 |
จากตารางข้างต้นจะเห็นว่าหากซื้อ iPhone 4S 16GB ราคาพิเศษ พร้อมพ่วงแพ็คเกจ XL899 หรือเรียกสั้นๆ ว่า Case A เมื่อใช้งานครบ 18 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นเพียง 30,814.74 บาท ในขณะที่หากซื้อ iPhone 4S 16GB ในราคาปกติ แล้วสมัครแพ็คเกจ XL899 แยกกัน หรือเรียกสั้นๆ ว่า Case B เมื่อใช้งานครบ 18 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นถึง 39,014.74 บาท ซึ่งทำให้ภาพรวมเมื่อใช้งานครบ 18 เดือน Case A นั้นประหยัดเงินกว่า Case B ถึง 8,200 บาท เลยทีเดียว และเมื่อคิดค่าบริการรายเดือนโดยเฉพาะโดยหักลบจากราคาเต็มของ iPhone 4S 16GB ซึ่งมีราคาเต็ม 21,700 บาทแล้ว Case A นั้นจะมีค่าบริการรายเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 506.37 บาทเท่านั้น
แต่ในทางกลับกัน Case B นั้นก็มีข้อได้เปรียบหลายอย่างที่อาจจะมีความสำคัญสำหรับผู้ใช้อีกกลุ่มหนึ่ง เช่น ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าบริการรายเดือนล่วงหน้าถึง 7 เดือน (แต่รวมการจ่ายล่วงหน้าแล้ว Case A ก็ยังมีค่าใช้จ่ายวันออกเครื่องที่ถูกกว่าอยู่ดี), ไม่ต้องเป็นลูกค้าทรูออนไลน์ และทรูวิชั่นส์, ไม่ต้องติดสัญญาการใช้แพ็กเกจ, ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตในการซื้อเครื่อง, ได้ความเร็วอินเทอร์เน็ตในกรณีที่ใช้เกิน 2GB ที่ 384Kbps ซึ่งเร็วกว่า Case A ถึง 3 เท่า และสุดท้ายก็คือ การล็อกอินใช้งาน WiFi ใช้เป็นแบบ Username กับ Password ซึ่งสามารถนำล็อกอินใช้กับเครื่องใดก็ได้ มีความอิสระในการใช้งาน แต่หากเป็น Case A ซึ่งใช้การล็อกอินด้วย MAC Address การเชื่อมต่อ WiFi จะสามารถใช้ได้กับเครื่องเดียวที่มี MAC Addres ตรงกันเท่านั้น
อีกกรณีที่น่าสนใจก็คือ การนำการซื้อ iPhone 4S 16GB ราคาพิเศษ พร้อมพ่วงแพ็คเกจ XL899 มาเปรียบเทียบกับ การซื้อ iPhone 4S 16GB ราคาปกติ พร้อมสมัครแพ็คเกจ iPhone L799 ซึ่งเป็นอีกแพ็กเกจที่น่าสนใจมากอีกแพ็คเกจหนึ่ง และตั้งแต่ iPhone 4S เปิดตัวออกมา แพ็คเกจ iPhone L799 นั้นถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยองค์ประกอบและบริการที่ครบครัน ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป เนื่องจากมีส่วนลดพิเศษจากราคาปกติด้วยนั่นเอง ดังนั้นผู้เขียนจึงนำมาเป็นกรณีศึกษาอีกกรณีหนึ่ง เพราะคาดว่าหลายๆ ท่านก็คงสนใจอยู่ด้วยเช่นกัน
จากคุณ |
:
MOLLOW
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.พ. 55 19:18:55
|
|
|
|
 |