|
จริงแล้วผมแอบจ้องมองแอนดรอยมาตั้งแต่มันยังรันอยู่บน Ubuntu อยู่เลยครับ....(เวอร์ชั่นที่ต่ำกว่าเลข 1)
ในบรรดา OS ของมือถือสมาร์ทโฟน ผมมอาจจะจับ Symbian มาเยอะสุด Windows Mobile รองลงมา แอนดรอยนี่ผมเล่นทั้งบน Emulator แล้วก็เครื่องจริงๆ มาตั้งแต่มันยังเวอร์ชั่นต่ำกว่า 1 ครับ...ส่วน iOS นี่ เป็น OS ที่ผมลองเล่นครั้งแรกตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก จนถึงปัจจุบัน แล้วก็พบว่า มันไม่ใช่อย่างที่เราต้องการ ส่วน bada จากการที่ได้ลองสัมผัส Wave ตัวแรก แล้วก็พบว่ามันยังขาดความสมบูรณ์อีกมากกว่าครึ่ง ที่ต้องพัฒนาต่อไปอีก
หากมีใครจำได้ เมื่อหลายปีก่อน ที่จะมี Google Thailand ทาง google ได้มีการเชิญชวนคนไทยเข้าไปช่วยแปลเว็บของเขาให้มีภาษาไทย แน่นอนผมก็คือหนึ่งในนั่น แต่เพื่อต้องการให้ทุกคนจำได้และรู้จักผม ผมจึงแปลวลีๆ หนึ่งบนเว็บ Google และไม่คิดที่จะเปลี่ยนมันไปตลอดกาล... นั่นคือคำว่า "ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย" ก็เรียกได้ว่าผูกพันและได้ใช้ประโยชน์จาก Google ในการทำมาหากินมาหลายปี ถึงผมจะไม่ค่อยได้ใช้ปุ่มที่ผมแปลก็เถอะ
มันก็เลยกลายเป็นความหวังลึกๆ ว่าวันหนึ่งมันน่าจะมี OS บนมือถือที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แล้วก็ใช้งานได้ตามความประสงค์ของเรา ดูจากทิศทางของแอนดรอยแล้วผมคิดว่า คงอีกไม่นาน Localize ภาษาไทยก็อาจจะเต็มรูปแบบแน่ๆ แต่คงต้องรออีกสักพัก... เพราะยังงัยๆ ในแง่ของผู้ใช้ที่ออนไลน์ในเมืองไทย ไม่มีใครไม่รู้จัก Google มันเป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร Google คงไม่ได้ทิ้งคนไทยแน่นอน ดูอย่างบางฟีเจอร์ก็เปิดที่เมืองไทยก่อนประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำ เช่น แผนที่จราจร นั่นมันเป็นเพราะเรามีเทคโนโลยีที่พร้อมอยู่แล้ว เขาก็เลยสามารถ apply เอาไปใช้ได้ ในส่วนเทคโนโลยีด้านเสียงนี่ก็เช่นกัน บ้านเรามีเนคเทคที่พัฒนาการสังเคราะห์เสียง ภาษาไทย ภาษาลาว ได้สมบูรณ์แล้ว ปัจจุบันก็มีบริษัทที่ซื้อตัวนี้ไปใช้ก็จะเป็นพวก GPS นำทางซะส่วนใหญ่ (พูดบอกชื่อถนน) เราก็คงต้องรอว่าเมื่อไร Google จะมาซื้อไปใส่ OS ตัวเองบ้าง... (ส่วนการสังเคราะห์เสียงภาษาไทยของโนเกียนั้น ไม่ใช่ของเนคเทคนะครับ เป็นของ PPA ที่พัฒนาโปรแกรม สาลิกา นั่นแหล่ะครับ)
ในการใช้ OS ของระบบมือถือปัจจุบัน ผมมองว่า มันไม่ใช่แค่สัมผัสแล้วลื่นปรื้ดอย่างเดียว มันยังต้องมีแอปหรือซอฟต์แวร์ที่ฉลาดในการควบคุมระบบด้วย คนหลายๆ อาจจะมองว่า iphone สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว...แต่สำหรับผมแล้ว...มันยัง "ขาด" อะไรอีกหลายๆ อย่างที่ผมผมต้องการ แล้วมันไม่มี ตัวแอนดรอยก็เช่นกัน ยังขาดอะไรอีกมากมาย ที่ผมจะใช้แล้วไม่มี บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผมมันคือความสะดวกในการใช้งาน ตัวอย่าง เช่น ไอคอนแอปในเมนู เวลาที่พลิกหน้าจอมาในแนวนอนหรือแนวตั้ง ไอคอนมันก็ควรจะพลิกตามนั้น หรือไม่ก็เข้าโปรแกรมที่มันควรจะแสดงผลได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนอย่างเบราเซอร์, โปรแกรมดูภาพ, ดูหนัง, ebook เวลาพลิกจอ มันก็ควรจะพลิกตามนั้นเหมือนกัน แล้วก็เวลาพิมพ์ข้อความ sms หรือข้อความอื่นๆ ก็เช่นกัน เวลาพลิกจอ ไม่ว่าแนวตั้งหรือแนวนอน มัีนก็ควรจะต้องพิมพ์ในหน้าจอนั้นๆ ได้ ไม่ใช่บังคับให้แนวนอนหรือแนวตั้งอย่างเดียว
เรื่องตั้งปลุกอย่างใน #74 ก็เหมือนกัน...ผมคนนีงแหล่ะที่ใช้มือถือแทนนาฬิกาปลุก ซึ่งบางวันกลับบ้านเหนื่อยๆ อยากนอนแบบไม่มีคนกวน...ใช่ครับ...ปิดเครื่องไปเลย... ซึ่งคนที่เคยใช้โนเกียจะรู้ดีว่ามันปลุกได้ โดยไม่ต้องเปิดเครื่อง แต่... Windows Mobile, Android, Iphone ต้องเปิดนะครับ..ไม่งั้นมันไม่ปลุก...
ในบรรดาเครื่องแอนดรอยที่ผมสัมผัสมา....ผมชอบลักษณะแอนดรอยในแบบของ Acer มากที่สุด นั่นคือ Theme พื้นฐานของระบบแอนดรอยมาตรฐาน มันทำให้ผมไ่ม่ต้องเสียเวลาหาฟังชั่นหรือแอปที่มันมาพร้อมกับเครื่อง ซึ่งถ้าเป็น htc หรือ ซัมซุงละก็....มันจะต้องไปหาอีกนานพอดู..กว่าจะเข้าใจว่า อ้อ...จะทำไอ้นี่ต้องมาตั้งค่าตรงนี้...มันสวยก็จริง..แต่มันทำให้ชีวิตลำบากขึ้นเยอะเลย ซึ่งของ acer นี่...ไม่ว่าจะทำ windows mobile หรือ แอนดรอย... มันก็หน้าตาเดิมๆ ของ OS ตัวนั้นแหล่ะ ไม่มี shell มาครอบเหมือน htc หรือ ซัมซุง หรือ โซนี่ ซึ่งไอ้ Shell พวกนี้เป็นตัวหน่วงพลังของเครื่องมากมาย มันสวยก็จริงแต่ต้องเอา performance ไปแลก + กับชีวิตที่ต้องใช้งานยากขึ้น
ปัจจุบัน...ผมก็ยังคงต้องใช้ Nokia Symbian S60 ต่อไป ด้วยเหตุผลที่ยังไม่มี OS ตัวไหนจะมาใช้งานทดแทนได้ 100% กับ พฤติกรรมการใช้งานของผม
ผมใช้งานมือถือแบบนี้นะครับ... ยาวหน่อย แต่ก็ต้องเข้าใจ
1. ผมมีมือถือ Nokia 4 เครื่องใน 4 generation คือ Nokia 1112 หน้าจอขาวดำ, N-gage รุ่นแรก, N81, 5800 ซึ่งใน 4 เครื่องนี้สามารถ sync contact หากันได้ง่ายๆ อยู่ 3 เครื่อง ส่วนจอขาวดำ ผมจะบันทึกไว้เฉพาะคนสำคัญๆ เท่านั้น วิธี sync ก็คือ ส่ง contact ผ่าน sms ไปหาเครื่องขาวดำ แล้วก็กด save แค่นั้น ไม่ต้องจดทีละเบอร์ ซึ่งเครื่อง nokia ส่งหากันแบบนี้ได้ทุกรุ่น แต่ถ้าเป็นรุ่นที่เป็น บลูทูธ ก็ sync ผ่านบลูทูธได้เลย สะดวกมากๆ ไม่ต้องผ่านคอมด้วย (ผมเคยพยายามวิธีนี้กับยี่ห้อซัมซุง และโซนี่ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ)
2. เวลาลงแอปฯ ก็สามารถลงผ่าน PC Suite, ส่งผ่านบลูทูธ, สาย usb ได้ง่ายๆ
3. เวลาฟังเพลง ไม่ว่าจะจากวิทยุ FM หรือ เครื่องเล่นเพลงในมือถือ ปุ่มบนรีโมทใช้ ควบคุมการเปลี่ยนเพลงหรือเปลี่ยนสถานี FM ได้ง่ายๆ
4. อีเมล... ไม่ว่าผมจะใช้ server เป็นอะไร pop3, imap, hotmail, gmail, yahoo, ovi, exchange, lotus domino, pushmail มือถือมันก็คอนเน็คได้ทั้งหมด ง่ายๆ
5. เวลาข้อความหรืออีเมลเข้ามาในขณะที่มือไม่ว่างหรือว่างแค่มือเดียว เช่นกำลังขับรถ ...ก็กดปุ่มที่รีโมทค้างไว้ 2 วินาที เครื่องจะทำการอ่านข้อความนั้นให้เราฟัง (ภาษาไทยก็อ่านได้นะบน N81 แต่บน 5800 ไม่มี บน C6 มีแล้ว)
6. กดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ 2 วิ...แล้วพูดชื่อ app หรือชื่อคนใน contact ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ มันจะไปเข้าโปรแกรมนั้นๆ ให้ หรือ โทรออกเบอร์ที่บันทึกไว้ (บางทีก็พลาดเหมือนกัน แต่น้อย)
7. การสั่งการด้วยเสียง ยิ่งใช้บ่อย มันจะยิ่งแม่นยำมากขึ้น
8. ไอคอน app บนหน้าจอ หมุนตามจอ ไม่ว่าแนวตั้งหรือแนวนอน
9. มีระบบนำทางที่สุดยอดบนเครื่องโนเกีย เช่น Garmin Mobile XT, Ovi maps, Sygic, Ndrive, Google maps, Longdo เลือกใช้ได้ตามใจเลย แต่ผมใช้แค่ Garmin, Ovi, และ Google maps เท่านั้น (แผนที่การ์มินแพงมากๆ)
10. Ovi Store ที่คิดราคาคนไทย (1 ยูโร = 20 บาท) ทำให้แอปถูกมากๆ แถมไม่ต้องมีบัตรเครดิต หรือบัตรอะไรให้วุ่นวาย แค่มีตังค์ในบัญชีมือถือ ซึ่งทุกคนที่มีมือถือก็ต้องมี หักผ่านบัญชีมือถือได้เลย สะดวกมากๆ
11. การสร้างแอปขึ้น app store ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว...ไม่ต้องมีทักษะเขียนโปรแกรมด้วย สร้าง app ผ่าน app wizard ของ Ovi ได้เลย
12. โปรแกรมดูเว็บที่เข้าเว็บมีแฟลชได้ เล่นเกมแฟลชบนเว็บได้บ้าง ภาษาไทยใช้ได้ดี (ถึงจะยังไม่ค่อยสมบูรณ์นักก็ตาม) เข้าเว็บที่เป็น Silverlight ของ Microsoft ได้
13. OS รองรับ app ได้หลากหลายรูปแบบ คือ Symbian, Java, Flash, QT, Python, Web runtime(HTML)
14. เพลง หนัง จัดว่าค่อยข้างสมบูรณ์แบบ ปรับแต่ง EQ ได้ตามใจชอบ แสดงเนื้อร้องได้ด้วย
15. วิทยุที่เป็น RDS สามารถรับข้อมูลที่เป็น data service จากสถานีได้ ซึ่งในปัจจุบัน สถานีในเมืองไทยก็มี rds ค่อนข้างเยอะแล้ว
16. โปรแกรมจัดการรูปภาพ ถึงจะใช้โปรแกรมเดิมๆ โดยไม่ต้องลงแอปเพิ่ม ก็จัดว่าเพียงพอแล้ว ใช้ง่าย ใช้แก้ไขปรับแต่งภาพแบบง่ายๆ ได้ด้วย
17. ปฏิทิน...ที่สามารถ sync กับ Exchange, Domino, Google, Yahoo, Ovi รวมถึง Apple iCal
18. อัพเดท FW ได้ด้วยตัวเครื่องเอง ไม่ต้องอาศัยคอมก็ได้
19. การเปิดไำฟล์ออฟฟิศหรือไฟล์ PDF เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว...ว่าแต่เมื่อไรจะรันมาโครได้ด้วยนะ
20. กล้องที่มีลูกเล่นพอตัว ไม่หวือหวา แต่ถ้าอยากได้ลูกเล่นเพิ่มก็ลงโปรแกรมเอาละกัน
21. การ input ภาษาไทย ได้ทั้ง virtual keyboard, ลายมือ, แป้น T9 ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
22. กล้องหน้า VDO Phone ถ้ามี 3G ใช้ ก็สามารถใช้คุยกับใครก็ได้ ที่ใช้ 3G เหมือนกัน โดยคุยกับยี่ห้อไหนก็ได้ ที่มีกล้องหน้า (ยกเว้น iphone) ไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
จากคุณ |
:
ทัชชี่
|
เขียนเมื่อ |
:
11 มี.ค. 54 03:08:44
|
|
|
|
|