 |
( บทความ ) แท็บเล็ตกับเด็ก 7 ขวบ วุฒิชัย มั่งคั่ง
|
 |
( บทความ )
แท็บเล็ตกับเด็ก 7 ขวบ วุฒิชัย มั่งคั่ง
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่คน?ไทย?แห่ไป?ใช้สิทธิ์?เลือกตั้งสูงถึง 75% โดยในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ทางสำนักงานคณะกรรม?การ?การ?เลือกตั้ง (กกต.) จะมีการประกาศผลรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ใหม่ เพื่อเข้ามาทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ก่อน จะทำได้หรือไม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไป
เป็นที่รู้กันแล้วว่าพรรคที่ได้จับขั้วตั้งรัฐบาล พรรคใหญ่คือพรรคเพื่อไทย ที่ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทะลาย โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย พร้อมมีพรรคการเมืองร่วมอีก 5 พรรค รวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วได้ 300 เสียง
ไม่ว่าจะด้วยกระแสที่ตอบรับในการเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย หรือนโยบายที่เข้าถึงประชาชนก็ตาม นั่นคือสิ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ด้วยเสียงคะแนนท่วมท้นถึง 265 เสียง อาจเป็นเพราะนโยบายที่นำเสนอให้กับประชาชนไว้ช่วงหาเสียง ล้วนแต่เป็นประชานิยมเพื่อประชาชนรากหญ้าทั้งนั้น
โดยเฉพาะ 1.เพิ่มเงินเดือนปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท 2.เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท 3.นโยบายจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท 4.เพิ่มวงเงินเบี้ยยังชีพ จาก 500 บาท เป็น 1,000 บาท 5.แจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ทุกคน 6.ให้เกษตรกรมีบัตรเครดิต 7.เพิ่มเงินทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา 8.สร้างรถไฟฟ้า 10 สายใน กทม. 9.เพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้านอีก 1 แสนล้านบาท 10.พักหนี้ครัวเรือนที่ต่ำกว่า 5 แสนบาทอย่างน้อย 3 ปี 11.ยกเลิกกองทุนน้ำมัน พร้อมลดภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซล
นโยบายของพรรคเพื่อไทยดังกล่าว มีทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้านของบุคคลในแต่ละอาชีพ แต่ละสาขา อาทิ One Tablet One Per Child หรือ แจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาระบบศึกษาให้กับประเทศไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมกับต่างประเทศ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับรู้ เรียนรู้กับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้ แต่อีกมุมหนึ่งก็คงจะไม่ค้านก็ไม่ได้ เนื่องจากราคาแท็บเล็ตดังกล่าวมีราคาสูงกว่าหมื่นบาท ความรับผิดชอบกับของราคาสูงขนาดนี้ เด็ก ป.1 คงไม่มีทางที่จะดูแลรับผิดชอบกับของสิ่งนี้ได้
อีกประการหนึ่งคือ เด็ก ป.1 ยังอ่านและเขียนไม่ได้ ซึ่งช่วงเวลาหลังเลิกเรียนควรเป็นเวลาของการวิ่งเล่นออกกำลังกาย เรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อนฝูง หากแจกแท็บเล็ตจะทำให้เด็กหมกมุ่นกับเกมคอมพิวเตอร์ อยู่กับตนเองหรือเพื่อน 2-3 คน ไม่มีสังคมกับคนรอบข้าง จะขาดพัฒนาการด้านร่างกายและจิตใจ
นอกจากนี้ จากงานวิจัยพบปัญหาเหมือนกัน คือ เด็กเล็กส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเล่นเกมมากถึง 70% มีเพียง 15% เท่านั้นที่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ โดยงานวิจัยยืนยันว่า เด็กที่ถูกผลักออกจากระบบโรงเรียน เนื่องจากคะแนนเรียนไม่ดี พฤติกรรมไม่ดี มีสาเหตุหลักมาจากการติดเกมคอมพิวเตอร์ และไม่สนใจการเรียน ไม่รักการอ่าน การแจกแท็บเล็ตอาจทำให้เด็กติดเกมมากขึ้น
เป็นข้อที่พรรคเพื่อไทยควรไตร่ตรองให้มาก แม้จำเป็นต้องทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ แต่ก็ควรพิจารณาถึงกลุ่มอายุที่จะแจกอีกครั้ง รวมทั้ง ส.ส.ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ถือว่าเป็นงานหนักเลยทีเดียว
ทางด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า โครงการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียน หรือ One student , One Tablet เป็นที่คาดหวังของนักเรียนส่วนใหญ่ที่หวังจะได้ใช้แท็บเล็ตประกอบการเรียน ฉะนั้น ก็ขอให้มีการจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนทุกคนจริงอย่างที่โฆษณาหาเสียงไว้ โดยให้เร่งจัดหาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 นี้ และต่อเนื่องในงบ 2555 อีกทั้งการขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของ ศธ. หรือ edNet ที่ลงทุนไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท และเดินหน้านโยบายจัดหาคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนตามเป้าหมายคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องต่อนักเรียน 10 คน ลงทุนไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท รวมถึงสานต่อการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ เพื่อผลิตรวบรวมองค์ความรู้เนื้อหาต่างๆ ที่จะนำมาให้นักเรียนใช้ อย่าคิดแต่เรื่องจัดซื้อคอมพิวเตอร์อย่างเดียว ต้องคิดถึงคุณภาพการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเพื่อส่งเสริมความรู้ด้วย
ด้วยเหตุนี้ แท็บเล็ตจึงถือว่าเป็นดาบ 2 คม มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดี เด็กไทยก้าวสู่โลกสมัยใหม่และค้นคว้าข้อมูลได้ง่ายขึ้น และใช้เทคโนโลยีช่วยให้เกิดการเรียนรู้มีความจำเป็น แต่ต้องพัฒนาครู และเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนควบคู่กันไปด้วย ซึ่งข้อเสียก็คือ ราคาที่สูงและเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 ยากต่อการดูแล ทั้งหมดนี้ขอให้รัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ คิดและไตร่ตรองในส่วนนี้อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกๆ ฝ่าย.
ไทยโพตส์
| จากคุณ |
:
So magawn  
|
| เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ค. 54 05:37:45
|
|
|
| |
