ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนนะครับว่าเรื่องต่อไปนี้ อาจจะไม่เกี่ยวข้องมือถือโดยตรง แต่ก็มีความใกล้เคียงตรงที่เป็นเรื่องราวที่เกียวข้องกับโทรศัพท์(บ้าน)
เรื่องเล่านี้เกิดขึ้นประมาณปี 2540-2541(จำปีได้ไม่แน่ชัด) ตอนนั้นผมกำลังอยู่ปี 1 พอดี ช่วงนั้นต้องทำงานส่งอาจารย์เยอะมาก แถมหลับดึกแทบทุกคืน ระหว่างที่ทำงานอยู่ในหอคนเดียวก็เปิดเพลงฟังสลับกับเปิดสถานีวิทยุ เพื่อจะได้ไม่ง่วง (เวลาที่พิมพ์ตอนนี้ ช่วงเวลาเดียวกับที่ฟังในตอนนั้นเลย เหอะ ๆ อยู่ภาพช่วงเวลานั้นก็แว็บเข้ามา) ตอนนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาปั่นงานส่งอาจารย์ไม่คิดอะไรมาก แต่โสตประสาทอีกส่วนก็ได้ยินรับรู้เรื่องราวในวิทยุไปด้วยเรื่อย ๆ จนมาถึงช่วงที่พี่ดีเจ เปิดโอกาสให้สายทางบ้านโทรเข้ามาเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกตามปกติ แต่ในความปกติก็มีความไม่ปกติกลับสายหนึ่งที่โทรเข้ามาพูดคุยกับดีเจ "เป็นเสียงผู้หญิงอายุประมาณ 18-20 ปี(ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่จำชื่อผู้หญิงคนที่โทรเข้ามาไม่ได้) ได้โทรมาเล่าเรื่องของเพื่อนที่ถูกรถชนเสียชีวิต ระหว่างเดินทางกลับบ้านที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และได้เล่าต่อว่า เพื่อนที่เสียชีวิตได้มาเข้าฝันว่า...คิดถึง พ่อ แม่ เพื่อน อยากกลับไปเรียน เพราะเสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัวเลยคิดว่าตนเองยังไม่ตาย อยากกกลับบ้าน กลับไปบ้านเรียกคนในบ้านก็ไม่มีใครได้ยิน เลยไปเข้าฝันเพื่อนขอให้เพื่อนช่วยไปบอก พ่อกับแม่ว่าเค้าคิดถึง เค้าอยากกลับบ้าน หนาว และหิวข้าว (ระหว่างที่ผู้หญิงคนนั้นเล่าเรื่องก็มีน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ไปด้วย ดีเจก็ปลอบให้ผู้หญิงคนนั้นทำใจดีดี ค่อย ๆ เล่า พร้อมกับแสดงความเสียใจไปด้วย) สักพักผู้หญิงคนนั้นก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วสายก็หลุดไป.... ดีเจเลยบอกทางหน้าไมค์ว่า ขอให้ผู้หญิงคนนั้นช่วยโทรกลับมาเล่าเรื่องต่อ แต่แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ไม่โทรกลับมาเลย.... ดีเจก็เปิดโอกาสให้สายอื่นโทรเข้ามาเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกต่อ (เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที) มีสายโทรเข้ามา ขอคุยเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นที่เล่าเรื่องไม่จบ (ด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก) ดีเจเปิดโอกาสให้ผู้หญิงคนที่โทรเข้ามาใหม่พูด (แต่ชื่อและน้ำเสียงของคนที่พูดตอนนี้ คนละ ชื่อ และน้ำเสียง ก่อนหน้านี้) ผู้หญิงในสายได้บอกว่าเค้าคือเพื่อนของผู้หญิงที่โทรมาเล่าเรื่องก่อนหน้านี้ แล้วผู้หญิงที่โทรมาก่อนหน้านี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว (เท่านี้ล่ะครับ...พี่น้องคร้าบ.... ผมหยุดปั่นงานทันที หันมาตั้งใจฟังวิทยุแทน จากที่ปั่นงานไป ง่วงนอนไป ก็ตื่นขึ้นมาทันที...) แล้วทุกอย่างในห้องส่ง ออกอากาศอยู่ ๆ ก็เงียบไปประมาณ 5 วินาที แล้วดีเจ ก็ได้ถามผู้หญิง (ในสาย) คนนั้นอีกทีว่า ตกลงผู้หญิงคนที่โทรเข้ามาเล่าช่วงแรกเป็น ผู้หญิงคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้นเหรอ ผู้หญิงในสายที่เป็นเพื่อนที่โทรเข้ามาเล่าเรื่องต่อ บอกว่า ใช่แล้วค่ะ คนที่โทรมาเล่าก่อนหน้านี้คือเพื่อนหนูเอง (ผู้หญิงคนนั้นยืนยันว่า ชื่อ, น้ำเสียง ในสายแรกเป็นเพื่อนคนที่เสียชีวิตจริง ๆ ) แต่โดยเซ็นต์ของนักจัดการการณ์คิดว่า ผู้หญิงสองคนนี้จะโทรมาเล่าเพื่อสร้างเรื่องเท็จ (เพราะคิดว่าจะเป็นไปได้ยังไงที่คนตายจะโทรศัพท์เข้ามาพูดคุยได้) จากนั้นดีเจก็พูดขอบคุณ กับผู้หญิงในสายที่ 2 ที่เข้ามาร่วมแชร์ประการณ์ขนหัวลุก (หลังจากสายนั้นเล่าเรื่องจบ ผมก็กลับไปตั้งหน้าตั้งตาปั่นงานปกติ) แล้วดีเจก็เปิดโอกาสในสายอื่นโทรเข้ามาเล่าเหตุการณ์ขนหัวลุกอื่น ๆ ต่อไปตามปกติ จนจบรายการ ประมาณ ตี 2"
หลังจากนั้น 3 เดือนผ่านไป ดีเจก็ได้เอาเรื่องราว ของผู้หญิงที่เสียชีวิตจากเหตุรถชนครั้งนั้นมาเล่า ผ่านทางรายการอีกครั้งว่า "หลังจากที่ได้ออกอากาศ เรื่องผู้หญิงที่ถูกรถชนเสียชีวิตขณะกลับบ้านที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เพื่อนของผู้หญิงชีวิต (สายที่ 2) ก็ได้โทรมาคุยหลังไมค์กลับดีเจ อีกครั้งว่า เหตุการณ์คืนนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ หลังจากคืนนั้น เพื่อนของผู้หญิงที่เสียชีวิต (สายที่2) ก็ได้เล่าเหตุการณ์คืนนั้นให้กับ พ่อ แม่ ของผู้หญิงที่เสียชีวิตฟังว่า ลูกสาวเค้าได้โทรไปในรายการ ไนช๊อค แล้วบอกกลับดีเจ ว่า คิดถึง พ่อ แม่ หนาวและหิวข้าว เรียกใครในบ้านก็ไม่มีใครได้ยิน (เพื่อนของผู้ตายพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่ และยืนยันว่าเหตุการณ์ในคืนนั้นเป็นความจริงทุกอย่าง) ดีเจก็ค้างคาใจ เลยเอาเสียงบันทึกการพูดคุยในคืนนั้น ไปให้ พ่อ แม่ ของผู้หญิงที่เสียชีวิตคนนั้นฟังด้วยตัวเอง ดีเจได้กลับมาเล่าออกอากาศอีกครั้งว่า พ่อ แม่ ญาติ ของผู้หญิงที่เสียชีวิต ที่ได้ฟังเสียงบันทักการพูดคุยกับผู้หญิง (สายแรก) ในคืนนั้น ทุกคนก็ร้องไห้ และยืนยันวาง ชื่อ น้ำเสียง เป็นน้ำเสียง ชื่อ ของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์รถชนครั้งนั้นจริง ๆ ดีเจก็เงียบไป สักพัก แล้วก็ได้พูดไว้อาลัย...และแสดงความเสียใจ แล้วพูดออกอากาศต่อว่า...จะขอยกเลิกจัดรายการแนวนี้ช่วงคราวก่อน.... จนเวลาผ่านไป 2-3 ปี น่าจะได้ ดีเจก็กลับมาจัดรายการแนวเร้นลับอีกครั้ง แล้วขอไม่พูดคุยอะไรที่เกี่ยวข้องกับเหตุการในครั้งนั้นอีกเลย"
ขอไว้อาลัย และขอบคุณพี่ดีเจเด็กดี มาก ๆ เลยนะครับ ที่ช่วยสร้างความสุขตลอดมา...และอยู่ในความทรงจำตลอดไป...จาก แฟนรายการวิทยุคนเดิม
แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 03:59:33
แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 03:53:24
แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 54 03:50:57