Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จิบกาแฟกับ 'ซิกเว่ เบรกเก้' อดีต CEO ดีแทค ติดต่อทีมงาน

ซิกเว่ เบรกเก้
โดยธนา เธียรอัจฉริยะ
10 มกราคม 2555, 05.30 น.

ผมเพิ่งไปนั่งจิบกาแฟกับซิกเว่ เบรกเก้ อดีตซีอีโอชาวนอร์เวย์ผู้โด่งดังที่ดีแทค และเป็นผู้บังคับบัญชาผมมาเป็นเวลาหลายปีก่อนที่เขาจะแยกไปเติบโตเป็นผู้ คุมบังเหียนเทเลนอร์ภาคพื้นเอเชียควบกับซีอีโอบริษัทยูนินอร์ อินเดีย

สำหรับ ผม ซิกเว่ ไม่ใช่แค่อดีตผู้บังคับบัญชา แต่เป็นทั้งฮีโร่ของผมในการทำงานและดำเนินชีวิต เป็นเหมือนพี่ชายที่คอยให้คำปรึกษา และที่สำคัญ เป็นเหมือนโค้ชที่คอยพร่ำสอนและแนะนำวิธีการบริหารจัดการรวมถึงการใช้ชีวิต ให้ผมทั้งทางตรงคือการแนะนำ และทางอ้อมคือการทำให้เห็น

ซิกเว่จับผม ย้ายหน้าที่การงานหลายครั้ง และผมสังเกตว่าทุกครั้งที่เขาย้ายผม จะเป็นช่วงที่ผมเริ่มลงตัวกับงานใหม่ รู้สึกมั่นคงและทำได้ดี พอเป็นแบบนี้ทีไร เขาจะย้ายผมให้ไปทำงานยากๆ และเสี่ยงๆทุกครั้ง ผมเคยแปลกใจและเคยถามเขา เขาบอกว่า เขาชอบที่จะให้ลูกน้องมีความรู้สึกว่ายืนอยู่บนปากเหว ไม่รู้ว่าจะรอดหรือจะร่วง ต้องระมัดระวังต้องมีสติตลอดเวลา

คุณจะได้เรียนรู้ และเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ… เขาว่าอย่างนั้น

ซิก เว่สอนผมเรื่องการตลาดแบบมวลชน เขาทำให้เห็นด้วยการเดินเยอะๆ เดินไปพบลูกค้าด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ในเมือง ไม่ใช่แค่วันว่าง แต่ไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ไปอำเภอเล็กๆ ไปในที่ไกลๆ ไปนั่งถาม นั่งฟังลูกค้าตัวเป็นๆทั้งวัน ซิกเว่ไปมาแล้วเกือบเจ็ดสิบจังหวัดในเวลาสามปีที่เขาเป็นซีอีโอ ไปแต่ละครั้งก็เริ่มถามร้านค้า ถามลูกค้าแต่เช้า ถามเรื่องตลาด เรื่องรสนิยม เรื่องดีแทค เรื่องต่างๆมากมาย เดินจับมือคนเป็นร้อยๆ กว่าจะเลิกก็มืดค่ำ

เขาเคยเล่าว่า คนที่ทำการตลาดแบบมวลชนได้ดีที่สุดคือนักการเมือง เขาเองก็เคยเป็นนักการเมืองที่นอร์เวย์ และก็เอาหลักการทำงานของนักการเมืองมาใช้ นักการเมืองเดินเยอะ เข้าใจคนท้องที่ ใช้งบประมาณอย่างจำกัด เดินจับมือคนให้มากที่สุด คลุกคลีกับลูกค้าจริงๆมากกว่าอ่านรายงาน การทำอย่างนั้นจะทำให้เราได้ทั้งข้อมูล ได้เจอหน้าลูกค้าตัวเป็นๆ ได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่อย่างที่ผู้บริหารทั่วไปที่นั่งห้องแอร์ไม่ สามารถเข้าใจและเข้าถึงได้ เวลาคิดผลิตภัณฑ์หรือแผนการตลาด เราก็จะคิดได้ตรงกว่าคู่แข่ง

นอกจากซิกเว่จะใช้วิธีเดินเยอะๆให้ เห็นที่เมืองไทยแล้ว เขาเอาวิธีนี้ไปสร้างบริษัทที่อินเดียที่เขาไปเป็นซีอีโอ ซึ่งเป็นบริษัทมือถือที่เข้าตลาดเป็นอันดับที่เก้าของอินเดีย ตัวเล็กและมีจุดด้อยกว่าคู่แข่งเยอะ แต่ซิกเว่ก็ใช้วิธีเดินและชักชวนคนอื่นให้เดิน สร้างเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่ทำให้บริษัทนั้นรอดมาได้ เขาเล่าให้ผมฟังอย่างภูมิใจในวันที่นัดกินกาแฟกัน

ซิกเว่เป็นคนที่ แสดงให้ผมเห็นถึงการพยายามออกจากพื้นที่สะดวกสบายของชีวิต (confort zone) อยู่ตลอดเวลา ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เขาเป็นคนที่พยายามผลักตัวเอง ทดลองตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดนิ่งและพอใจกับความสะดวกสบายที่มี

ในเรื่องร่างกาย เขาเป็นคนที่ออกกำลังมากและท้าทายตัวเองอยู่เสมอ ในวัยสี่สิบเจ็ดปี เขาเป็นคนแรกที่เข้าเส้นชัยการแข่งขันมินิมาราธอนของดีแทคที่มีคนเข้าร่วม เป็นพันคน เขาพยายามลงแข่งไตรกีฬา และลองอะไรที่ท้าทายตัวเองอยู่เสมอ แรงบันดาลใจที่ทำให้ผมออกกำลังและวิ่งให้ได้สิบกิโลก็เพราะคำพูดของเขาที่ บอกว่า Impossible is nothing

ซิกเว่ตัดสินใจลาออกจากดีแทคทั้งๆ ที่ดีแทครอดจากวิกฤตและอยู่ในช่วงขาขึ้น เป็นบริษัทในฝันที่ทุกคนอยากเป็นซีอีโอ เพราะมีแบรนด์ที่แข็งแรงและสถานะทางการเงินที่มั่นคง และเขาเลือกที่จะไปเป็นซีอีโอในบริษัทมือถือที่เพิ่งเริ่มต้นที่อินเดีย เป็นบริษัทที่เล็กสุดในบรรดาเก้ารายที่แข่งกันอยู่ โอกาสรอดมีน้อยมาก แต่เขาก็ตัดสินใจไป

เหตุผลที่เขาบอกผมก็เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ ผมตัดสินใจลาออกจากดีแทค เขาบอกว่าที่ดีแทคสบายเกินไป เขาต้องการออกจาก comfort zone เพื่อแสวงหาความท้าทายใหม่ เพื่อเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ทำให้เขาตัดสินใจไปเสี่ยงเริ่มต้นใหม่ที่อินเดีย

ในวันที่เจอกัน เขาบอกด้วยร้อยยิ้มอย่างภาคภูมิใจว่าสี่ปีที่อินเดีย เขาเรียนรู้อะไรมากจนเตรียมตัวที่จะเขียนหนังสือเล่มโตซักเล่มที่เกี่ยวกับ ประสบการณ์ที่เขาได้รับ ตอนนี้บริษัททิ่อินเดียรอดและแข็งแรงแล้ว เขาก็เตรียมหาการผจญภัยครั้งใหม่ต่อไป

ผมยังจำได้ถึงการประเมินผล ครั้งสุดท้ายที่ซิกเว่ให้คะแนนผมก่อนซิกเว่จะลาออกจากดีแทค เขาเรียกผมเข้าไปคุย และบอกว่าผมเติบโตและทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดี ผมเริ่มขึ้นที่สูงและประสบความสำเร็จอย่างมาก เขาให้คะแนนผมดีมาก แต่บอกว่ามีอย่างหนึ่งที่เขาจะต้องสอนผมในฐานะโค้ช

เขาบอกว่าเขาขอ อย่างเดียวจากผม ยิ่งผมอยู่สูงขึ้นเท่าไหร่ ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ หูผมจะไม่ค่อยได้ยินอะไรหลายอย่างที่ควรจะได้ยิน

ยิ่งสูง ผมยิ่งต้องฟังมากขึ้น ต้องฟังมากกว่าพูด ต้องฟังลูกค้า

เพราะอีโก้คุณจะทำให้คุณไม่ฟัง …เขาบอกว่าอย่างนั้น

การ ที่มีโอกาสได้พบกับซิกเว่อีกครั้ง ทำให้บทเรียนต่างๆที่เขาสอนผมและอยู่ในวิถีการดำเนินชีวิตผมไปแล้ว กลับลอยมาเด่นชัดอีกครั้ง พอได้มีโอกาสนั่งคุยหลังจากไม่เจอกันนาน ผมก็รู้สึกตื่นเต้นและเขินอายเกินกว่าที่จะบอกซิกเว่ว่าผมอยากขอบคุณในสิ่ง ที่เขาสอนผมเแค่ไหน ก็ได้แต่จับมือลากันแบบง่ายๆ และหวังว่าซักวันคงได้มีโอกาสทำงานกับโค้ชคนนี้ของผมอีก

โค้ชที่ผมนับถืออย่างหมดหัวใจ…. ซิกเว่ เบรกเก้

ธนา เธียรอัจฉริยะ

ที่มา www.ไทยรัฐ.co.th/content/life/229265

แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 12:17:31

จากคุณ : PD2002
เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:17:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com