ความคิดเห็นที่ 1 1 ความปลอดภัย 2 ลิขสิทธิ์เขาแรงส์ จากคุณ : เขียนบน iPhone (Phadej. เจ) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:18:38

ความคิดเห็นที่ 2 การ copy มีความเสี่ยง ต่อความปลอดภัยสูงครับ อย่างเช่น ไวรัส apple เค้าให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องลดลงครับ การ sync จะทำให้เกิดความปลอดภัยมากกว่า การ copy แบบอิสระ การ sync ไม่ควรลบหรือย้ายไฟล์ ใน คอมพิวเตอร์ออกครับ ไม่งั้นหายหมด ควรที่จะเก็บไฟล์ที่ต้องการ sync ไว้ที่เดียวกันและไม่ควรลบออก จากคุณ : ONeZEROdotONE เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:36:05

ความคิดเห็นที่ 3 ป้องกันการละเมิดลิขสิทธ์ครับ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม app ดีๆ ถึงลง ios ก่อน Ios พยายามที่จะไม่ให้ตัวเองกระจายไฟล์ออกไปโดยละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะฉะนั้นเราจึงดึงเพลงออกจากเครื่องไม่ได้ และยัดเพลงเข้าเครื่องผ่านคอมได้เครื่องเดียว จากคุณ : เขียนบน iPad (เถ้าลอย) เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:37:34

ความคิดเห็นที่ 4 idevices+windows แย่มากๆ แต่ถ้า idevices+mac เริ่ดสุดๆ จากคุณ : mollxa เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:51:39

ความคิดเห็นที่ 5 ทำเหมือนคนอื่นก็ไม่เท่สิครับ จากคุณ : incubusboyd เขียนเมื่อ : 26 พ.ย. 54 23:54:37

ความคิดเห็นที่ 6 ถูกต้องครับการ sync จะเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องความปลอดภัย และความเป็ฯระเบียบของไฟล์ใน Device และการ Autourize จะเข้ามาจัดการกับปัญหาเรื่อง ลิขสิทธ์ แต่ก็ไม่สามารถเเก้ไขได้ 100% (เพราะมีการเจลเบรค) ในต่างประเทศเขาให้ความสำคัญเรื่องลิขสิทธ์มากครับ  ขอยกตัวอย่างเรื่องเพลง สังเกตมั้ยครับว่าทำไม ไม่สามารถ Blutooth เพลงได้  เพราะมันคือการละเมิดลิขสิทธ์ไงครับ  Apple เป็นผู้ขายเพลง Online ที่ใหญ่ที่สุดในโลกผ่าน iTune นี่คือจุดแข็งของ Apple ที่สามารถจับมือกับค่ายเทปทั่วโลกได้ครับ  เเต่เราชินกับการส่งเพลงให้กัน(ชินกับการละเมิดลิขสิทธ์) หลายคนเลยไม่ค่อยชอบการใช้งานที่จำกัดมากเกินไป  บลาๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 00:01:11 จากคุณ : จอมมารสุดหล่อ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:00:17

ความคิดเห็นที่ 7 ป้องกันลิขสิทธิ์ แล้วมันลงวีดีโอ ลงเพลงไม่ได้หรอครับ โปรแกรมหรือเกมส์ที่ลงiosก่อน เพราะแต่ก่อนตลาดมันใหญ่สุดและทำแอพง่ายไม่มีความแตกต่างระหว่างตัวเครื่องมากมายให้วุ่นวาย อย่าลากไปเกี่ยวกับ itune เลย เดี๋ยวนี่เริ่มมีแอพที่ทำลงandroidก่อน ทั่งที่ไม่ได้เพิ่มการป้องกันใดๆ แต่เพราะตลาดมันใหญ่ขึ้น ก็พูดกันไปตามความคิดที่อยากให้เป็นมากกว่า อย่าว่าผมโจมตีเลย เรื่องง่ายๆแค่ก็อบบี้โอนไฟล์ ย้ายโอนถ่ายsync ทำเองก็ได้ ผ่านแอพก็ดี แต่เล่นบังคับต้องมีโปรแกรมเหมือนมีผู้ปกครองแบบนี้ ไม่ไหว  เคยแสดงความคิดเห็นหลายกระทู้ครับ ว่าโปรแกรมพวกนี้ มีก็ดี เพราะบางคนชอบ ไม่ว่ากัน แต่ขอเป็นตัวเลือก แบรนอื่นเขาก็มีแอพsync ภาพ เพลง หนัง รายชื่อ จดหมาย แบ็คอัพ แต่ไม่การบังคับ วิธีจัดเก็บทำได้หลายทาง มากกว่าการผ่านโปรแกรม ถ้าitune ยังมองเป็นเรื่องดี ก็คุยกันคนละภาษาแล้วครับ ไม่ชอบตั้งแต่ใช้ipodแล้ว ทิ้งไว้ด้วยเหตุผลทุกบรรทัด ขอเข้ามาแสดงความคิดเห็นครับ คงไม่ว่ากัน จากคุณ : noppinij เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:19:35

ความคิดเห็นที่ 8 1. การใช้งาน ถ้าเพลงหนัง คุณมาจากโหลดบิต แผ่นเอ็มพีสามพันทิพย์ การ Sync อาจจะไม่เหมาะกับคุณครับ แต่ถ้าคุณใช้อะไรที่ถูกลิขสทิธ์ ซื้อถูกต้อง sync จาก iTunes จะง่ายกว่าเยอะครับ 2. ความปลอดภัย 3. เรืองฮาร์ดดิสต์ รู้ไหมครับด้วยความเป็น Unix/Linux การที่ Android ทำให้มันเป็น Flashdrive ได้ ทำให้เกิดรุปแบบ ROM/SD สิ่งที่ตามมาอีกแอนดรอย์บางเครืองลงแอพได้ไม่กี่ร้อยเมก 4. เรืองความเร็ว เพราะการที่ทำเป้น Flashdrive ได้ด้วยอีกเนี่ยแหละ ทำให้ต้องใช้ system file format ที่ประสิทธิภาพไม่เร็วมาก ... นั่นคือทำไม iOS -> Android อีก จากคุณ : nuboat (boatiso9002) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:28:47

ความคิดเห็นที่ 9 สมัยก่อน nokia pc suit / sony suit บลาๆ ก็ไม่เห็นมีใครว่ากัน พอ apple ทำ กระดิกตัวใครๆก็รุมประณาม ฮ่าๆๆๆ อาทิตย์ที่แล้วน้องที่ทำงานฝากซื้อ Neo V วิ่งมาถามทุกชั่วโมงเลย พี่หนูเอารูปออกยังไง พี่หนูหาโฟลเดอร์ไม่เจอ พี่ลง app จากในเมมยังไง - - เกินจะสอน itune มันเน้นง่าย ใครๆก็ใช้ได้ แค่เรียนรู้นิดนึง จิ้มทีเดียว จบ ไม่ต้องมานั่งจำอะไรมาก backup เรียบร้อย จัด app ในคอม เอาไฟล์ลง app ถ้าไม่อคติบังตา มันก็ง่ายกว่าจริงๆนั่นแหละ เพราะเค้าคิดถึงในแง่ว่า user ทั่วไปว่าการจัดการไฟล์เนี่ย ควรจะเห็นอะไร ไม่ควรจะเห็นอะไร เยอะไปมันรก ไม่เข้า concept  minimal ของ apple แต่ถ้าใครอยาก advance จะเข้าไปลากไส้ใน ifunbox ก็ไม่มีใครว่า เรื่องโปรแกรมที่ลง ด๋อยก่อนคงไม่พูดถึง เพราะต้นทุนต่ำกว่าลง appstore มาก อันไหนสะดวกเค้าก็ทำก่อน บางค่ายทำ app แต่ไม่ลง market เพราะเค้ารู้ว่า market มันห่วย จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:33:48

ความคิดเห็นที่ 10 สรุปว่าแอปสโตร์ดีกว่า? เทพกว่า? จากคุณ : issey kasawa เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:42:35

ความคิดเห็นที่ 11 นอกจากแอปสโตร์แล้ว นอกนั้นแย่หมดเลยเหรอ จากคุณ : issey kasawa เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:44:36

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบแบบไหนล่ะจ้ะ น่าแปลกที่ทำไม WP7 ที่ออกมาทีหลัง ทั้งๆที่รู้ feedback ระบบ sync ของ itune แต่กลับใช้ระบบปิดโดยโอนไฟล์ผ่าน zune เหมือนกัน จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:45:29

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าที่เค้าให้ใช้ผ่าน iTunes เนี่ย เค้าต้องการจะขายของด้วยครับ อย่าลืมว่าเค้าไม่ได้ขายแค่อุปกรณ์นะครับ ถ้าคนต้อง sync แล้วต้องเข้า iTunes มันก็มีโอกาสที่จะได้ซื้อของบ้าง ซึ่งมันมีเปอร์เซนต์อยู่แล้ว อย่างน้อยในหน้าหลัก ก็จะมีอันดับ top hit ต่างๆ หรือของ sale ลดราคา แล้วคนเมกาเค้าก็มี gift card มีเครดิตจำนวนไม่น้อย เค้าก็จะซื้อขายง่าย ส่วนคนไทยก็มองอะไรแบบไทยๆ แต่แอปเปิ้ลมองแบบการตลาดมองจริตคนเมกัน เค้าก็ทำออกมาแบบนั้น (แอปเปิ้ลไม่เคยขายเพลงแบบ *123 แล้วโทรออกบลาๆๆ เหมือนบ้านเรา) ยังไงความคิดคนไทยส่วนใหญ่(เน้นว่าส่วนใหญ่) ก็ไม่เหมือนคนเมกา คุณรู้มั้ยครับว่ายอดขายกว่า 80% ของเพลงออนไลน์มาจากบนไอทูน ที่คนไทยหลายๆคนบอกว่ายุ่งยาก(และไม่อิสระเอาซะเลย) (ปี54ล่าสุดเฉพาะเพลงขายเกิน 1 พันล้านดาวโหลดแล้ว) ทำไมไม่ไปโหลดอเมซอน หรือเวบฟรีล่ะ (เวบฟรีนี่หาง่ายมาก) แถมคุณโหลดบนเวบฟรีนะคุณบลูทูทให้เพื่อนแจกได้ทันทีเลย (คนไทยอ่ะเนอะ แจกแล้วเม้นขอบคุณเป็นกำลังใจหรือกดไลค์ให้ด้วย - -") สรุปอีกที คนไทยคิดไม่เหมือนคนต่างชาติครับ แล้วคนไทยไม่ได้ทำขายนะครับ คนต่างชาติเค้าทำขาย แต่คนไทยอยากจะใช้เอง ทุกย่างมันมีเหตุผลในตัว ไม่ใช่เอาตัวเองสะดวก หรือการชอบละเมิดลิขสิทธิ์จนชินมาตัดสินครับ ใครไม่ละเมิดก็แล้วไปครับ ผมแค่พูดถึงว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ได้เจาะจงใคร ส่วนตัวผมเองก็โหลดมาเยอะแต่ที่ชอบจริงๆจะซื้อ ไม่มีปีไหนไม่เคยซื้อ แต่หลายคนที่บอกว่าตัวเองชอบฟังเพลง ถามว่าเคยซื้อมั้ย? แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 00:57:24 จากคุณ : evenpokzo เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 00:52:05

ความคิดเห็นที่ 14 #7  ผมเคยใช้ทั้ง android และ ios ไม่ว่ายังไงผมก็มองว่า market สู้ app store ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตลาดใครใหญ่กว่า จำนวนเครื่องผู้ใช้ใครเยอะกว่า แต่จำนวนเงินที่ใช้จ่ายผ่านการซื้อ app ต่างหาก เป็นโจทย์สำคัญสำหรับ android เรื่อง fragmentation อาจเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเงินน่ะ เรื่องใหญ่ ตัว ios เองป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์หนัง เพลง ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ยอมรันให้ แต่การที่คุณจะลงหนัง เพลงนั่น มันจะต้องลงจากคอมของคุณ และคุณไม่สามารถใช้ idevice ไปแจกจ่ายต่อให้คนอื่นได้ นั่นหมายความว่า ios ออกแบบมาเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นพาหะในการละเมิดลิขสิทธิ์ไงครับ ระบบนี้ไม่ใช่ว่าดีกับผู้บริโภคอะไรหรอกครับ มันดีกับเจ้าของ content ต่างหาก แต่มันก็ทำให้มี content ดีๆป้อนเข้าระบบต่อเนื่อง เนื่องจากมีเงินเข้ามาช่วย Spica, mile stone, ss tab, iphone4, ipad ทั้งหมดที่ใช้มากับมือครับ จากคุณ : เขียนบน iPad (เถ้าลอย) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 01:28:53

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วย 1 ล้าน% ครับว่า... idevices+windows แย่มากๆ จากคุณ : อัสลาน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 01:38:33

ความคิดเห็นที่ 16 ดีสำหรับความปลอดภัย และป้องการการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ไม่ดีสำหรับความสะดวกใช้งาน สำหรับผมเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ ใช้ iTunes จนชินละ ยังชอบ iOS อยู่ดี จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 02:10:41

ความคิดเห็นที่ 17 สตีฟ จ็อบส์เองกว่าจะลากค่ายเพลงต่างให้ยอมขายใน iTune ใช้ความพยายามมากก ส่วนหนึ่งที่ทำให้ชนะใจผู้บริหารค่ายเพลงต่างๆ ก็ คือ ระบบรักษาลิขสิทธิ์ที่เข้มงวด ในขณะเดียวกัน สตีฟเองก็เข้าใจผู้บริโภคเหมือนกันที่อยากจะซื้อของในราคาที่เหมาะสม โดยการบีบค่ายเพลงให้ขายในราคาที่ถูก และแตกอัลบั้มเป็นเพลงๆไปไม่ขายเหมา แต่ในฐานะผู้ใช้ ถ้าไม่คิดจะเอาของเถื่อนมาใช้เนี่ย สบายใจดีครับ iOS บริหารจัดการสะดวก app ก็เยอะ copy+paste อยากจะบอกว่าต้นตำรับมันก็มาจากแอปเปิลนะแหละ concept ของโฟลเดอร์ การทับซ้อนกันของหน้าต่างโฟลเดอร์ การลาก การแปะ แอปเปิลเป็นคนคิดทั้งนั้น แต่เห็นด้วยครับ iDevice + Windows เฮงซวยจริงๆ วันก่อนเพื่อนขอให้อัพเดท 5.0.1 จาก 4 กว่า เพราะเค้าทำด้วย Windows ไม่สำเร็จซักที ในความเห็น 13 ผมว่าน่าจะ 10 พันล้านดาวน์โหลดนะ เพราะ 1 พันล้านแรกเนี่ยมันได้ตั้งแต่ปีแรกรึเปล่า รู้สึกจะแจกกิฟท์การ์ดหมื่นเหรียญไปสองครั้งแล้ว คือ แจกที่หลักพันล้านกับหลักหมื่นล้าน จากคุณ : แวมไพร์ที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 02:22:45

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบตรงที่ทำเครื่องหายแต่ข้อมูลอยุ่ครบครับ พอเอามาซิ้งใหม่ก็เหมือนเดิม ไม่ต้องจำว่าเคยก้อบอะไรลงไปบ้าง เมื่อก่อนรำคาญมาก ทำไมต้องผ่านไอจูน แต่พอใช้จนชินจะรุ้ว่ามันสะดวกมากๆ ครับ พอเสียบสายก็สำรองข้อมูลเองเลย ไม่ต้องทำไร มีไอโฟน ไอแพด ไอพอด มันทำเองหมด ข้อมูลเหมือนกันก็ยังได้ ไม่ต้องจำว่าอยากฟังเพลงอะไร ศูนย์กลางอยู่ที่ไอจูนครับ สามเครื่องเหมือนกันหมด (หรือจะทำให้ไม่เหมือนก็ได้) จากคุณ : เชื่อเสียงหัวใจ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 02:35:46

ความคิดเห็นที่ 19 ความคิดเห็นที่ 17 ผมหมายถึงเฉพาะเพลงที่ขายได้ในปีนี้เท่านั้นครับ แล้วก็เป็นจำนวนที่ยังไม่รวมยอดขายของอัลบั้ม ซึ่งขายได้เกิน 1 พันล้านแล้ว และเป็นยอดที่ขายได้ในอเมริกาเท่านั้นนะครับ ย้ำอีกทีว่าปีนี้เท่านั้นครับ จากคุณ : evenpokzo เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 02:40:04

ความคิดเห็นที่ 20 ว่าแต่ว่า  google ที่เพิ่งเปิดขายเพลงไปนี่ พอซื้อก็สามารถที่จะเอาไปแจกใครก็ได้เลยใช่ป่าว ดีอ้ะ จากคุณ : farohnut เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 03:59:13

ความคิดเห็นที่ 21 ผมลงเพลง สองร้อยกว่าเพลงผ่าน itune แ้ล้วตอนนี้ อยากจะลบออก ทำยังไง -*- มันลบได้ทีละเพลงเองเหรอ จากคุณ : kloyman เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 08:04:27

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ ลบแบบปกติอ่ะ ดรากดำเพลงที่ต้องการลบ แล้ว ก็ delete จากลบแบบเยอะๆ ก็ control+A ก็ได้  ไม่ได้ตรงไหน? จากคุณ : นาคน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 08:19:12

ความคิดเห็นที่ 23 ตามความเห็น 12 itunes ก็เป็นแบบระบบลากไฟล์ แต่มี UI ครอบอีกที ดูสวยและเป็นระเบียบ พรีวิล ไอคอนให้เห็นอีกต่างหาก ไม่ว่าเพลง หนัง โปรแกรม โยกย้ายได้ง่าย เพราะมันแสดงให้เห็นเลย ไม่ได้เป็นไฟล์ๆ เหมือนระบบ copy/paste ถ้าคนที่ใช้แบบถูกลิขสิทธิ์จะง่ายมาก แต่กลับกัน ระบบ copy/paste ที่เห็นแต่ไอคอน นี่มั่วมากนะ ง่ายอย่างเดียว คือ ละเมิดได้ง่าย จากคุณ : นาคน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 08:27:36

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ชอบไอพอต แต่ก็ยังหลงมาใช้  iphone3g พอไม่ได้ดั่งใจก็พาเกลียด ios อีก แล้วก็พยายามให้คนอื่นคิดเหมือนตัวเองอีก อืมๆๆๆ จากคุณ : pinta (pinta) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 08:29:30

ความคิดเห็นที่ 25 เคยบอกแล้วว่า iTunes คือจุดแข็งของ idevice บางคนก็มึนๆ แต่ถ้าใช้เป็นแล้วรับรองจะเกลียดการ copy paste ไปเลย จากคุณ : อิอิ (เมก้าซาวะหมายเลข154) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 08:45:58

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ถ้าใช้ itunes เป็นแล้วชอบ ก็เค้าบอกแล้วอ่ะครับ ว่าคุยคนละภาษากับ เค้า แล้วครับ ไม่มึนได้ไง จากคุณ : นาคน้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 09:12:26

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าคน 1, 000 คน ใช้ iTunes เชื่อมต่อ idevice คุณคิดว่าคน 1,000 คนเค้าจะเกลียดระบบ copy and paste ทั้ง 1,000 คนไปเลยอ๊ะป่าว อยากเจอจังอะไรที่ผลสำรวจมันออกมาเป็นร้อยละร้อย โดยเฉพาะอะไรที่มันเป็นนามธรรมใช้ความรู้สึกตนเองตัดสินนี่ มันมีเหรอคับร้อยละร้อยอ่ะอยากเห็นจัง อย่่ายัดเยียดสิ่งที่ตนเองรู้สึกไปให้คนอื่นรู้สึกว่าเค้าต้องรู้สึกเช่นนั้้้้้้้้นตลอดไปเหมือนคุณ มันไม่ใช่ครับ จากคุณ : อิอิอิ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 09:47:12 A:223.207.105.135 X: TicketID:218510

ความคิดเห็นที่ 28 คำว่าใช้หมายถึงคนใช้เป็น วัดเฉพาะคนที่ใช้เป็น สัก 1,000 ลองดู ของอย่างนี้มันนานาจิตตังตั้งหากนะ หรือจะแปลว่า ถ้าคนใช้แล้วไม่ชอบสัก 100 คน ชอบ. copy and paste มากกว่า แปลว่า 100 คนนั้น ใช้ iTunes ไม่เปนอย่างนั้นเหรอ จากคุณ : อิอิอิ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 09:54:18 A:223.207.105.135 X: TicketID:218510

ความคิดเห็นที่ 29 เราชอบนะ itunes ใช้ง่ายดี จากคุณ : เขียนบน iPhone (Ich will Flugbegleiter werden!) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 10:20:34

ความคิดเห็นที่ 30 ผมใช้ไอแพด2. แต่ก็รำคาญไอทูนส์และระบบบังคับครับ ที่สำคัญไอทูนส์กินทรัพยากรเครื่องสูงมาก เวลาซิ้งค์อะไรที. เครื่องก็อืดอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญจะใช้ไอทูน เปิดไฟล์มัลติมีเดียมันก็ไม่ครอบคลุมได้แค่ไม่กี่ฟอร์แมท ดูง่อยๆยังไงไม่รู้ ยังไงก็ยังอยากให้มันเลือกได้ว่าจะคอนเน็คกับคอมพิวเตอร์แบบไหนมากกว่า ใครอยากซิงค์ผ่านไอทูนส์ก็ใช้ไปใครอยากใช้เป็น mass storage ก็ทำไป ไม่ต้องมาคิดแทนผู้ใช้ รึไม่งั้นก็ช่วยพัฒนาไอทูนส์ให้มันทำงานไวๆ และครอบคลุมไฟล์หลายๆฟอร์แมทให้ได้ก่อน. ถ้ามันดีจริงคนก็ต้องอยากใช้เอง. เหมือนไออี ที่แถมมากะวินโดว์แต่ผู้ใช้ก็กระ:-)กระสนไปหา ไฟร์ฟอกส์ รึ กูเกิลโครม มาใช้แทนอยู่ดี. เพราะที่บังคับใช้มันง่อยกว่าไง. ถ้าพัฒนาให้มันดีจริงๆได้เมื่อไร คนก็จะใช้เองไม่ต้องมาบังคับ จากคุณ : tarodanex เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 10:56:42

ความคิดเห็นที่ 31 มันคือเรื่องของความมีระเบียบกับความง่าย iTunes ทำให้การจัดการดูเป็นระบบระเบียบมากกว่า ในขณะที่การมอง Storage ในเครื่องเป็น Removable drive ก็ทำให้การจัดการนั้นง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้มากกว่า ลองหลับตานึกภาพว่า ถ้าให้คนที่ไม่เคยใช้ Smart phone มาก่อน มาโยนไฟล์ลงเครื่อง แน่นอนว่าการ copy & paste ย่อมสะดวก เพราะผู้ใช้คุ้นเคยกว่า มันก็เท่านั้นเอง ของมันทำมาเพื่อจุดประสงค์คนละอย่าง มันก็ดีทั้งคู่อยู่ที่คนใช้คับ เถียงกันเพื่อ?? จากคุณ : Gonzii_7 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 11:03:46

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่เคยเกลียดiOS     คุณ pinta ไม่ชอบiTune  เหมือนที่ผมไม่ชอบ Samsung kie ไม่ชอบpc companion   บอกชัดเจนว่าเป็น itune ไม่ต้องแปล  คุณยังสามารถแปลได้อย่างอื่นอีก นับถือความพยายามจะลากไปให้เกี่ยวกับการเลือกข้าง จะลากไปทำไม   ทำไมจ้องอยู่แต่จะแบ่งพรรคแบ่งพวก ต้องรักอย่างงั้นเกลียดอย่างงี้ ชอบต้องชอบหมด เกลียดต้องเกลียดหมดหรอไงคุณ pinta ครับ  ผมใช้android ผมจำเป็นต้องบูชามันมั๊ย  เล่นเกมส์แล้วเด้งออก  แอพไม่เข้ากัน marketแบ่งแยกชนชั้น ผมต้องภูมิใจกับมันมั๊้ย แล้วผมต้องไม่ใช้Androidด้วยมั๊ย  ถ้าผมไม่ชอบใช้ iTune  ผมจำเป็นต้องห้ามใช้  iOS ทั้งชาติมั๊ย      ตอนนี้ผมคิดว่าAndroidน่าสนกว่า ก็มาเล่นandroid แต่ถ้าต่อๆไปวันข้างหน้า มันยิ่งทำยิ่งห่วย   แล้วiOS กลับมาน่าสนกว่า ผมก็ไปiOS   gadgetทุกอย่างอยู่ในความสามารถที่ผมใช้งานได้หมด   ที่บ้านไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้Androidไม่มีสัญญาผูกมัด ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ ก็เพิ่งควักตังให้น้องสาวพาหลานไปซื้อipod  ไม่ใช่galaxy player   ทำไม ผมจำเป็นต้องฝักใฝ่เป็นข้างๆหรอครับ   เล่นandroidต้องandroidทั้งชาติ จะว่าจะด่าจะตำหนิandroidไม่ได้ ถ้าทำแล้วอะไรสักอย่างมันจะล่มสลายหรืออย่างไร ถ้าว่าitune ไม่ดี ก็ห้ามใช้iOSทั้งชาติ การแสดงความคิดเห็นต้องไปด้านเดียวกันเท่านั้นหรือเปล่า    แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกลายเป็นการเลือกข้างตั้งแต่เมื่อไหร่ครับคุณ pinta ผมถึงต้องเกลียดiOSก่อนถึงพูดได้   ผมพูดอะไรผิดแย้งได้นะครับคุณ pinta   "แล้วอย่าเอาความคิดแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมายัดใส่หัวคนอืนอีก ผมโคตรเกลียดเลยเรื่องนี่" จากคุณ : noppinij เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 11:13:40

ความคิดเห็นที่ 33 รี30 ก็วนมาเรื่องการขายหนังขายเพลงของแอปเปิ้ลอยู่ดี เพราะเพลงและหนังในไอทูนก็เป็นนามสกุลของเค้า จะเอาไปเล่นที่ไหนก็ไม่ได้นอกจาก iDevices ถ้าจะให้เล่นได้หลายๆไฟล์ มันก็มีแอพที่แอปเปิ้ลอนุญาตให้ทำมาแล้วตั้งหลายแอพไม่ใช่เหรอ เราว่าเค้าก็อ่อนข้อให้เยอะแล้วนะ แค่มันกดเพิ่มอีกคลิ๊ก 2 คลิ๊ก มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนี่หน่า แต่ถ้าไม่อยากลำบากเลย ก็จ่ายเงินซื้อหนังซื้อเพลงซะก็จบ iPhone 1. เปิดคอม 2. เปิดไอทูน 3. ต่อสาย 4. กดไอคอนไอโฟน 5. กดแถบเพลง/กดแถบแอพ 6. กดเลือกเพลง/หนัง 7. กด Sync เอสสอง 1. เปิดคอม 2. ต่อสาย 3. กดเมนู setting ในเอสสอง 4. กดเลือก USB storage 5. เปิด folder ที่มีหนังมีเพลงอยู่ 6. เลือกไฟล์หนังไฟล์เพลง 7. ลากมาไว้ใน Folder ของเอสสอง อันนี้แถม Wifi Sync ของ ไอโฟน 1. เปิดคอม 2. เลือกเพลง(MP3 เท่านั้น)/หนัง (MP4 เท่านั้น) 3. ลากไฟล์มาแปะที่ ไอคอนไอโฟน 4. รอ Sync อันนี้คือเอาไฟล์ลงเครื่อง แต่ถ้าจะส่งไฟล์เพลงหรือหนังให้คนอื่น iDevices ทำไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝรั่งเค้าทำกันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าเรื่องการส่งหนังส่งเพลงให้กันเนี่ย แต่ที่รู้ๆ มันปกติสำหรับคนไทย แถมอีกหน่อย ถ้าซื้อหนังซื้อเพลงจากไอทูน 1. เปิดหน้าจอไอโฟน 2. เข้า แอพ ไอทูน 3. ซื้อเพลง/หนัง 4. รอโหลด ถ้าจะเอาเข้า iDevices เครื่องอื่นที่มีไอดีเดียวกันก็ 1. เปิดหน้าจอไอโฟน 2. เข้า แอพ ไอทูน 3. กดไอคอน Purchased 4. เลือกหนัง/เพลง 5. รอโหลด อันหลังนี่จะทำกันเป็นหรือเคยเห็นกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ เคยเข้ากันไปหรือเปล่า แอพไอทูนหน่ะ ยิ่งถ้าใช้ไอดีเดียวกันสัก 100 สัก 1000 เครื่องยิ่งสบายเลย หารกันเข้ากันไปซิ ส่วนเราก็คุ้มแล้วมีแค่ 6 อย่าง อยากจะฟังเพลงหรืออยากจะดูหนังตรงไหนเวลาไหนก็ได้ ไอโฟน 4 ไอโฟน 4เอส ไอแพด 2 iMac Macbook Pro Apple TV แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 11:53:08 แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 11:48:23 จากคุณ : farohnut เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 11:44:07

ความคิดเห็นที่ 34 เอ๋ๆ บางคนเข้าใจความหมาย คำถามนี้ผิดนะ จขกท. แค่สงสัย ถ้ามาตอบควรให้ความกระจ่างไม่ใช่มาว่าครับ อ่านแล้ว มันแปลกๆนะ คนเค้าสงสัย ถ้าคุณมีจิตใจดีแค่มาอธิบายก็พอ ไม่ใช่มากล่าวหาว่าร้ายเค้านะครับ อย่างที่หลายคนบอกแระครับ ระบบเค้าทำมาเพิ่ม ป้องกันหลายๆอย่างมากให้แง่ดี มันก้ช่วยป้องกันได้เยอะครับ ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียใจตัวมันเองใช้ไป นานๆ แล้วก้ชินครับ ^ ^ จากคุณ : tongspy เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 11:51:24

ความคิดเห็นที่ 35 ส่วนเรื่อง Sync นี่มันช้าขนาดนั้นเลยเหรอ ของเราไม่เห็นช้านะ เป็นเพราะใช้ Macbook หรือเปล่า ไม่เคยลอง Sync กับ windowns สักที แต่ถ้า Sync กับ Windows แล้วช้าแต่ Sync กับ Macbook ไม่ช้า ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกนะ เพราะก็กลับมาที่เดิม คือ Apple จะขายของ ถ้าอยากทำเร็วก็มาใช้ของของเราให้หมดซิ แต่ถ้าไม่อยากใช้ของของเรา ก็ทนช้าต่อไป ประมาณนั้นหรือเปล่า เพราะถ้าทำให้ดีเท่ากัน ใครเค้าจะอยากมาใช้ Apple หล่ะ ก็คงจะเข้าข่ายที่ว่า ถ้ามันดีเดี๋ยวคนก็มาใช้เองนั่นแหละ Apple เลยทำให้เห็นถึงความแตกต่างหรือเปล่า จากคุณ : farohnut เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 12:06:58

ความคิดเห็นที่ 36 ถูกใจ ความเห็นนี้ครับ.. ************************* ความคิดเห็นที่ 31 มันคือเรื่องของความมีระเบียบกับความง่าย iTunes ทำให้การจัดการดูเป็นระบบระเบียบมากกว่า ในขณะที่การมอง Storage ในเครื่องเป็น Removable drive ก็ทำให้การจัดการนั้นง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้มากกว่า ลองหลับตานึกภาพว่า ถ้าให้คนที่ไม่เคยใช้ Smart phone มาก่อน มาโยนไฟล์ลงเครื่อง แน่นอนว่าการ copy & paste ย่อมสะดวก เพราะผู้ใช้คุ้นเคยกว่า มันก็เท่านั้นเอง ของมันทำมาเพื่อจุดประสงค์คนละอย่าง มันก็ดีทั้งคู่อยู่ที่คนใช้คับ เถียงกันเพื่อ?? จากคุณ : Gonzii_7 ***************************** ระบบมันทำมาแบบนี้ครับ  ยกตัวอย่างง่าย  ๆ   คุณอยากขับรถ เลนขวา  ในไทย  ทำได้ไหมครับ ? (หมายถึงถนน ทั่ว ๆ ไปนะครับ) ไม่เคยใช้คงต้องทำความคุ้นเคยสักพัก  การ sync ที่น่ารำคาญของบางท่าน  จะเป็นประโยชน์กับคนที่รับได้ ศึกษา ชิน คล่อง (อย่างผมมีไฟล์บางอย่าง พยายามเก็บเป็นหมวดหมู่  แต่บางครั้งรีบ ไม่ว่างก็สะเปสะปะ  ไฟล์เดียวกัน แต่มีหลาย copy บน 1pc เยอะเลยครับ) แต่ถ้าไม่ชอบ  ก็คงต้องหาทางอื่น ๆ แต่ PC+itunes นี่ขั้นห่วยจริง ๆ ครับ  ผมว่า pc ผมก็แรงพอตัว  มาเจอ itunes นี่อืดเลย คือการตอบสนองอะไรต่าง ๆ มันช้า ทั้งนี้ทั้งนั้น  ไม่ได้แปลว่า ท่านที่ชอบ copy/paste  จะเป็นคนมักง่าย ไร้ระเบียบนะครับ ผมว่ามันมีหลาย ๆ ทางเลือก  เอาทางเลือกที่มันเหมาะกับเรา  เหมาะกับวัตถุประสงค์ดีกว่าครับ กระทู้นี้ ถึงแม้จะออกแนวแฟนบอยไปนิด  แต่ก็ได้ความรู้นะครับ  ลองอ่านหลาย ๆ คห. แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 12:18:57 จากคุณ : aunubis เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 12:17:47

ความคิดเห็นที่ 37 บ้ากันหรือเปล่า ใครชอบแบบไหนก็ใช้แบบนั้นสิ ไม่อยาก sync ก็อย่าใช้ iphone ชอบ android ก็ใช้ไปสิ ไม่เห็นจะต้องมาว่ากันไปว่ากันมาเลย เทคโนโลยีเค้ามีไว้ช่วยให้เราประหยัดเวลา ใช้ในการทำงาน ใช้ในการสือสาร ชอบแบบไหน ก็เลือกแบบนั้น ไม่มีหรอกที่ว่า ios ไม่ดี หรือ android, wm7,meegoo , etc.... ไม่ดี ทุกอย่างมันก็มีดีในตัวมันเอง อยู่ที่คนเราจะเลือกใช้แบบไหน สะดวกใช้แบบไหน เห็นว่ากันจัง เปรียบเทียบกันจัง เยอะไปป่ะพวกท่าน โตแล้วหัดมีความคิดแบบเปิดซะบ้าง จากคุณ : utergue เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 12:23:20

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยกะความเห็นที่ 35 Sync ผ่าน window นี่ช้าเลย not responding ด้วยบางครั้ง. จะทำงานอื่นในขณะที่เครื่อง. Sync iTunes อยู่หรือตอนที่ up iOS ก่อนที่จะเป็น iOS 5 นี่มีแฮงก์ด้วย ต้องหยุดการทำงานอื่นไปก่อน เพราะตอนนั้นเครื่องใช้ทรัพยากรเยอะมาก. บางครั้งถึงต้อง restart ไปเลย office คอมก็ใหม่อยู่นะ เปลี่ยนปลายปีที่แล้ว แต่ถ้า. Sync ผ่าน notebook ส่วนตัวที่ไม่ใช่ Mac ก็ยัง ok อยู่ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลย ถ้า MacBook ยิ่งจะไม่มีปัญหาอะไร เห็นด้วยว่า. Apple ต้องการจะขายของ แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อหมด ซื้อที่จำเป็นกับเราที่จะใช้จริงๆ ก็พอ จากคุณ : อิอิอิ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 12:36:48 A:223.207.105.135 X: TicketID:218510

ความคิดเห็นที่ 39 ^ ^ ^ ตามนั้น ถ้าเงินเหลือแล้วค่อยซื้อ ปล. iMac นอนตานอยู่บนโต๊ะในห้องนอน ไม่ได้ใช้เลย ว่าจะเอาไปให้พ่อกะแม่ใช้อยู่ แต่น้ำยังไม่ลดเลย T^T จากคุณ : farohnut เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 12:42:22

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ก่อนมันมีไฟล์ DRM ก็บ่นกัน สรุปก็ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์นั่นแหละ อีกอย่าง itunes ผมชอบนะ มัน organize ตัวเองเสร็จจบในโปรแกรมเดียว สบายๆ 10.5.1 + Phenom x4 เก่าๆ ผมว่ามันลื่นขึ้นเยอะมากๆ แต่ก่อนล่ะอืดจริง แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 13:02:29 จากคุณ : Skyline_CII เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 12:50:35

ความคิดเห็นที่ 41 sync กับ window เราไม่เห็นอืดเลยนะครับ พวกที่บ่นว่าอืดๆเนี่ย cpu สมัยไหนเนี่ย ไม่ใช่ว่า ram 256 ไรงี้แล้วมาบ่นว่าอืดก็ไม่ไหวนะครับ เครื่องเรา nb ธรรมดาๆ pc กากๆ backup ข้อมูล 7 Gb 1 นาทีเอง จากคุณ : Wzdm เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 15:04:19

ความคิดเห็นที่ 42 CPU CORE 2 E6550 RAM 2 gig HDD 160 gig แต่มันก็อืด คนอืดก็มี ไม่อืดก็มี หัดยอมรับบ้าง คห.41 อย่าเอาความเห็นตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางนั่งขัดสมาธิ เอือมระอากะคนพวกนี้ ไม่งั้นคนอื่นเค้าจะมาโพสบอกว่าอืดกันทำไมวะ คอมเค้าใช้งานอื่นเยอะแยะถมเถ ไม่ใช่รอซิงค์ไอจูนอย่างเดียว จากคุณ : คห.41 จุดศูนย์กลางของจักรวาล เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 15:16:54 A:223.207.105.135 X: TicketID:218510

ความคิดเห็นที่ 43 บัตรผ่านมาแล้ว เฮ้อ ผมเอาความคิดเป็นศูนย์กลางตรงไหนเอ่ย แค่มาบอกว่าซิ๊งคอมเราไม่อืด พวกที่บ่นว่าอืดๆก็คงเป็นที่คอมคุณนั่นแหละแล้วมาโทษ itune มั่วซั่ว เอือมระอาตัวคุณมากกว่านะครับที่มีตรรกะวิเคราะห์คำพูดออกมาได้แค่นี้ ไม่ได้บอกเลยว่าทุกคนต้องไม่อืด/อืด แต่เรื่องแค่นี้ทะเลาะกับบัตรผ่านก็เหมือนจะไร้สาระ ปล.มั่นใจว่าผมใช้คอมทำงานคุ้มค่ากว่าบัตรผ่านครับ // synce pc core i7 ram8 Gb hd 1 Tb 99 ทีรัวๆ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 16:56:21 จากคุณ : Wzdm เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 16:12:15

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่าเกี่ยวนะ แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ผลิตก็อยากจะพัฒนาแอป ลงแพลตฟอร์มนั้นๆส่งผลให้มีแอปดีๆเยอะ จำนวนคุณภาพของแอปดีๆต่างกันพอสมควรเลย ถ้าเทียบกับแอนดรอด์ย ที่ผมใช้อยู่ จากคุณ : ทำไมถึงไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 16:13:54

ความคิดเห็นที่ 46 ด่ากันอีกแหล่ว *_* จากคุณ : ทำไมถึงไม่ผ่าน เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 16:25:28

ความคิดเห็นที่ 47 #46 อย่าใช้คำว่าด่า(กัน) ครับ เพราะผมยังไม่ได้ใช้คำพูดโจมตีเขาเลยครับ :) ดูจากคำพูดของบัตรผ่านก็รู้ไปถึงสภาพครอบครัวคุณเลยทีเดียวครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 54 17:01:28 จากคุณ : Wzdm เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 16:51:48

ความคิดเห็นที่ 49 athlon x4 RAM4 g แม้จะไม่เทพ แต่มันก็ไม่กากนะ ที่ว่าอืด คือ มันจะออกไปในแนว ไม่ response มากกว่า (หรือว่า compatibility กับ windows น้อยกว่า) คุณบัตรผ่านก็อาจเป็นคนตรง ๆ พูดตรง ๆ แถมแรงหน่อย มาเจอคุณข้างบน ที่ใจร้อน ไม่ยอมลดราวาศอก แต่เพื่ออะไรครับ ที่จริงเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย ผมว่าเรามาคุยกันว่า ทำไม sync กับ pc แล้วหลาย ๆ ครั้ง ถึงอืด จะเกิดประโยชน์ จากคุณ : ผมก็ใช้ทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอส เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 18:08:22 A:223.204.211.128 X: TicketID:121236

ความคิดเห็นที่ 50 คุยกันด้วยเหตุผลยินดีครับ แต่เจอกวนประสาทใช้คำพูดคำจาเหมือน(ไม่)ถูก สั่งสอน็เซ็งครับ ผมไม่ทะเลาะอะไรไร้สาระอยู่แล้ว :) จากคุณ : :) (Wzdm) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 18:53:42

ความคิดเห็นที่ 51 ในเมื่อคิดที่จะใช้แล้วก็ต้องปรับตัวเข้าหามัน ไม่ใช่ใช้แล้วมาพูดว่าทำไมไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมไม่เหมือนแบบนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องใช้ จบ จากคุณ : เขียนบน iPhone (Atisart) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 21:47:53

ความคิดเห็นที่ 52 Apple-iTunes LG-PC Suite IV Motorola-Media Link Samsung-Kies SE-Media Go จากคุณ : [DeViL] เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 10:17:23

ความคิดเห็นที่ 53 #32 ถ้าพิมพ์อะไรสะกิตต่อมโกรธขออภัยครับ  ที่พิมพ์ไปเพราะเห็นประโยคทิ้งท้ายที่บอกว่า    "ถ้าitune ยังมองเป็นเรื่องดี ก็คุยกันคนละภาษาแล้วครับ ไม่ชอบตั้งแต่ใช้ipodแล้ว "   ผมก็ไม่ชอบ itune นะ  แต่ก็มีหลายๆคนชอบอยู่ ถ้าตามประโยคที่คุณบอกมา หมายถึงไม่สามารถแสดงความเห็นต่างได้เลยนะ เพราะดูเหมือนคุณไม่ยอมรับในข้อดีของตัว itune ที่คุณมองไม่เห็น  ในความเห็นผม ios เป็นระบบปิดและค่อนข้างมีข้อจำกัดทางด้านลิขสิทธิ์ เลยต้องบังคับให้ใช้ itune ใครจะชอบหรือไม่ชอบ ต่างคนต่างก็แสดงเหตุผลกันออกมา แต่ถ้าบอกว่าคุยกันคนละภาษา เท่ากับว่าที่แสดงเหตุผล พิมพ์ไปตั้งเยอะแยะก็เปล่าประโยชน์สิ ในความคิดผมอีกส่วนนึงของ itune คือเรื่องการจัดระเบียบไฟล์ ถ้าลองเข้าไปดูไฟล์ในตัวเครื่องจะเห็นว่าไม่ค่อยจะคุ้นเคย อย่างเช่นไฟล์รูปภาพเวลาเรา sync จากคอมมา ios มันจะมีการจัดระเบียบไฟล์ใหม่ และสร้าง index ไฟล์เป็นไฟล์รูปเล็กๆ แยกออกมาแล้วจัดหมวดหมู่ใหม่ ผมเลยไม่แปลกใจทำไมเวลาดู previewรูปในiosถึงเร็วมาก และอีกข้อนึงที่ผมเพิ่งรู้หลังจากที่ได้ไปดูipadของคนรู้จักที่ไปโหลด app เพลง และหนัง จากร้าน  ผมลองเอามาเปิดดูหนังยังรู้สึกชอบเลย ตรงนี้พอคลิกเข้าไปดูมันมีการจัดรูปร่างหน้าตา ใส่ปก แยกประเภทไว้อย่างสวยงาม (จนผมอยากไปโหลดบ้าง 555) เลยนึกขึ้นได้ว่า หากเราซื้อแต่ของลิขสิทธิ์ เช่นเพลง หนัง และใช้แต่สินค้าของ apple  itune น่าจะเป็นสิ่งที่น่าใช้มาก ปล.สำหรับโพสที่ผมจิกกัดอะไรไปมากมายก็ตามประสานักเลงคีย์บอร์ดที่เห็นต่างน่ะครับ ผมก็ไม่ได้บูชา ios นักหรอก เพียงแต่พักหลังๆรู้สึกเห็นเซลล์ ss มาทำงานกันมากไปหน่อยเชียร์กันโอเวอร์มากจนผมต้องลองซื้อมาใช้เอง พอใช้ก้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย(ข้อดีที่เห็นชัดคือจอใหญ่และเข้าเวปเร็วมาก) แต่ที่แปลกใจคือปัญหาเดียวกันของ ios กับ android คนจะเข้ามาด่ากันมาก แต่ใน android คนมักจะบอกกันว่ารับได้ (สำหรับ iphone4 และ s2) ปล.2 ไม่รู้ว่าคุณ noppinij จะเข้ามาอ่านรึเปล่า เพราะหลังๆนี่ไม่เกิน 3 วันกระทู้ก็จกตกไปอยู่ล่างสุดแล้ว ใจจริงอยากให้ทางคุณแชร์ประสบการณ์หรือข้อเสียอะไรบ้างก้ได้ เพราะเกือบ100% คุณจะพูดแต่ที่มันดีๆ (ส่วนข้อเสียจะอุบไว้)  ส่วนผมนั้นข้อเสียของใน ios ผมก้พูดไปบ้างแต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้ s2(android) ยิ่งทำให้เห็นอะไรที่ขัดใจหลายๆอย่าง ตามที่ได้เคยโพสไปบ้างหรือถามไปบ้างก็กลายเป็นว่าผมจะไปดิสเครดิตซัมซุงซะนี่ ทั้งๆที่ข้อมูลที่พูดไปน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจ android มากเลย สุดท้าย :  ตอนที่ใช้ ios เวลาเจอปัญหาจะแก้ไขไม่ค่อยยากเนื่องจากเมนูหรือฟังก์ชั่นต่างๆกันมีน้อยส่วนใหญ่จะแก้ไขด้วยตัวเองได้ในเวลาไม่นานนัก หรือถ้าอันไหนมันทำไม่ได้เวลาค้นใน google ก็จะรู้เลยว่ามันทำไม่ได้และจะไม่พยายามทำ  แต่ใน android นี่ปัญหาจุกจิกมันเยอะกว่า และเมนูก็เยอะ กว่าจะไล่หาเจอ เหนื่อยมาก และบางอันก็แก้ไม่ได้ เพราะมันเป็นที่ bug ของ sw บ้างอะไรบ้าง แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 54 12:04:20 จากคุณ : pinta (pinta) เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 54 10:59:34