Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แฉนายจ้างมะกัน ขอรหัสผ่านเฟซบุ๊ก-จับเซ็นสัญญาห้ามโพสต์นินทาบริษัท ติดต่อทีมงาน

ประเด็นหลัก

สำนักข่าวเอพีรายงานว่าพบพฤติกรรมใหม่ในการสัมภาษณ์รับคนเข้าทำงานขององค์กรธุรกิจในสหรัฐฯ โดยบางบริษัทเอ่ยปากขอชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของผู้สมัครงาน เพื่อเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยในเครือข่ายสังคมเฟซบุ๊ก อ้างต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจรับเข้าทำงาน
     
      ไม่พอ พบบางบริษัทดึงพนักงานใหม่เซ็นสัญญาข้อตกลงห้ามโพสต์ข้อความนินทาว่าร้ายบริษัทบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ตอกย้ำอิทธิพลของเครือข่ายสังคมในนาทีนี้
__________________________________________________________

แฉนายจ้างมะกัน ขอรหัสผ่านเฟซบุ๊ก-จับเซ็นสัญญาห้ามโพสต์นินทาบริษัท




สำนักข่าวเอพีรายงานว่าพบพฤติกรรมใหม่ในการสัมภาษณ์รับคนเข้าทำงานขององค์กรธุรกิจในสหรัฐฯ โดยบางบริษัทเอ่ยปากขอชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของผู้สมัครงาน เพื่อเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยในเครือข่ายสังคมเฟซบุ๊ก อ้างต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจรับเข้าทำงาน
     
      ไม่พอ พบบางบริษัทดึงพนักงานใหม่เซ็นสัญญาข้อตกลงห้ามโพสต์ข้อความนินทาว่าร้ายบริษัทบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ตอกย้ำอิทธิพลของเครือข่ายสังคมในนาทีนี้
     
      ชื่อพนักงานที่ถูกฝ่ายบุคคลของบริษัทขอรหัสผ่านเฟซบุ๊กระหว่างสัมภาษณ์งานคือจัสติน บาสเซ็ตต์ (Justin Bassett) โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่าแทนที่จะถามคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์อย่างที่เขาคาดหวัง แต่ฝ่ายบุคคลของบริษัทซึ่งเขาสมัครงานในตำแหน่งนักสถิติ กลับยิงคำถามเกี่ยวกับตัวตนเพียง 2-3 คำถาม ก่อนจะหันไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาหน้าประวัติของจัสตินบนเฟซบุ๊ก ไม่นาน ฝ่ายบุคคลรายนั้นหันกลับมาบอกจัสตินว่าไม่สามารถหาพบ และขอให้จัสตินบอกชื่อยูเซอร์เนมและพาสเวิร์ดเพื่อล็อกอิน
     
      จัสตินตัดสินใจไม่ให้และขอถอนใบสมัคร พร้อมกับแจ้งว่าไม่ต้องการทำงานในบริษัทที่มุ่งสืบค้นข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน
     
      แต่ในรายอื่น ผู้สมัครงานใหม่อาจไม่มีทางเลือกในการปฏิเสธอย่างที่จัสตินทำ



แม้การขอชื่อและรหัสผ่านจะดูเหมือนการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างผิดกฏหมาย แต่การกระทำเช่นนี้ไม่เข้าข่ายผิดเนื่องจากผู้ใช้ยินยอมให้รหัสผ่านเอง ถึงจะไม่เต็มใจเพราะรู้ดีว่าถูกบุกรุกความเป็นส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้ง โดยชื่อและรหัสผ่านที่ฝ่ายบุคคลขอไปนั้นจะทำให้บริษัทสามารถตรวจสอบประวัติพนักงานในจุดที่เก็บเป็นความลับและไม่ตั้งค่าเปิดเผยต่อสาธารณะ ทำให้บริษัทได้เห็นตัวตนของพนักงานมากกว่าการเปิดหน้าเฟซบุ๊กปกติ
     
      สำนักข่าวเอพีพบว่าหลายบริษัทและหน่วยงานในสหรัฐฯมีแนวโน้มตั้งนโยบายลักษณะนี้ เพื่อตรวจสอบลักษณะบุคคลก่อนรับเข้าทำงาน อย่างไรก็ตาม นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องต่างแสดงความกังวลต่อกรณีที่เกิดขึ้นเพราะการยินยอมให้รหัสผ่านเฟซบุ๊กนั้นไม่ต่างจากการจำใจยื่นกุญแจบ้านให้คนแปลกหน้า โดยหลายรัฐในสหรัฐฯกำลังศึกษาเพื่อหาทางร่างกฏหมายปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนในอนาคต
     
      รายงานระบุว่าหลังจากขอรหัสผ่านไปได้ ฝ่ายบุคคลในบริษัทเหล่านี้จะนำไปล็อกอินเฟซบุ๊กเฉพาะระหว่างสัมภาษณ์งานเท่านั้น และเมื่อได้รับเลือกให้เข้าทำงาน พนักงานบางรายจะถูกกำหนดให้เซ็นชื่อในข้อตกลง non-disparagement agreements ซึ่งห้ามพนักงานโพสต์ข้อความแง่ลบเกี่ยวกับบริษัทในเครือข่ายสังคมทุกกรณี
     
      ยังมีอีกหลายกรณีที่สำนักข่าวเอพีตีแผ่ถึงภาวะจำยอมของผู้หางานใหม่ที่ต้องทนให้บริษัทรุกล้ำความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ได้งานที่ต้องการ ซึ่งคาดว่าประเด็นที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นประเด็นร้อนที่ขยายวงไปถึงหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทยที่มีผู้ใช้งานบนเฟซบุ๊กมากกว่า 14 ล้านคน

ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000036261

จากคุณ : So magawn
เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:20:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com