาอ้างตัวว่าเป็น"ผลประโยชน์ของประเทศ"อะไรหรอก คนไทย สังคมไทยวันนี้ต้องการ operator ที่มีความสามารถ ปรับตัวได้ทันโลก ต้องการตลาดเสรี การแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมของไทย ไม่ใช่ให้มีเสือขี้เกียจมานอนกินค่าสัมปทานบนหลังคนอื่นและหลังประชาชน ... ประเด็นมันก็เท่านั้นแหละ ... จะแถไปไหนต่อไหนมันก็หนีความจริงไม่พ้นวันยันค่ำ ขอไปอ้วกก่อน ... เผอิญสำลักความเห็นแก่ตัวของบางองค์กรอยู่ รับไม่ค่อยได้ จากคุณ : champ_ee85 เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 20:16:42

ความคิดเห็นที่ 88 ตอบ #17 ใช่ครับ การเก็บ VAT จากการใช้บริการ 3G รัฐก็ได้เงินจากตรงนี้ด้วย ยิ่งคนได้ใช้เร็วก็ได้เงินเร็ว ยิ่งคนใช้เยอะก็ได้เงินเยอะ แต่คุณต้องเข้าใจในเรื่องของค่าบริการก่อนครับ ในวงการ Telco ย่อมาจาก Telecom Company เค้าจะคิดรายได้เฉลี่ยต่อหัวเป็นหลักครับ ซึ่งในภาษาจะเรียกว่า ARPU (อ่านว่าอาร์ปู้) หมายถึงว่า ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในการบริการเท่าไหร่ รายได้ก็จะเท่าเดิมครับ เพราะคนมีเงินที่จะจ่ายเท่าเดิม (อาจจะมีบางคนเพิ่ม บางคนลด จึงต้องใช้ค่าเฉลี่ยต่อหัว) ซึ่งโดยปกติ ก็จะลดลงตลอดเวลาเป็นธรรมดาของประเทศที่มี GDP ปกติ แต่จะมีบางกรณีเท่านั้นที่ ARPU ของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ อันสืบเนื่องมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรวดเร็ว สำหรับประเทศไทย ยังไงก็เท่าเดิมครับ ไม่ว่าจะ 2.7G หรือ 3G หรือ 3.9G หรือแม้กระทั่ง 4G เพราะเมื่อคุณใช้เงินในกระเป๋าไปกับค่า เทเลคอมมากเท่าไหร่ คุณก็จะมีเงินในกระเป๋ากินข้าได้น้อยลงเท่านั้น ดังนั้น พอถึงจุดหนึ่ง คุณก็จะขอให้ Operator ลดราคา หรือไม่ คุณก็ต้องเลิกใช้ไปเองครับ และในงานวิจัยที่ กทช ก็บอกไว้แล้วว่า จะมีผู้ใช้ 3G (ทั้งๆ ที่มันคือแค่คลื่น 2100) อยู่ในระดับเพิ่มขึ้นจากเริ่มบริการไปอีก 5 ปี จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ไม่เกิน 20% ของการใช้เดิม ดังนั้น VAT ที่เก็บก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะแน่นอนครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 20:21:49

ความคิดเห็นที่ 89 ตอบ #87 ต้องขออนุญาตตอบข้ามมาที่คุณ champ_ee85 ก่อนนะครับว่า กรุณางดใช้อารมณ์นะครับ ผมได้เขียนไว้ในหัวกระทู้แล้ว เชื่อผมเถอะครับ "อารมณ์มา ปัญญาไม่เกิด" ผมเชื่อว่าที่ผ่านมาพันทิพซึ่งเป็นสังคมแห่งปัญญาแห่งหนึ่งของเมืองไทย ได้ผลิตความคิดเห็นที่มาจากปัญญามากมายจนประจักษ์ในสังคมมาช้านาน ผมไม่อยากให้มาใช้อารมณ์ในกระทู้นี้นะครับ เพราะผมเสียดายโอกาสและพื้นที่ที่เสียไปจากอารมณ์โวยวาย โดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากข้อมูลที่จะอภิปรายกันครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 20:32:43

ความคิดเห็นที่ 90 ตอบ #18 ใช่ครับที่จ่ายครั้งเดียว เพราะในการออกแบบเริ่มแรกคิดว่าราคาประมูลจะสูงครับ แต่พอวิธีการประมูลและเงินเริ่มต้นที่ออกแบบมาให้แข่งขันออกมาจริงๆในประกาศ กทช บรรดาคนที่รู้เรื่องจริงๆ ทั้งหมดแทบล้มทั้งยืนครับ ในเรื่อง VO (Virtual Operator) ที่จะให้ทำเช่นนั้น ไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชนเท่ากับประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับ 5 ค่ายเดิมครับ (AIS DTAC TRUE CAT TOT) ในเรื่องของ voice กับ data ที่ว่าจะราคาเท่าไหร่ หรือรวมกันมั้ย ก็คงเป็นเรื่องของ โปรโมชั่น ของแต่ละค่าย ลองไปอ่านในเรื่องค่ายใช้จ่ายที่คนพร้อมจ่ายในความเห็นที่ 88 ที่ผมได้ตอบไปแล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 20:42:45 จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 20:41:48

ความคิดเห็นที่ 91 ตอบ #19 >จขกท ตกเรื่องภาษีไปครับ ยังมี VAT ที่เข้ารัฐทุกครั้งที่ใช้ >แล้ว USO เป็นเงินที่เอาไว้พัฒนาการสื่อสารในที่ห่างไกลครับ ถ้าคุณอยู่ใน >ที่ห่างไกลมันสำคัญมากนะครับ ไม่ได้ตกครับ แต่ถ้าถามมาก็จะตอบให้กระจ่างครับ ลองดูในความเห็นที่ 88 นะครับ ที่ผมได้ตอบไว้เรื่อง VAT ไว้แล้ว ส่วนเรื่อง USO ไม่ได้เพิ่งมีตอนที่ กทช ประกาศนะครับ มันมีอยู่นานแล้วในรูปขแงการลงทุนในภาครัฐผ่าน CAT และ TOT จากสัมปทานที่เก็บได้ แต่เมื่อประกาศออกมา ยอดเงินที่รัฐเก็บได้ 20%-30% จะแปรสภาพเป็น USO แบบใหม่ตามการออกแบบของ กทช โดยจะเหลือแค่ 4% ของรายได้ ลองคิดดูว่า ที่เหลือจากการเปลี่ยนแปลงจะไปตกอยู่กับใคร ลองดูพื้นที่ห่างไกลแค่ไหนก็จะมีเครือข่ายชุมสายของ CAT และ TOT มานานแล้ว แต่อาจจะไม่สามารถตอบสนองได้ดีเท่าที่ควร อันนี้ต้องไปพูดกันในเรื่องการบริหารงานครับไม่ใช่ในเรื่องของหลัการหรือเรื่องของผลประโยชน์ไปตกกับใครตามหัวข้อของกระทู้ที่เกริ่นไว้ ตอบ #20 >เสริมคห.19 มีเรื่อง VAT พวกอุปกรณ์ด้วยครับ >ยังมีเรื่องประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากบริการเหล่านี้อีกมากมาย >ทำให้เกิดการพัฒนา content ของคนไทยมากขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงานขึ้นอีก เรื่อง VAT ผมก็อธิบายไปบางส่วนนะครับครับ ส่วนเรื่อง content ผมก็เห็นด้วยครับว่าจะเกิดการจ้างงานเพื่อพัฒนา content แน่นอน แต่มันคุ้มค่าหรือมากพอที่จะทำผิดกฎหมายหรือเปล่า ก็ต้องไปคิดดูครับ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็ให้ศาลเป็นคนติดสินครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 20:59:58 จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 20:58:47

ความคิดเห็นที่ 92 จะเอา wimax จากคุณ : myung เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 21:25:07

ความคิดเห็นที่ 93 ผมขอข้าม ความเห็นที่ 21 และ 22 นะครับ เพราะเป็นการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ตอบ #23 >อันนี้ผมทราบดีครับว่า TOT และ CAT มีทั้ง HSPA2100  และ >CDMA/HSPA850 ที่สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ แต่ผมว่า ความขยันของ >CAT ที่จะทำ HSPA850 น่าจะน้อยเกินไป เพราะว่าตอน Refarming จาก >CDMA ไปเป็น HSPA น่าจะวุ่นวายพอสมควรถ้าหาก Network ที่มีอยู่แล้ว >ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถใช้ทั้ง 2 แบบได้ไปพร้อม จริงๆ ประเทศที่พัฒนาทั้งหลาย ทุกๆหรือหลายๆ ประเทศก็จำเป็นต้องมีทั้ง 2 ระบบครับ เช่น สหรัฐ เกาหลี ญี่ปุ่น กลุ่มยุโรป หรือ จีน ประเทศเหล่านี้มีการให้บริการทั้ง 2 ระบบ ส่วนสาเหตุก็เพราะว่า ประเทศจำเป็นต้องยืนอยู่บนทั้ง 2 ค่ายเทคโนโลยี ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศครับ เช่น นักธุรกิจที่จะเดินทางจากประเทศต่างๆ ที่จะเข้าประเทศ สามารถ roaming ในการใช้มือถือของทุกค่ายได้อย่างสะดวก หรือ แม้กระทั่งการพัฒนาของเทคโนโลยีทั้งสอง ก็มีโอกาสที่จะเกิด dead end ในการพัฒนาได้ ดังนั้น จึงเป็น final ที่จะไปจบที่ LTE ของทั้งสองค่ายที่จะไปเจอกันที่ 4G ครับ ส่วนเรื่อง Refarming ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ ทางเทคนิคไม่ได้ยุ่งยากอะไรในการอินทิเกรดระบบครับ เพราะหลายๆ ประเทศก็มีการ implement แบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาครับ ส่วน รัฐวิสาหกิจขยันน้อยไปนั้นเห็นด้วยครับ ตอบ #25 >2g ที่มีอยู่ก็ใช้ได้แถมครอบคลุมทั่วประเทศแต่อยากได้3gเพราะมันเร็วกว่าใช่ปะหล่ะ... 2G ที่มีอยู่ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมครับ ประมาณๆ นะครับ AIS-GSM 95% DTAC-GSM 90% TRUE-GSM 85% CATCDMA80% TOT กำลังอยู่ในช่วงขยาย 3G เร็วกว่าแน่นอนครับ และมีประโยชน์มากกว่า 2G แน่นอนครับ ตอบ #26 ขอบคุณ คุณอินทกริต ครับที่ช่วยเอาคำสั่งศาลมาให้อ่านครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 21:57:45 จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 21:35:07

ความคิดเห็นที่ 94 เข้าใจแล้วครับ การฟ้องไม่ใช่ว่าต้องการล้ม 3G แต่ต้องการให้คิดหาข้อสรุปให้ชัดเจนก่อน แล้วค่อยดำเนินการ ไม่ใช่มารีบร้อนทำแล้วรัฐอาจต้องเสียค่าโง่ให้บริษัทเหมือนบางโครงการที่ผ่านมา... คิดถึงผลดีผลเสียก่อนนะครับ อ่านเหตุผลของศาลนั่นแหละชัดเจนที่สุดแล้วว่าทำไมต้องหยุด ... ตั้งใจอ่านดูแล้วจะเข้าใจนะครับ เรื่องระดับชาติ อาจมีผลประโยชน์มหาศาลของนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง ควรวิเคราะห์ให้ดีก่อนครับ ช้านิดหน่อย ไม่เป็นไร มันเกิดอยู่แล้วละ 3G จากคุณ : 999 (คนเซ่อ) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 21:50:28

ความคิดเห็นที่ 95 บางทีก็อยากให้หลายๆ คนเขามาอ่านอย่างไม่มีอคติ ไม่มีอารมณ์บ้าง เพราะเราต้องดูเนื้อหาข่าวสารจากทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่ด้านเดียว หรือว่ากิเลศความอยากได้ 3G มาบังตา อยากได้โดยไม่สนเลยว่าจะเกิดผลอะไรขึ้นมาบ้าง รออ่านอยู่เรื่อยๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ อิอิ จากคุณ : HiNoKami เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 21:53:20

ความคิดเห็นที่ 96 อำนาจในการออกใบอนุญาตการ ใช้คลื่นความถี่ ไม่ได้อยู่ที่ กทช.? < แล้วใครจะออกใบอนุญาต? องค์กรณ์ กสทช.? ที่ยังไม่เกิดขึ้น กฏหมายก็ยังสรุปไม่ลง บอร์ด กี่คน 11 หรือ 15 มาจากฝ่ายความมั่นคงกี่คน การเมืองล้วนๆ กทช. ชุดปัจจุบัน 7 ท่านเป็นผู้ที่โปรดเกล้าแต่งตั้ง มาโดยการเสนอชื่อ โดย สว.ของ รัฐธรรมนูญ 50 แต่ใช้วิธีการสรรหา จากพรบ . องกรณ์จัดสรรคลื่นความถี่ปี 43 สรุป ถ้าจะฟ้องร้องก็ควรฟ้องตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ปลอยให้กทช. ชุดเก่าที่หมดวาระไป รักษาการไปเรื่อยๆ จนกว่า จะสรรหา กสทช. ได้เพื่อมาทำหน้าที่แทน การที่มีการสรรหา กทช. 4 ท่านใหม่ แทน 4  ท่านเดิมที่หมดวาระและลาออกไป เพื่อให้องค์กร กทช. ทำหน้าที่ตาม พรบ. องค์กรจัดสรรค์คลื่นความถี่ ปี 43 ใช่หรือไม่ สุดท้ายแล้วพรุ่งนี้ คุณคิดว่าจะปกครองใครการจัดสรรคลื่นความถี่ โดยองค์กรณ์ที่มีปัจจุบัน หรือ องค์กรณ์จัดสรรคคลื่นความถี่ที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? ในอนาคต ที่ท่าจะอีก3 ปีเป็นอย่างน้อย จากคุณ : เธอหมุนรอบฉัน..ฉันหมุนรอบเธอ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 22:23:58

ความคิดเห็นที่ 97 ถ้าพรุ่งนี้ศาลตัดสิน ให้ กทช. สามารถออกใบอนุญาต การใช้คลื่นความถี่ IMT 2100 ได้ ก็ขอให้มีคำวินิจฉัย ถึงอำนาจของ กทช. ว่าอำนาจของ กทช. ในปัจจุบันนั้น ใช้อำนาจของ องค์กรจัดสรรคคลื่นความถี่ ปี 43 หรือ เป็นอำนาจขององค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ที่ยังไม่ได้ประกาศใช้? คือกฏหมายยังไม่มีนั่นเอง? ด้วยความคิดเห็นส่วนตัวอีกนิด ว่า พอ มีการประกาศใช้องค์กรณ์จัดสรรคคลื่นความถี่ กสทช. แล้วควรให้วินิจฉัย ไปเลยว่า  กทช. และสำนักงาน กทช.ที่จะโอนย้ายไปเป็น กสทช. นั้นนอกจากจะรักษาการ แล้วควรมีอำนาจเต็ม เหมือน กสทช. ด้วยจะได้มีการกำกับดูแล การแข่งขัน เพื่อให้เกิดการแข่งขันเสรีอย่างเป็น ธรรม ไม่มีเจ้าใดผูกขาดตลาด อำนาจอยู่ที่ผู้ใช้บริการมือถือ ไม่ใช่อำนาจอยู่ที่ เจ้าของเครือข่าย จากคุณ : เธอหมุนรอบฉัน..ฉันหมุนรอบเธอ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 22:34:38

ความคิดเห็นที่ 98 ตอบ #27 >โดยรวมแล้วทำเร็วผมว่าดี แต่ถ้าสมมุติว่าเจ้าที่มันแรงขนาดนี้ >ควรแบ่งทำกันเป็นเฟสๆ อย่าให้ไปทีเดียวหมด ทำเฟสทดลองเหมือนให้ >ผ่านโปร แล้วก็คิดค่าเสียหายภาครัฐตามกระแส คือเบื้องต้นเก็บหนักก่อน >หลังๆเก็บลดลง เนื่องจากการแข่งขันมันจะสูงขึ้น >แต่โดยหลักการ รัฐควรได้ประโยชน์มากกว่าเอกชน และผู้ที่ออกแบบระบบ >ควรมีความชัดเจนไปเลยว่าใครเป็นผู้บริหารจัดการ รายได้จะใช้ไปในทาง >ไหน ไม่ใช่ไม่บอกอะไร เขียนไว้กว้างๆ เงินไม่ได้เข้ารัฐเท่าไหร่แบบนี้แย่ >ครับ โดยเทคโนโลยีตัวนี้ผมว่าเดี๋ยวนี้ระบบในประเทศเราก็รองรับกันจะ >หมดแล้ว หาซื้ออุปกรณ์พวก network connector ระดับ 2.1ghz ได้ >ดาษดื่น >ไม่น่าจะยากน่าจะทำได้ทุกราย แต่ใครทำแล้วให้ผลประโยชน์กับรัฐมาก >ที่สุดเท่านั้นแหละก็ให้มันไป หรือถ้าทำไม่ได้รัฐก็กระตือรือร้นทำเองไปเลย >ครับ แต่กลัวว่าข้างหลังบ้านรัฐจะจับมือกับเอกชนบางฝ่ายเหมือนที่มีข้อ >สงสัยกันน่ะสิ >รีบทำๆให้จบๆ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ตอจะได้ผุด ขอบอก คิดเหมือนกันครับ ทำเร็วอ่ะดีแน่นอนครับ ผมว่าไม่มีใครมีคำถามกับประโยชน์ของการมี 3G ครับ แต่ปัจจุบัน ทุกคนรู้หรือเปล่าว่าได้มีโอกาสใช้ 3G อยู่แล้วในระหว่างการประมูลยังไม่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้ทั้ง DTAC และ TRUE ก็ได้อยู่ในช่วงการทดสอบระบบในการทำ HSPA ซึ่งมีสัญญากับ CAT และ AIS ซึ่งมีสัญญากับ TOT แต่สัญญาการบริการ 3G ทั้งหมดข้างต้นที่ว่าจะอยู่ในช่วงทดสอบห้ามเก็บเงินโดยเด็ดขาด ซึ่งก็เป็นการปล่อยให้ทดสอบในระดับความเร็ว 7.2 Mbps โดยมีการทดสอบให้ประชาชนได้บริการมานานเป็นปีแล้วครับ ไม่จำเป็นต้องแบ่งเฟส แล้วประชาชนได้ใช้ฟรีอยู่ แต่มันก็มีการใช้ช่องทางในทางตุกติ๊กที่จะพยายามเก็บเงินจาก 3 ค่าย ก็เลยต้องห้ามปรามกันไป และเห็นด้วยที่สุดครับที่จะให้ผลประโยชน์ทั้งหมดควรตกอยู่กับ ประเทศและประชาชนทุกคนให้มากที่สุดครับ ลองอ่านคำสั่งศาลและพิจารณาดูนะครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 22:46:07

ความคิดเห็นที่ 99 มาจิ้มกิฟต์ให้กระทู้อีกมุมมองนึง :-) ผมรออภิปรายอยู่เหมือนกันครับ ดีซะอีก มุมมองจะได้กว้างๆ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:28:44

ความคิดเห็นที่ 100 ตอบ #28 > มีกระทู้ที่เกี่ยวกับ Game theory ที่ กทช.เอารูปแแบมาใช้ในการประมูล >ครั้งนี้ที่คุณ house (panote_saechiew) อภิปรายไว้ในห้องหว้ากอ >http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9685433/X9685433.html >ผมก็ว่าน่าสนใจดีครับ  เพราะตัวเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเกื่อบหมดแล้ว >อยากให้ช่วยกันสังเคราะห์หน่อยครับ เพื่อที่จะสามารถเสวนาได้อย่างมีเหตุ >มีผลครับ งั้นผมขออนุญาตเล่นนิทานก่อนนอนให้คุณ อินทกริต ฟังเล่นเพลินๆ นะครับ ย้ำ นะครับว่านี้คือนิทานเกี่ยวกับการสังเคราะห์ Game Theory ที่คุณ อินทกริต ได้นำมา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือใครใดๆทั้งสิ้น ดังนั้นจะมาฟ้องร้องอะไรผมไม่ได้นะครับ นิทานเรื่องนี้มีอยู่ว่า 1. มีการประมูล แม่น้ำสายหนึ่ง ซึ่งมีความยาว 100  เมตร เพื่อพ่อจะสามารถจับปลาในแม่น้ำได้ 2. มีการคุยกันว่าจะทำอย่างไรถึงจะพ่อที่จะจับปลาได้แค่ 3 คน ทั้งๆ ที่สามารถรองรับพ่อค้าได้ถึง 6 คน 3. ดังนั้น จึงมีการออกกฏว่า เราจะแบ่งพื้นที่ในการอนุญาตเป็นแค่ 3 คนก็พอ 4. ต่อมาจึงมีคำถามว่า ทำอย่างไรถึงล็อกให้ได้เฉพาะ นาย A นาย B นาย C เท่านั้น เพราะพ่อค้าจากต่างหมู่บ้านก็พร้อมจะเข้ามาแต่ถ้าไม่ให้พ่อค้าต่างหมู่บ้านเข้ามามันก็จะเป็นการกีดกันจนน่าเกลียด 5. ดังนั้น ทางแก้ก็คือ ผู้คุ้มกฎของหมู่บ้านก็ออกเดินทางด้วยเงินไม่น้อยที่จะออกไปเชิญชวน พ่อค้าต่างหมู่บ้านเข้ามาเพื่อไม่ให้น่าเกลียด 6. ในทางกลับกันก็มีการพยายามปล่อยข่าวเพื่อกีดกันคนต่างหมู่บ้านโดยมีการให้ข่าว การสร้างกระแสต่างๆ การไม่ให้ความชัดเจนต่างๆ ที่จะคุ้มครองพ่อค้าต่างหมู่บ้าน 7. พ่อค้าต่างหมู่บ้านก็บอกว่าจะมาชวนทำด๋อยอะไร ก็แค่ประกาศกฏให้ชัดเจน คนต่างหมู่บ้านก็พร้อมจะมาแล้ว เพราะ ขาใหญ่ 2 รายที่หากินอยู่ในหมู่บ้านก็เป็นทุนจากพ่อค้าต่างหมู่บ้านอยู่ดี 8. สุดท้ายจึงไม่ปรากฏว่าไม่มีพ่อค้าต่างหมู่บ้านมาซื้อพื้นที่จับปลาตามที่ควรจะเป็น 9. ผู้คุ้มกฎบอกไม่เป็นไร เราใช้ n-1 จะเป็นประกาศิตที่ไม่มีใครฮั้วกันได้ในการซื้อพื้นที่ 10. ทั้ง 3 รายเจ้าเก่าก็นั่งคุยกันว่า อย่างนี้ก็ตามที่ตกลงเลย สบายตู 11. เราก็หารายที่ 4 มาซิ แล้ว n-1 จะเท่ากับ 3 เอง เราสามเจ้าก็ให้ตังมันคนละหน่อยเป็นค่าเหนื่อยละกาน เอาสักคนละพันบาทก็น่าจะพอ เท่านี้ก็เสร็จเรา 555 12. แต่ด้วยหมู่บ้านนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครองอยู่ จึงทำให้การคุยกันไม่ลงตัว รายที่ 4 บอกว่าน้อยไป ขอมากกว่านี้ deal นี้เลยล้ม ข่าวเลยออกว่า เอกสารไม่พร้อม 13. ดังนั้น A B กะ C ก็ต้องหาทางใหม่ โดยตกลงเรียบร้อยว่าจะให้ A และ B เข้าไปเป็นเจ้าของพื้นที่ก่อนด้วยราคาที่ต่ำที่สุดที่ได้เตรียมกันๆไว้แล้ว โดย C จะรอเข้าไปเป็นเจ้าของในรอบที่สอง 14. และเมื่อ A กะ B ได้ใบอนุญาตแล้ว หลังจากนั้นก็จะทำการช่วยกันจ่ายเงินให้กับ C เพื่อให้พื้นที่เป็นรายที่สาม เอาไปสู้ในการเอาชนะคนอื่นถ้ามี ในกรณีที่ผ่านไป 90 วันแล้วต้องหาผู้เช่ารายที่สาม 15. theory ก็คือ theory แต่ game ก็คือ game พ่อค้าไม่ได้สนใจ theory แต่สนใจที่จะทำเป็น game อย่างเดียว ซึ่งก็ที่ผลออกมาอย่างที่เห็น ว่าเป็นไปตาม game ของพ่อค้า ไม่ได้เป็นไปตาม theory ของผุ้คุ้มกฏ เรื่องมันก็เริ่มวุ่นเพราะว่า พอไม่เป็นไปตาม game theory ผลประโยชน์มันดันไปตกอยู่ใน game ของพ่อค้าทั้ง 3 อย่างเต็มเปา 16. พอดีมีแมวขี้เกียจอยู่ตัวนึงที่ไม่ได้ไปรู้อะไรกับเค้าหรอก รู้แต่ว่าถ้ามีพ่อค้ามาคุมพื้นที่แล้ว แมวตัวนี้ก็จะหาปลาได้ยากขึ้น และในทางเดียวกันประชาชนก็จะถูกเอาเปรียบจากกฎที่ประกาศออกมา แมวตัวนั้นก็จึงโวยวายออกมาว่า ผู้คุ้มกฎไม่มีสิทธิมาจัดการอะไรแบบนี้เพราะไม่ใช่อำนาจของผู้คุมกฎ 17. จึงได้มีการสอบสวนกันว่า แท้จริงแล้ว ผู้คุ้มกฎมีอำนาจจริงหรือ 18. บังเอิญอีกเช่นกัน เรื่องจริงๆ นั้น ผู้คุ้มกฎก็ดันไม่มีอำนาจที่แท้จริงในการกำหนดกฎเกณฑ์ ซะด้วย แต่ดันทุรังจะทำทั้งๆ ที่มีคนมากมายได้เตือนมาก่อนที่แมวจะโวยวายแล้ว 19. ชาวบ้านเลยสับสนระหว่าง ความเจริญอย่างเร่งรีบ และ ความถูกต้องตามกฏระเบียบ อันไหนต้องมาก่อน 20. กระแสก็เกิดขึ้นในการเรียกร้องไปทั่วทั้งหมู่บ้าน 21. ผู้ใหญ่บ้านก็เลยรับปากว่าจะรีบทำให้เสร็จต้นปีหน้า แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ไว้วางใจ 22. ก็เลยต้องรอดูต่อไปว่าการหาปลาในหมู่บ้านนี้จะลงเอยอย่างไร? เมื่อไหร่? และแบบไหน? ปล. นี้คือนิทานที่เกิดขึ้นอยู่ในกระแสของหมู่บ้านตอนนี้เท่านั้น ม่ายช่ายเรื่องจริง คริ คริ ปล2. ขออนุญาต คุณ อินทกริตที่ยังไม่สังเคราะห์เป็นเชิงวิชาการแต่ขออนุญาตเล่าเป็นสังเขปเป็นนิทานก็แล้วกันครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 23:43:23 จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:29:15

ความคิดเห็นที่ 101 ตอบ #99 >มาจิ้มกิฟต์ให้กระทู้อีกมุมมองนึง :-) >ผมรออภิปรายอยู่เหมือนกันครับ ดีซะอีก มุมมองจะได้กว้าง เรียนเชิญคุณ house (panote_saechiew) เข้าวงเสวนาเลยครับ เพราะผมก็พยายามทยอยตอบทีี่ละความเห็นอยู่ตอนนี้ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:33:49

ความคิดเห็นที่ 102 นิทานสนุกดีครับ ข้อ 6 นี่ผมเคยแสดงความไม่เห็นด้วยไว้ในหว้ากอเหมือนกัน สำหรับ 11-14 ผมต้องตอบว่า 1. การกล่าวหาว่าคนอื่นฮั้วน่ะ ง่ายครับ ไม่ว่าจะมีการประมูลระบบไหนก็ตาม คุณจะยื่นซองแบบปิด หรือ buety contest หรืออะไร ในกรณีที่มีผู้เล่นน้อยราย การเพ่งเล็งว่าจะเกิดการฮั้ว เป็นเรื่องปกติมากๆ แต่การหาหลักฐานว่าเกิดการฮั้วนั้นกลับยากมากๆ 2.ทฤษฏีเกมไม่ใช่เทวดา มันให้หลักประกันแบบ 100% ไม่ได้ แต่มันทำได้ดีที่สุดคือลดโอกาสที่จะเกิดการฮั้วให้ต่ำสุด ไม่มีอะไรบอกว่าเปลี่ยนระบบแล้วจะไม่เกิดการฮั้ว 3. เหตุการณ์ในข้อ 11-14 เป็นการคาดคะเน 11-12 อาจเป็นข้อมูลจริง(ถ้า จขกท เป็นคนวงใน) ข้อ 13-14 เป็นการ "คาดการณ์" เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น 4. หลังการประมูลจบ สมมุติ A,B,C เข้าวินตามคาด "เพราะแข่งกันเองสามคน" ก็ตาม คุณคิดว่าอะไรจะเป็น "หลักฐาน" ที่ "ไม่ได้คิดไปเอง" ที่ยืนยันได้ว่า ราคานี้เกิดจากการฮั้ว ไม่ได้เกิดจากการสู้สุดฤทธิ์ ตามที่่ทฤษฏีเกมพยากรณ์? 5. ข้อ 13-14 นั้นผมแสดงเหตุผลแย้งไปแล้วใน คห 2 อีกกระทู้หนึ่ง และ ดูเพิ่มได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9685433/X9685433.html คห 46-49 จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:53:28

ความคิดเห็นที่ 103 ตอบ #30 >ต้องเคารพศาลครับ ถูกต้องครับว่าเราต้องเคารพศาล เพราะถ้าไม่เคารพศาล ก็จะเป็นการหมิ่นศาล ผลก็คือ ก็ต้องติดคุกเท่านั้นเอง >ปัญหาตอนนี้คือเราไม่สามารถคาดหวังใดๆได้จากฝ่ายบริหาร >เรามีฝ่ายบริการที่ไม่สามารถใช้อำนาจได้เต็มที่ ไม่สามารถพลักดันและขับ >เคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากปัญหาภายในของเราเอง >"ผมอยากเห็น สนับสนุน เห็นด้วย แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้" แบบนี้จบ ป4 ก็ >ทำได้ครับ >การปฏิรูปธุรกิจคมนาคมต้องเกิดครับ มันจะเริ่มได้ต้องเริ่มจากรัฐบาลผู้มี >อำนาจ และคนในชาติต้องเห็นไปทางเดียวกันด้วย เรื่องการเมืองไม่พูดครับ เดี๋ยวกลายเป็นบอร์ดราชดำเนิน >สุดท้ายผมอยากทราบว่าการที่ศาลบอกว่าการที่ต้องเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ >ในตอนแรกจึงจะยื่นฟ้องได้นั้น นอกจาก CAT และ TOT ยังมีใครที่เป็นผู้ >เสียผลประโยชน์อีก เรื่องนี้ก็คงมีหลายคนจ้องจะฟ้องครับ อย่างที่รู้ สภาทนายความเองก็ต้องการที่จะฟ้อง ส่วนเรื่องคำเสนอแนะมีออกมาหลากหลายครับ แม้กระทั่งวุฒิสภาที่กลั่นกรองงานด้านกฏหมาย ก็ยังมีข้อสังเกตและข้อแนะนำตามลิงค์ครับ http://www.parliament.go.th/parcy/sapa_db/committee-upload/30-20100325113654_report%20committee%2018.pdf ข้อสังเกต/ข้อเสนอแนะคณะกรรมาธิการฯ ๑. การให้ใบอนุญาตของ กทช. ให้ดำเนินการเฉพาะในระบบ 3G ซึ่งหากผู้ประมูลได้คลื่น ความถี่นำไปพัฒนาเป็นระบบ 4G หรือเทคโนโลยีที่สูงกว่านั้น ควรจะสามารถจะดำเนินการได้เลยโดยไม่ ต้องขออนุญาตต่อ กทช. ซํ ้าซ้อนอีก น่าจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ๒. การห้ามบุคคลต่างด้าวเข้าประมูลคลื่นความถี่ หากไม่พิจารณาศึกษาถึงผลได้ผลเสียอย่าง รอบคอบอาจจะถือเป็นการกีดกันทางการค้าได้ ๓. ขณะนี ้มีผู้ให้บริการระบบ 3G ที่พัฒนามาจากระบบเครือข่ายเดิม เช่น ระบบ CDMA และจะ เปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี ้ดังนั้นการเปิดใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาให้บริการถึง ๔ ราย กทช. ควรคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการเดิมด้วย เพื่อไม่ให้ได้เปรียบหรือ เสียเปรียบกันมากจนเกินไป ๔. การกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าประมูล ไม่ควรมองแค่จำนวนหุ้นที่จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ควรมองถึงประโยชน์ที่คนต่างด้าวได้รับจากการลงทุนในบริษัทสัญชาติไทยด้วยเพราะเป็นข้อแสดงออกถึงอำนาจในการครอบงำกิจการ >ถ้าสมมตินะครับว่า CAT และ TOT ออกมาบอกว่า จะไม่ยืนฟ้องเพราะ >ยอมรับได้ที่เสียผลประโยชน์ การให้บริการ 3G จะสะดุดได้เพราะเหตุใดอีก อย่างที่บอกครับ การสะดุดนั้นเกิดจากศาลก็สงสัยในอำนาจของ กทช เองที่อาจจะไม่มีอำนาจในการจัดการประมูลตามที่ศาลให้คุ้มครองไว้ก่อน แต่ที่สำคัญ การให้บริการ 3G ไม่ได้สะดุดอย่างที่เป็นกระแสตอนนี้ เพราะอะไรก็รบกวนไปอ่านในความเห็นที่ 98 ที่ผมตอบไว้คร่าวๆ แล้วนะครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 53 23:58:54

ความคิดเห็นที่ 104 คุณอาจแย้งได้ว่า สมมติฐานที่ว่า 3G สร้างรายได้เท่า 2G นั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่ในระยะยาว ผมเชื่อว่า มันสูงกว่านั้นครับ T ซึ่งเป็นรายเล็กสุดมีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5000 ล้าน จ่ายส่วนแบ่งรายได้ (กะเอาว่า) 20% = ต้นทุน 12000 ล้าน/ปี เหลืออายุสัญญา 3 ปี ถ้าสมมติให้ T มีต้นทุนเงินทุน 12% และเทียบเคียงต้นทุนกับสัญญาปัจจุบัน คลื่นนี้ จะมีมูลค่า(หาด้วยวิธีมูลค่าปัจจุบัน PV, PMT = 12000M, Rate = 12%, 15yr) จะมีมูลค่าถึง 81730 ล้านบาท หักว่าต้องมีการลงทุนทิ้งไป ประมาณ 5 หมื่นล้าน มูลค่าของคลื่นนี้ก็ยังสูงถึง 30000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย คำถามที่ต้องถามคือ ถ้าคุณเป็น T คุณจะยอมรับค่าฮั้วเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่หักหลังเพื่อน และการันตีมูลค่าคลื่นสามหมื่นล้าน ตั้งแต่รอบแรก? จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:02:38

ความคิดเห็นที่ 105 #103 สำหรับคห คณะกรรมาธิการ 1. เห็นด้วย 2. เห็นด้วย 3. เห็นค้านครับ ผลประโยชน์ของผู้บริโภคซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่(ถ้านับว่า ตลาดนี้ วันหนึ่งจะไปทั่วไทยก็คือ 63 ล้านคน) ควรต้องสำคัญกว่า ผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง กทช ไม่มีหน้าที่ เอื้อ ประโยชน์แก่ผู้ประกอบการรายใด ไม่ว่ารายนั้นเป็นรัฐวิสาหกิจ หรือว่าเอกชน ก็ตาม ถ้ากรรมาธิการห่วง กรรมาธิการควรเสนอให้เกิดการแปรรูป/พัฒนา ผู้ให้บริการที่เป็นรัฐวิสาหกิจ เต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพ ไม่ใช่อุ้มไว้ แล้วห้ามคนอื่นเข้ามาแข่งขัน 4 เห็นด้วย จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:10:53

ความคิดเห็นที่ 106 เท่าที่ผมอ่านมาครับ คุณ TRMM ห่วงแต่รัฐ ห่วงแต่รายได้ของรัฐที่จะขาดหายไป ............ แต่ไม่เห็นคุณห่วงประชาชนตาดำ ๆ ซึ่งเป็นเจ้าของคลื่นที่แท้จริงเลยครับ จากการที่ตามอ่านมาตลอดทั้ง 2 ฝั่ง ไม่ว่าจะเป็น เหตุผลที่ CAT ฟ้อง และเหตุผลที่ กทช รีบประมูล ราคาต่ำ ๆ ผมมองไม่เห็นเลยครับ ว่า CAT พยายามทำเพื่อประชาชนตอนไหน มองไปทาง กทช มากกว่า ที่ทำให้ประชาชน ข้อกำหนกต่าง ๆ ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชนนะครับ ที่เขากำหนดมา ราคาที่มันไม่ได้แพงเป็นหลัก แสนล้าน ก็เพื่อที่จะทำให้ราคาค่าใช้บริการถูกมากขึ้น(เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่นอกจากจะต้องจ่ายค่าสัมปทานแล้ว ยังต้องหาเลี้ยงบริษัทตัวเองอีกให้อยู่รอด ค่าโทรมันถึงได้ สนุกสนาน เงินในกระเป๋าแบบนี้) ผมอยากจะลองถามคุณกลับไปว่า การที่คุณมาเรียกร้องแบบนี้เนี่ย เพื่อใคร รัฐวิสาหกิจ คืออะไร สิ่งที่ รัฐวิสาหกิจควรทำ คืออะไร ประโยชน์ของการฟ้องร้องครั้งนี้ เพื่อประชาชน หรือไม่?????????? ปล. ที่ คห 98 ถามจริงครับ ที่คุณบอกว่า ได้ใช้เนี่ย มันกี่คนครับ ถ้าเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศไทย คิดเป็นกี่ %  แล้วสถานที่ ที่ได้ใช้เนี่ย มันครอบคลุมเหรอครับ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่า มีใช้แล้วนะครับ ผมรู้ว่ามีใช้ทดลองแล้ว แต่มันยังใช้แบบจริงจังไม่ได้ครับ นั่นแหละปัญหา และควรจะมีการประมูลได้แล้วครับ จากคุณ : EDDY_TG เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:14:02

ความคิดเห็นที่ 107 อ่ะ ตอบ #104 ก่อนละกันจะได้อ่านง่ายครับ T ไม่ได้สนใจแค่ 2100 ครับ 800 ก็ 3G เหมือนกันแถมลงทุนต่ำกว่าเยอะด้วยซ้ำ สำหรับเรื่องสมมุติฐานนั้น ผมไม่ได้คิดจากสมมุติฐานครับ แต่มาจากการอ่านผลงานวิจัย ที่สรุปได้ว่ารายได้ 3G ก็คงจะไม่เท่า 2G ซะทีเดียวก็อาจจะเพิ่มขึ้นบ้างเล็กน้อย ลองไปหาข้อมูลเรื่องนี้ที่มาจากการวิจัยโดย กทช ในเรื่องนี้นะครับ อาจจะทำให้เข้าใจมากขึ้น เอาสั้นๆ ว่า จะต้องรอถึงในระยะ 5-6 ปีหลังจากมี 3G ยอดถึงจะสามารถเริ่มไต่จาก 0-20% ครับ ผมว่า 5 ปี ได้ 20% ก็ไม่ต่างจากการขึ้นของอัตราเงินเฟ้อรวม 5 ปีครับ ก็เลยบอกว่าไม่เป็นนัยยะเท่าไหร่ เมื่อนำเรื่อง ARPU มาคิดจะสามารถยืนยัน ผลการวิจัยได้ดีครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมเชื่อว่า กทช รู้ดีกว่าคนอื่นครับ แต่จะสร้างเป็น story ให้ประชาชนรู้ตามไปด้วยหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ เพราะตอนนี้ เรื่องจริงๆ มันคือเรื่องคลื่น 2100 ก็ถูกสร้างเป็นเรื่อง 3G โดยที่ไม่ได้ให้ข้อมูลประชาชนให้รอบด้าน ส่วนในระยะยาว ผมก็เชื่อเช่นกันครับว่าจะสูงแน่นอน แต่ก็ต้องสูงไปตาม GDP ของประเทศที่เพิ่มขึ้นด้วยครับ :) ส่วน ตอบ #102 ผมบอกไว้แล้วว่ามาตอบกระทู้ไขความกระจ่างจากข้อมูลระดับผู้บริหารครับ ดังนั้น 11-12 ผ่าน แต่ 13-14 ยังไม่เกิด ดังนั้นก็ต้องเป็นการคาดการณ์แน่นอนครับ แต่เป็นการคาดการณ์จากข้อมูลที่มีอยู่ครับผม ก็เลยบอกแล้วว่ามันเป็นแค่นิทานก่อนนอนครับ :) จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:20:48

ความคิดเห็นที่ 108 #107 อันนั้นผมอ่านแล้ว แต่มันไม่ได้ตอบคำถามครับ ห้าปีแรก มันต้องไต่แค่นั้นอยู่แล้ว เพราะ 1. มันต้องวางเครือข่าย 2. แต่ละรายยังเหลือสัมปทานเก่า เราเดาได้ใช่ไหมครับ ว่าทั้งสามรายจะไม่ถือไลเซนต์ 2G ต่อ ถ้าได้ 3G ดังนั้นในการประเมินมูลค่าที่ผมใช้ ผมมองว่า ถ้าทั้งสามราย ต้องการใช้ใบใหม่(3G) ทดแทนใบเดิม(2G) แล้วมูลค่าของใบใหม่ ควรมีมูลค่าอย่างน้อยเท่ากับมูลค่าของใบเดิมที่อายุสัญญาเท่ากัน เพราะเอกชนต้องใช้ไลเซนต์นี้แสวงหากำไร แทนใบเก่า ถ้าสัญญาปัจจุบัน(2G) ของ T มีอายุ 15 ปี มันจะมีมูลค่า ราวแปดหมื่นล้าน ผมหักทิ้งค่าลงทุนเพิ่ม ผมจึงมองว่า T จะสู้ราคาของไลเซนต์ในระดับไม่เกินสามหมื่นล้าน นี่ต่างหากที่ผมประเมิน และเป็นประเด็นหลักว่า "คุณจะยอมฮั้วที่ราคาเท่าไหร่ เมื่อมีผลประโยชน์ระดับสามหมื่นล้านขององค์กรเป็นเดิมพัน" ในกรณีของ D, A  ทั้งสองรายถ้าประเมินด้วยวิธีเดียวกัน จะมีมูลค่าคลื่นได้สูงกว่านี้ คำถามนี้จำเป็นต้องตอบ เพราะนี่คือหัวใจหลักของระบบป้องกันฮั้วที่ SMR ใช้ ว่าไม่มีใครเชื่อใจใคร เมื่อมีผลประโยชน์ขององค์กรขนาดนี้อยู่ข้างหน้า และทุกคน ไม่มีเงินพอ จะการันตีความมั่นใจ ให้อีกคนหนึ่ง ถ้าตอบไม่ได้ การจะฟันธงว่าฮั้วแน่ๆ จะไม่มีอะไรเกินกว่า "ความเชื่อส่วนบุคคล" ซึ่งไม่มีอะไรรองรับ ทั้งหลักฐาน และ ทฤษฏี แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 53 00:31:58 จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:30:13

ความคิดเห็นที่ 109 อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ล้วนเป็นประเด็นความเชื่อ ผมเสนอให้ยุติเรื่องฮั้วครับ โดยข้อเท็จจริงคือ 1. สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่าจะมีการฮั้ว ตามนิทาน ข้อที่ 11-14 และ 2. ตามทฤษฏีเกมแล้ว แม้ผลออกตาม 11-14 ก็ยังไม่อาจยืนยันว่าเป็นการฮั้วได้ ต้องดูราคาที่ได้ไป และการสู้ราคาประกอบอีกครั้ง 3. ในอีกแง่หนึ่ง ไม่ว่าราคาจะออกมาที่ หมื่นล้าน(ต่ำมาก) หรือ แสนล้าน(สูงมาก) เราก็คงหาหลักฐานการฮั้วไม่ได้อยู่ดี และก็คงมีคนเชื่อว่าฮั้ว และ คนเชื่อว่าไม่ได้ฮั้วอยู่ดี กรณีนี้ ให้ตั้งข้อสังเกตไว้เฉยๆ จะเหมาะกว่า จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:38:52

ความคิดเห็นที่ 110 งั้นขอตอบ #106 ก่อนนะครับ >เท่าที่ผมอ่านมาครับ คุณ TRMM ห่วงแต่รัฐ ห่วงแต่รายได้ของรัฐที่จะขาด >หายไป ............ แต่ไม่เห็นคุณห่วงประชาชนตาดำ ๆ ซึ่งเป็นเจ้าของคลื่น >ที่แท้จริงเลยครับ ใจเย็นๆ ครับ อ่ะ คืนนี้จะพยายามตอบเท่าที่มีเวลานะครับ ถูกต้องครับ ที่ผมห่วงผลประโยชน์ของรัฐที่จะขาดหายไป แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่า ผมจะไม่ห่วงผลประโยชน์ของประชาชนนะครับ "แต่แน่นอน ผมไม่ห่วงผลประโยชน์ของพ่อค้าแน่นอนครับ" ส่วนที่ว่าผมห่วงผลประโยชน์ของประชาชน ผมจึงต้องมานั่งสร้างความกระจ่างไขข้อสงสัยอยู่นี้ไงครับ เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ทั้ง 2 ด้านให้หมดก่อน ประชาชนถึงจะมีความสามารถในการมีข้อมูลที่รอบด้านเพื่อที่จะนำไปคิดและตรึกตรองให้ตกผลึกทางความคิดก่อนที่จะเลือกเชื่อใครไงครับ ไม่งั้นประชาชนจะเลือกที่จะเชื่อ กระแส หรือเลือกที่จะเชื่อภาพที่ถูกสร้างขึ้นในการประชาสัมพันธ์ >จากการที่ตามอ่านมาตลอดทั้ง 2 ฝั่ง ไม่ว่าจะเป็น เหตุผลที่ CAT ฟ้อง และ >เหตุผลที่ กทช รีบประมูล ราคาต่ำ ๆ >ผมมองไม่เห็นเลยครับ ว่า CAT พยายามทำเพื่อประชาชนตอนไหน มอง >ไปทาง กทช มากกว่า ที่ทำให้ประชาชน อันนี้ก็ต้องเสพข้อมูลในทุกๆ ด้าน หลากหลายมิติ ทั้งเชิงกว่างและเชิงลึกครับ ถึงจะสามารถสรุปได้อย่างที่บอก ยกตัวอย่างเช่นที่ผมบอกว่า TDRI ออกข่าวว่ารัฐเสียหาย สองแสนล้าน ลองอ่านก่อนนะครับ แล้วกลับมาคุยกันใหม่ว่าคุณยอมรับได้หรือเปล่า ส่วนผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งผมยอมรับไม่ได้ครับที่รัฐต้องเสียค่าโง่สองแสนล้านกับการที่เร่งรีบแบบนี้ ตามไปดูในลิงค์นะครับ :) http://www.igetweb.com/www/setpluss/index.php?mo=3&art=358371 >ข้อกำหนกต่าง ๆ ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชนนะครับ ที่เขากำหนดมา ราคา >ที่มันไม่ได้แพงเป็นหลัก แสนล้าน ก็เพื่อที่จะทำให้ราคาค่าใช้บริการถูก >มากขึ้น(เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่นอกจากจะต้องจ่ายค่าสัมปทานแล้ว ยัง >ต้องหาเลี้ยงบริษัทตัวเองอีกให้อยู่รอด ค่าโทรมันถึงได้ สนุกสนาน เงินใน >กระเป๋าแบบนี้) แน่ใจนะครับว่าจะได้ใช้ในค่าบริการในราคาถูก เอาง่ายๆ เอาแค่ให้ลองทดสอบบริการ 3G โดยที่ทั้ง 3 ค่ายไม่ต้องเสียอะไรแต่มีเงื่อนไขต้องไม่เก็บค่าบริการเชิงพานิชย์ ทั้ง 3 ค่ายยังพยายามที่จะซ่อนการเก็บเงินเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับบริษัทตนเองเลยครับ >ผมอยากจะลองถามคุณกลับไปว่า การที่คุณมาเรียกร้องแบบนี้เนี่ย เพื่อ >ใครรัฐวิสาหกิจ คืออะไร สิ่งที่ รัฐวิสาหกิจควรทำ คืออะไร >ประโยชน์ของการฟ้องร้องครั้งนี้ เพื่อประชาชน หรือไม่?????????? มีคนคิดต่างกับคุณเยอะครับ โดยที่ติดตามเรื่องมาและก็ไม่ได้ตามกระแส เพียงแต่คุณจะยอมฟังเสียงเหล่านั้นเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของคุณหรือเปล่า อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนนะครับ >ปล. ที่ คห 98 ถามจริงครับ ที่คุณบอกว่า ได้ใช้เนี่ย มันกี่คนครับ ถ้าเทียบ >กับจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศไทย คิดเป็นกี่ %  แล้วสถานที่ ที่ >ได้ใช้เนี่ย มันครอบคลุมเหรอครับ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่า มีใช้แล้วนะ >ครับ ผมรู้ว่ามีใช้ทดลองแล้ว แต่มันยังใช้แบบจริงจังไม่ได้ครับ นั่นแหละ >ปัญหา และควรจะมีการประมูลได้แล้วครับ Ais True และ Dtac ได้มีการทดสอบ เป็นหลักจำนวนนับพันเสาที่ได้ติดตั้งไปแล้วครับ และมีบางค่ายที่เริ่มขยายจากการทดสอบแล้วได้ผลดีจากหลักร้อยเสาเพื่อไปเป็นหลักพันเสาซึ่งในกรุงเทพและเมืองใหญ่น่าจะครอบคลุมหมดนะครับ ดังนั้นจนกว่าจะมีการประมูล ประชาชนก็ได้ใช้ฟรีไปเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ ใบอนุญาตออกเมื่อไหร่ก็เริ่มเสียเงินกันอย่างเต็มรูปแบบครับ :) จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:40:11

ความคิดเห็นที่ 111 เห็นด้วยกับคุณ house (panote_saechiew) ที่ความเห็นที่ 109 ที่ให้หยุดการถามเรื่องฮั้วไว้ครับ เพราะ มันไม่สามารถหาหลักฐานมาสนับสนุน ในการเสวนาได้ ก็จะมีแต่ความเชื่อของแต่ละคนที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 00:54:12

ความคิดเห็นที่ 112   ผมว่าเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วย คือ ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ รัฐหรือประเทศ จะอยู่ได้ด้วยประชาชนครับ ไม่ควรเห็นแก่ประชาชนก่อนเหรอครับ ถ้าเงินที่ต้องหักเข้าคลังของแต่ละบริษัทลดลง ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นของผู้บริโภค หรือประชาชน ตาดำๆอย่างเราลดลงตามไปด้วย อีกอย่างยังไงรัฐก็มีเงินรายได้จาก ภาษีที่เราใช้จ่ายกันอยู่แล้ว ปีๆหนึ่งมันไม่ได้น้อยหรอกนะครับ หรือว่าไม่จริง ถ้าบอกว่าน้อยก็คง น้อยไม่พอแบ่งกันถลุงเองแหละครับ จากคุณ : SoPoomSan เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:03:57

ความคิดเห็นที่ 113   >>>อันนี้ก็ต้องเสพข้อมูลในทุกๆ ด้าน หลากหลายมิติ ทั้งเชิงกว่างและเชิงลึกครับ ถึงจะสามารถสรุปได้อย่างที่บอก ยกตัวอย่างเช่นที่ผมบอกว่า TDRI ออกข่าวว่ารัฐเสียหาย สองแสนล้าน ลองอ่านก่อนนะครับ แล้วกลับมาคุยกันใหม่ว่าคุณยอมรับได้หรือเปล่า ส่วนผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งผมยอมรับไม่ได้ครับที่รัฐต้องเสียค่าโง่สองแสน ล้านกับการที่เร่งรีบแบบนี้ ตามไปดูในลิงค์นะครับ :) <<< http://www.igetweb.com/www/setpluss/index.php?mo=3&art=358371 จากที่ จขกท บอกให้ไปอ่าน ผมอ่านยังไง มันก็มีแต่พูดถึงว่า TOT กับ CAT เสียผลประโยชน์อยู่ดี ไม่เห็นมีคำไหนพูดเลยว่าประชาชนเสียผลประโยชน์ มันก็แค่มองด้านเดียวแหละ ลองมองดูองค์กรของรัฐดีๆ รัฐ เป็นแนวความคิดหรือมโนทัศน์ที่ย่อลงมาจากการเมือง  (Politics) ในลักษณะที่รัฐเป็นสถาบันที่เกิดขึ้นจากการจัดระเบียบและการสร้างแบบแผน อย่างเป็นทางการของการเคลื่อนไหวหรือพลวัตของการเมือง โดยที่รัฐประกอบไปด้วย    ประชากร  และ.สิทธิหน้าที่ต่าง ๆ สถาบัน และกระบวนการยุติธรรม หลักการและอำนาจ ซึ่งเป็นเครือข่ายความสัมพันธ์แบบโครงสร้าง เห็นไหมครับ ประกอบด้วย "ประชากร" ถ้าหน่วยงานของรัฐได้ แต่ ประชากร เสีย ซึ่งหน่วยงานของรัฐหน้าที่ของเค้าก็ง่ายๆ ช่วยพัฒนาชาติเพื่อให้ประชากรมีความสุข อย่าลืมหน้าที่ ที่พึ่งควรมีของรัฐด้วยสิครับ ว่ารัฐมีหน้าที่พัฒนาชาติ ไม่จำเป็นว่าต้องใช้เงินพัฒนาอย่างเดียว เรื่องบางเรื่องสมองก็พัฒนาชาติได้ครับ หากผู้บริหารของชาติมีสมองในการพัฒนา จากคุณ : SoPoomSan เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:16:47

ความคิดเห็นที่ 114 ตอบ #31 >ผมขอออกความเห็นในฐานะชาวบ้านว่า >ทำไม CAT และ TOT ไม่เห็นลดราคาค่าใช้ internet ในราคาถูกกว่าจ้าวอื่น ๆ >เลย ประสิทธิภาพก็ด้อยกว่าเขา ในราคาพอ ๆ กัน >แล้วที่บอกว่าทำเพื่อชาติ ประชาชน มันจริงเท็จแค่ไหน ดูที่ราคารายเดือนก็รู้แล้ว ผมขอตอบในฐานะพอมีความรู้งูๆปลาๆนะครับ และก็ไม่ได้ตอบในฐานะพนักงาน CAT หรือ TOT การเลือกซื้ออินเตอร์เน็ตนั้นต้องดูที่ราคาและคุณภาพของแบนด์วิธที่ให้บริการด้วย จำนวนเมกที่ขายนั้น ไม่ได้สะท้อนอะไำรในความเร็วหรือความเสถียรที่คุณได้รับ เอายกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือเรื่องการ sharing ในกลุ่มลูกค้า ทั้งนี้ผมก็ไม่รู้นะครับว่า ใครถูกใครแพงในตลาด แต่รู้ว่าประสิทธิภาพของ CAT น่าจะดีสุด เพราะเ้ป็นไฟเบอร์ใต้น้ำที่ขึ้นตรงจากต่างประเทศ จะดีกว่า ของ TOT และ True ที่ก็ซื้อจาก CAT (อันนี้จะเสถียรกว่า) และ Landline จากมาเลเซีย(ซึ่งถูกรถชนเสาไฟฟ้าทำให้สายขาดบ่อย) ไปทำการ sharing ต่อแล้วค่อยขายให้ลูกค้าอีกทอดหนึ่ง ส่วนรายอื่นๆ ยิ่งเป็น ISP Tier 3 หรือ Tier 4 จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการ sharing ของ ISP ด้วยว่าจะใช้อัตราส่วนมากน้อยแค่ไหนครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:23:40

ความคิดเห็นที่ 115 ตอบ #112 และ #113 >ผมว่าเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วย คือ ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ รัฐหรือ >ประเทศ จะอยู่ได้ด้วยประชาชนครับ ไม่ควรเห็นแก่ประชาชนก่อนเหรอครับ >ถ้าเงินที่ต้องหักเข้าคลังของแต่ละบริษัทลดลง ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนั้น >ของผู้บริโภค หรือประชาชน ตาดำๆอย่างเราลดลงตามไปด้วย >อีกอย่างยังไงรัฐก็มีเงินรายได้จาก ภาษีที่เราใช้จ่ายกันอยู่แล้ว ปีๆหนึ่งมัน >ไม่ได้น้อยหรอกนะครับ หรือว่าไม่จริง >ถ้าบอกว่าน้อยก็คง น้อยไม่พอแบ่งกันถลุงเองแหละครับ คุณ SoPoomSan ครับ รัฐต้องประกอบไปด้วยประชาชน ต้องเห็นแก่ประชาชนก่อน แต่ที่ผมกำลังจะบอกก็คือ ผลประโยชน์มันดันไปตกกับพ่อค้านะซิครับ มันก็เลยเป็นเรื่อง ดังนั้น ก่อนอื่นประชาชนต้องรู้ความจริงให้รอบด้านก่อนครับ ลองอ่านย้อนหลังในแต่ละความเห็นที่ผมเสนอให้มองในมุมอื่นนะครับที่ไม่ใช่มุมมองที่ตามกระแส อ่านแล้วก็กลับมาถามผมใหม่นะครับ เอาเป็นข้อๆเลย ผมจะได้ตอบง่ายขึ้นครับ จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:31:08

ความคิดเห็นที่ 116 นั่นสิครับ อ่านแบบเปิดใจเต็ม ๆ แล้ว ผมก็เห็นบอกแค่ TOT กับ CAT สูญเสียรายได้จากค่าสัมปทานเท่านั้นเอง โดยมูลค่าความเสียหายดังกล่าวคำนวณเบื้องต้นจาก 6 ปีแรกที่มีการเปิดให้บบริการ ทั้ง  3 บริษัทจะไม่ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) อัตราปีละ 25-30%  แต่เปลี่ยนเป็นการจ่ายค่าไลเซ่นส์ให้กับ กทช.ปีละ 6.5% เท่านั้น ซึ่งส่วนที่เหลือคือกำไรที่เอกชนจะได้รับประโยชน์แบ่งเป็น เอไอเอส 90,000 ล้านบาท ดีแทค 60,000 ล้านบาท และ ทรูมูฟ 30,000 ล้านบาท ขณะที่รัฐต้องเป็นผู้สูญเสีย จากตรงนี้เลยครับ เต็ม ๆ ว่า ผู้ขาดรายได้ใหญ่คือ CAT และ TOT เองที่ถือสัญญาสัมปทานอยู่ ???? เท่าที่ผมเข้าใจ ปกติ เอกชน ก็ต้องจ่ายภาษีเงินได้ ไม่ใช่หรอครับ ยิ่งรายได้มาก เขาก็ต้องจ่ายภาษีมากขึ้น เงินก็เข้ารัฐโดยตรงมิใช่หรอครับ หรือผมเข้าใจผิด ตอนนี้เขาไม่ต้องจ่ายภาษี แต่จ่ายแค่ค่า ไลเซ่นส์ให้กับ กทช.ปีละ 6.5%  อย่างเดียวหรอครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 53 01:33:52 จากคุณ : EDDY_TG เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:32:40

ความคิดเห็นที่ 117 ตอบ#116 คุณ EDDY_TG  ลองกลับไปอ่านในหัวข้อกระทู้และความเห็นที่ 72 ที่ผมได้ตอบไว้นะครับ น่าจะครอบคลุมในสิ่งที่คุณต้องการรู้ครับ ในเรื่องของการส่งค่าสัมปทานกลับไปเป็นงบประมาณแผ่นดินครับ ถ้ายังสงสัยตรงไหนก็ถามมาได้ครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 53 01:42:42 จากคุณ : TRMM (TRMM) เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 01:41:35