Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ทรูมูฟ: ตัวอย่างการประกอบการที่น่ารังเกียจ ติดต่อทีมงาน

ขออนุญาตเอาเรื่องนี้มาบ่นหน่อยนะครับ พอดีเป็นเรื่องของเพื่อน และต้องการมาแชร์ให้ได้รับรู้ เผื่อมีใครผ่านเข้ามาเห็น และจะได้รับการแก้ไขในทางที่ดีขึ้น


จุดเริ่มต้นที่แท้จริงของเรื่องนี้เริ่มจากความไม่สะดวกสบายของทรูที่ผมได้สะสมมาแต่ไหนแต่ไร ผมใช้บริการมาตั้งแต่มันยังเป็น Orange อยู่จนมันกลายมาเป็นทรู ผมใช้มานานตั้งแต่ยังเรียนมัธยมตอนนั้นผมก็ไม่ได้สนใจโปรโมชั่นอะไรมากจนมาวันหนึ่งผมรู้สึกได้ว่าโปรโมชั่นที่ตัวเองใช้อยู่นั้นค่อนข้างจะไม่ประหยัดเอาซะเลย คืออย่าเรียกมันว่าโปรโมชั่นเลยดีกว่ามันเป็นการจ่ายตามจริงอย่างสมชื่อ ผมจึงโทรไปที่ call center 1331 ขอวงเล็บข้างท้ายไว้ด้วยตัวอักษรเล็กๆว่า "โทรหา call center เสียตังค์นะครับ" เพื่อจะขอเปลี่ยนโปรโมชั่น ในขณะนั้นเอง ผมก็ได้รู้กับความลับที่หลบซ่อนอยู่นานว่าเบอร์ของผมเป็น "เบอร์ VIP"

"ขอประทานโทษด้วยนะคะเนื่องจากเบอร์ของคุณลูกค้าเป็นเบอร์ VIP ทางเราขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ติดต่อโดยตรงติดต่อกลับในวันพรุ่งนี้นะคะ"

"ผมอยากรู้เรื่องวันนี้เลยได้ไหมครับ" "ฝากเรื่องไว้ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลติดต่อกลับไป"

ยังก่อน ผมยังคิดว่าไอ้ความ VIP นี้มันน่าจะมีอะไรดีบ้างสิน่า โปรโมชั่นที่เราใช้:-)ก็แพงบรรลัยออกขนาดนี้ไม่เป็น VIP ก็แย่แล้ว

.

.

สรุปหลังจากเขาติดต่อกลับมาได้ความว่า "ขออภัยด้วยนะคะเนื่องจากเบอร์นี้เป็นเบอร์ VIP จะมีข้อจำกัดในการเลือกใช้โปรโมชั่นน่ะค่ะ"

ผมอยากจะซบลงที่อกของ สคบ. ในทันทีแต่ก็ยังไม่ได้ทำ ผมทนกล้ำกลืนอยู่กับค่าใช้บริการที่แพงจนเกินหน้าเกินตา ผมไม่เข้าใจว่าคุณยกย่องที่ผมเป็นลูกค้ามานานตั้งแต่อ้อนแต่ออกโดยการอุบปากเงียบไว้ไม่บอกว่าวันนี้มีโปรโมชั่นที่ดีกว่าให้ใช้แล้วได้อย่างไร



อย่างที่รู้กันระหว่างนั้นผมก็ใข้โทรศัพท์ทรูคู่กับ bts เสมอมา ผ่านจุดเดิม มันก็ขาดที่เดิม ชิดลม-สยาม "สายขาด" ประมาณหน้าโรงบาลตำรวจ อนุเสาวรีย์ชัยช่วงตีโค้งอ้อมอนุเสาวรีย์สาย "สายขาด" อย่างสม่ำเสมอ สะพานควาย-หมอชิต "สายขาด" ":-)เอ๊ย ! กูเป็นเพียงผู้ใช้บริการกูยังรู้เลยว่ามันต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง นี่ถ้ากูเป็นพี่ศศินกูจะเอาแผนที่มากางแล้ววาดวงให้ดูกันแล้วว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน" ผมอุทานในใจ



อีกหนึ่งตัวอย่างของความลำบากในการเป็นบุคคล VIP คือเมื่อผมโทรไปขอเปิดบริการ roaming ผมเองซึ่งเป็นคนชอบทำอะไรแบบนาทีสุดท้ายอยู่แล้ววันนั้นก็คิดว่าควรจะไม่ประมาทโทรไปบอก true หนึ่งวันก่อนเดินทาง เมื่อโทรไปผมก็เจอคำตอบเดิมคือผมสำคัญมากพนักงานคนนั้นคุยกับผมไม่ได้เกรงว่าจะล่วงเกินอะไรบุคคลสำคัญคนนี้เอา เขาเลยบอกให้ผมรอ รอการติดต่อกลับ ผมบอกเขาว่ารีบหน่อยนะครับผมต้องเดินทางเช้า เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นเต้นกับการจะได้เดินทางมากรีบออกจากบ้านไปถึงสนามบินเช็คอินขึ้นเครื่องกำลังจะปิดโทรศัพท์ อ้าวใครโทรมา "1331"



8 เดือนที่แล้วผมตัดสินใจละทิ้งอุดมการณ์ กลืนน้ำลายอึกใหญ่มาลองใช้ BB แบบคนอื่นเขาบ้าง ได้ฤกษ์ดีคราวนี้ผมโทรไปหาทรูมูฟ (ต้องยอมรับว่าครั้งนั้นมีการใส่อารมณ์) แล้วบอกให้เขายกเลิกการเป็นบุคคลสำคัญมากของผมซะ ผมได้โปรโมชั่น BB มาอย่างง่ายดายพร้อมทั้งเสียแต้ม "all together" ก้อนใหญ่กว่า 7000 บาทไป (ผมต้องยอมรับว่า all together bonus เค้าแจกจริงครับ แต่ข้อแม้เยอะมากต้องใช้บริการให้โปรโมชั่นที่ใช้งานเกินก่อนแล้วจึงจะเริ่มหักจากก้อน bonus ความสัมพันธ์ของยอดการใช้งานกับ bonus ของผมเป็นในลักษณะที่ bonus สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในขณะที่ค่าโทรยังแพงอยู่เหมือนเดิม)



เข้าเรื่องเลยคือ ในที่สุดผมก็คิดได้ครับว่าทางเลือกของผมที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการย้ายบ้าน "ค่ายใหม่เบอร์เดิม" ผมตัดสินใจจะย้ายไป dtac เนื่องจากมีทางเลือกไม่มากนักและเคยมีคนพูดให้ฟังตอนเด็กๆว่า AIS ใช้แล้วเป็นมะเร็งสมอง กระบวนการดำเนินเรื่องย้ายค่ายเป็นดังนี้



20 ตุลาคม

ยื่นเรื่องที่ dtac พร้อมส่งเอกสาร  ตรวจสอบพบว่ายังย้ายไม่ได้เนื่องจากมียอดค้างชำระ

   การย้ายค่ายโทรศัพท์จะย้ายได้สำเร็จในเวลา 3 วันทำการโดยต้องมีข้อแม้คือต้องไม่มียอดค้างชำระกับผู้ให้บริการเก่า ทั้งนี้จะต้องอธิบายเพิ่มเติมคือ ในกรณีของผมนั้นยอดการใช้งานจะตัดทุกวันที่ 9 ซึ่งเป็นยอดของเดือนก่อน และจะมีการหักเงินผ่านบัตรเครดิตในวันที่ 3 ของเดือนถัดไป หลังจากวันที่ 3 ผมจะมีสถานะเป็นผู้ไม่มียอดค้างชำระพร้อมที่จะย้ายค่ายได้ แต่อย่าเพิ่งชล่าใจนะครับต้องรีบย้ายให้ได้ก่อนวันที่ 9 มิฉะนั้นจะมีการตัดยอดการใช้งานอีกแล้วสถานะของผมจะเป็นผู้มียอดค้างชำระ

3 พฤศจิกายน

รีบโทรแจ้ง dtac ทันทีว่าชำระยอดค้างแล้ว ให้รีบดำเนินการด่วน

4 พฤศจิกายน

ยังไม่มีการติดต่อกลับผมจึงโทรไปย้ำกับทาง dtac อีกครั้งทาง dtac บอกว่าตรวจสอบแล้วผมยังมียอดค้างชำระอยู่

ผมรีบโทรหาทรูมูฟเพื่อยืนยันว่าไม่มียอดค้างแล้วจีงโทรไปบอกกับ dtac อีกที

5 - 6 พฤศจิกายน

วันหยุดสุดสัปดาห์ อย่าได้คิดหวัง

7 พฤศจิกายน

พนักงาน call center ของ dtac โทรมาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ บอกว่าขอโทษนะคะพอดีติดช่วงเสาร์อาทิตย์เลยดำเนินการให้ล่าช้า ตรวจสอบล่าสุดยังพบว่ามียอดค้างชำระอยู่เลยค่ะ ผมเริ่มฉุนบอกเค้าว่าผมเช็คแล้วว่าไม่มีผมจะโทรเช็คอีกทีก็ได้ เขาจึงขอเราบอกว่าช่วยประชุมสายเลยได้ไหมคะ ผมก็เลยต่อให้สองคนนั้นได้คุยกันกุ๊กกิ๊กสนุกสนาน (ตอนนี้สำหรับผมมันเคลียร์มาก การย้ายค่ายทางสว่างเรียบร้อย ทรูมูฟยินยันว่าชำระไปแล้ว)

8 พฤศจิกายน (อีก 1 วันก่อนเส้นตาย)

เงียบ

9 พฤศจิกายน (โอกาสสุดท้ายแล้วคือวันนี้)

ผมโทรหา dtac แต่เช้าตรู่เพื่อตามเรื่อง ได้คำตอบเดิมคือเช็คแล้วมียอดค้าง โทรถามทรู ทรูบอกไม่มีค้างแล้วแต่รอบบิลจะตัดเที่ยงคืนวันนี้ เอาแล้วสิมีเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ผมนั่งรอลุ้นการทำงานของ dtac อย่างใจจดใจจ่อ 6 โมงเย็น call center ของ dtac คนเดิมที่เคยคุยกันกับเราและทรูโทรมาบอกว่าเสียใจด้วย ย้ายไม่ได้เลยจริงๆค่ะดิฉันไม่เข้าใจเหมือนกัน ทางนู้นเข้าบอกว่า "กำลังจะมียอดค้างชำระ"

   พระเจ้า !! กำลังจะมียอดค้างชำระมันแปลว่าอะไรกันวะเนี่ย ไม่เคยมีใครพูดถึงสิ่งนี้มาก่อนเลย

พนักงาน dtac ซึ่งน่ารักมากชื่อโชติรสบอกกับเราอีกว่า "ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ สำหรับทางเราแล้วถ้ามียอดค้างคือมีค้างหากยังไม่ได้ตัดรอบบิลก็ถือว่าไม่มียอดค้างชำระหมดค่ะ"



ผมโทรไปหา ทรูมูฟ ทันที เสียเวลา (และเสียค่าโทร) ไปนานเพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง เขายืนยันจริงๆว่าตอนนี้ถ้าจะทำอะไรก็ไม่ทันแล้ว ผมอยู่ในสถานะของคนที่ "กำลัง" จะมียอดค้างชำระ



ผมพูดกับเขาอย่างสุภาพว่าขอส่งข้อเสนอแนะหน่อย ผมบอกตรงๆว่าผมไม่พอใจ และไม่ได้ไม่พอใจ call center ผมเข้าใจว่า call center ทุกคนไม่มีส่วนกับเรื่องนี้ แต่เพื่อเป็นประโยชน์กับ call center เองในอนาคตที่จะไม่ต้องมารองรับอารมณ์ของลูกค้า ช่วยส่งข้อเสนอแนะนี้ไปให้มีผลหน่อย "ผมคิดว่ามันน่าเกลียดเกินไปนะครับกับการที่ให้ผมมีเวลาย้ายค่ายแค่ 6 วันจากวันที่ 3 ถึงวันที่ 9 แล้วยังจะให้มีช่วงเวลาของการ "กำลัง"จะมียอดค้างชำระอีก ผมคิดเอาเองว่าประมาณ 3 วัน ซึงเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการดำเนินเรื่องย้าย ผมก็จะเหลือเวลาอีก 3 วัน และหากติดเสาร์อาทิตย์เข้าไปอีก ผมเหลือเวลาอีกวันเดียว แล้วแบบนี้เมื่อไรผมจะได้ย้ายออกจากไอ้เครือข่ายเฮงซวยนี้เนี่ย"



เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคนในระดับล่างๆแน่ มันเป็นของผู้บริหารซึ่งคิดได้ยังไงที่จะตั้งข้อกำหนดมาว่าหากใกล้ถึงการตัดรอบบิลแล้วจะไม่ยอมอนุมัติเรื่อง จะถือว่ากำลังจะมียอดค้างชำระ มันไม่มีทางอื่นแล้วหรือที่จะทำให้สิ่งนี้มันดำเนินไปได้แล้วคุณก็ยังจะตามเก็บยอดการใช้งานของคุณได้อย่างครบถ้วนอยู่ แบบนี้มันประกอบการอย่างน่ารังเกียจชัดๆ ให้ย้ายได้แต่ย้ายยากหน่อยนะ จ๊ะ

จากคุณ : bassflea
เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 22:51:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com