|
ขอออกความเห็นบ้าง
เจ้าแรก ต้องทำ software เองทุกอย่าง hardware ก็ต้องไปซื้อเค้า ค่าจ้างทำ software เท่าไหร่ ค่าดูแลระบบเท่าไหร่ ทั้ง server อะไรทั้งหลายแหล่ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ทั้ง facetime, itune, app store, siri, imessge, etc.. พวกนี้ต้องมี server ทั้งนั้น ถ้าใครได้ลองซื้อหนังหรือโหลดหนังจาก ไอทูน แล้วจะรู้ว่ามันเร็วขนาดไหน หนังเรื่องนึงถ้าเน็ทเราแรงๆ หน่อยนี่ ไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จแล้ว ของพวกนี้ต้องใช้เงินในการดูแลทั้งนั้น แล้วจะให้เค้าออกสเปคมาสู้ด้วย คงจะขายไม่ได้หรอกมั้งราคานี้ ราคาขายที่ 20000 ราคาที่ผลิตเครื่องอาจจะสัก 5000 เหลืออีก 15000 ต้องเอามาจ่ายค่าบริการหลังการขายอีก แล้วมันจะเหลือสักเท่าไหร่
แต่กับอีกเจ้านึง hardware ก็ทำเอง แต่ software ไปเอาของเค้ามาใช้ทั้งหมด server ก็ไม่มีอะไรสักอย่าง ไม่ต้องเสียค่าสร้างไม่ต้องเสียค่าดูแล เพราะฉะนั้นอยากจะเอาสเปคยัดมาเท่าไหร่ก็ได้ เผลอๆ ไอ้ที่จ่ายกัน 20000 เนี่ยราคาเครื่องจริงๆ อาจจะ 5000 ได้กำไรไปเต็มๆ 15000 บริการหลังการขายอะไรก็ไม่มี
สมมติ ซีพียู ราคาต้นทุน 100 บาท แล้วโรงงานเค้าจะขาย 100 บาทหรือว่าเค้าจะขายมากกว่านั้น เผลอๆ ราคาต้นทุนของเอสสองจะเท่ากับราคาต้นทุนของไอโฟน 4 ด้วยซ้ำ ทั้งๆที่สเปคต่างกันตั้งเยอะ ถ้าจะเอาสเปคมาสู้ไอโฟนแพ้แน่นอนเพราะถ้าสเปคเท่ากันแอปเปิ้ลน่าจะต้องจ่ายแพงกว่าไม่ต่ำกว่า 10% แน่นอน แต่ถ้าจะให้ไอโฟนสเปคเท่ากับคนอื่น คงจะขายราคานี้ไม่ได้แน่
อธิบายไปจะเข้าใจหรือเปล่าก็ไม่รู้
ปล. เราก็ยังรู้สึกดีกะแอปเปิ้ลอยู่ เพราะให้อะไรกลับมาบ้าง ไม่ใช่ขายแล้วขายเลย กำไรที่เค้าได้จากไอโฟน 4 ของเราไปเมื่อปีที่แล้ว เค้าก็แบ่งไปทำ iOS5 บ้าง สร้าง server iCloud บ้าง iMessage ซื้อ น้องสิริ บ้าง และอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ แต่ลองนึกถึงอีกเจ้านึงที่เสียเงินซื้อไป มันเอากำไรไปทำอะไรบ้าง software ที่สร้างมาครอบ os ก็ห่วยขั้นเทพ
แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 19:33:40
แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 19:20:43
แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 19:19:36
จากคุณ |
:
farohnut
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ต.ค. 54 18:47:40
|
|
|
|
|